บท
ตั้งค่า

Chapter 06

เสียงนกหวีดให้สัญญาณการทำแต้มได้ของฝ่ายตรงข้ามดังขึ้นขณะที่เหลือเวลาอีกสองนาทียี่สิบห้าในควอเตอร์สุดท้าย แน่นอนว่าทีมเหย้าที่เพิ่งได้ชู้ตทำคะแนนขึ้นนำสองแต้มเรียกเสียงเชียร์ได้ทั่วสนามหลังจากไล่บี้ผลัดกันนำผลัดกันตามมาตั้งแต่ควอเตอร์ที่สอง ผู้เล่นทั้งห้าคนของฝ่ายนั้นวิ่งกลับไปแดนของตนเพื่อตั้งโซนป้องกันเรียบร้อย เมลรู้ดีว่ากัปตันจะไม่ปล่อยให้คะแนนจบลงที่เสมอ เราต้องการชนะเพื่อจะได้อยู่ในดิวิชั่นหนึ่งของลีก ซึ่งฝ่ายตรงข้ามก็เช่นกัน กัปตันวิ่งไปถึงครึ่งสนามแล้วดึงเกมรอจังหวะ หล่อนยังคงครองบอลไม่ห่างตัวและลังเลที่จะส่งมันให้ใคร เมลที่ยืนอยู่ในตำแหน่งประจำของสมอลฟอเวิร์ดกำลังมองหาช่องว่าง ผู้เล่นร่างสูงของอีกฝ่ายยืนตั้งโซนปิดจุดทะลวงแทบทุกทาง เธอเห็นลิเชียเพื่อนร่วมทีมวิ่งวนไปรอบๆก่อนจะหลอกตัวประกบวิ่งผ่านไปเอาบอลจากมือของกัปตันที่ยืนอยู่นอกโซนสามแต้ม เมลขยับวิ่งอีกครั้งแต่ยังสลัดตัวประกบไม่หลุด มองเห็นว่าลิเชียโยนบอลคืนให้กัปตันที่ขยับเข้าไปยืนในตำแหน่งหัวกระโหลกซึ่งผู้เล่นจากฝ่ายตรงข้ามสองคนประกบติดตัวกัปตันของเธอ เมลจึงวิ่งวนไปถึงจุดเห็นช่องเปิดโล่งและเรียกขอบอล

“สเตฟ!” เมลตะโกนเรียก กัปตันสบตาหันมาเห็นกันแต่ก็ยังคงยืนยื้อยุดบอลอยู่อย่างนั้น ในที่สุดหล่อนก็โยกตัวกระโดดไปด้านหลังชู้ตลูกบอลลอยคว้างขึ้นไปกลางอากาศ

“งานเข้าแล้วไง” เมลบ่นกับตัวเอง เมือเห็นว่าพี่มืดร่างยักษ์ยืนรอจังหวะตบลูกอยู่ที่หน้าแป้น พวกเธอเสียบอลแน่ เพ่งมองไปที่มือกางกว้างของผู้เล่นผิวสีร่างหนาที่กำลังจะปัดบอล คำนวณเร็วยิบถึงทิศทางที่บอลอาจจะกระเด็นไป องศามือประมาณนั้น ส่วนใดบ้างที่จะสัมผัสโดนลูก เร็วกว่าใจนึกเมลขยับตัวอีกครั้ง วิ่งลอดใต้วงแขนที่กางกั้นเลี่ยงออกไปด้านข้าง เสียงปัดบอลดังปังเหมือนพลุระเบิด มีเสียงเฮตามมาทันที บอลกระทบพื้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงพอให้มันกระเด้งลอยขึ้นในแนวเฉียงออกข้างซึ่งเมลกระโจนไปถึงตำแหน่งนั้นพอดี เธอคว้าบอล โยกตัวหลบไปทางซ้ายหนึ่งครั้ง หมุนตัวหลบผู้เล่นที่ประกบอยู่จนเสียหลักปล่อยเธอหลุดจากการสกัดกั้น เธอวิ่งเลี้ยงบอลสลับไปมือซ้ายอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าหาแป้นขณะที่มีการ์ดฟอเวิร์ดสูงหกฟุตห้าผู้ทำลาย step back jumper ของกัปตันยืนจังก้าขวางหน้าอยู่เมลย่อเข่าผ่านบอลลอดใต้ขายักษ์หกฟุตห้าและสไลด์เท้าขยับอ้อมตัวคู่ต่อสู้ทะลวงไปถึงใต้แป้น

“เสร็จฉัน” เมลคำราม การ์ดฟอเวิร์ดหกฟุตห้าหลงทิศไปแล้ว เธอกระโดด มือซ้ายถือบอลเตรียมเลย์อัพ เร็วกว่าความคิดเมื่อแรงกระแทกมหาศาลชนเปรี้ยงจากทางด้านหลัง เสียงนกหวีดดังขึ้นพร้อมกับบอลหลุดออกจากปลายมือลงห่วง ขณะที่ร่างของเธอพุ่งออกไปนอกสนามเตรียมล้มกระแทกพื้น สมองสั่งการอย่างรวดเร็วทันทีถึงความเจ็บปวดสาหัสที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในไม่ถึงวินาทีข้างหน้า ดวงตาเธอเบิกโพลงมองเห็นแสงไฟสปอร์ตไลท์บนอัฒจรรย์ที่ค่อยๆเลื่อนผ่านเข้ามาในสายตาคล้ายภาพช้า ก่อนที่ความเจ็บปวดจะทำร้ายกันอีกครั้งเมลก็สะดุ้งลืมตาตื่น ภาพแรกที่เห็นคือหญิงสาวเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ยืนจ้องกันอยู่ที่ปลายเตียง

“มีอะไรที่ตรวจไม่ครบเหรอ”

“ฉันมาตามคุณไปกินข้าว ไม่หิวรึไงนี่มันบ่ายแล้ว”

“เลี้ยงข้าวกลางวันด้วยเหรอเนี่ย” เธอว่ายิ้มๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง

“เราเลี้ยงแขกสามมื้อต่อวัน” หล่อนตอบ

“เจ๋ง”

“พูดเล่นน่ะ แต่ช่วงนี้เป็นโลวซีซั่น ฉันจะลดค่าอาหารให้ยี่สิบเปอร์เซน” เมลยังคงยิ้ม ทำท่ายักไหล่กว้างๆพอเป็นพิธีแล้วก็ลุกขึ้นจากเตียง

“มู่ คุณนี่โคตรเจ๋ง ไปกันยังหิวจะตายแล้ว”

“ฉันชื่อ มุ สิก” แม้เธอจะพยายามยังไงก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น นี่โลกมันเพี้ยนหรือว่าคนรอบตัวเธอเพี้ยนกันแน่ ทำไมคำพูดของเธอถึงได้ไร้น้ำหนักไม่มีใครให้ความสนใจที่จะตระหนักฟังอย่างตั้งใจกันบ้างเลยสักนิด มาเลศให้ความสนใจกับเสาไม้แกะสลักรูปหัวหน้าชนเผ่าอินคามาก ดูมีความตื่นเต้นและควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน มุสิกพาแขกเดินกลับมาตรงจุดที่ลุงดำจอดรถแต่ไม่ได้เข้าไปในตึก เธอเดินนำร่างโย่งโยกเยกเดินผ่านไปที่สวนพักผ่อนที่อยู่ด้านข้างอาคาร พื้นที่ประมาณยี่สิบตารางเมตรแวดล้อมด้วยต้นหมากและฟินโลหลากหลายสายพันธุ์ พื้นทรายขาวละเอียดตกแต่งด้วยแผ่นทางเดินหินดำ มีชุดโต๊ะเก้าอี้แบบที่ไว้นั่งพักผ่อนในสวนหลังบ้านวางตั้งอยู่สามชุด มาเลศเดินเก้ๆกังๆตามมาเบื้องหลัง ได้ยินเสียงกดโทรศัพท์ถ่ายภาพดังอยู่รัวๆกับเสียงพึมพำว่า คูล คูล คูล

“เชิญนั่งค่ะ”

“เมนูล่ะ”

“ไม่มี อาหารทำเสร็จแล้ว”

“ล้อเล่นใช่มั้ย ฉันไม่กินสัตว์เลื้อยคลานนะ ปลาไหลด้วย เพราะมันเลื้อยมากกว่าว่าย” มุสิกนึกขำไปกับสีหน้าเจื่อนกะทันหันของมาเลศ ทำท่าอย่างนี้ไม่คูลเท่าไหร่เลย

“ฉันไม่ให้คุณกินของพวกนั้นหรอก ที่นี่มันแพงจะตาย รอนี่เดี๋ยวนะ” เมลมองร่างเล็กของหล่อนที่หมุนตัวควับเดินกลับเข้าไปทางตัวตึกสีเหลืองแป๋นนั่น เจ้าของเกสต์เฮ้าส์หายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับแม่บ้านหุ่นตุ้ยนุ้ยหน้าตาใจดีคนนั้น แม่บ้านยกถาดอาหารมาเสิร์ฟ ควันฉุยๆที่ลอยอยู่เหนือปากชามส่งกลิ่นหอมคล้ายสมุนไพรให้ความรู้สึกสดชื่นบอกไม่ถูก ของในชามดูเหมือนซุปเปรี้ยวหน้าตาดีเต็มไปด้วยหมึกและกุ้งตัวใหญ่ อีกจานเป็นหมึกทอด มีไข่ดาวกับผักสลัดให้ด้วย หญิงเจ้าของเกสต์เฮ้าส์เดินตามออกมาพร้อมกับถาดเครื่องดื่ม หล่อนวางมันลงบนโต๊ะจากนั้นก็หันไปพูดอะไรกับแม่บ้านสองสามคำ แม่บ้านพยักหน้าให้หล่อนพร้อมรอยยิ้มแล้วจากไป ส่วนหล่อนนั้นหรือ ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีเกินเหตุอีกแล้วโดยการนั่งลงที่เก้าอี้อีกฝั่งโต๊ะ

“คุณต้องตรวจอาหารพวกนี้ก่อนมั้ย” เมลเปรยขึ้นเมื่อเห็นว่าหล่อนตั้งใจนั่งลงจ้องหน้ากันดูจริงจังและมีแนวโน้มสูงทีเดียวว่าจะไม่ปล่อยให้เธอได้มีเวลาส่วนตัวจัดการมื้อกลางวันสุดเจ๋งตรงหน้านี้ง่ายๆ มาถึงตรงนี้เมลก็ชักเริ่มกังวลนิดๆและสงสัยอยู่หน่อยๆ เจือผสมด้วยอารมณ์ขันอยากจะหัวเราะเล็กๆด้วย สาวไทยคนนี้เป็นคนประเภทไหนกันถึงได้ตามติดชีวิตนักท่องเที่ยวหลงเกาะอย่างเธอได้อย่างน่าประทับใจเกินระดับห้าดาวขนาดนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel