บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

เสียงก่นด่าสาปแช่งที่ดังแว่วมากระทบโสตประสาททำให้ชายหนุ่มที่หมดสติรู้สึกตัว เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองถูกมัดอยู่บนกองฟืน รอบ ๆ ตัวคือเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่คืบคลานเข้ามาทีละนิดหวังจะเอาชีวิต สัญชาตญาณเอาตัวรอดสั่งให้เขาดิ้นสุดแรงเกิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แม้จะตกใจที่อยู่ ๆ ตัวเองก็เจอเรื่องแบบนี้ ทว่าความคุ้นเคยนั้นทำให้เขาเริ่มตั้งสติได้เพราะรู้สึกเหมือนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

“ไม่ได้มีแค่โรซาเลีย ไนเจลลัส และเอราเคียเท่านั้นที่มาจากโลกเก่า เจ้าเองก็เช่นกัน”

“โอดิสเซียส?” เลโอนาร์ดหันมาหาเจ้าของเสียง วิญญาณจอมมารยืนอยู่ข้าง ๆ เขา นัยน์ตาสีแดงโกเมนกวาดมองมนุษย์ที่แห่มารวมตัวกันเต็มลานหน้าวิหารศักดิ์สิทธิ์ ปากก็ตะโกนว่าเขาเป็นคนทรยศ สมควรถูกประหาร

“ทบทวนความทรงจำให้ดี เจ้าเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว” คำกล่าวของจอมมารตนแรกทำให้ชายหนุ่มเริ่มคิดทบทวน แม้ความทรงจำจะขัด ๆ หาย ๆ แต่ก็พอปะติดปะต่อได้บ้าง

“ข้าเคยตายแล้ว”

“ใช่ เจ้าเคยตาย แล้วคราวนี้เจ้าจะยอมตายอีกหรือเปล่า”

“ใครจะยอม” เลโอนาร์ดเอ่ยเสียงเย็น “ชีวิตใคร ใครก็รัก ข้าก็ยังอยากมีชีวิตอยู่กับคนสำคัญนะ” คำตอบนั้นทำให้โอดิสเซียสถึงกับหลุดหัวเราะ

“เรื่องทั้งหมดที่เจ้าหลงลืม ทันทีที่ความทรงจำกลับมาทั้งหมด เจ้าจะรู้ว่าควรทำยังไง” ร่างโปร่งแสงที่คุยกับเขาค่อย ๆ จางหายไป เหลือเพียงแค่ผู้กล้าซึ่งถูกตราหน้าว่าทรยศเท่านั้นที่ยังอยู่

“ไอ้คนทรยศ!”

“มันต้องเป็นสายลับของซาตาน่าแน่ ๆ”

“พวกรกโลก!”

“เจ้ามันผู้กล้าสารเลว!”

“ตายซะ!”

“ถูกเผาไปซะ!”

เสียงตะโกนของผู้คนมากมายล้วนแสดงเจตนาว่าอยากให้เขาไปลงนรก เลโอนาร์ดพอจะจำได้ว่าในโลกเก่า ตัวเองรู้สึกว่าจิตใจย่ำแย่ ทำอะไรไม่ถูก และไม่สามารถตอบโต้ได้ทั้งที่อยากจะหนีไปหาเอราเคียกับลูกชาย ทว่านั่นมันโลกใบเดิม ดังนั้นโลกใบนี้ เขาจะไม่ยอมเป็นผู้ถูกกระทำ!

“ถึงข้าจะยังนึกอะไรไม่ออกก็เถอะ แต่ใครจะยอมตายอีกรอบฟะ” ชายหนุ่มสบถพลางจ้องหน้าทุกคนที่ก่นด่าสาปแช่ง “รู้จักข้าน้อยไปแล้ว คอยดูเถอะ”

“ตายซะ!”

“ไปตายซะ!”

“ไอ้คนเลว!”

“สุนัขรับใช้จอมมาร!”

“พวกชั้นต่ำ!”

