ตอนที่ ๗ ขอแค่โอกาส
THIS MAN IS YOURS
ออกแบบรัก
ตอนที่ ๗
ขอแค่โอกาส
“แม่ครับ วันนี้คุณลุงแจสเปอร์จะมาหาเราอีกไหมครับ?” เสียงใสๆของเอกณกรณ์ถามขึ้นระหว่างที่นลินณัฐชญากำลังช่วยเขาเก็บของเล่นใส่กล่อง เด็กชายดูตื่นเต้นเกินกว่าที่เธอคาดไว้ ซึ่งทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวโดยไม่ตั้งตัว
“ก็…อาจจะมานะครับ คุณลุงแจ๊สเปอร์บอกอีสเตอร์ไว้ว่ายังไง แม่จำไม่ได้ด้วยสิ” เธอตอบเสียงเรียบพยายามเก็บอารมณ์ แต่ก็ยังส่งยิ้มละมุนให้เด็กชายตัวน้อย
“เย้! หนูชอบคุณลุง คุณลุงบอกว่าจะมาหาเตอร์แล้วจะซื้อตุ๊กตาหุ่นยนต์มาให้ด้วย!” เอกณกรณ์ยิ้มกว้าง ใบหน้าที่คล้ายแจสเปอร์ราวกับถอดพิมพ์เดียวกันสะท้อนอยู่ตรงหน้าเธอ
นลินณัฐชญาได้แต่ยิ้มจางๆ พลางถอนหายใจเบาๆ ใจของเธอยังไม่แน่ชัดว่าเส้นทางข้างหน้าจะนำพาไปในทิศทางใด
เสียงกริ่งหน้าประตูบ้านดังขึ้น พร้อมกับหัวใจของนลินณัฐชญาที่เต้นผิดจังหวะ เธอลุกไปเปิดประตูและพบแจสเปอร์ยืนอยู่พร้อมถุงขนมและรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนกว่าเดิมมาก
“ผมไม่รู้ว่าคุณชอบอะไร เลยซื้อของมาหลายอย่าง หวังว่าจะถูกใจแม่กับลูกนะ” เขาวางถุงขนมลงอย่างเก้อเขิน เขาไม่เคยรู้ ไม่สินลินณัฐชญาไม่เคยอยู่ในตัวเลือกของเขาเลยด้วยซ้ำ เขายอมรับว่าหล่อนน่าตาน่ารักและสะสวยไม่แพ้บรรดาสาวๆที่เขาเคยควง แต่ตอนนั้นนลินณัฐชญาเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงาน หญิงสาวเลยดูเหมือนเป็นสิ่งจ้องห้ามสำหรับเขา การเป็น "สมภารกินไก่วัด" ไม่ใช่เรื่องที่ดีนักสำหรับผู้บริหารเช่นเขา ดะงนั้นการเลือกที่จะมองข้ามเธอไปเลย น่าจะเป็นอะไรที่ทำได้ง่ายที่สุด
“ขอบคุณค่ะ”เธอหลบสายตาแต่เปิดประตูให้เขาเข้ามา
เอกณกรณ์วิ่งมากอดขาแจสเปอร์ทันที “คุณลุง! มาจริงๆ ด้วย!”
แจสเปอร์ย่อตัวลงสบตากับเด็กชาย “แน่นอนสิครับ ลุงรับปากไว้แล้วนี่นา” ร่างหนาอุ้มร่างเล็กของเด็กชายไว้ในอ้อมแขนสายตาที่ทอดมองด้วยความรักความเอ็นดูทำให้นลินณัฐชญาต้องกลั้นน้ำตาไว้ในอก เธอไม่เคยเห็นลูกชายของเธอยิ้มได้กว้างขนาดนี้มาก่อนเลย
หละงจากทานมื้อเย็นและเอกณกรณ์ได้เวลาเข้านอนแจสเปอร์ขอคุยกับนลินณัฐชญาอีกครั้ง
“วันนี้ผมรู้แล้วว่า...ทำไมคุณถึงรักลูกมากขนาดนี้” แจสเปอร์เอ่ยขึ้นเบาๆ ขณะมองภาพถ่ายเล็กๆ ที่แขวนบนผนัง
“ฉันขอแค่เขาเติบโตขึ้นอย่างมีความสุข ไม่ต้องการอะไรจากใคร” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย เธอฝ่าฟันทุกอย่างมาได้จนถึงทุกวันนี้ได้เพราะมีเอกณกรณ์เป็นกำลังใจ
“แต่คุณไม่ต้องทำคนเดียวอีกแล้ว ผมอยากอยู่ตรงนี้...อยากเป็นพ่อของลูก อยากเป็นคนของคุณ” แจสเปอร์มองตาเธอแน่นิ่ง
“แค่ขอโอกาส...แค่โอกาสเดียว” มือหนาเอื้อมมากุมมือบางไว้อย่างให้คำมั่นสัญญา
นลินณัฐชญานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
“ฉันจะให้คุณพิสูจน์...แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป” เธอไม่มีทางหนีเขาพ้น คนแบบแจสเปอร์ไม่มีทางปล่อยใ้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หากเธอคิดจะหนี เธอก็จะต้องหนีตลอดไป เพราะเขาเองก็จะตามหาเธอไม่หยุด ไม่สิ ตามหาเอกณกรณ์ต่างหาก
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของแจสเปอร์ “ผมรอได้...ตราบใดที่ยังมีคุณอยู่ปลายทาง”
หลังจากเอกณกรณ์หลับสนิท แจสเปอร์ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเล็กๆ ในบ้านหลังอบอุ่นของนลินณัฐชญา เขาไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงแค่นั่งเงียบๆ จิบชาคาโมมายล์ที่เธอชงให้ด้วยมือของเธอเอง
"คุณทำงานมาเหนื่อยทั้งวัน พักก่อนก็ได้นะคะ" นลินณัฐชญาพูดขึ้นเบาๆ ขณะเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม สวมเสื้อยืดธรรมดาแต่กลับดูนุ่มนวลและสบายตาในสายตาเขาอย่างประหลาด
แจสเปอร์มองเธอเงียบๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ผมไม่เคยรู้เลย...ว่าการได้นั่งในบ้านเล็กๆ แบบนี้ กับคนที่เราแคร์ มันจะรู้สึกดีขนาดนี้”
นลินณัฐชญาชะงักกับคำพูดนั้น ใจเธอเต้นแรงอีกครั้ง แม้เธอจะเคยบอกตัวเองว่าไม่ควรหวั่นไหว แต่คำพูดของเขาทำให้กำแพงในใจสั่นคลอนอีกครั้ง
“คุณแจสเปอร์...” เธอเรียกชื่อเขาเบาๆ ราวกับไม่แน่ใจว่าควรพูดต่อหรือไม่
“ครับ?” เขาขานรับพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่เธอไม่เคยเห็นจากเขามาก่อนหรืออาจจะไม่เคยเปิดใจมองเห็น
เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย “ขอบคุณนะคะ...ที่พยายามทำให้ฉันเชื่อว่าคุณเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ”
เขาขยับมือมายื่นไปจับมือเธอที่วางอยู่บนโต๊ะเบาๆ สัมผัสอุ่นนั้นทำให้นลินณัฐชญาเผลอชะงัก แต่ก็ไม่ได้ดึงมือกลับ
“ผมไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อนเลย แต่คุณ...คุณทำให้ผมอยากพยายามเป็นคนที่ดีขึ้น อยากสร้างบ้านหลังนี้ให้เป็นของเราสามคน ไม่ใช่แค่ของคุณกับลูก”
นลินณัฐชญาเงยหน้าขึ้นสบตาเขา
สายตาคู่นั้นไม่ใช่ของผู้ชายเจ้าสำราญที่เธอเคยรู้จักอีกต่อไป มันเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความตั้งใจ และ...ความรักที่ค่อยๆ ก่อตัว
เธอยิ้มบางๆ แล้วบีบมือเขาตอบเบาๆ
“งั้น...เราก็ค่อยๆ เดินไปด้วยกันนะคะ”
แจสเปอร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวไปจูบหลังมือเธอแผ่วเบาแค่สัมผัสนั้นเดียว หัวใจของนลินณัฐชญาก็รู้ว่าเธอกำลัง "เอนใจ" ไปหาผู้ชายคนนี้อีกครั้ง...
เช้าวันใหม่มาถึงพร้อมกับแสงแดดอ่อนที่ส่องลอดผ้าม่านบางในห้องนั่งเล่น กลิ่นโกโก้อุ่นๆ ลอยคลุ้งในอากาศ แจสเปอร์กำลังคนเครื่องดื่มในถ้วยเซรามิกอย่างตั้งใจ ในขณะที่นลินณัฐชญากำลังจัดอาหารเช้าอย่างเงียบๆ ท่ามกลางบรรยากาศเรียบง่ายที่เริ่มมีเสียงหัวเราะของเด็กน้อยแทรกเข้ามาเรื่อยๆ
เอกณกรณ์ตื่นแต่เช้า วิ่งมาที่โต๊ะอาหารพร้อมตุ๊กตาหุ่นยนต์ในมือ “คุณลุง! หุ่นยนต์ที่ให้หนูยังไม่ยอมพูดเลย ทำไมมันไม่ยอมพูดล่ะครับ?”
แจสเปอร์ย่อตัวลงทันที “อ้าวเหรอครับ เดี๋ยวลุงจะลองซ่อมให้ ลุงเคยเรียนวิศวะเครื่องกลนิดหน่อยนะ”
นลินณัฐชญาชำเลืองมองชายหนุ่มที่กำลังตั้งใจแกะฝาตุ๊กตาอย่างใจเย็น มือของเขาใหญ่แต่กลับอ่อนโยนในทุกรายละเอียด เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้ในมุมแบบนี้มาก่อนเลย
“คุณ...เคยคิดอยากมีลูกไหม?” เธอถามขึ้นเบาๆ ขณะเสิร์ฟไข่คนให้เขา
แจสเปอร์เงยหน้าขึ้นชะงักนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้ม “ไม่เคยครับ...ผมได้แต่มองคนรอบตัวแต่งงานมีลูก ผมยังนึกภาพตัวเองตอนมีครอบครัวไม่ออก จนกระทั่งเจอคุณกับลูก ผมเริ่มมองภาพครอบครัวเปลี่ยนไป แต่ไม่เคยรู้ว่าความรู้สึกมันจะจริงจังขนาดนี้”
เขามองไปยังเด็กชายที่กำลังหยิบขนมปังเข้าปากอย่างไม่รู้เดียงสา
“ผมอยากให้เขาเป็นลูกของผม ไม่ใช่แค่ในนาม แต่ในหัวใจด้วย” เสียงของแจสเปอร์สั่นเล็กน้อยอย่างไม่ตั้งใจ “ผมรู้ว่าผมพลาดมาเยอะ แต่ผมอยากทำให้มันถูกต้อง”
นลินณัฐชญากัดริมฝีปากเงียบๆ ใจเธอเต้นแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
เธอไม่ตอบในทันที เพียงแค่เอื้อมมือไปช่วยเขาจัดจานอาหารให้เด็กชาย และพูดขึ้นช้าๆ ว่า
“งั้นคุณต้องเริ่มจากการเป็น ‘ลุงที่ดีที่สุด’ ให้ได้ก่อนนะคะ...แล้วค่อยว่ากันเรื่องอื่น”
แจสเปอร์หัวเราะเบาๆ “ได้เลยครับ เริ่มจากลุงก่อน แล้ววันหนึ่ง...หวังว่าจะได้เป็นพ่อ”
เขายื่นมือไปลูบผมเอกณกรณ์เบาๆ พลางเหลือบมองเธอด้วยแววตาที่ไม่ได้เร่งรัด แต่แน่นแฟ้นและมั่นคงกว่าครั้งไหนๆ
