บท
ตั้งค่า

Chapter 05

เธอเดินมาส่งมาเลศถึงบ้านพัก แตะมือกับป้าสำราญที่ยืนยิ้มหวานจ๋อยราวกับรอส่งตัวบ่าวสาวเข้าเรือนหอ ท่าทางผู้ใหญ่เอ็นดูหนูน้อยของป้าสำราญทำให้เธอนึกขัน แกเอียงคอซ้ายทีขวาทีเพื่อช้อนสายตามองใบหน้าเกลี้ยงเกลาปราศจากไรหนวดและรอยมีดโกนที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ปีกหมวกให้ถนัดถนี่ ระหว่างป้าสำราญกับมิสมาเลศ ยัง เดลลาตัน เมื่อยืนข้างกันดูเหมือนตุ่มน้ำที่ตั้งอยู่ใต้ต้นมะพร้าว

“ป้าสำราญ” ท่าเดียวกันเป๊ะกับลุงดำ ยิ้มตาหยีแล้วเอามือตีหน้าอกตัวเองแปะๆ ยื่นมือให้อีกฝ่ายจับทักทาย

“เมลค่ะ” มาเลศบอกชื่อเล่นของตัวเอง แล้วก็จับมือกับป้าสำราญ ผู้ซึ่งประกบมืออวบอูมทั้งสองไว้ที่มือใหญ่กว้างข้างนั้นของหล่อน

“อ๋อชื่อแมว น่ารักๆ”

“ป้าคะ เมลค่ะ ไม่ใช่แมว” มุสิกกระซิบใส่ แต่ดูเหมือนว่าชื่อเล่นของมาเลศจะออกเสียงยากเกินไปสำหรับป้า

“แมว” แกยังคงออกเสียงเหมือนเดิม เจ้าของชื่อยืนหัวเราะร่าเหมือนจะรู้ตัว

“โอเค ไม่มีปัญหา เมล แมว มัว อะไรก็ได้” ป้าสำราญหัวเราะร่วนแม้ไม่รู้ความหมายกับสิ่งที่คนตรงหน้าพูดออกมาเลยสักคำ

“แหมช่างคุยนิ น่ารักจริงๆ”

“ป้าไปดูหนูมารีเถอะค่ะ ทางนี้เดี๋ยวเล็กจัดการต่อ”

“งั้นป้าไปนะ โกนะ พ่อแมว” ชักจะไปกันใหญ่ พอคล้อยหลังป้าสำราญเธอจึงผายมือเชิญมาเลศเข้าห้อง ฝ่ายนั้นตีหน้ามึนใส่ คงจะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอยังยืนอยู่ตรงนี้ จะให้บอกว่ายังไงล่ะ เธอก็อยากจะไปเหมือนกันถ้าไม่ติดว่ามันจะเป็นประเด็นสงสัยว่าทำไมไม่อยู่อี๋อ๋อกับแฟน

“ฉันโอเค คุณไปได้นะ”

“อ๋อไม่เป็นไร จะดูความเรียบร้อยให้แน่ใจก่อน เชิญค่ะ บ้านนี้มีระเบียงเล็กที่ด้านหลังด้วยนะคะ เผื่อว่าคุณอยากจะนั่งมองวิวทะเล” มุสิกเดินนำเข้าไปในห้อง ใช้สายตาสำรวจไปรอบๆเห็นเตียงหลังกว้างตั้งอยู่ตรงกลาง ผนังสีอิฐทอดตัวเป็นแนวโค้งตามสไตล์บ้านดินทรงกลมดูเข้ากันดีกับประตูห้องน้ำทรงโค้งที่รูปร่างหน้าตาเหมือนประตูกระท่อมฮอบบิท พี่ชายเธอก็มีหัวทางด้านนี้ไม่เบาหรือไม่ก็คงได้รับแนวความคิดการตกแต่งที่พักมาจากภรรยาชาวนิวซีแลนด์ ร่างสูงของมาเลศเดินผ่านเตียงกว้างหลังนั้นไปแล้วก็โยนเป้ใบโตใส่พื้นดังตุ้บก่อนจะเปิดประตูหลังห้องเพื่อให้แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่ เสียงนกร้องจ่อกแจ่กแว่วดังชัดเจนขึ้นมาทันที หายไปสักเดี๋ยวก็โผล่หัวเข้ามาแล้วก็บอกว่าข้างนอกนั้นวิวสวยดี

“ฉันชอบนะ”

“ก็ดีใจค่ะที่ชอบ”

“ดีใจเหมือนกันที่คุณดูแลลูกค้าดีขนาดนี้ ตรวจเสร็จรึยัง”

“อ้อ เอ่อ ห้องน้ำค่ะ อยู่ด้านนี้ คุณเดินเข้าออกก็ระวังหัวหน่อย” มุสิกไม่ว่าเปล่า เธอทำท่าสาธิตให้มาเลศตระหนักถึงระดับความสูงของประตูไม้ทรงโค้งแลดูกระจุ๋มกระจิ๋มนั่น ฝ่ายนั้นยืนเลิกคิ้วทำท่าประหลาดใจเหลือกำลัง ซึ่งอาการอย่างนั้นมันทำให้มุสิกทำท่ากระดักกระเดิดกลัวจะถูกจับพิรุธได้ว่ามันมีประเด็นอื่นมาเกี่ยวข้องมากกว่าการสำรวจความเรียบร้อยจากเจ้าของที่พักอย่างเธอ

“สบู่ แชมพู แก้วน้ำ หมวกคลุมอาบน้ำก็มีนะ เผื่อว่าคุณจะใช้” เธอทำเป็นเปิดประตูห้องน้ำออกกว้าง บรรยายสิ่งที่มองเห็นราวกับตัวเองเป็นไกด์ทัวร์อุทยานประวัติศาสตร์ หันกลับไปอีกทีก็เห็นมาเลศนั่งเอ้เต้อยู่ตรงปลายเตียง หมวกเอ็นวายถูกถอดออกเผยให้เห็นใบหน้าเรียวยาว ผมเส้นบางสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวพอไล้ต้นคอร่วงลงมาปรกหน้า เจ้าของร่างสูงนั่งเอนตัวไปด้านหลัง มือสองข้างยันไว้กับที่นอน ส่วนขายาวๆทั้งสองข้างนั้นกางกว้างสบายอารมณ์

“อะไร จะต้องตรวจเตียงด้วยหรือไง?”

“ก็ น่าจะดูนิดนึงค่ะ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร”

“เฮ้ย ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วน่า คุณมิวสิค”

“มุสิกค่ะ มุ สิก” เธอออกเสียงช้าๆชัดๆ

“อ่อ มู่สิค”

“ก็แล้วแต่คุณเลยแล้วกัน” คำพูดนั้นทำให้มาเลศยิ้มกว้าง

“คุณไม่ต้องตรวจอะไรแล้วล่ะ ก็เห็นๆอยู่ว่ามันเรียบร้อยดี”

“นั่นสินะคะ คุณจะได้พักผ่อน”

“อือฮึ”

“มี free WiFi นะคะ ต่อได้เลย”

“อ่าฮะ” มาเลศพยักหน้าอีกครั้ง ซึ่งมุสิกไม่ชอบเลยเพราะหล่อนพยักหน้าไปด้วยอมยิ้มน้อยๆไปด้วย

“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ ขอให้เป็นวันที่ดีค่ะ”

“ก็หวังว่าอย่างนั้น ขอบใจมากนะมู่”

Chapter 5

เธอเห็นป้าสำราญอยู่ในครัว กำลังง่วนอยู่กับการทำกับข้าวที่โต๊ะเตรียมอาหารกลางห้อง มีของทะเลสดๆหลายอย่างที่ล้างสะอาดแล้วอยู่ในตะกร้า หมึกกล้วยตัวโตๆกำลังถูกแล่อย่างชำนาญ แค่เห็นตอนที่มันยังดิบๆมุสิกก็น้ำลายหกท้องร้องครวญครางแล้ว เมื่อเช้าก่อนจะออกจากบ้านไปตะลอนๆสังเกตการณ์ที่ท่าเรือก็มีเพียงข้าวต้มกับยำกุ้งแห้งรองท้องไปเท่านั้น ตอนนี้มุสิกก็เลยเข้าขั้นหิวโซเลยทีเดียว

“หิวกันหรือยัง แล้วพ่อแมวไปไหนล่ะ จวนเที่ยงแล้วจะได้กินข้าวกัน ป้าทำต้มยำกับหมึกผัดกะปิ” เธอไม่รู้หรอกว่าพ่อแมวที่ป้าสำราญพูดถึงน่ะจะหิวหรือเปล่า รู้แค่ว่าตอนนี้เธอเองที่หิวมาก

“ไม่ต้องไปห่วงเค้ามากหรอกป้า หิวเดี๋ยวก็มาบอกเอง”

“อ้าวเป็นงั้นไป แฟนมาบ้านก็ต้องดูแลต่ะน้อง” มุสิกได้แต่ส่ายหน้า หยิบส้อมมาจิ้มยำกุ้งแห้งที่เหลือจากมื้อเช้านั่งกินไปพลางเพื่อประทังน้ำย่อยในกระเพาะ ยำกุ้งแห้งใส่ขิงเยอะๆของป้าสำราญนั้นอร่อยอย่าบอกใคร น่าจะจับเข้าไปไว้ในรายการอาหารเช้าให้แขกได้ลองชิม

“ลุงดำว่าตอนกลับมาเจอลูกน้องนายหัวเหรอ น้องอย่าไปทำอะไรให้มันไม่พอใจนะ”

“ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่คะป้า” เสียงโขลกกระเทียมดังกลบห้องไปหมด ป้าสำราญบ่นพึมพำว่าไม่อยากให้มีเรื่องราวอะไรอีก เพราะแค่ตอนนี้เรื่องการเสียชีวิตของพี่ชายและพี่สะใภ้ก็เป็นปัญหามากแล้ว

“ปัญหาอะไรคะ มีอะไรที่ป้าไม่ได้บอกเล็กอีกหรือเปล่า” ป้าสำราญไม่ตอบคำถามนั้นของเธอ ปล่อยให้เสียงครกสากมีดเขียงกลบเกลื่อนร่องรอยความสงสัยนั้นไว้ ทำไมนะ คนเราถึงไม่อยากพูดถึงปัญหาทั้งๆที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไรแต่กลับหลบเลี่ยงปฏิเสธการมีตัวตนของมัน ในความเศร้าโศกเสียใจนั้นมุสิกก็เข้าใจอยู่ ทุกคนต่างเจ็บปวด แม้แต่หนูมารีที่สักวันหนึ่งข้างหน้าในระยะเวลาอันใกล้ก็คงหนีไม่พ้นต้องรับรู้เรื่องราวสะเทือนใจนี้เช่นกัน และคนที่จะตอบคำถามที่ค้างคาใจหนูน้อยในภายภาคหน้านั้นจะเป็นใครหากไม่ใช่เธอผู้ซึ่งต้องรับช่วงต่อในการดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่คงเหลืออยู่นี้ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะฉะนั้นมันจึงมีเหตุผลมากพอที่ทำให้มุสิกต้องค้นหาความจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างน้อย ก็เพื่อความรู้สึกผิดที่คอยรังควานความรู้สึกของเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก็อาจบรรเทาเบาบางลงไปบ้าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel