ตื๊อรัก 1
TRICK TO LOVE : STORY 1
ผับ G
01.30 น.
เสียงเพลงจังหวะหนักหน่วงยังคงดังอื้ออึงอยู่ในหู ผสานกันกับเสียงผู้คนมากหน้าหลายตาซึ่งพากันออกมาท่องราตรีกำลังตะโกนเชียร์ให้ดีเจเปิดเพลงต่อโดยไม่สนใจว่าตอนนี้มันได้เวลาที่ผับจะปิดแล้ว
อีอ้ายคนนี้ได้แต่ภาวนาให้ไอ้ผับเวรนี่ปิดเร็วๆ สักที! เพราะไอ้พวกผู้ชายหน้าหม้อทั้งหลายเอาแต่ใช้สายตาโลมเลียมองมาไม่ได้หยุด แค่ฉันใส่ชุดหนังรัดติ้วโชว์นม โชว์แผ่นหลัง โชว์ขาอ่อนนิดหน่อยเองนะเนี่ย!
“อ้าย” ร่างสูงข้างๆ ป้องปากตะโกนเข้าที่ข้างหูแข่งกับเสียงเพลงที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
ฉันหันไปมองเพื่อนตัวเองอย่างรำคาญใจ ไอ้ ‘ลี’ กำลังพยายามยัดเยียดเสื้อแจ็กเกตของตัวเองให้ฉันเป็นรอบที่ล้าน! ใบหน้าหล่อจัดขมวดคิ้วมองดูกันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมฉันจะต้องแต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้ขนาดนี้ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ฉันตะโกนสวนกลับไปพร้อมทั้งปัดเสื้อมันออกจากไหล่
“ไม่เอา!!”
“กูถามจริง... มึงคิดจะใส่ไอ้ชุดเวรนี่มาเพื่อจะอ่อยไอ้เฮียเจินโดยเฉพาะเลย?”
ไอ้ลีไม่ถามเปล่ามันเลื่อนสายตากลับไปมองยังทิศทางเดิมซึ่งเรายืนสังเกตการณ์กันมาได้ร่วมสองชั่วโมงเข้าไปแล้ว ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังโยกตัวเต้นกันเป็นปลาโดนน้ำร้อนลวก ผู้ชายร่างสูงโปร่งผิวขาวออร่าจับกำลังยืนนัวเนียอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งชนิดที่เรียกได้ว่าไม่อายฟ้าอายดิน
ฉันได้แต่กัดฟันกรอดนึกแค้นอยู่ในใจ ก็เพราะมันโคตรหล่อ และโคตรดูดีแบบนี้ไง ไอ้หมวยของฉันถึงได้หลงหัวปักปัวปำ หึ! ไม่รู้ว่าใช้ไอ้หน้าตาดีๆ นั่นหลอกผู้หญิงมากี่คนแล้ว!
วันนี้แหละ... วันนี้ฉันจะสำแดงฤทธิ์เดชของอีเจ๊อ้ายให้ดู... จะทำให้มันลืมไม่ลงเลย...
“มึงดูมันนะไอ้ลี... วันก่อนเพิ่งจะเทน้องกูวันนี้กลับมาคั่วสาวคนใหม่ สารเลว!!” ฉันร้องเสียงดัง พร้อมทั้งกระแทกแก้วซึ่งบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงบนโต๊ะอย่างแรง คนข้างๆ ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
“กูว่าน้องมึงคงไม่เข้าใจ”
“หมายความว่า?”
“กูไปสืบมานิดหน่อย ไอ้เฮียเจินมันเจ้าชู้จะตาย กูว่าเผลอๆ มันกับไอ้หลินไม่ได้คบกันด้วยซ้ำ แต่น้องมึงดันคิดไปไกล”
“โห!! มึงห้ามพูดให้น้องกูได้ยินเลยนะไอ้เพื่อนชั่ว”
ฉันกัดฟันกรอดอย่างโกรธแค้น ใบหน้าหล่อของคนข้างๆ บิดยิ้มขบขันเล็กๆ ไอ้นี่ก็อีกคนแค่ให้ช่วยมาเป็นไม้กันหมาไม่ให้ผู้ชายคนอื่นเข้ามายุ่ง ดันเอาแต่พูดจาไม่เข้าหูอยู่นั่นแหละ!
