บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 11 ปลอบโยน

บ้านของเมฆ

ทันทีที่น้องก๊อปวางสายจากผมทำให้ผมได้คิดว่าผมไม่ควรอยู่ในสภาพแบบนี้ กับความอ่อนแอจนต้องร้องไห้เสียใจฟูมฟายรวมถึงอีกหลายอารมณ์ที่พรั่งพรูออกมาจากใจของผมหรือจะพูดง่ายๆ ผมไม่ต้องการให้น้องก๊อปเห็นผมในสภาพอ่อนแอเท่านั้นเอง น้องก๊อปเด็กหนุ่มที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต ผมรู้สึกว่าน้องเขาเข้ามาเติมเต็มความสุขที่ขาดหายของผม ความสุขที่ผมไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนแม้แต่บี สิ่งเลวร้ายที่สุดที่ผมกระทำต่อน้องเขา ตอนนี้มันกลับเป็นสิ่งที่ทำให้เราทั้งคู่เข้าใจในความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองว่าที่จริงแล้วเราต้องการอะไรแล้วใครที่สำคัญกับเรามากที่สุด

ตอนนี้ภาพเหตุการณ์ระหว่างความสัมพันธ์ของผมกับบีและผมกับน้องก๊อปปรากฏขึ้นมาในใจของผมตลอดสลับกันไปมาจนทำให้ผมรู้สึกสับสนแต่ในใจที่จริงแล้วคนที่ผมเลือกก็คือน้องก๊อป น้องก๊อปคนเดียวเท่านั้น

เมื่อคิดได้เช่นนั้นผมจึงรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่ดูโอเคมากที่สุด กระทั่งผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วยืนมองตัวเองในกระจกพูดกับตัวเองว่า

“นับจากนี้ มรึงต้องเข้มแข็ง ทำใจยอมรับกับผลที่เกิดขึ้น ห้ามแสดงออกถึงความอ่อนแอภายในใจให้น้องเขาเห็นเด็ดขาด มรึงต้องทำเพื่อตัวมรึงเองและเพื่อคนที่มรึงรักให้ดีที่สุดเท่าที่มรึงจะทำได้นะไอ้เมฆ”

แล้วผมก็ยิ้มให้กับตัวเองในกระจกอีกครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจ ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงใครบางคนจากด้านหลังของผม

"ก๊อปเองก็จะทำเพื่อคนที่ก๊อปรักเหมือนกันครับพี่เมฆ"

ผมหันหลังตามเสียงนั้นก็พบกับเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนยืนยิ้มแฉ่งให้ผมแต่มันแฝงด้วยความอ่อนโยนอยู่ตรงประตูห้องนอน ผมจึงรีบหันกลับไปแล้วเดินเข้าไปสวมกอดคนที่ผมรักเหมือนกับเด็กๆ ที่ได้รับความรักความเอาใจใส่จากพ่อแม่ก็ไม่ปาน ผมกอดน้องก๊อปไว้แน่นด้วยความดีใจปนความสุขกับคำพูดที่น้องบอกผมเมื่อสักครู่นี้ส่งผลให้ผมกลายเป็นเด็กขี้แยขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง ทั้งที่ได้บอกกับตัวเองไปแล้วว่าจะเข้มแข็ง จะไม่ร้องไห้แต่เมื่อเห็นคนตรงหน้าน้ำตาผมก็ไหลออกมาโดยอัตโนมัติ ผมกอดน้องเขาไว้ในอ้อมแขนของผมเนิ่นนาน นานจนเสียงสะอื้นของผมเริ่มหายไป น้ำตาเริ่มแห้งเหือดเหลือเพียงคราบน้ำตาบนแก้ม คนตรงหน้าผมได้คลายวงแขนออกแล้วจับมือผมพาผมไปนั่งขอบเตียงกลางห้องนอนด้วยแววตาที่อ่อนโยนแลดูห่วงใย

"พี่ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ก๊อปอยู่ตรงนี้แล้วก๊อปจะอยู่ข้างๆ พี่ไม่ไปไหน"

น้องเขาพูดพลางจับมือผมไว้บนหน้าขาของเขาทำให้ความรู้สึกของผมมั่นคงขึ้นพร้อมกับรู้สึกอบอุ่นขึ้นทันที น้ำใสๆ จากดวงตาของผมเอ่อล้นอีกครั้งด้วยความดีใจมือน้อยคอยปาดซับน้ำตาให้ผมเป็นระยะโดยมีมืออีกข้างคอยโอบประคองศีรษะของผมให้ซบลงกับไหล่ของเขาอย่างตั้งใจ เสียงสะอื้นเล็กๆ จากผมทำให้คนข้างกายผมสนทนาด้วยเสียงสั่นเครือคล้ายจะร้องไห้ตามผมอีกคน ทำให้เราทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างซับน้ำตาให้กันและกันพวงแก้มของเราที่เปียกไปด้วยน้ำตา บัดนี้ได้เหือดหายไปหมดแล้วเหลือเพียงรอยยิ้มที่ปรากฏเกิดขึ้นทีละน้อยๆ ความเศร้าที่สุมอยู่ภายในจิตใจของผมเหมือนได้ถูกแบ่งออกไปจากความรู้สึกของผมบ้างแล้ว ซึ่งคนตรงหน้าของผมที่สามารถรับรู้ทุกความรู้สึกโดยที่ผมไม่ต้องบอกแต่น้องเขากลับพูดปลอบโยนผมได้ตรงใจ ทำให้ผมหวนคิดถึงบีผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยใช้ชีวิตร่วมกับผมด้วยความเข้าใจผมในทุกๆ เรื่องเช่นเดียวกัน

"พี่รู้สึกดีขึ้นยังครับ พี่ทำให้ก๊อปรู้สึกตกใจและกลัวมากเลยนะที่ผมได้ยินเสียงพี่ในโทรศัพท์แบบนั้น วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับมีอะไรบอกผมได้ตลอดนะครับ" คนตรงหน้าพูดเชิงเหมือนน้อยใจผมพอสมควร

"พี่ขอโทษนะครับที่ทำให้เป็นห่วง ขอโทษที่ไม่ได้โทรไปบอกว่าไปรับไม่ได้ วันหน้าพี่จะไม่ทำแบบนี้กับแฟนของพี่อีกแล้วครับ" ผมพูดด้วยรอยยิ้มปนเสียงหัวเราะขึ้นมาบ้างเพื่อคลายความกังวลของน้องก๊อป

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ)"

"หัวเราะได้แบบนี้ แสดงว่าพี่หายดีแล้วใช่มั๊ยครับ หมดความกังวลใจแล้วใช่มั๊ย ก๊อปรู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันต้องใช้เวลาก๊อปเองจะคอยอยู่เคียงข้างพี่ เป็นกำลังใจให้พี่นะครับ" คำพูดของก๊อปทำให้ผมยิ้มได้กว้างขึ้นแล้วรู้สึกมีแรงผลักดันมากขึ้นผมดีใจมากที่ผมเลือกคนไม่ผิด

"ขอบใจน้องก๊อปมากนะครับ พี่ขอบใจจริงๆ ที่เข้าใจพี่ พี่เองก็จะรักและอยู่เคียงข้างก๊อปตลอดไปเช่นกันครับ"

ผมพูดด้วยความรักที่เต็มเปี่ยมหัวใจซึ่งส่งผลให้คนข้างตัวผมกอดคอผมเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่เพื่อแสดงแทนคำขอบคุณที่ผมมีให้กับน้องเขา ผมเองก็หอมน้องเขาคืนเช่นกัน แต่ไม่ใช่ที่แก้มขาวๆ หรอกนะครับ ผมเปลี่ยนจากการหอมเป็นการประทับรอยจูบบนริมฝีปากบางๆ อมชมพูของน้องเขาแทน เมื่อผมถอนริมฝีปากออกคนตรงหน้ามีท่าทางเขินอายแล้วเผลอตีแขนผมอย่างแรงทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้กับความน่ารักของน้องเขาก่อนจะคว้าตัวน้องเขาเข้ามากอด แล้วหอมแก้มจริงๆ อีกหลายที

จากนั้นเราสองคนก็พากันออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารที่ผมเคยไปกินเป็นประจำ เรานั่งกินข้าวกันอย่างมีความสุข ตักกับข้าวให้กัน ป้อนข้าวให้กัน ดูกุ๊กกิ๊กจนแม่ค้าอดแซวเราสองคนไม่ได้

ในภาพที่ผู้ชายสองคนนั่งทานข้าว จะดูกุ๊กกิ๊กน่ารักอะไรขนาดนี้ทำให้คนอื่นภายในร้านอาหารพลอยอมยิ้มไปตามๆ กัน กระทั่งเราสองคนทานข้าวเย็นเสร็จผมก็จะเลยไปส่งน้องเขากลับบ้านแต่กลับถูกคนตัวเล็กปฏิเสธแล้วบอกกับผมว่าน้องเขายังเป็นห่วงผมไม่อยากให้อยู่คนเดียว ผมจึงต้องตามใจแฟนเด็กของผมอย่างที่เขาต้องการ เรากลับมาถึงบ้าน น้องก๊อปก็เพิ่งนึกได้ว่ายังมีโครงงานอีกชิ้นหนึ่งที่ต้องทำเราจึงช่วยกันทำโครงงานนั้นเสร็จภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

"พี่เมฆก๊อปง่วงแล้วอ่ะ พี่ไปอาบน้ำป้ะ" คนตัวเล็กพูดกับผมด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะความง่วงนอน

"ก็นอนก่อนสิครับ มาบอกให้พี่อาบน้ำทำไมพี่ยังต้องเคลียร์งานอีกเยอะเลย”

"ก็ก๊อปง่วงแล้วนี่ พี่ไปอาบน้ำเลยถ้าไม่อาบน้ำตอนนี้ วันนี้ก็นอนข้างนอกแล้วกัน" ผมตกใจกับคำพูดของคนตัวเล็กแล้วก็รู้สึกงงๆ ว่าตกลงผมมาค้างบ้านน้องเขาเหรอเนี่ย

"เดี๋ยวก่อนสิครับก๊อป อาบก็อาบ อาบพร้อมกันมั๊ยล่ะ" ผมพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ทำให้คนตัวเล็กรีบปฏิเสธรัวๆ อย่างน่ารัก

"ไม่เอาๆๆ พี่อาบคนเดียวไปสิ จะให้ก๊อปอาบด้วยทำไม บ้าหรือเปล่า...อย่า...รีบไปอาบเลยเร็วๆ ด้วย"

ผมปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเร่งรีบขณะที่จะไปอุ้มคนตัวเล็กเข้าไปในห้องน้ำด้วย แต่ก็ถูกตีแขนไปหลายทีจนเกือบระบม มือหนักจังแฟนเราตั้งแต่เสร็จจากการกินข้าวเย็นมาถึงบ้าน ก็ถูกคนตัวเล็กสั่งให้ทำนู่น ทำนี่มากมาย จนเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าตกลงเราได้แฟนหรือได้แม่มาวะเนี่ยฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ)

"มัวยืนทำอะไรอยู่ไปอาบน้ำได้แล้วพี่เมฆ" ผมถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินคำสั่งสุดท้ายก่อนจะโดนประหารชีวิต

"ครับๆๆ แม่" ก็ยังได้ยินเสียงบ่นพึมพำตามหลังมาไม่ขาดสาย ตายแน่ๆ ไอ้เมฆแต่ถึงยังไงผมก็รักแม่ เอ๊ย! รักเมียคนนี้นะคร้าบบ

เมื่อเวลานอนมาถึง

ผมอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงบ๊อกเซอร์ธรรมดาๆ ส่วนคนตัวเล็กใส่เสื้อคอกลมตัวใหญ่โคร่งกับกางเกงยีนส์เพื่ออะไรอ่ะ ผมนอนมองคนตัวเล็กที่กำลังจะหลับแต่ผมรู้ว่าเขาไม่ได้หลับ แกล้งทำตาปรือๆ เหมือนจะลืมตาขึ้นมามองว่าผมหลับหรือยัง ผมไม่รอช้ารีบกระโดดคร่อมบนตัวน้องเขาทันทีแล้วจัดการให้เข็ดหลาบ กับการที่กล้ามาออกคำสั่งกับสามี ทำให้น้องเขางอนผมกับบทลงโทษที่ได้รับจากผมอย่างหนักหน่วงจนหลับไป ผมนอนมองใบหน้าขาวๆ ที่ขณะนี้ได้หลับสนิท ช่างเป็นภาพที่น่ารักและควรค่าแก่การเก็บบันทึกไว้ในความทรงจำตลอดไป ผมยอมรับครับว่าผมรักน้องเขามากจริงๆ

"พี่รักก๊อปนะและขอบคุณนะครับกับคำปลอบโยนที่ช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้กับพี่ มันทำให้พี่รู้ว่าควรจะอยู่ต่อไปเพื่อใคร..." ผมค่อยๆ บรรจงประทับรอยจูบที่หน้าผากคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างมีความสุขข้างร่างคนแกล้งหลับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel