ตอนที่ 5 ตั้งใจมาหาเรื่อง
ในคืนต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นเข้ามาเที่ยวที่ผับ ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาหาความสุขในยามค่ำคืน แต่ตั้งใจมาหาเรื่องลูกค้ารายอื่นที่นั่งโต๊ะใกล้กัน หวังก่อความวุ่นวายเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ผับดังในย่านไชนาทาวน์
ผู้จัดการผับคนใหม่ที่คิงส์ตันรับเข้ามาทำงาน ได้นำชายหุ่นล่ำในชุดดำสี่ห้าคนซึ่งเป็นลูกน้องที่เขาจ้างมาดูแลความสงบเรียบร้อยเข้าไปเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นและลูกค้าโต๊ะอื่นเริ่มมีปากเสียงตะโกนด่ากันไปมา
“เพลิง”
“ครับนาย”
“มึงลงไปจัดการไอ้เด็กเวรพวกนั้น แล้วอย่าลืมฝากไปบอกลูกพี่ของมันด้วยว่าอย่าส่งคนมาในถิ่นของกูอีก”
น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงด้วยความรำคาญใจดังขึ้น ครั้งนี้เขาจะให้โอกาสกลับตัวเพราะเห็นว่าเป็นเด็กที่ยังเรียนไม่จบ อยู่ในวัยคึกคะนอง คงเห็นแก่เงินค่าจ้างไม่กี่บาท เลยทำตามที่ได้รับคำสั่งมา แต่หากยังมีครั้งหน้าคงไม่เหลือแม้แต่ชีวิตรอดออกไปจากที่นี่แน่
เพลิงออกจากห้องทำงานของผู้เป็นนาย ก็ได้พาคนลงไปลากตัวกลุ่มวัยรุ่นชายทั้งห้าคนออกไปกระทืบบริเวณด้านหลังผับซึ่งเป็นที่ลับตาคน ก่อนปล่อยตัวก็ฝากถ้อยคำไปบอกลูกพี่ของพวกมันตามที่เจ้านายของตนสั่งการ
เด็กวัยรุ่นทั้งห้าคนใบหน้าปูดบวม ร่างกายสะบักสะบอมฝืนยันตัวลุกขึ้น หลังจากทุกอย่างสงบลงก็พากันวิ่งหนีหางจุกตูด ทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บตัว แลกกับเงินแค่สามพันบาท ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะโทรไปรายงานคนที่จ้างพวกเขามา
(หึ ทำงานรวดเร็วดีนี่)
น้ำเสียงของสิงหามีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก วัยรุ่นพวกนี้เพิ่งโทรมาแจ้งว่าไปถึงผับเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ไม่คิดว่างานที่สั่งจะเสร็จเร็วขนาดนี้
“พวกผมทำตามที่คุณสั่งแล้ว ถือว่างานนี้จบ เจ้าของผับก็ฝากมาบอกด้วยว่าอย่าส่งใครไปที่นั่นอีก ไม่อย่างนั้นจะไม่ปล่อยให้มีชีวิตรอดออกมา”
(ไอ้เจ้าของผับนี่มันเป็นใครวะ คิดว่าตัวเองใหญ่นักรึไง)
หัวคิ้วของสิงหาขมวดเข้าหากันเป็นปม เพราะคำถามของเขานั้นไร้คำตอบ แถมไอ้เด็กเวรที่โทรเข้ามายังชิงตัดสายไปเสียก่อนจะคุยกันรู้เรื่อง
“มีอะไร”
น้ำเสียงเข้มของพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสามเดือนดังขึ้นจากทางด้านหลัง พลันทำให้สิงหารีบเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง หมุนตัวหันไปหาอีกฝ่าย
ตุลย์ได้ยินเสียงรถของน้องชายขับเข้ามาจอดที่โรงจอดรถ แต่ยังไม่เข้าบ้านเสียทีจึงเดินออกมาตาม ทว่ามาได้ยินประโยคสุดท้ายที่น้องชายเอ่ยกับปลายสายพอดี
“หน้าไปโดนอะไรมา”
ตุลย์เลื่อนมือเข้าไปจับปลายคางของน้องชายหันใบหน้าไปมาเพื่อสำรวจรอยฟกช้ำดำเขียว มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าไม่ได้เกิดจากการหกล้มหรืออุบัติเหตุอย่างอื่น แต่เป็นร่องรอยจากการถูกทุบตีด้วยฝีมือของคน
“โอ๊ย... จับเบา ๆ ดิเฮีย โดนซ้อมมาเมื่อคืนยังเจ็บไม่หายเลย”
“ใครทำ กูจะส่งคนไปจัดการ”
ตุลย์เอ่ยด้วยสีหน้าถมึงทึง อีกฝ่ายมันเป็นใครถึงได้กล้ามาทำร้ายน้องชายของเขาแบบนี้
“ผมจ้างคนไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าของผับมันใหญ่มาจากไหน ฝากเด็กมาบอกว่าอย่าส่งใครไปอีก ไม่งั้นมันจะเอาถึงตาย”
“ผับนั่นชื่ออะไร”
เมื่อตุลย์ได้รู้ว่าเป็น K.T. Demon Pub เจ้าของก็คือมาเฟียลูกครึ่งไทยฮ่องกง ซึ่งเขาเคยคิดจะล้มธุรกิจท่าเรือของอีกฝ่ายอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงออกคำสั่งกับน้องชายอย่างเด็ดขาด
“ต่อไปอย่าไปที่นั่นอีก ถ้าไอ้คิงส์ตันมันรู้ว่ามึงเป็นน้องชายของเฮีย มันไม่ปล่อยมึงแน่”
“คิงส์ตัน มันเป็นใคร แล้วใหญ่มาจากไหน นี่เฮียกลัวมันด้วยเหรอ”
สิงหาเกิดความสงสัย ตั้งแต่เรียนจบเขาก็ยังไม่เคยมาช่วยงานพี่ชาย เลยไม่รู้เรื่องพวกนี้
ในแต่ละวันน้องชายของตุลย์มักจะเอาแต่ใช้เงินกินเที่ยวและเปย์ผู้หญิง มีแค่เมษาเพียงคนเดียวที่ดูเหมือนว่าสิงหาจริงจังกว่าคนอื่น ๆ
ทว่าสิงหาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนทิ้งมาก่อน ไม่คิดว่าเธอจะกล้าบอกเลิกโดยไม่มีสาเหตุ แถมยังด่าเขาว่าเฮงซวย แล้ววันก่อนยังไปจูบกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตาเขาอีก
“ไอ้คิงส์ตันมันเป็นหนึ่งในหัวหน้าแก๊งมาเฟีย พวกมันคุมธุรกิจหลายอย่างทั้งในไทยและฮ่องกง พวกเราสู้มันซึ่ง ๆ หน้าไม่ได้หรอก เฮียขอเตือนมึงด้วยความหวังดี อย่าไปที่นั่นอีก”
สิงหากัดกรามแน่น มองแผ่นหลังของพี่ชายเดินเข้าบ้านไป หรือว่าคนที่จูบกับเมษาเมื่อคืนก็คือไอ้คิงส์ตัน เจ้าของผับที่สั่งให้คนจับเขาไปซ้อมจนระบมไปทั้งตัว
*****
มหาวิทยาลัยได้ทำการเปิดเรียนเป็นวันแรก หลังเลิกเรียนเมษาก็แยกกับอบเชยที่หน้ามหาวิทยาลัย
ระหว่างยืนรอเรียกรถแท็กซี จู่ ๆ ข้อมือก็ถูกคว้าไปกอบกุมอยู่ในกำมือหนา ถูกรั้งให้เธอหันไปเผชิญหน้ากับคนที่ถือวิสาสะเข้าถึงเนื้อถึงตัว
“พี่สิงหา”
หญิงสาวในชุดนักศึกษาเบิกตาโพลง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตามมาหาเธอถึงที่นี่
สิงหามั่นใจว่าเธอต้องมาเรียนจึงตั้งใจมาดักรอ พอเห็นเมษายืนอยู่ตามลำพังก็รีบเดินเข้ามาหา
“ยังจำชื่อพี่ได้อยู่เหรอ”
เขาถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เวลาผ่านไปเป็นเดือนที่ไม่ได้คุยและไม่ได้เห็นหน้ากัน ไม่คิดเลยว่าเมษาจะใจแข็งตัดเขาออกจากชีวิตได้ลง ทั้งที่เมื่อก่อนต้องคุยกันก่อนนอนทุกคืน
“ปล่อย พี่ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวฉันอีก”
“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่เป็นแฟนของเธอ ให้ทำมากกว่านี้ยังได้เลย”
น้ำเสียงข่มขู่ของอดีตแฟนหนุ่มดังพร้อมกับกระชากข้อมือของเธอ หมายจะพาไปขึ้นรถสปอร์ตที่จอดอยู่ริมถนน
“ปล่อยนะ ฉันไม่ไป”
“เงียบ แล้วก็ขึ้นรถไปดี ๆ อย่าทำให้พี่โมโห”
อีกฝ่ายกระชากน้ำเสียงด้วยความขุ่นเคืองใจ ทำให้เมษานิ่งเงียบพลันถอนหายใจออกมาแรง ๆ นึกไม่พอใจที่สิงหายังกล้ามาให้เห็นหน้า ทั้งที่เขานอกกายนอกใจไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นลับหลัง ฟังแบบนี้แล้วใครกันแน่ที่ต้องเป็นฝ่ายโมโห
“มีอะไรก็พูดกันตรงนี้เลยดีกว่า ฉันไม่อยากอยู่กับพี่ตามลำพัง”
“ขึ้นรถ แล้วค่อยคุยกัน”
สิงหาดันตัวหญิงสาวเข้าไปนั่งด้านใน มือดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดกลางลำตัวของเมษาแม้อีกฝ่ายจะไม่เต็มใจ แล้วรีบเดินอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง แล้วขับรถออกไปด้วยความเร็ว