“กูว่า... มึงล้มเลิกแผนการติ๊งต๊องอะไรนั่นเหอะ” มันชำเลืองมองกลับไปที่ไอ้ผู้ชายบ้านั่นอีกครั้ง ก่อนจะยื่นหน้ามากระซิบข้างหูฉัน “กูกลัวเพื่อนขายขี้หน้า”
“โอ้โห! ดูถูกกันเกินไปแล้ว! อีอ้ายนี่เอวยี่สิบสี่ อกสามสิบแปด สะโพกสามสิบห้า! ใครมันจะเมินได้ให้มันรู้ไป!” ฉันตะโกนสวนกลับไปแทบจะในทันทีอย่างเหลืออด
“กูไม่ได้หมายถึงรูปร่างหน้าตามึงไอ้สัส!” ไอ้ลีโบกหัวฉันเบาๆ ก่อนจะขยายความต่อ “ไอ้เวรนั่นถ้ามันไม่สนใจใคร หรือถ้ามันรู้ว่ามึงเข้าไปเพื่อจะทำอะไร… ยังไงมันก็ไม่เอา!”
“ขอพจนานุกรมด่วน! ทำไมจะต้องให้แปลไทยเป็นไทยด้วย? ขอคำที่เข้าใจง่ายกว่านี้ได้มั้ย?”
“ทำไมมึงนี่โง่เสมอต้นเสมอปลายแบบนี้วะเนี่ย?”
“…” ฉันไม่สนใจท่าทางเซ็งจัดของเพื่อนแต่รีบส่งสายตาให้มันอธิบายโดยเร็ว
“มึงคิดว่าถ้ามันรู้ว่ามึงเป็นพี่สาวของไอ้หลินมันจะตกหลุมพรางมึงรึไง?”
“มันจะไปรู้ได้ยังไง? ถึงกูจะหน้าตาใกล้เคียงกัน แต่กูสองคนก็แทบไม่เคยอัพรูปคู่ลงโซเชียลเลย! และไอ้เฮียนั่นก็ไม่เคยมาบ้านกูด้วย! กูทำการบ้านมาแล้วน่า…”
“…”
“ช่างเรื่องนั้นเหอะ! ไม่ว่ามันจะรู้หรือไม่รู้ก็ช่าง! ยังไงกูก็จะทำให้มันรู้สึกอือฮื้ออาฮ้ากับกูให้ได้”
ฉันตบฉาดเข้าที่หน้าขาของตัวเองอย่างมั่นอกมั่นใจ คนข้างๆ ยกมือยอมแพ้ก่อนจะคว้าแก้วเหล้ามาดื่มรวดเดียวหมด สีหน้าดูหมดหวังกับฉันเป็นรอบที่ล้าน
หน็อย! ดูมันทำหน้าเข้า…
แต่ฉันไม่ทันที่จะได้สนทนากับเพื่อนสนิทตัวเองต่อ สายตาก็บังเอิญเหลือบไปเห็นว่าร่างสูงของเป้าหมายกำลังจะเดินผ่านหน้าเราสองคนไปพอดี ในอ้อมแขนมีผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่งตัวโชว์เนื้อนมไข่ไม่ต่างจากฉันกอดเกี่ยวอยู่เหมือนเดิม
มันก็น่าแปลกอยู่เหมือนกันที่สายตาเขาเองก็ชำเลืองมองมายังจุดที่เราสองคนยืนอยู่… ถึงจะมองมาแต่มันก็แค่แว้บเดียวเท่านั้นที่สายตาเราประสานกัน แค่เสี้ยววินาทีก็เดินผ่านไป...
“ได้เวลาแล้ว” ฉันกระซิบให้ลีได้ยิน “มึงไม่ต้องตามไปนะ เดี๋ยวกูโทรบอกว่าจะเอายังไง”
“กูว่าไม่ค่อยโอเคมั้ง” ลีพยายามส่งสัญญาณให้ฉันล้มเลิกแผนการ
“ไม่ได้หรอก กูสัญญากับไอ้หมวยไว้แล้ว”
ฉันยืนยันเป้าหมายอย่างมาดมั่น พร้อมกันก็ขยับตัวเดินตามร่างสูงนั่นออกไป และไม่คิดจะสนใจเสียงของเพื่อนที่กำลังตะโกนไล่หลังมาอีก
สิบนาทีต่อมา...
“เฮียเจินทำไมไม่ไปที่ห้องล่ะคะ?”
“อืม... เฮียไม่เคยพาใครไปห้อง”
“แต่ว่าเรากำลังมีอารมณ์…”
“ให้ได้แค่ตรงนี้… ถ้าอยากจบก็แล้วแต่”
“มะ… ไม่ใช่เลยค่ะ”
ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้านาทีที่สิบแล้วที่ฉันกำลังทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์แอบดูชายหญิงสองคนกอดรัด นัวเนีย ลูบๆ คลำๆ กันตรงลานจอดรถ ยัยผู้หญิงนั่นก็เอาแต่เสนอตัวให้ผู้ชายพาไปที่ห้อง ส่วนไอ้เฮียบ้านั่นก็เอาแต่บอกว่าไม่ให้ไป… ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็แทบจะกินกันได้อยู่แล้ว!
“น้อง…”
“...”
ฉันสะดุ้งสุดตัวหันกลับไปมองเมื่อมีสัมผัสเย็นๆ มาแตะเข้าที่แผ่นหลัง ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาหล่อเหลาพอๆ กันกับคนที่เป็นเป้าหมายของฉัน ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับท่าทางลับๆ ล่อๆ ที่เขาคงบังเอิญผ่านมาเห็นเข้า คนตรงหน้าถือขวดเหล้าอยู่ในมือท่าทางดูเหมือนจะเมาเล็กน้อย และพอเราสบตากันจากสีหน้าข้องใจก็แปรเปลี่ยนเป็นกะลิ้มกะเหลี่ยขึ้นมากะทันหัน
นัยน์ตาแพรวพราวลากสายตามองเนินอกกับเรียวขาที่โผล่พ้นชุดเดรสตัวเล็ก ถึงหมอนี่จะหน้าตาหล่อมากแต่ก็ดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไหร่…
เอ่อ… สถานการณ์ไม่ค่อยดีเลยนะ ว่าไหม?
“มายืนทำอะไร? แอบตามแฟน?” คู่สนทนาเลิกคิ้วเล็กน้อย เลื่อนสายตาเมาได้ที่ ไปยังคู่ชายหญิงซึ่งฉันกำลังแอบดูอยู่ก่อนหน้า
“อะ… อ๋อ! ใช่ค่ะๆ แฟนหนูมันชอบมั่วผู้หญิง วันนี้เลยกะจะมาจับให้ได้คาหนังคาเขา!” และวินาทีนี้ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะเออออห่อหมกตามน้ำไปอย่างช่วยไม่ได้
“เหรอ?” คนตัวโตทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่
“นี่กะจะเดินเข้าไปกระชากให้มันแยกกันแล้วตบสักคนละทีสองทีเลยนะพี่!” แต่ถึงงั้นฉันก็จำใจต้องรีบไซโคต่อ
“เหรอ?”
“เออดิ! นอกใจมาตั้งนานเพิ่งจะมาจับได้วันนี้นี่แหละ!”
“...”
ในขณะที่ฉันโกหกเป็นเรื่องเป็นราว คนตัวโตก็ดูไม่เชื่ออยู่ดี ร่างสูงขยับตัวเดินออกไปจากมุมที่เรายืนหลบอยู่ ซ้ำยังทำท่าจะตะโกนเรียกไอ้หมอนั่นโดยไม่ไถ่ถามสุขภาพฉันสักคำ! เพราะตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูกฉันเลยรีบเดินไปฉวยขวดเหล้าในมือบุคคลปริศนามาไว้ในครอบครอง
“อะไรวะเนี่ย?” คนแปลกหน้าขมวดคิ้วมองกันอย่างไม่เข้าใจ
“ขอยืมเหล้าหน่อย! เมื่อกี้ไม่กล้าเดินเข้าไปเพราะยังไม่เมา! แต่ถ้าเมารับรองได้เห็นดีกันแน่ไอ้ผัวชั่ว!” ฉันยังคงแต่งเรื่องแต่งราวต่อได้อย่างน่าอัศจรรย์จนงงตัวเอง
และก็เพิ่งได้รู้ตัววันนี้นี่เองที่ไอ้ลีชอบบอกว่า... ฉันเป็นคนนิสัยประหลาดมันหมายความว่ายังไง TT__TT
คือเอาตรงๆ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำบ้าอะไร! รู้แค่ว่าตอนนี้กำลังกระดกขวดเหล้าใส่ปากไม่ยั้งเหมือนคนบ้า ของเหลวรสชาติขมปี๋ชวนคลื่นเหียนไหลผ่านลำคอ รู้สึกได้ถึงการเผาไหม้ล้างผลาญผ่านไปที่ช่วงท้อง อยากจะขย้อนอาหารที่เพิ่งกินไปเมื่อตอนเย็นออกมาให้หมด
“น้องแอบมาถ้ำมองพวกนั้นใช่รึเปล่า? ไม่ใช่เมียจริงหรอกมั้ง?”
“อึก!”
เพราะคำพูดของคนตรงหน้าทำให้ฉันถึงกับต้องหยุดชะงัก ขวดเหล้าหลุดออกจากปากอย่างตกใจในความฉลาดล้ำลึกของไอ้บ้านี่
แต่ก่อนที่จะได้เถียงอะไรออกไปก็พบว่าตอนนี้สติที่ยังสมบูรณ์ดีเมื่อนาทีก่อนกำลังแปรเปลี่ยนไปทีละน้อย นอกจากสติจะเริ่มมึนๆ อุณหภูมิข้างแก้มก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างหนัก แข้งขาสองข้างโงนเงนไปมาจนต้องคว้าเสื้อของคนแปลกหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้ล้มคว่ำไปซะก่อน
นะ… นี่อาการเหมือนคนเมาเลยนะ!!
คนตรงหน้าพ่นลมหายใจเสียงดังไม่ได้สนใจอาการเมาขึ้นมากะทันหันของฉัน เขาทำท่าจะตะโกนเรียกไอ้คนที่กำลังยืนอยู่ตรงนู้น จนฉันต้องรีบกระโดดไปยืนขวางด้านหน้า ยกมือขึ้นห้ามเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ก่อนจะใส่สีตีไข่มั่วซั่วไปหมด
“พี่หยุดนะ! ถ้ามันรู้ตัวก็จบกันพอดี ไอ้ผัวชั่วกับนังเมียน้อยหน้าไม่อายแบบนี้สมควรปล่อยไว้เรอะ!!”
“…”
“ขอร้องพี่อย่าเข้ามายุ่งเลยนะ! มันเป็นเรื่องภายในครอบครัว!”
“…”
“มันเป็นผัวหนูจริงๆ หน้าสวยๆ แบบนี้ดูเหมือนจะเป็นคนโกหกหลอกลวงเหรอ?”
“...”
“ใครเป็นผัวเธอ?”
“ก็ไอ้นั่นไง! ไอ้หล่อที่กำลังกอดจูบลูบคลำ…”
ระหว่างที่กำลังแต่งเรื่องแต่งราวจริงจัง ปากฉันก็เป็นอันต้องหยุดชะงักค้าง มือไม้ที่กำลังโบกชี้ไปยังทิศทางด้านหลังของตัวเองร่วงลงข้างลำตัว ฉันขยี้ตามองผู้ชายตรงหน้าอย่างสับสน
ทำไมตัวถึงอยู่ตรงนี้แต่เสียง… กลับดังมาจากด้านหลัง?
“ฉันไปเป็นผู้ชายของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“...”
เคร้ง!!!!
ขวดเหล้าที่ถืออยู่ในมือร่วงหล่นลงบนพื้น เศษแก้วกระจัดกระจายไม่เหลือชิ้นดี แต่ที่แหกยิ่งกว่าไอ้ขวดเหล้าบ้าๆ นี่คือหนังหน้าของฉันเอง... สัมผัสเย็นๆ จับเข้าที่ไหล่เปลือยเปล่าก่อนจะออกแรงดึงให้หันกลับไปมอง…
“อึก…”
“…”
และนี่ก็เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ฉันได้สบตากับคนที่ตัวเองโมเมว่าเป็นผัวเต็มๆ ตา...
ใบหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลาเหมือนได้รับการดูแลมาเป็นอย่างดีกำลังมองสบตามา เรียวคิ้วเข้มเลื่อนเข้าหากัน นัยน์ตาสีอ่อนกำลังลากสายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูยังกับผู้หญิงจะบิดยิ้มขึ้นเล็กน้อย…
“หน้าแบบนี้… หุ่นแบบนี้… นมแบบนี้…” คนตรงหน้าเลื่อนสายตามองเรือนร่างฉันซ้ำอีกครั้งอย่างไม่เกรงใจ ก่อนที่ขายาวๆ จะสาวเข้ามาประชิดตัวกัน ริมฝีปากเอ่ยต่อเบาๆ ให้ได้ยินแค่สองคน “จำไม่ได้แฮะ… ว่าเคยกิน”
“อึก!” ฉันสะอึกเสียงดัง มือสองข้างยกขึ้นมาผลักอกคนตรงหน้าให้ถอยห่างออกไป เสี้ยวหน้าหล่อยิ้มมุมปากก่อนจะหันกลับไปหาตัวประกอบฉากสองคนที่กำลังยืนเงียบๆ มองดูอยู่
“วันนี้เฮียหมดอารมณ์แล้วไว้วันหลังละกัน”
เขาหันไปโบกมือไล่ผู้หญิงคนเดิมที่ถึงกับเบิกตาโตพยายามจะแย้งบางอย่างออกมา แต่สุดท้ายแล้วก็เลือกที่จะไม่พูด และดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สามารถมีปากมีเสียงอะไรได้ นอกจากเดินกระแทกส้นสูงห่างออกไปยังทิศทางเดิมอย่างงงๆ
“วันนี้กูกลับเลยก็แล้วกัน”
คนต่อไปที่เขาหันไปคุยด้วยคือผู้ชายคนเมื่อครู่ที่ฉันเพิ่งจะสำแดงฤทธิ์เดชเมียหลวงปลอมๆ ให้เห็น และตอนนี้หมอนั่นก็กำลังแย้มยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมมองมาที่ฉันอย่างขบขัน
ฉันได้แค่อุทานอยู่ในใจแข้งขาเหมือนจะอ่อนแรงลงแทบไม่เหลือแรงให้ทรงตัว! หมายความว่าพวกเขารู้จักกันงั้นเรอะ? แล้วไอ้ที่ฉันโกหกสาดสีไปสารพัดนั่นเล่า...
โอ้วพระเจ้า! TT______TT
“…”
ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศชวนน่าอึดอัดใจ ฉันยังคงอ้าปากค้างมองตามไอ้บ้านั่นที่ยังมีหน้าส่งมินิฮาร์ตมาให้กันอีกอย่างไม่อยากจะเชื่อ! รู้อยู่แล้วว่าฉันโกหกแต่ยังมาทำเป็นตีเนียนไม่รู้เรื่องปล่อยให้ฉันโวยวายนู่นนั่นนี่ต่ออีก…
ฮึ่ม! ไอ้บ้า!
“…”
สายตาฉันจำต้องเลื่อนกลับมามองคนตรงหน้าที่สูงกว่ากันเยอะพอควร ไอ้เฮียเจินยิ้มให้ฉันเล็กน้อยแววตาลุ่มลึกกวาดมองใบหน้าฉันช้าๆ ราวกับกำลังพินิจพิจารณาสินค้า ส่วนฉันได้แต่ยืนตาปริบๆ ปล่อยให้มันเป็นไป…
ใจใหญ่ๆ ตอนนี้หดลงเหลือแค่สองนิ้วเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีดาเมจความหล่อจะรุนแรงเบอร์นี้! เขาหล่อมากจริงๆ ขนาดว่าตอนนี้สายตาพร่าเลือนของฉันยังมองไม่ค่อยจะชัดแต่ก็โคตรหล่ออยู่ดี ยังกับนายแบบดังๆ สักคน จากที่เคยคิดว่าแค่มาอ่อยให้อยากแล้วจากไป แต่ดูเหมือนว่าแค่นั้นมันคงจะไม่พอซะแล้ว…
หมอนี่… ไม่ใช่แค่เสือธรรมดา… นี่มันเสือจ่าฝูงชัดๆ
“หน้าตาสวย หุ่นก็ดี… ทำไมถึงต้องมาแอบดูกัน?” หลังจากเรายืนมองกันไปกันมา และเงียบกันอยู่เกือบนาที คนตรงหน้าก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นก่อน
“...”
แม้ว่าจะพยายามเก็บอาการแล้ว… แต่ฉันก็ไม่สามารถบังคับให้ตัวเองหยุดทำตัวลุกลี้ลุกลนได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะตอบว่าอะไร ก่อนหน้านี้ความมั่นใจมีเกินล้าน! แต่ตอนนี้ติดลบสิบ! ต้องเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์นั่นแน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ
“ว่าไง?” คนตัวสูงเลิกคิ้วถามอีกครั้งอย่างรอฟังคำตอบ ใบหน้าหล่อเอียงคอมองเหมือนจะตั้งศาลสอบสวนกันตรงนี้ยังไงยังงั้นเลย
“คือ...”
“...”
“คือว่า...”
“...”
“ชอบเฮีย…”
“หืม???”
“ชอบเฮียนั่นแหละ!!”
ถึงปากจะพูดออกไปแบบนั้นแต่สีหน้าอยากจะร้องไห้ของฉันไม่สามารถระงับเก็บมันเอาไว้ได้เลย ขอโทษนะ! ที่ตอนนี้อีอ้ายคิดออกแค่นี้จริงๆ TT___TT
จะให้บอกเป็นอย่างอื่นก็ดูจะกะไรอยู่ใช่ไหมล่ะ เผลอๆ โดนจับไต๋ได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอไม่คุ้มกันเลยสักนิด!!
“ชอบเฮียเจินเหรอ?”
คนที่ได้ฟังเปลี่ยนสรรพนามกะทันหัน เขาโน้มใบหน้าลงมาอยู่ในระดับเดียวกัน เรียวปากสวยยังคงยิ้มค้างอยู่อย่างนั้น ก่อนเสียงแหบพร่าจะกระซิบบอกเบาๆ
“รู้รึเปล่าว่าคนที่มาพูดแบบนี้ทุกคน… สุดท้ายจะจบลงที่เตียง?”
ตะ… เตียง…
“อึก!” และก็เป็นอีกครั้งที่ต้องขายขี้หน้าเพราะดันสะอึกออกมาเสียงดัง ใบหน้าเห่อร้อนไปหมด ซ้ำยังเหงื่อเย็นๆ ที่กำลังผุดซึมขึ้นบนกรอบหน้านี่ก็ด้วย!
“ตัวสั่นเชียว”
มือเย็นๆ เอื้อมมาสัมผัสไหล่เปลือยเปล่า ก่อนจะทำท่าลากต่ำลงที่เนินเนื้อซึ่งโผล่พ้นออกมาจากชุด ฉันสั่นเป็นเจ้าเข้าทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนคนหล่อลวนลามซึ่งๆ หน้า ที่ทำได้คือขยับตัวถอยห่างออกมา แต่เขากลับกระชากแขนเล็กๆ ของฉันเข้าหาตัวจนร่างเราใกล้ชิดกันขึ้นอีกระดับ
“ว้าย!!!”
“จะถอยหลังทำไม? ไหนว่าชอบเฮีย…”
“…” ฉันเม้มปากแน่น ช้อนสายตามองสบตาไอ้เฮียเวรนี่โดยที่ไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย
“เราไปคอนโดเฮียกันดีกว่าจะได้ทำความรู้จักกัน… ดีไหมคะน้องอ้าย?”
“O_O”
วินาทีนั้นเองหัวใจฉันเต้นถี่ระรัวจ้องมองไอ้เฮียเจินอย่างตื่นตระหนก…
มันจะไม่มีอะไรแปลกเลยสักนิด… ฉันรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นเสือผู้หญิงแน่ๆ จะชวนสาวๆ ไปห้องก็ไม่ได้แปลกอะไร แม้ว่าผู้หญิงคนก่อนหน้าจะโดนปฏิเสธก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะปฏิเสธกันทุกคนเสียเมื่อไหร่ ใครจะไปรู้ได้…
แต่ที่มันน่าตกใจในตอนนี้ก็คือ… เฮียมันรู้ชื่อฉันได้ยังไง
