บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

ช่วงสาย ๆ ของวันนั้น ผู้กล้าจากโลกเก่าก็นั่งหาวนอนอยู่ที่โต๊ะตัวยาวกลางห้องอาหาร ไนเจลลัสที่นั่งข้าง ๆ ก็รินน้ำชาใส่ถ้วยแล้วเลื่อนไปให้สาวผมแดง ก่อนจะยืนมือไปรองรับใบหน้าให้เนื่องจากความง่วงทำให้โรซาเลียถึงกับหน้าทิ่ม ทว่าพอได้กลิ่นสตูเนื้อวัว ความอยากไปเฝ้าเทพเจ้าก็หายเป็นปลิดทิ้ง

“อาหารมาแล้ว เย้!”

“ไม่ง่วงแล้วเหรอ” ไนเจลลัสถามขณะที่อีกฝ่ายกำลังตักสตูใส่ชามของตัวเอง

“เรื่องกินเรื่องใหญ่ ข้าจะมาง่วงตอนนี้ไม่ได้หรอก” เจ้าของเสียงหวานคว้าชามของคนข้าง ๆ มาก่อนจะตักสตูเนื้อวัวใส่ให้ “ดูเหมือนว่ามื้อเช้าของท่านป้าจะไม่เหมือนพวกเรานะ” นัยน์ตาสีเขียวหันไปมองตำแหน่งตรงหัวโต๊ะ ชุดอาหารของเอราเคียจะเน้นไปที่ความเหมาะสมสำหรับคนท้อง จึงไม่เหมือนกับทั้งสองที่จะกินอะไรก็ได้

“ตอนเจ้าท้องก็กินแบบนี้”

“ให้ตายเถอะ ระวังเรื่องการกินไม่พอ จะทำโน่นทำนี่ก็ต้องระวังอีก แต่เฟลิคเกิดมาก็ดีแล้ว” โรซาเลียตักสตูเข้าปากตัวเอง ก่อนที่สีหน้าจะหม่นหมองลง “ตอนที่เขาถามถึงข้า เจ้าเล่าให้เขาฟังหรือเปล่า”

“เด็กทุกคนย่อมอยากรู้เรื่องพ่อแม่ แล้วทำไมข้าจะไม่เล่าเรื่องของเจ้าให้เขาฟัง อีกอย่างเขาภูมิใจที่เจ้าเป็นผู้กล้า” คำพูดของไนเจลลัสทำให้คนฟังรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ยินว่าเฟลิคพูดอะไรบ้าง ไม่อย่างนั้นคงดีใจมากกว่านี้

“ข้าไม่พูดถึงลูกดีกว่า พูดแล้วก็คิดถึง ตอนนี้จะสี่ขวบแล้วใช่ไหม น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เห็นเขาโต”

“ขอโทษ”

“เจ้ามาขอโทษข้าเรื่องอะไรอีก” โรซาเลียไม่เข้าใจว่าเขาไปทำอะไรให้เธอ

“วันนั้นข้าน่าจะมาให้เร็วกว่านี้ ถ้าข้ามาทันเวลา ข้าคงช่วยเจ้าได้” ตอนนั้นเขาเองก็ประมาท เห็นว่าอาการของเธอทรงตัวแล้วจึงไม่ได้หาอะไรมารั้งตัวไว้ สุดท้ายเธอก็โดนควบคุมให้กระโดดระเบียงลงไปตาย

“ไนจี้ ข้าว่าเจ้าเลิกรู้สึกผิดได้แล้ว ตอนนี้ข้าก็นั่งอยู่ตรงหน้าเจ้าไม่ใช่เหรอ อีกอย่างข้าต่างหากที่ควรเป็นห่วงเจ้า ท่านเทรเวน่าบอกข้าว่าเจ้าข้ามมาโลกนี้ได้ก็จริงแต่ก็อ่อนแอลงทุกที ยาฟื้นพลังแค่ช่วยยื้อเวลาไว้เท่านั้น แต่ถ้าเกิดว่ามันไม่ไหวขึ้นมา...”

“ต้องไหว ข้ายังสบายดี ไม่ต้องห่วง” ไนเจลลัสยังคงยืนยันคำเดิมว่าไม่เป็นอะไรทั้งที่จริงแล้วตัวเองทั้งเหนื่อย ทั้งอยากพัก แต่เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เห็นโรซาเลียอีกจึงทำเหมือนไม่มีอะไร

จะให้เขาตัดขาดจากเธอเหรอ ฝันไปเถอะ!

อีกด้านหนึ่งทางฝั่งแมนไคน์ ช่วงเช้าในวิหารศักดิ์สิทธิ์ นักบวชชั้นผู้น้อยส่วนใหญ่จะออกมารวมตัวกันที่โถงใหญ่เพื่อสวดภาวนาขอพรจากเทพีผู้สร้างโลกให้ช่วยคุ้มครองดินแดนและประทานพรแห่งความสงบสู่มวลมนุษย์ เลโอนาร์ดมองภาพเหตุการณ์นั้นอยู่เงียบ ๆ ก่อนจะปลีกตัวออกมาเพราะไม่อยากไปรบกวน

“ท่านเลโอนาร์ด”

“เจ้าหญิงอลิซ่า” เมื่อเห็นว่าคนเดินมาทักทายเป็นใคร ชายหนุ่มจึงค้อมศีรษะทำความเคารพ “ท่านมาศึกษาการใช้พลังศักดิ์สิทธิ์หรือ”

“ใช่ ตอนนี้กำลังจะไปพบท่านนักบวชศักดิ์สิทธิ์พอดี ว่าแต่ท่านเลโอนาร์ดล่ะคะ ผ่านทางนี้ หรือว่าอยากเข้าร่วมการสวดภาวนา” เจ้าหญิงแห่งซิเดร่าแซวเล่นขำ ๆ แต่คู่สนทนาไม่ได้หัวเราะด้วยนอกจากยิ้มให้ตามมารยาท

“ว่าแต่ทำไมอยู่ ๆ เจ้าหญิงถึงสนใจการฝึกฝนพลังศักดิ์สิทธิ์ แค่พลังเวทของท่านก็มากพอปกป้องตัวเองอยู่แล้ว แค่ท่านหัดใช้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” เลโอนาร์ดรู้ดี ตระกูลที่ปกครองอาณาจักรนี้มีพลังเวทที่แข็งแกร่งและมีพลังศักดิ์สิทธิ์กันทุกคน ทว่าเจ้าหญิงอลิซ่าที่เป็นบุตรสาวคนโปรดของราชาคงได้รับการยกเว้นเพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบไข่ในหิน การใช้พลังเหล่านั้นจึงไม่ได้รับการฝึกเลย

“ข้าอยากฝึกใช้พลังศักดิ์สิทธิ์มากกว่า”

“...”

'เจ้าหญิงสนใจข้าสินะ แต่ข้าชอบเอราเคีย เมียข้าสวยที่สุด!' เลโอนาร์ดมองเข้าไปในแววตาของคู่สนทนา ดูเหมือนว่าการที่เขาไปช่วยเธอเมื่อคราวก่อนจะทำให้หญิงสาวประทับใจและสนใจเขาขึ้นมา แถมช่วงนี้เห็นเธอแวะมาวิหารศักดิ์สิทธิ์บ่อย ๆ เดินสวนกันทีไร ต่อให้อยู่ห่างกันแค่ไหน เขาก็รู้ว่าเธอแอบมองเขาตลอด

“ท่านจะรีบไปพบนักบวชศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เหรอ ข้าไม่ขวางท่านแล้ว ขอตัวก่อน” ชายหนุ่มตัดบทด้วยการใช้เหตุผลของเธอ จากนั้นก็รีบเดินหนีไปจากตรงนั้น ปล่อยให้อลิซ่ายืนเลิกลั่กอยู่คนเดียว

“มาแล้วเหรอ ท่านผู้กล้า”

“เฮเมร่า?” ระหว่างเลี้ยวกลับไปยังเส้นทางที่ผ่านหน้าห้องพัก เลโอนาร์ดก็พบกับหญิงสาวจอมเคร่งอย่างเฮเมร่า ช่วงนี้เขากับเธอมีปากเสียงกันบ่อย เจ้าตัวจึงไม่อยากคุยด้วยนัก

“กลัวว่าจะถูกจับได้ที่แอบคบค้าสมาคมกับพวกซาตาน่าหรือไง ถึงได้เดินหนี” นักบวชศักดิ์สิทธิ์เปิดประเด็นทำให้ร่างสูงชะงักทันควัน “ข้าจับตาดูพฤติกรรมท่านมาสักระยะแล้ว อยากจะรู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้ดื้อนัก ที่แท้ก็มีพรรคพวกเป็นปีศาจนี่เอง”

“ที่แท้ก็เจ้าเองเหรอ” บางครั้งเขาก็รู้สึกเหมือนถูกมอง แต่ไม่รู้ว่าคนคนนั้นมองจากที่ไหนและเป็นใคร ทว่าตอนนี้เขารู้แล้ว “แล้วเห็นอะไรบ้างล่ะ”

“ทั้งหมดเลย ท่านรู้จักปีศาจและผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นผู้กล้า แต่ที่น่าตกใจกว่าคงจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับจอมมาร มีข่าวว่าจอมมารกำลังจะมีทายาท แต่ไม่นึกว่าพ่อของเด็กจะเป็นท่าน”

“แล้วไม่ดีเหรอ จอมมารกับผู้กล้าฆ่ากันมากี่ยุคกี่สมัยแล้ว ถ้ารักกันซะบ้างก็อาจเป็นการดี เผื่อจะมีวิธีให้สองดินแดนได้อยู่ร่วมกัน”

“ฝันไปเถอะ พวกซาตาน่าจ้องจะทำลายเราและยึดดินแดนไปเป็นของตัวเอง จอมมารทุกรุ่นก็ไม่ต่างจากจอมมารตนแรก เลว ชั่ว บัดซบ บ้าอำนาจ ทำไมพวกซาตาน่าไม่ลงนรกตามจอมมารโอดิสเซียสไปสักที!” พริบตานั้นพลังที่มองไม่เห็นก็กระชากร่างของเฮเมร่าให้พุ่งเข้ามาหาเลโอนาร์ด ชายหนุ่มยกฝ่ามือขึ้นมาบีบคอ นัยน์ตาสีฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงโกเมนฉายแววแข็งกร้าวจนคนเห็นถึงกับสะท้านไปเลย

“เจ้าด่าใคร พูดอีกทีสิ!”

“เป็นไปไม่ได้ เจ้า...เจ้า...เจ้าไม่ใช่มนุษย์!” เฮเมร่ากัดฟันซัดพลังศักดิ์สิทธิ์ใส่คนตรงหน้า ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยหญิงสาวพลางสร้างบาเรียขึ้นมาป้องกันพลังโจมตีของเธอ

“บ้าจริง!” เลโอนาร์ดสบถเมื่อพบว่ามือกับแขนปรากฏรอยไหม้ แม้ว่าตอนนี้ดวงตาจะกลับมาเป็นสีฟ้าเหมือนเดิมแต่เขายังไม่หายโมโห

“ปีศาจ เจ้ามันเป็นปีศาจ ข้าต้องจัดการ!” เฮเมร่าใช้พลังสร้างดาบขึ้นมาก่อนจะสะบัดมือสั่งให้ดาบพุ่งไปหาเป้าหมาย ร่างสูงจึงเอี้ยวตัวหลบตามสัญชาตญาณ และนั่นทำให้ดาบพุ่งไปเสียบทะลุร่างของผู้มาใหม่ทันที

แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่อลิซ่า!

“เจ้าหญิง!” ทั้งเลโอนาร์ดและเฮเมร่าต่างก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่แน่ว่าอลิซ่าอาจจะตามผู้กล้าหนุ่มมาหรืออาจจะเดินหานักบวชศักดิ์สิทธิ์อยู่ เมื่อมาถึงตรงนี้จึงเคราะห์ร้ายโดนลูกหลงเข้า ยิ่งดาบแทงทะลุร่างและเข้าจุดสำคัญ จึงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะเสียชีวิตทันที

“เจ้าฆ่าเจ้าหญิง!” หลังมองร่างที่จมกองเลือดแล้วตั้งสติไม่ได้ไปครู่หนึ่ง เฮเมร่าก็ตะโกนพลางชี้ไปทางเลโอนาร์ด “ข้าไม่ได้ฆ่าเจ้าหญิง เจ้าต่างหากที่ฆ่าท่าน เจ้านั่นแหละทำ เลโอนาร์ด!”

“เกิดอะไรขึ้น!” เสียงของนักบวชอาวุโสที่วิ่งมาพร้อมกับคนสนิทจำนวนหนึ่งทำให้หญิงสาวที่กำลังจะสติแตกชี้ไปทางผู้กล้าหนุ่ม “เขาฆ่าเจ้าหญิง เขาเป็นปีศาจ เขาไม่ใช่มนุษย์ ดูที่แขนเขาสิ นั่นแหละรอยไหม้จากพลังศักดิ์สิทธิ์”

“บ้าเอ๊ย” ร่างสูงสบถพลางมองสองแขนตัวเองที่ตอนนี้ปรากฏรอยแผลอย่างชัดเจน

“เลโอนาร์ดเป็นพวกเดียวกับจอมมาร เขาทรยศเรา เมื่อคืนข้าเห็นกับตา พลังศักดิ์สิทธิ์มีปัญหา อาวุธก็เรียกมาไม่ได้ ทั้งหมดเพราะเขาเป็นพวกซาตาน่า แล้วยังฆ่าเจ้าหญิงด้วย!” คำกล่าวหาของเฮเมร่าอีกทั้งบาดแผลบนตัวเขาทำให้พวกนักบวชเชื่อเธอ ตอนนี้จึงพร้อมใจกันเรียกคทาออกมาและหันมาทางเขาอย่างพร้อมเพรียง

“ท่านเป็นพวกเดียวกันกับจอมมารจริง ๆ เหรอ ท่านผู้กล้า!”

“ใช่” เลโอนาร์ดไม่คิดจะปฏิเสธ “ข้าเป็นพวกเดียวกันกับจอมมาร แถมยังเป็นสามีของจอมมารด้วย ลูกจอมมารก็ลูกข้านี่แหละ”

“เห็นไหม มันยอมรับแล้ว!” เฮเมร่าตะโกนพลางชี้หน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง “คบค้าสมาคมกับปีศาจ แล้วยังฆ่าเจ้าหญิงอีก เจ้ามันสารเลว เจ้าคนชั่วช้าสามานย์!”

“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ เฮเมร่า เราก็พวกเดียวกันไม่ใช่เหรอ อย่ามาหักหลังกันอย่างนี้สิ!” ไหน ๆ เรื่องของเขากับเอราเคียก็ปกปิดไม่ได้แล้ว เลโอนาร์ดจึงไม่ยอมโดนคนเดียว ในเมื่อนักบวชศักดิ์สิทธิ์อยากได้งานเอาหน้านัก เขาก็จะลากเธอไปซวยด้วย

“ใครพวกเดียวกันกับเจ้า!”

“ก็เจ้านั่นแหละ ยังจะมาถามอีก เมื่อคืนมีคนจากซาตาน่ามาสองคน เจ้าก็บอกให้ข้าไปคุยกับทั้งสองจะได้รู้ว่าท่านจอมมารมีคำสั่งอะไรมา แต่เจ้าอยากได้หน้าคนเดียวก็เลยคิดจะแฉข้า ที่เจ้าหญิงต้องมาตายเป็นเพราะเจ้านั่นแหละ อีกอย่างดาบนี่ก็สร้างจากพลังของเจ้าด้วย ไม่เชื่อก็ตรวจสอบได้เลย”

“จริงเหรอเฮเมร่า”

“ท่านก็ร่วมมือกับซาตาน่าเหรอ”

“ดาบเล่มนี้สร้างจากพลังศักดิ์สิทธิ์ของท่านเฮเมร่าจริง ๆ” ระหว่างที่นักบวชคนอื่นยิงคำถามใส่หญิงสาว นักบวชหญิงคนหนึ่งก็ใช้พลังตรวจสอบอาวุธที่สังหารเจ้าหญิงจนเสียชีวิตและพบว่าเป็นพลังของเฮเมร่าตามที่เลโอนาร์ดบอก

จังหวะที่ทุกคนกำลังสนใจกับคำตอบตรงหน้า ผู้กล้าหนุ่มจึงอาศัยจังหวะนี้กระโดดข้ามศีรษะกลุ่มนักบวชแล้ววิ่งหนีไปแบบไม่คิดชีวิตเพราะถ้าขืนยังอยู่ต่อไป เขาคงถูกจับไปเผาด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์เหมือนในโลกเก่าแน่

“ขอให้โชคดีมีชัยในนรกนะ!”

“กรี๊ด!!! เลโอนาร์ด!!!” หญิงสาวกรีดร้องด้วยความโมโห แต่นักบวชที่อยู่รอบ ๆ คุมตัวเธอไว้ได้ทัน เฮเมร่าจึงตามไปเล่นงานอีกฝ่ายไม่ได้

“คุมตัวนางไปขัง พรุ่งนี้นางจะได้รับโทษสูงสุดข้อหาสังหารเจ้าหญิง ส่วนผู้กล้าเลโอนาร์ด ประกาศออกไปว่าเขาเป็นคนทรยศ ส่งอัศวินแห่งแสงไปตามล่าและจับกลับมาลงโทษเดี๋ยวนี้!” คำสั่งประกาศิตของนักบวชอาวุโสทำให้ทุกคนรีบแยกย้ายกันไปทำงานทันที

มหกรรมตามล่าผู้กล้าได้เริ่มขึ้นแล้ว!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel