CHAPTER 2
“ก็จะไปเอาใบเตยไงคะคุณกวาง”
“ระวัง” ไม่แค่ว่าเปล่านิ้วที่รั้งคอเสื้อก็ถูกปล่อยออก “ตกลงสระจะซ้ำให้”
“...”
“พูดจริงนะใจ”
ใจงั้นเหรอ
ใจคือสรรพนามที่ฉันแทนตัวเองกับคนที่สนิทส่วนคนอื่นๆ ฉันมักแทนด้วยน้อยเสมอพอได้ยินคุณกวางเรียกแบบนี้มันก็อดยิ้มให้อีกฝ่ายไม่ได้
“สบายค่ะ ใจมาทุกวันเวลาที่จะเอาใบเตยไปทำขนม”
“หัดระวังเอาไว้บ้าง”
ทุกวันนี้ฉันก็ไม่ประมาทนะ
ทุกวันนี้ฉันก็ระวังตัวอยู่นะ
“ค่ะ”
ใช้เวลาไม่นานในมือของฉันและของคุณกวางก็เต็มไปด้วยใบเตย คุณกวางให้ฉันยืนรอใต้ต้นมะม่วงที่ขึ้นข้างกันส่วนตัวเองกำลังนั่งลงมัดใบเตยให้รวมกันแต่มีเหรอที่คนอย่างฉันจะนิ่งเมื่อนึกว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งจึงเลี่ยงไปหาวัตถุดิบที่จะทำมาไว้ในมือ
ทั้งฉันและคุณกวางขึ้นมาบนบ้านโดยไร้เงาของป้ากวา ป้ากวาไม่อยู่บ้านแต่เลือกไปดูร้านกาแฟของไร่แทนฉะนั้นในนาทีนี้มีแค่ฉันกับคุณกวางที่อยู่ด้วยกัน
“ทำใส่แจกันใบนี้นะข้างในพี่ใส่น้ำเอาแล้ว”
“งั้นมาเริ่มกันเลยนะคะเริ่มจากเอาใบเตยมาทำแบบนี้ก่อน...” ฉันสอนอีกฝ่ายให้ทำเหมือนตัวเองมันอาจทุลักทุเลบ้างแต่ผลที่ออกมาก็อยู่ในระดับที่พอใจ คุณกวางหัวเร็วสามารถทำได้ตั้งแต่สองอันแรกฉะนั้นในตอนนี้เขาก็ยังตั้งใจทำอยู่ส่วนฉันหยุดตั้งแต่เมื่อกี้แล้วแหละ “ทำสวยนะคะเนี่ย”
ฉันพักสิ่งที่ทำในมือที่ใกล้จะเสร็จลงวางบนตักเมื่อเห็นว่าดอกสุดท้ายในมือใหญ่ใกล้ประสบความสำเร็จแล้ว ดอกสุดท้ายที่ดูอีกฝ่ายตั้งใจทำกว่าดอกอื่นๆ ที่ผ่านมาเสียด้วย นึกไม่ถึงนะเอาจริงว่าผู้ชายอย่างคุณกวางจะมาทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวเองคงเป็นเพราะท่าทางลักษณะมันไม่ให้มาทางนี้เลยมั้ง
คุณกวางเป็นผู้ชายที่ดูแบดเอาการ
นึกว่าจะชอบอะไรที่ตรงข้ามมากกว่า
“ตั้งใจมากดอกนี้”
“ค่ะ”
เป็นแบบนี้ฉันจึงไม่กล้ากวนอีกต่อไปจะหันมาสนใจสิ่งที่ตัวเองทำเงียบๆ กระทั่งความเงียบเข้ามาปกคลุมได้ไม่ถึง 5 นาทีเสียงอีกคนก็ดังขึ้นพร้อมกับสิ่งที่ฉันกำลังทำมันก็เสร็จสมบูรณ์ลง
“แล้วนี่คืออะไร?”
“นี่เหรอคะ” ฉันยื่นสิ่งที่อยู่ในฝ่ามือออกไปให้อีกฝ่ายเห็นชัดๆ ในมือฉันนั้นเป็นดอกพุดที่ถูกทำเป็นตัวสัตว์บนก้านกิ่งก้านของดอกแก้วส่วนหางสัตว์นั้นเอาดอกบานไม่รู้โรยมาใช้ “กระแตพุดค่ะ”
“น่ารักดีใช้ทำอะไรบ้าง”
หลายอย่างเลยนะเท่าที่เห็นมาเมื่อนึกได้ฉันจึงรีบบอกคุณกวาง
“ไว้บนหัวเตียงหรือไม่ก็ไหว้พระค่ะคุณกวาง”
“งั้น...” คุณกวางยื่นมือมาคว้ากระแตพุดไปจากมือของฉันจากนั้นก็เอาดอกไม้ใบเตยที่เป็นฝีมือของตัวเองที่เป็นดอกสุดท้ายมาวางเอาไว้ทดแทนกันจะว่าแลกก็คือแลกนั่นแหละไม่แปลกอะไร “แลกกัน”
อ่าแบบนี้เอง...
ฉันกำดอกใบเตยมาวางไว้บนตักของตัวเองแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองคุณกวางที่ยังสนใจกระแตพุดในมือไม่หาย เขาพลิกไปมาแล้วสังเกตแบบนั้นเหมือนไม่เคยสัมผัสหรือว่าเห็นมาก่อน
“อยากได้อีกหรือเปล่าคะ ใจจะได้ทำให้”
“หื้ม?”
“ก็คุณกวางจะเอาไปไหว้พระไงคะ ใช้หลายๆ ตัวก็ได้แทนดอกไม้อะไรแบบนี้”
“ใครบอก”
“อ้าว” ฉันร้องงงออกมาในทันทีเมื่อได้ยินแบบนี้ก็นึกว่าเขาจะเอาไปไหว้พระต่างหากถึงจะทำเอาไว้ให้อีกหลายๆ ตัวแต่นี่ไม่ใช่ “แล้วเอา...”
“จะเอาไปไว้บนหมอน”
“…”
“ในห้องนอนต่างหากยัยเด๋อ”
แล้วชื่อฉันจากใจก็เปลี่ยนเป็นยัยเด๋อไปแล้ว
“ใครจะไปรู้ละคะคุณกวาง” พอฉันปฏิเสธเขาก็ชะงักแล้วใช้สายตามองนิ่งมา “มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่กวาง”
“…”
“เรียกแบบนี้นะยัยเด๋อ”
“…”
พี่กวางงั้นเหรอ
“เข้าใจมั้ยครับ”
“…”
ฉันพยักหน้าหงึกๆ รับเป็นคำตอบที่ไร้เสียงพูด
ก็ได้น้อยใจจะเรียกว่าพี่กวาง
“โอเค”
เพราะอีกฝ่ายลุกเอาแจกันกับกระแตพุดเข้าไปด้านในซึ่งเป็นห้องนอนฉันที่ว่างงานจึงเปลี่ยนท่าทางให้ตัวเองสบายขึ้นโดยการโน้มตัวไปด้านหลังพร้อมกับเหยียดขาทั้งสองไปด้านหน้าทิ้งศีรษะลงหมอนอิงระยะของสายตาจึงเปลี่ยนไปมองเพดานของบ้านแทน
ดวงไฟกลมที่มีความระยิบระยับประดับรอบบ่งบอกถึงระดับความมีฐานะทางการเงินที่อยู่ในระดับดีมาก ทุกอย่างบนบ้านทรงไทยหลังนี้จึงมีมูลค่าที่ถ้าตีเป็นราคาต้องมีจำนวนมหาศาลอยู่มากกว่าบ้านคนอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้มันไม่แปลกเลยถ้าจะเป็นแบบนั้น
ก็เหมือนที่แม่บอกว่าป้ากวารวยมาก
สามีป้ากวาก็ร่ำรวยมากอีกเช่นกัน
แล้วแบบนี้ผลประโยชน์จะตกไปไหนถ้าไม่ใช่พี่กวาง
ลูกชายเพียงคนเดียว...
พี่กวางทำบุญด้วยอะไรนะ
ทำบุญมากจากชาติที่แล้วไว้เยอะหรือไงกันพอมาถึงชาตินี้บุญเก่าก็ยังไม่หมดแถมมีมาเพิ่มเรื่อยๆ เติมให้ตลอดอะไรแบบนี้
“คิดอะไรอยู่?”
“อ่า” แค่ได้ยินเสียงทักร่างกายก็เปลี่ยนมาเป็นดีดเด้งขึ้นในทันทีอีกทั้งยังเงยใบหน้าขึ้นมองร่างสูงที่บัดนี้มีหมวกสีดำโลโก้ชื่อดังติดเพิ่มมาบนร่างกาย พี่กวางได้แค่ยกยิ้มให้กับฉันก่อนที่จะก้มคว้าโทรศัพท์เครื่องหรูบนโต๊ะกลางขึ้นมาใส่ที่กระเป๋ากางเกง “ไม่ได้คิดอะไรค่ะ”
“โกหกไม่ดีนะ”
“ใจไม่ได้โกหกเสียหน่อยค่ะแค่คิดเรื่อยเปื่อย”
“แสดงว่าว่างใช่มั้ย”
“ก็ว่าง... พี่กวางมีอะไรจะใช้ใจหรอคะ”
“ไม่ใช่เหรอแรงงานเด็กอ่ะจะชวนในเมืองหน่อย ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยได้มั้ยครับ”
“…”
“ทำไมสีหน้าไม่ดีล่ะมีอะไรหรือเปล่าใจ บอกพี่หน่อย”
“ใจไม่ได้เป็นอะไรค่ะไปเป็นเพื่อนพี่กวางได้สบายเลย”
รอยยิ้มออกมาจากริมฝีปากของฉันในทันทีที่พูดจบลงเพราะไร่นาคนิลอยู่ไกลจากตัวเมืองไปแค่สิบกว่ากิโลเมตรจึงเป็นเรื่องง่ายดายของการสัญจรไปมาอย่างไม่ติดขัด ตอนนี้ฉันได้มานั่งข้างคนขับรถหรูซึ่งมีแค่สองที่นั่งรถคันนี้พึ่งได้เห็นเป็นครั้งแรกแถมยังมีสีสันเด่น
รถสีส้มเด่นขนาดนี้
คิดว่าไม่เรียกสายตาคนอื่นหรือไง
“คุณ... เอ่อพี่กวางจะไปไหนเหรอคะ”
“ซื้ออุปกรณ์การเรียนนิดหน่อยครับ” อ่า... จริงสินะวันมะรืนก็เปิดเรียนแล้วในเทอมสุดท้ายด้วยนิ “ร้านไหนดีใจ”
“ต้องร้านนี้ค่ะในห้าง เพื่อนๆ ซื้อกันเยอะ”