คำสบประมาทเหล่านั้นทำให้ชายหนุ่มถึงกับมุมปากกระตุก เลโอนาร์ดรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ความจริงแต่เป็นความฝันที่เกิดจากความทรงจำ ในเมื่อทุกคนใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์เผาเขาจนตาย เขาก็จะคืนสนองพวกมันทุกคนอย่างงดงาม!

“ข้าจะเผาเมืองนี้ให้วอดเลยคอยดู!”

หลังตื่นจากความฝัน ผู้กล้าหนุ่มก็พบว่าตัวเองลุกขึ้นจากเตียงกลางดึก น่าแปลกที่ไม่รู้สึกอยากนอนต่อดังนั้นร่างสูงจึงคว้าเสื้อตัวนอกมาสวมและออกไปเดินเล่นตามทางเดินด้านนอก ช่วงนี้นักบวชส่วนใหญ่จะแยกย้ายไปพักผ่อนกันแล้ว มีเพียงทหารรักษาความปลอดภัยเท่านั้นที่ทำหน้าที่เป็นเวรยามเฝ้าตามจุดต่าง ๆ เลโอนาร์ดไม่อยากเข้าไปสุงสิงด้วยเพราะเดี๋ยวพวกนั้นจะชวนดื่มเหล้า

“อ่านหนังสือดีกว่า เผื่อจะง่วง” ผู้กล้าหนุ่มมาถึงหน้าห้องหนังสือก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เนื่องจากไม่มีใครอยู่ จึงไม่มีใครจุดตะเกียงให้แสงสว่าง

โครม!

เสียงเหมือนมีของหนัก ๆ ตกกระแทกพื้นทำให้เขาตวัดสายตาไปมอง เสียงกลิ้งขลุกขลักตามมาด้วยเสียงบ่นอุบอิบดังแว่วมาจากหลังห้องหนังสือ เลโอนาร์ดยังไม่จุดตะเกียงแต่ค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้ ๆ แทน หากเป็นคนร้ายจะได้จัดการได้ทัน

“ไนจี้! ลุกออกไปเดี๋ยวนี้ มันหนัก!”

“ก็เจ้าดึงข้าลงมาด้วย”

“นี่เจ้าโทษข้าเหรอ หน้าต่างมันแคบ ข้าบอกแล้วว่าจะเข้ามาก่อน เจ้าก็ยังจะเกาะติดข้าและตามมาด้วยอีก ลุกเลย ๆ อย่ามาทับข้า” เสียงหวานโวยวายใส่ผู้ชายที่มาด้วยนั้นช่างคุ้นหูเหลือเกิน เลโอนาร์ดรู้จักเธอดี ไม่บอกก็รู้ว่าแขกยามวิกาลเป็นใคร

“โรซาเลีย ไนเจลลัส พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่”

“เลโอนาร์ด! ตกใจหมดเลย!” สาวผมแดงแทบจะกระโดดกอดคนข้าง ๆ ถ้าไม่ติดว่าเห็นคนมาเป็นผู้กล้าคนที่เก้าแห่งแมนไคน์

“ที่นี่เป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์ เจ้าเข้ามาได้ด้วยเหรอ” ชายหนุ่มรู้สึกสงสัย จริงอยู่ที่ไนเจลลัสเป็นลูกชายของเขาแต่ไม่ว่าจะมองส่วนไหน อีกฝ่ายก็มีเลือดปีศาจเต็มตัว แล้วเขาเข้ามาในเขตวิหารได้ยังไง

“ท่านลืมแล้วเหรอ ข้าก็เป็นผู้กล้านะ ข้าใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปกป้องไนจี้ไว้ เห็นไหม” โรซาเลียโบกมือแสดงม่านพลังที่กางครอบปีศาจผมสีขาวเอาไว้ ที่แท้ก็มีพลังของเธอคุ้มครองอยู่ ไนเจลลัสจึงเข้ามาในเขตวิหารได้

“เรามาเตือนท่าน” คนข้าง ๆ ผู้กล้าสาวไม่อยากเสียเวลาจึงเปิดประเด็น “ช่วงนี้ระวังหน่อยก็ดี ในโลกที่พวกข้าจากมา ท่านจะตายด้วยข้อหาทรยศและถูกเพลิงศักดิ์สิทธิ์เผาทั้งเป็น”

“ข้ารู้แล้ว โอดิสเซียสช่วยขุดความจำนั้นมาเตือนข้า” ประโยคนั้นทำให้โรซาเลียกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วหันไปสบตากับไนเจลลัส

“พ่อเจ้ารู้ตัวแล้ว”

“แต่ถึงรู้ตัวแล้ว ท่านก็ต้องระวังอยู่ดี โลกนี้กับโลกเก่าใช่ว่าจะเหมือนกันซะทีเดียว ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ท่านต้องส่งข่าวให้พวกเรารู้ ท่านแม่จะได้ไม่เป็นห่วง” คำเตือนของจอมมารลำดับที่สิบหกทำให้เลโอนาร์ดหัวใจพองโตโดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าเอราเคียเป็นห่วงเขา

“พวกเจ้าไม่ต้องห่วง ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ข้าจะรีบไปซาตาน่าทันที” สีหน้าคนพูดแทบกลั้นยิ้มไม่ได้ โรซาเลียก็พลอยหลุดยิ้มไปด้วยเพราะเธอเข้าใจความรู้สึกของเขาดี เมื่อรู้ว่าคนที่ชอบกำลังคิดถึง เป็นใครก็ต้องมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น “เอราเคียสบายดีไหม”

“ท่านป้าสบายดี แต่ช่วงนี้ลูกดิ้น บางครั้งท่านป้าก็เลยตกใจนิดหน่อย”

“แล้วนางเหนื่อยไหม เวลาทำงานน่ะ เป็นจอมมารแต่ก็ท้องอยู่ คงจะเพลียมากล่ะสิ” ทั้งที่เขาเพิ่งเจอเอราเคียมาไม่นานแต่กลับถามเหมือนคนไม่ได้พบกันนาน โรซาเลียก็พอจะเข้าใจ เลโอนาร์ดคงเป็นห่วงอีกฝ่ายมาก ยิ่งในโลกเก่าเขาต้องตายและทิ้งเธอไว้ข้างหลังก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูแลด้วย

“ตอนนี้สถานการณ์ในซาตาน่ายังคงสงบดี กลัวแต่ว่าอยู่ ๆ แมนไคน์จะทำอะไรขึ้นมานี่แหละ” ช่วงนี้ฝ่ายแดนมนุษย์ไม่ได้ทำอะไรผิดสังเกตแต่นั่นทำให้เธอกับไนเจลลัสรู้สึกกังวล

“เมื่อช่วงเย็น ๆ ข้าได้ยินนักบวชอาวุโสคุยกันว่าจะมีการส่งทหารไปประจำที่ชายแดนมากขึ้น” เลโอนาร์ดกล่าวเตือนจากนั้นก็หยิบซองจดหมายฉบับหนึ่งออกมา “ช่วยฝากจดหมายให้เอราเคียด้วย ไนเจลลัส เจ้าไปส่งโรซาเลียเถอะ อย่างที่บอกว่าจะมีการส่งกำลังทหารไปที่ชายแดน คงมีการลาดตระเวนมากขึ้น ข้ากลัวนางถูกจับได้”

“ข้าจะไปส่งนางอยู่แล้ว”

“งั้นเรารีบไปส่งจดหมายให้ท่านป้ากันเถอะ เสร็จแล้วเจ้าจะได้กลับมาดูเลโอนาร์ดต่อ” ว่าแล้ว หญิงสาวก็รีบปีนหน้าต่างกลับออกไปโดยมีไนเจลลัสตามไปติด ๆ

เมื่อทั้งสองไปแล้ว ผู้กล้าหนุ่มจึงถอนหายใจยาวแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตอนแรกเขาตั้งใจจะมาหาหนังสืออ่าน แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะหยิบมาสักเล่มเลย

“กลับไปนอนดีกว่า”

แม้ว่าช่วงนี้จะไม่ได้ออกแรงมากแต่จอมมารลำดับที่สิบห้าแห่งซาตาน่าก็รู้สึกเหนื่อย อยากพักผ่อน ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรทั้งนั้นจึงไม่แปลกที่วันนี้เธอจะนอนแต่หัวค่ำ ทว่าตอนไหนกันเธอก็จำไม่ได้ รู้ตัวอีกทีเอราเคียก็มายืนอยู่ในสถานที่ที่ไม่เคยคุ้นเคย รอบด้านเป็นทุ่งโล่งกว้างที่แห้งแล้ง ท้องฟ้าปรากฏพระจันทร์เต็มดวงที่มีวงแหวนสีแดง ขอบฟ้ามีกลุ่มเมฆสีดำล้อมรอบทุกทิศทาง แม้จะไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่ถ้าให้เดาคงไม่ใช่ซาตาน่าแน่ ๆ

“ข้าอยู่ที่ไหนเนี่ย” หญิงสาวถามตัวเองพลางตั้งสติและคิดว่าจะออกจากที่ได้ยังไง จังหวะนั้นเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งก็ดังแว่วมาจากทางด้านหลัง คนท้องหกเดือนหันไปมอง สายลมพัดมาปะทะใบหน้าจนเธอต้องยกมือขึ้นมาบัง

“เอราเคีย” ผู้มาใหม่หยุดอยู่ตรงหน้าและเรียกชื่อเธอ เมื่อมองอีกฝ่ายชัด ๆ จอมมารสาวก็แปลกใจปนตกใจ เสียงนั้นเป็นของเลโอนาร์ดแน่ ๆ รวมทั้งหน้าตาด้วย แต่สีผมกับสีตานั้นไม่เหมือนเขาเลย

“ท่าน...ทำไมถึง...” ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่ผู้กล้าคนที่เก้าอีกแล้ว ผมที่เคยเป็นสีทองก็กลายเป็นสีขาวและยาวสยาย นัยน์ตาที่เป็นสีฟ้ากลับกลายเป็นสีแดงโกเมน ชุดสีดำทั้งร่างนั้นทำให้บรรยากาศรอบตัวเขาดูมีมนตร์ขลัง แต่ที่ดึงความสนใจของเอราเคียมากที่สุดก็คือเขาแพะบนศีรษะ

สภาพของเลโอนาร์ดในตอนนี้เหมือนไนเจลลัสมาก เพียงแต่อายุมากกว่า ดูแล้วคล้ายพี่ชายมากกว่าจะเป็นพ่อจริง ๆ ของเขา พลันชายหนุ่มในร่างปีศาจก็ดึงเอราเคียเข้ามาสวมกอดตามด้วยกระซิบข้างหู

“อีกเดี๋ยว เราก็จะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ”

“ท่านจอมมาร ๆ”

เสียงเรียกแต่เช้าตรู่ตามมาด้วยเสียงเคาะประตูเรียกเจ้าของห้องให้สะดุ้งตื่นจากห้วงความฝัน ร่างบางค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นพลางยกมือกุมท้อง เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงชาวมนุษย์ที่มีลูกเป็นแบบนี้ไหม แต่สำหรับปีศาจเพศหญิง เมื่อแม่ตื่นนอน ลูกก็ตื่นด้วย แต่ตื่นดี ๆ ไม่ได้ต้องดิ้นและถีบท้องแม่

“จะดิ้นอะไรนักหนา ไว้ครบกำหนดก่อนแล้วค่อยออกมากระโดดโลดเต้น” เอราเคียพึมพำพลางลูบท้องตัวเองก่อนจะสะบัดมือให้ประตูเปิด แล้วสาวใช้คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา

“ท่านจอมมารคะ”

“มีอะไร”

“คุณหนูโรซาเลียกับท่านไนเจลลัสมาขอพบค่ะ”

“ให้เข้ามา” หญิงสาวกล่าวอนุญาต ส่วนข้ารับใช้ก็รีบออกไปข้างนอก สักพักลูกชายกับหลานสาวที่พากันหายหน้าหายตาไปก็เดินเข้ามา สภาพเพลีย ๆ นั้นทำให้เธอคิดว่าคงเพิ่งเดินทางไกลมาแน่

“ท่านป้า / ท่านแม่”

“เพิ่งมาจากแมนไคน์ล่ะสิ” เธอถามอย่างรู้ทัน “แล้วทำไมเจ้าถึงมาด้วย มีอะไรเกิดขึ้นหรือไงถึงกลับมาหาแม่” เอราเคียถามลูกชาย ทว่าอีกฝ่ายไม่ตอบแต่ยื่นจดหมายให้แทน

“ท่านพ่อฝากจดหมายมาครับ”

“ทำผู้หญิงคนอื่นท้องเหรอถึงฝากจดหมายมาสารภาพบาป” แม้ปากจะทำเหมือนต่อว่าแต่โรซาเลียรู้ดีว่าอีกฝ่ายคิดถึงเลโอนาร์ด เพียงแต่ไม่แสดงออกก็เท่านั้น

ทางด้านผู้รับข้อความก็ค่อย ๆ แกะซองจดหมายอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ผิดกับสีหน้าที่เหมือนคนพร้อมระเบิดลงตลอดเวลา เมื่อเห็นกระดาษด้านใน จอมมารสาวจึงดึงออกมาและรีบคลี่อ่านทันที

เอราเคียที่รัก ช่วงนี้ข้ารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ บางครั้งก็เหมือนมีคนมองแต่ไม่เห็นตัว เอาเป็นว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างจะไม่เป็นเหมือนในโลกเก่า ถึงข้าจะยังจำอะไรไม่ค่อยได้แต่ข้าสัญญาว่าข้าจะรีบไปหาเจ้าแน่ ส่วนเรื่องที่มีคนไม่พอใจ เราจะหาทางแก้ทีหลัง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าจะอยู่ข้างเจ้า ไม่ว่าผิดหรือถูก ข้าจะช่วยเจ้าเอง เจ้าทำใจให้สบายนะ แล้วพบกันเมื่อถึงเวลา

เลโอนาร์ด คลาริเบล

ปล. อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ จะได้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก และถ้าใครอยากมีปัญหากับเจ้าก็ให้รีบบอกข้า ข้าจะไปเตะปากมันเอง

“คนบ้า” หญิงสาวสบถพลางพับจดหมายใส่ซองและเก็บใส่กล่องไม้ตามเดิม ส่วนโรซาเลียที่นั่งดูเงียบ ๆ ก็พยายามกลั้นขำ ท่านป้าของเธอช่างไม่แสดงออกตรง ๆ บ้างเลย ปากก็บ่นอุบอิบแต่ใจจริงคงแทบจะกระโดดโลดเต้น

โครก จ๊อก ๆ

เสียงท้องร้องดังจนได้ยินกันทั้งห้องทำให้เอราเคียหันมามอง สาวผมแดงรีบยกมือกุมท้องทั้งที่หน้าแดงเนื่องจากยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ช่วงตอนเย็นของเมื่อวาน ทว่าก็ไม่เท่ากับไนเจลลัสที่ท้องร้องตามมาแถมเสียงดังกว่าเธอด้วย

“ยังไม่ได้กินอะไรกันมาล่ะสิ ไปที่ห้องอาหารนะ พวกข้ารับใช้คงเริ่มจัดโต๊ะแล้ว”

“งั้นพวกข้าไปก่อนนะคะ” โรซาเลียค้อมศีรษะจากนั้นก็ลากคนข้าง ๆ ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากหิวมาก และต้องการพลังงานใส่กระเพาะโดยด่วน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel