บท
ตั้งค่า

บทที่ 9

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สองหนุ่มสาวที่เพิ่งมาและเห็นเลโอนาร์ดตกลงไปในเหวพากันไปต่อไม่ได้เลย โรซาเลียมีสีหน้าตื่นตระหนกแต่ยังมีสติพอรู้ตัว ผิดกับไนเจลลัสที่ก่อนหน้านี้มีสีหน้าไม่ค่อยดีเพราะเห็นภาพคนสำคัญตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้มาเห็นพ่อแท้ ๆ ถูกฆ่าต่อหน้า ดีแค่ไหนแล้วที่เขายังไม่สติแตก

“นี่เรามาช้าไปเหรอ”

“...” ปีศาจหนุ่มได้แต่นิ่งเงียบคล้ายกับหาเสียงพูดไม่ได้ ทว่านัยน์ตาสีแดงโกเมนคู่นั้นกลับจับจ้องไปยังทหารองครักษ์ อัศวินแห่งแสง และนักบวช สามคนนั้นเป็นคนส่งพ่อของเขาลงไปในเหว แถมทุกคนยังมีสีหน้าภาคภูมิใจราวกับทำเรื่องยิ่งใหญ่และน่าชื่นชม

“ปีศาจ!”

“มันเห็นแล้ว!”

“จัดการมัน!”

“พวกนั้นเห็นเราแล้ว ไปเร็ว!” โรซาเลียคว้าแขนไนเจลลัสแล้วใช้เวทลอยตัวบินหลบสายพลังมากมายที่ยิงมาทางนี้ ทว่าจอมมารลำดับที่สิบหกกลับไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบและยอมให้ผู้กล้าสาวลากหนีไปอย่างง่ายดาย

ในสมัยเด็ก เขาเคยถามเอราเคียถึงเรื่องพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้า แต่หญิงสาวก็ไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากบอกว่าตายแล้ว เมื่อเขาตามโรซาเลียข้ามมายังโลกนี้และได้เจอพ่ออีกครั้ง แม้ไม่ได้แสดงออกและไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ไนเจลลัสดีใจมากที่ตัวเองได้รู้จักเลโอนาร์ด คราวนี้ถึงจุดจบจะไม่ใช่การถูกเผาด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์ แต่การที่พวกนั้นส่งพ่อของเขาลงเหวก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ทำร้าย ชายหนุ่มจดจำใบหน้าของคนพวกนั้นจนขึ้นใจ เจออีกตอนไหน เขาไม่เอาไว้แน่!

ครั้งสุดท้ายที่เขาจำได้คือตัวเองถูกถีบตกเหวกั้นชายแดนแล้วร่วงหล่นสู่เบื้องล่าง ทว่าพอได้สติ เลโอนาร์ดก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นดินที่รอบด้านเต็มไปด้วยความมืดมิด พลันลูกไฟจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศและให้แสงสว่าง ผู้กล้าหนุ่มก้มมองสำรวจตัวเอง เขาตกลงมาถึงก้นเหว ความจริงแล้วร่างกายควรแหลกเหลวเพราะแรงกระแทก ทว่าเขากลับไม่เป็นอะไรเลย แถมไอพลังจอมมารที่ตกค้างตั้งแต่สองพันปีก่อนยังช่วยฟื้นฟูร่างกายให้เขาอีก

มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!

“ในที่สุดเจ้าก็ตื่นสักที”

“โอดิสเซียส” วิญญาณจอมมารตนแรกปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าจากนั้นเจ้าตัวก็เบนสายตาไปทางหินแหลมซึ่งมีร่องรอยของการถูกไฟไหม้ ตามพื้นคือเถ้ากระดูก คาดว่าก่อนหน้านี้มีร่างหนึ่งถูกหินแหลมเสียบทะลุ ต่อมามีคนเจอและเผาทิ้งจึงเหลือแค่นั้นเป็นหลักฐาน

“สองพันปีก่อน หลังการต่อสู้จบลง มีคนตกลงมาแล้วโดนหินเสียบจนตาย”

“นั่นคือเจ้าสินะ” เลโอนาร์ดยังจำอะไรไม่ได้ แต่ฟังจากที่อีกฝ่ายเล่าแล้วคงจะหมายถึงตัวเองแน่ ๆ ทว่าจอมมารตนแรกกลับหลุดหัวเราะแล้วกล่าวต่อ

“ใครว่าข้าโดนหินเสียบตาย ผู้กล้าต่างหากที่ตาย”

“ว่าไงนะ!?” ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองหูฝาด คู่สนทนาบอกว่าคนที่ตายคือผู้กล้าแล้วคนคนนั้นจะเป็นใครไปได้นอกจากเลโอนาร์ด แต่ถ้าเขาตายแล้ว ทำไมเขาถึงยังอยู่ตรงนี้ได้ “ไม่จริง เป็นไปไม่ได้!”

“เจ้าสูญเสียความทรงจำหลังตื่นขึ้นมาข้างขอบเหว” ร่างโปร่งแสงค่อย ๆ เคลื่อนกายเข้ามาใกล้ นัยน์ตาสีแดงโกเมนจ้องอีกฝ่ายจนแทบจะทะลุไปถึงวิญญาณ ชายหนุ่มผมสีทองรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงเผลอถอยหลังไปชนผนังหิน

“เจ้าจะพูดอะไรกันแน่”

“ความจริงยังไงล่ะ” โอดิสเซียสหยุดอยู่ตรงหน้าโดยเว้นระยะห่างไว้หนึ่งเมตร “เจ้าไม่สงสัยเหรอว่าทำไมข้าถึงชอบบอกให้เจ้าลงไปในเหว”

“ข้า...”

“ลองทบทวนตัวเองให้ดี ๆ เจ้าเคยสงสัยไหม ทำไมเจ้าไม่ชอบชีวิตผู้กล้า ทำไมพวกวิหารศักดิ์สิทธิ์ถึงควบคุมเจ้าไม่ได้ ทำไมเจ้าถึงกล้าแข็งข้อกับพวกผู้อาวุโส ทำไมเจ้ารู้สึกว่าแมนไคน์ไม่ใช่ที่ของเจ้าผิดกับตอนที่เจ้าเหยียบแผ่นดินซาตาน่า บางทีเจ้าก็เจ้าคิดเจ้าแค้น ดูอย่างเฮเมร่าสิ ทั้งที่จะใส่ร้ายเจ้า แต่เจ้าก็ลากนางมาซวยก่อนจะทิ้งนางให้รับเคราะห์คนเดียว อย่างนี้ถึงจะสมกับเป็นเจ้าหน่อย”

“...”

“เจ้ามีปัญหากับพลังศักดิ์สิทธิ์ อาวุธก็เรียกมาไม่ได้ นั่นเพราะเจ้าไม่ใช่ผู้กล้าเลโอนาร์ด เจ้านั่นมันตายไปตั้งแต่สองพันปีก่อนแล้ว ส่วนดาบศักดิ์สิทธิ์ก็แตกสลายไปพร้อมกับมันด้วย”

“ไม่จริง!”

“จริง! เจ้าไม่ใช่มนุษย์ตั้งแต่แรกแต่เจ้าเป็นปีศาจ! นึกดูให้ดี ๆ ว่าเจ้าเป็นใครกันแน่! อย่าให้สิ่งที่ข้าทำมาต้องสูญเปล่า!” คนตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มผมทองถึงกับหอบก่อนจะถอยหลังออกมาห่าง ๆ แล้วก้มมองสำรวจตัวเองที่ตอนนี้ร่างกายเริ่มสลายเป็นไอพลังสีดำแล้ว

“เจ้า...ทำไมถึง...”

“ข้าไม่ใช่โอดิสเซียส” ในที่สุดวิญญาณปีศาจที่คอยป้วนเปี้ยนรอบตัวเขาก็สารภาพความจริงออกมา “ข้าเป็นเศษเสี้ยวจิตที่โอดิสเซียสตัวจริงทิ้งไว้”

“เศษเสี้ยวจิตเหรอ”

“ใช่ พูดง่าย ๆ ก็คือข้าเป็นส่วนหนึ่งของเขา ข้าทำหน้าที่เฝ้ามองความเป็นไปของซาตาน่าและแมนไคน์ เพื่อที่สักวันหนึ่งข้าจะส่งมอบความทรงจำตลอดสองพันปีนี้ให้โอดิสเซียสตัวจริง” คนอธิบายยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งมาให้คนตรงหน้า เลโอนาร์ดที่ไม่ใช่เลโอนาร์ดตัวจริงมองมือข้างนั้นสลับกับมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจเพราะยังทำใจเชื่อไม่ได้

“ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าไม่ได้โกหก”

“มีแค่เจ้าที่รู้คำตอบ เจ้าลองทบทวนความทรงจำให้ดี ๆ เจ้าไม่แปลกใจเหรอ ทำไมเจ้าจำได้แค่ตอนที่ตัวเองต่อสู้ แต่เจ้ากลับจำอะไรไม่ได้เลยที่แมนไคน์ นั่นเพราะเจ้าไม่มีความทรงจำของที่นั่น และดูไอพลังพวกนี้สิ นี่คืออำนาจตกค้างของโอดิสเซียส มันไม่ทำอะไรเจ้าแถมยังช่วยเจ้าอีก”

“...” คนฟังไม่พูดอะไรแต่ยกฝ่ามือขึ้นมาแล้วโบกไปรอบ ๆ ไอพลังสีดำที่ลอยอยู่ก็เข้ามาคลอเคลียมือเขาอย่างรักนักรักหนาผิดกับพลังศักดิ์สิทธิ์ในร่างที่มีแต่จะทำลายเขาอย่างเดียว

เลโอนาร์ดหันไปทางหินปลายแหลมที่ผุดขึ้นมาจากพื้น ในอดีตมีคนสองคนที่ตกลงมาและหนึ่งในสองก็ตายเพราะสิ่งนี้ ร่างสูงนั่งชันเข่าก่อนจะแตะเถ้ากระดูกที่กองอยู่บนพื้น ความทรงจำหนึ่งปรากฏในห้วงความคิด ชายผมสีทองถูกหินเสียบทะลุร่างจนตาย แต่ปีศาจอีกตนกลับรอดชีวิตอย่างหวุดหวิดทว่าเขาก็บาดเจ็บเกินกว่าจะขึ้นจากเหวได้

“โอดิสเซียสบาดเจ็บสาหัส พลังศักดิ์สิทธิ์ของผู้กล้าเลโอนาร์ดถูกส่งเข้าไปในร่างตอนที่ถูกดาบศักดิ์สิทธิ์แทงทำให้เขาฟื้นตัวได้ช้า เพื่อเอาชีวิตรอด เขากินเลือดและเนื้อผู้กล้าประทังชีพ จากนั้นก็ปลอมแปลงศพผู้กล้าให้คล้ายคลึงกับปีศาจเพื่อหลอกผู้มาพบว่าจอมมารตายแล้ว หลังสะสมพลังได้บางส่วนจึงทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อขึ้นจากเหว แต่โชคร้ายที่ดันขึ้นไปทางฝั่งแมนไคน์ อีกทั้งไม่มีพลังเหลือแล้วจึงผนึกตัวเองที่นั่นเพื่อรักษาตัว แต่เพราะไม่ต้องการให้เกิดเรื่องเหมือนในโลกเก่า เขาจึงสร้างข้าขึ้นมาเพื่อช่วยฟื้นฟูความทรงจำ”

เศษเสี้ยวจิตบอกความจริงที่เคยเกิดขึ้น ส่วนคนฟังก็นึกภาพตามก่อนจะหันกลับมาอย่างช้า ๆ นัยน์ตาคู่นั้นไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ จึงไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่

“เทพีผู้สร้างโลกให้โอกาสแก้ตัวอีกครั้ง การมายังโลกที่สองนี้ไม่ใช่เพื่อยึดครองแมนไคน์ แต่...”

“...ให้กลับมาอยู่กับคนที่รัก” คนที่ได้ความทรงจำคืนกล่าวต่อแล้วสบตากับคู่สนทนา ตอนนี้เขาจำอะไรได้เยอะแล้ว “โลกใบเก่า ข้าได้ความทรงจำคืนหลังตัวเองตาย จากนั้นก็กลายเป็นวิญญาณคอยเฝ้ามองเอราเคียกับไนเจลลัส เอราเคียไม่เห็นข้า แต่ไนเจลลัสเห็นข้า พอเขาโตขึ้น เขาก็ไม่เห็นข้าอีก ข้าไม่ยอมไปจากโลกนั้นทั้งที่วิญญาณใกล้แตกสลาย ทุกวันได้แต่เสียใจ ถ้าไม่บ้าอำนาจตั้งแต่แรกก็คงไม่ต้องเจอจุดจบแบบนี้”

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้เวลาแล้ว” ร่างโปร่งแสงยื่นมือมาอีกครั้งเป็นการเชื้อเชิญ “ฝ่ายแมนไคน์ต้องโจมตีซาตาน่าเร็ว ๆ นี้แน่ เราจะช้าไม่ได้”

“นั่นสินะ เราต้องรีบไปจากที่นี่” คนพูดจับมือกับคู่สนทนาอย่างไม่ลังเล เศษเสี้ยวจิตส่งยิ้มเป็นครั้งสุดท้าย หลังส่งมอบความทรงจำที่เฝ้ามองทุกอย่างมาตลอดสองพันปีเสร็จเรียบร้อย เขาก็สลายกลายเป็นหนึ่งเดียวกับไอพลังสีดำ แต่ก็ไม่ลืมทิ้งคำพูดส่งท้ายก่อนจากไป

“ได้เวลาหวนคืนสู่ซาตาน่าแล้ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel