บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 ขัดแย้ง

รุ่งเช้าของอีกวัน

ผมรู้สึกตัวในอ้อมแขนใหญ่โดยหนุนแขนพี่เมฆแทนหมอนนุ่ม ผมลืมตาช้าๆ เพื่อมองหน้าคนหลับอย่างตั้งใจ พี่เมฆในวันนั้นกับพี่เมฆในตอนนี้ดูต่างกันมากยิ่งตอนที่พี่เขาหลับ ช่างดูเหมือนเด็กที่ไร้เดียงสามาก จมูกโด่ง ริมฝีปากหนานุ่มและหนวดเคราที่ขึ้นเพียงเล็กน้อยมันดูลงตัวเหมาะกับใบหน้าพี่เมฆมาก เขามอบความสุขให้ผมมากมายเหลือเกินสำหรับเมื่อคืนนี้ มันเป็นความสุขที่ผมไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน เป็นอะไรที่วิเศษสุดจริงๆ ในชีวิตของไอ้ก๊อป ผมนอนค้ำคางมองหน้าพี่เขาอยู่นานมาก มากจนผมรู้สึกเขินเองและอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงความสุขที่ได้รับจากผู้ชายตรงหน้า

"ตื่นแล้วหรอครับน้องก๊อป?" ผมตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆ พี่เขาพูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตาอยู่

"เห้ย! ตกใจหมดเลย ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ?"

"ก็ตั้งแต่ที่แฟนของพี่ยกหัวออกจากแขนพี่แล้วครับ" พี่เขาพูดพลางยิ้มอย่างมีความสุข

แป๊ะ!

“โอ้ย ตีพี่ทำไมพี่เจ็บนะครับ"

"ใครเป็นแฟนพี่อย่ามั่ว...อื้ม อย่า พอได้แล้วเพิ่งได้นอนเองนะ ก๊อปอยากนอนต่ออ่ะ" ผมค้านขณะที่อีกคนพยายามใช้จมูกซุกไซ้ที่ต้นคอผมไม่หยุด

"ก็ก๊อปไงครับแฟนพี่และอีกอย่างมันคงหยุดไม่ได้แล้ว ก็ก๊อปน่ารักขนาดนี้นี่ครับ เป็นใครก็อดใจไม่ไหวหรอกมีแฟนน่ารักๆ แบบนี้"

ผมยิ้มไม่หุบเมื่อได้ยินพี่เขาพูดแบบนั้นพลางใช้มือดันตัวพี่เขาไว้ตลอดจนเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่หัวเตียง

"มี๊!!"

ผมร้องเสียงหลงทำให้คนนอนร่วมเตียงกับผมถึงกับผงะออกจากตัวผมอย่างเร็วด้วยความตกใจแล้วหันหน้าไปมองทางประตูห้องแต่ก็ไม่พบใคร

"มี๊ที่ไหนครับ ร้องตะโกนทำให้พี่หัวใจแทบวาย" พี่เขายังดูตกใจกับการร้องเสียงหลงของผมไม่หาย

"มี๊ที่บ้านไง ก๊อปบอกท่านว่าจะโทรบอกถ้าไม่ได้กลับบ้าน" ผมพูดพลางหยิบมือถือขึ้นมาโทรหามี๊ทันที

"เงียบๆ นะ...ฮัลโหลครับมี๊...ครับ...ก๊อปขอโทษนะครับ...ครับ...รักมี๊นะครับ"

พี่เขาทำหน้างงเมื่อได้ยินผมคุยกับมี๊เพียงไม่กี่ประโยค

"คุยเสร็จแล้วเหรอครับ"

ผมพยักหน้าแทนคำตอบด้วยสีหน้ากวนๆ จนพี่เขานึกสนุกลงมือจู่โจมผมอีกชุดใหญ่ตายแน่ๆ กรู ไอ้ก๊อปเอ๊ยแต่ก็มีความสุขนะครับไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

ณ บริษัทส่งออก

ผมนั่งเคลียร์งานที่กองเต็มโต๊ะเมื่อบริษัทต่างชาติเซ็นสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผมทำงานอยู่ ส่งผลให้งานเอกสารที่ผมต้องตรวจความเรียบร้อยก่อนจะส่งต่อให้ประธานบริษัท

"เมฆคะ ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ"

"คุยได้ครับบี มีอะไรหรือเปล่าครับ" ผมวางงานเอกสารเงยหน้ามองเธอตามปกติ

"เมื่อวานแม่บีโทรมา บอกว่าได้ฤกษ์หมั่นและฤกษ์แต่งงานจากพระอาจารย์มาแล้วนะคะ"

ผมรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินคำว่าแต่งงาน

"เมฆไม่ดีใจหรอคะ ทำไมทำท่าตกใจแบบนั้น" เธอทำหน้าเศร้าๆ

"ปะ...เปล่าครับบี คือเมฆยุ่งอยู่กับงานมากเกินไปเลยลืมเรื่องนี้สนิทเลยครับ เมฆต้องขอโทษบีนะครับ" ผมพูดพลางจับมือหญิงสาวมากุมไว้อย่างเคยชิน

"ไม่เป็นไรค่ะ บีเข้าใจทุกอย่างแล้ว..." เธอพูดพลางมีน้ำใสๆ ไหลจากตา

"บี...คุณร้องไห้ทำไมครับ คุณเข้าใจอะไรเหรอครับ?" ผมล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธออย่างเบามือ

"เขาคนนั้นเป็นใครคะ?"

"บีพูดถึงใครครับ คุณกำลังเข้าใจผิดนะครับ"

"เข้าใจอะไรผิดคะ นานแค่ไหนแล้วที่เมฆไม่ได้บอกรักบี ถ้าบีไม่บอกก่อน นานแค่ไหนแล้วที่เมฆไม่จับมือบี ถ้าบีไม่เริ่มจับก่อนและนานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนก่อน ถ้าบีไม่ชวนคุณก็ปฏิเสธตลอด มันหมายถึงอะไรคะ ถ้าไม่ใช่ว่าคุณมีคนอื่นนอกจากบี คุณไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน คุณไม่เคยโกหก คุณไม่เคยบ่ายเบี่ยง คุณไม่เคยปฏิเสธบี แต่มาวันนี้เมฆทำทุกอย่างที่บีพูด..."

เสียงเธอสั่นเครือ ตาเริ่มแดง ผมลุกขึ้นคว้าตัวเธอมากอด เธอร่ำไห้อย่างหนักบนบ่าของผม ดีที่ช่วงนั้นเป็นเวลาพักเที่ยงจึงไม่มีใครอยู่ในออฟฟิศ ผมกอดเธอด้วยความรู้สึกผิดต่อเธอ ผู้หญิงแสนดีที่พร้อมทุกอย่าง เธอกลับเลือกพนักงานรายเดือนธรรมดาๆ อย่างผม เมื่อ 2-3 ปีก่อนจนเรารักกัน คบกัน ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มาด้วยกัน เธอรู้และเข้าใจผมทุกอย่างมาโดยตลอด แต่ผมกลับตอบแทนความรักของเธอแบบนี้หรือ ผมทำอะไรลงไปจน ณ เวลานี้มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนอกเสียจากต่างฝ่าย ต่างยอมรับกับความสัมพันธ์นับจากนี้

"บี ผมขอโทษ..."

ผมร้องไห้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเธอคลายวงแขนแล้วแกะมือผมออกจากตัวของเธอทั้งน้ำตารินไหลไม่หยุด

"ปล่อยเถอะค่ะ ปล่อยบีแล้วเมฆก็เดินตามทางที่คุณเลือก นับจากนี้เราเดินคนละทางค่ะ ที่บีบอกคุณว่าแม่โทรมาที่จริงแล้วท่านไม่ได้โทรมาหรอกค่ะ บีต้องการเพียงลองใจคุณเท่านั้น แต่คุณก็เป็นอย่างที่บีคิด เมื่อสามวันที่แล้วบีไปหาเมฆที่บ้านแต่เช้า ตั้งใจจะชวนคุณไปเยี่ยมแม่ด้วยกัน บีเห็นว่าบ้านเงียบบีก็คิดว่าคุณต้องนอนอยู่ บีจึงเดินไปที่ห้องนอนประตูห้องปิดไม่สนิท บีก็คิดอีกว่าคุณคงเหนื่อยมากเลยไม่ได้ปิดประตูห้องนอนแต่พอบีเปิดเข้าไป ภาพที่บีเห็นทำบีแทบช็อกแต่บีก็พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ร้องไห้ตรงนั้นก่อนจะรีบขึ้นรถแล้วขับกลับคอนโดทันที ทำไมเมฆไม่บอกบีตรงๆ ทำไมต้องปิดบัง คุณจะชอบใครรักใครบีไม่ว่าแต่ทำไมไม่บอกกันตรงๆ ทำไมคะ?" เธอพูดพลางร้องไห้ฟูมฟายทำให้ผมยิ่งรู้สึกเจ็บมากขึ้น เมื่อเธอบอกว่าเห็นผมนอนอยู่กับใคร ก่อนจะขอแยกทางเพื่อยุติความสัมพันธ์ระหว่างเรา ผมพูดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่าขอโทษ เราพูดคุยกันอยู่นานจึงได้ข้อสรุปว่าเราต้องจบกันจริงๆ เธอขอลาออกจากงานรวมทั้งเลิกยุ่งเกี่ยวกับผมทุกกรณี ผมรู้สึกเสียใจมากกับการต้องเสียคนดีๆ อย่างเธอไป ผมพยายามขอร้องเธอเรื่องการลาออกแต่เธอยังยืนกรานคำเดิม แล้วเธอก็ขอลาออกไปในบ่ายวันนั้นเลย ทำให้ผมรู้สึกแย่กับตัวเองตลอดทั้งวันซ้ำยังต้องคอยตอบคำถามเพื่อนร่วมงานอีก นับจากนี้ไปผมจะไม่มีวันได้เจอกับบีอีกแล้วใช่มั๊ย

โรงเรียนของก๊อป

ติ๊งง...ติงง...ติ่งง...

เมื่อเสียงเตือนหมดเวลาเรียนคาบสุดท้ายของวัน บรรดานักเรียนหญิงชายก็แปรสภาพเป็นนกกระจิบกระจอกทันทีเสียงดังเจื้อยแจ้ว ต่างเก็บกระเป๋านักเรียนวิ่งกรูลงบันไดอาคารเรียนจนแทบไม่มีช่องว่าง

"หลบหน่อยนักเรียน คุณกรพัฒน์จะลงบันไดครับ"

เมื่อได้ยินแบบนั้นนักเรียนทุกคนต่างรีบยืนชิดด้านข้างบันไดจนหมด พอมีช่องว่างให้ผมกับอาจารย์และเพื่อนอีกสองตัวได้เดินลงบันไดอย่างสะดวก

"อาจารย์ครับไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ครับ ก๊อปเกรงใจเพื่อนๆ เขาครับ" ผมรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่อาจารย์ทำเพื่อผมทุกๆ วัน

"ไม่ได้ครับคุณกรพัฒน์ นี่เป็นข้อปฏิบัติของครูและอาจารย์ทุกคนครับ ขอให้คุณกรพัฒน์เข้าใจด้วยครับ" อาจารย์พูดด้วยเชิงขอความเห็นใจจากผมผมก็ทำได้เพียงกล่าวขอบคุณ

"ขอบคุณครับอาจารย์"

"ด้วยความยินดีครับ" จากนั้นผมก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังม้าหินอ่อนประจำ

"เห้ยมรึงไม่ไปนั่งเล่นที่รั้วข้างโรงเรียนแล้วหรอวะ กรูเห็นมรึงมานั่งนี่ตั้งแต่วันจันทร์แล้วนะ"

"ทำไม กรูอยากนั่งตรงไหนมันก็เรื่องของกรูป้ะวะ" ผมพูดพลางหยิบการบ้านขึ้นมานั่งทำไปพลางๆ เพื่อรอรถมารับ

"ใช่มันเรื่องมรึงแต่ผัวมรึงน่ะโทรหากรูตลอด ว่ามรึงอยู่ไหนทำไมไม่ไปที่เดิม"

ไอ้เก่งอธิบายด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดีจากการถูกโทรจิกจากไอ้เจแฟนผม ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) สมน้ำหน้ามัน

"ก็บอกเขาไปสิว่ากรูอยู่นี่มรึงจะโวยวายทำไมวะ ในเมื่อมรึงต้องคอยตอบคำถามเดิมๆ จากมันอยู่แล้ว"

มันมีสีหน้าเข้าใจและไม่ทันไรเบอร์ไอ้เจก็โทรเข้าเครื่องไอ้เก่งจริงๆ

"เออ ที่เดิมนะมรึงต้นมะขามใหญ่"

มันไม่รอให้คนในสายได้ตอบอะไรมันเลย มันรีบกดสายทิ้งดื้อๆ ไม่เกิน 5 นาที เจก็มาถึงแล้วก็ยิงคำถามมากมายใส่ผม ไอ้ผมก็ไม่รู้จะตอบอะไรมันเลยตอบมันสั้นๆ ว่าเบื่ออยากกลับมานั่งที่เดิมบ้าง ดูสีหน้ามันไม่พอใจเท่าไหร่ผมก็ง้อๆ มันไม่มีกี่คำมันก็กลับดีเหมือนเดิม เลยชวนมันนั่งทำการบ้านด้วยกันแต่มันบอกว่าต้องไปเตะบอลกับเพื่อนแล้ว ผมเลยปล่อยมันไป

"อ้าวไอ้ก๊อป ช่วงนี้ไหงมรึงไม่ขอให้มันส่งขึ้นรถแล้ววะ" ไอ้แว่นถามขึ้นอีกขณะที่ผมกำลังตั้งใจทำการบ้านให้เสร็จไวๆ

"ไม่รู้ว่ะ มรึงจะถามอะไรอีกมั๊ยกรูจะได้ไม่ต้องทำการบ้าน พวกมรึงก็จะได้ไม่ต้องลอกกรู ว่าไง?" พวกมันอ้าปากค้างไม่พูดอะไรต่ออีกเลย เป็นไงล่ะ พวกมันต้องเจอแบบนี้

"เออๆๆๆ กรูไม่ถามละ มรึงทำไปเถอะ" ทันทีที่พวกมันพูดจบก็หันไปเล่นเกมต่ออย่างเมามันส์

ส่วนผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทำการบ้านจนเสร็จทุกวิชาตามที่ตั้งใจไว้ยกข้อมือเพื่อดูนาฬิกานี่มันเลยเวลาที่พี่เขาจะมารับเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนี่ 'ทำไมไม่มารับสักทีวะไอ้พี่เมฆ' ผมบ่นในใจพลางโทรหาพี่เขาทันที

"ฮัลโหลพี่ มันกี่โมงแล้วเนี่ยยังไม่ถึงอีกเหรอ!?"

"น้องก๊อป พี่ขอโทษวันนี้พี่ไปรับก๊อปไม่ได้นะ มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ" น้ำเสียงพี่เขาฟังดูไม่ค่อยดีเลย

"อยู่ไหน"

"บ้านครับ มีอะไรหรือเปล่าครับพี่ต้องขอโทษจริงๆ"

"มารับไม่ได้ ทำไมไม่โทรบอกปล่อยให้รอเกือบชั่วโมง" ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

"พี่ขอโทษครับ..." พี่เขาเสียงเหมือนจะร้องไห้

"พี่เมฆ เป็นไรอ่ะเดี๋ยวก๊อปไปหานะ!"

ผมกดวางสายเก็บของใส่กระเป๋านักเรียนแบบลวกๆ แล้วขอตัวจากไอ้เพื่อนสองตัวกลับบ้านก่อน

"ไอ้เก่ง ไอ้แว่น กรูกลับก่อนนะโว้ยพี่เขามารับไม่ได้ว่ะ"

"เออ"

พวกมันตอบผมสั้นๆ โคตรดูสนใจผมเลยอ่ะ มือผมไวกว่าความคิดครับตบหัวมันคนละที แล้วรีบวิ่งหนีไปขึ้นรถหน้าโรงเรียนอย่างไว ปล่อยให้พวกมันนั่งลูบหัวป๋อยๆ เป็นหมางงกันสองตัว

มันเกิดอะไรขึ้นกับพี่เขาวะ?

ทำไมเสียงเหมือนคนเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนัก?

เมื่อผมได้ยินแบบนั้นก็อดเป็นห่วงพี่เมฆไม่ได้ นี่ผมเป็นอะไรไปอีกคนเนี่ยตกลงผมรักพี่เขาแล้วจริงๆ เหรอ งงกับชีวิตจริงๆ เลยเรา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel