บท
ตั้งค่า

CHAPTER 5

ฉันไม่สนใจว่าใครจะช่วยเหลือใคร

การตัดสินใจยังไงก็ยังยืนยันในจุดมุ่งหมายของตัวเองอยู่แล้ว การทำงานที่มีเส้นสัญญากับตัวเองเสมอว่าจะไม่เอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัวไม่ว่ากรณีไหนทั้งสิ้นถ้าหากทุกอย่างมีทางออกเป็นของตัวเองอย่างน้อยๆ ความเด็ดเดี่ยวที่ตัวเองมีจะไม่กระทบเป็นวงกว้างมากกว่าเดิม

การเลือกครอบครัวแล้วทิ้งพนักงานร้อยพันของบริษัทตัวเองมันก็เกินเรื่องไปหน่อยฉะนั้นทางเดียวคือเลือกเดินตรงกลางถึงแม้จะสร้างความไม่พอใจให้คนนอกก็ตาม หากจะพังก็พังทั้งสองและถ้าหากจะได้ก็ได้ทั้งสองเป็นนี้ไม่ดีกว่าเหรอ

นิสัยของคนเราที่ได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์มักแสดงออกต่างกันไปในตามแต่ละบุคคลจะแสดงออกมาให้เห็นจะไปในรูปแบบใดก็ตามทว่าหากเป็นแทรีน่าแล้วแค่มองก็รู้ว่าคนแบบนั้นจะแสดงอะไรออกมามีสิ่งเดียวจริงก็คือความโกรธเสร็จก็อารมณ์ร้ายระรานพาลโกรธคนอื่นไปทั่วไม่นานหล่อนก็จะได้พบกับคำว่าหายนะ

วงการบันเทิง สื่อสมัยนี้เชื่อมต่อถึงกันหมดเพราะแต่ละคนที่เข้ามาทำงานด้วยกันก็มาจากร้อยพ่อพันแม่ทั้งนั้น เรื่องผิดใจกันไม่ชอบหน้ากันหรือแม้กระทั่งว่าเกลียดกันคิดเหรอว่าไม่มีแต่เพียงแค่ไม่มีใครแสดงออกมากกว่า เหตุผลก็เพื่อความอยู่รอดและก็เงินจึงก้มหน้ากัดฟันทำงานอย่างไม่ลืมหูลืมตาปล่อยปะเรื่องพวกนั้นเอาไว้มันก็แค่นั้นเอง

แต่หากวันหนึ่งคนที่เกลียดล้ม... ทุกคนพร้อมใส่กระจาย

ฉันอยากให้มันเป็นแบบนั้นมากกว่า

แบบที่ยืนเฉยๆ แล้วอีกฝ่ายก็ดูแพ้

มันสะใจกว่ากันเยอะ

@Thailand

2 อาทิตย์ต่อมา

และวันนี้ก็มาถึงโดยใช้เวลาค่อยข้างรวดเร็วเอาการ ช่วงนี้เป็นช่วงย่างเข้าหน้าร้อนของประเทศไทยที่ถือว่าอากาศจะร้อนสุดแต่ภายในสนามบินระหว่างประเทศกับคึกคักไปด้วยผู้คนเพราะภายนอกสภาพอากาศค่อนข้างแปลเปลี่ยนจากที่ร้อนมีแดดออกนาทีนี้กับมีฝนตกกระหน่ำอย่างแรง

“ชาร้อนค่ะนายหญิง”

“อืม”

ถ้วยชาที่ใส่ในถ้วยกระดาษสีขาวขุ่นถูกมือเรียวส่งมาให้กับฉันโดยที่สายตาตัวเองกับโฟกัสไปยังบรรยากาศด้านนอกบานกระจกสูงสามารถมองเห็นทุกอย่างได้แบบชัดเจน มีเครื่องบินลำใหญ่จอดอยู่หลายคันท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงจากท้องฟ้าเรื่อยๆ

การเดินทางครั้งนี้มีแค่ฉันและคนติดตามไม่ถึงห้าคนส่วนคนอื่นๆ ก็อยู่ในส่วนที่ถูกจัดเอาไว้เหลือแค่เลขาคู่กายเท่านั้นที่นั่งถัดจากฉันไปหนึ่งเก้าอี้

“มาครั้งนี้พักที่ Blue home นายหญิงต้องการอะไรเพิ่มไหม”

“ไม่แล้ว”

เพราะฉันปฏิเสธไปจึงเข้าสู่สภาวะความเงียบอีกครั้งซึ่งภายใต้แว่นตาที่ตัวเองได้สวมใส่กลับมองไปอีกฝั่งหนึ่งซึ่งตอนนี้มีบุคคลตัวสูงสองคนกำลังจ้องมาทางนี้พร้อมกับพูดคุยกระซิบกัน

“คงเป็นนักข่าวค่ะ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาแทรีน่าจับจองหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์มาตลอดพอทางเราปล่อยข่าวว่าจะมาทำธุรกิจที่ไทยนักข่าวจึงพยายามหาข่าวตลอด”

“เชื่อมโยงกับข่าวแทรีน่าสินะแล้วได้บอกหรือเปล่าว่าฉันมาในฐานะไหน”

“ทราบค่ะ คนพวกนั้นไม่รู้ รู้แค่ว่านายหญิงมีหุ้นกับบริษัทที่ตัดสปอนเซอร์กับแทรีน่าเท่านั้น”

“โอเค” ให้คนพวกนั้นรู้จักฉันในนามไอรีนก็พอส่วนอื่นขอให้มันเก็บไว้ในส่วนอื่นอย่าเอามาปะปนกันเด็ดขาด ความจริงไม่ต้องใส่ใจก็ได้เพียงแค่ว่าภายภาคหน้าอาจจำเป็นต้องใช้สื่อพวกนี้ให้เกิดประโยชน์ขึ้นหน่อย จากการคาดการณ์ของตัวเองต้องได้ใช้งานแน่นอนแต่ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะเป็นในทิศทางไหนดีหรือว่าเลวร้าย “แล้วเรื่องให้ติดต่อสัมภาษณ์... เป็นยังไงบ้าง”

“ทางนั้นตอบตกลงค่ะนายหญิง”

“ดีอีกอย่างเรียกฉันว่าไอรีนได้แล้วเจเนียส ที่นี่ฉันคือไอรีน”

“ค่ะคุณไอรีน” ใช้เวลาต่อจากนั้นไม่นานฉันเดินออกมาจากสนามบินพอเห็นว่าฝนได้ทิ้งช่วงในการตกไปมากพอสมควรก่อนหน้าที่ไม่ออกมาเพราะไม่ชอบขับรถในช่วงฝนตกรอไม่นาน Audi R8 สีแดงก็จอดเทียบด้วยฝีมือของบุคคลหนึ่งเขากำลังลงจากรถก่อนโค้งให้ฉันเล็กน้อย “เจอกันที่ Blue home เลยนะเจเนียส”

แค่นี้รถก็ถูกขับด้วยฝีมือของตัวเองออกมาโลดแล่นบนท้องถนนที่ยังคงติดเหมือนเดิม ท้องฟ้ามืดครึ้มยิ่งทำให้ความไม่ชอบก่อเกิดจนแล้วจนรอดการขับรถจึงสิ้นสุดลงด้วยฝีมือตัวเองเพราะเลี้ยวแวะร้านกาแฟใหญ่แห่งหนึ่งจากสายตาสำรวจน่าพึ่งสร้างได้ไม่นานนัก เป็นร้านที่โล่งโปร่งแต่งสไตล์บ้านมีกลิ่นกาแฟหอมตีขึ้นมาตรงจมูกเมื่อเปิดประตูเข้าไปเยือนด้านในร้านกาแฟแห่งนี้

“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ”

“อเมริกาโน่”

“ได้ค่ะ ทั้งหมด...”

ฉันเลือกจ่ายแล้วรอไม่นานก็ได้กาแฟมาแก้วหนึ่งในมือทางเลือกต่อมาคือไม่นั่งในร้านแต่จะนั่งโซนเอาน์เดอร์นอกร้านที่มีต้นสนสูงตัดทรงสวยคั่นระหว่างโต๊ะให้ความส่วนตัว การนั่งในที่นี้เหมาะกับการดื่มกาแฟสูดกลิ่นไอดินไปด้วยแต่ถ้าไม่มีเสียงสนทนาหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังให้ได้ยินเสียก่อน

“คิดให้ดีก่อนตอบนะไอ้เวร”

“นัดมาเพื่อถามอะไรแบบนี้เหรอวะ”

เหมือนพี่น้องทะเลาะกันฉันไม่อยากยุ่งเท่าไหร่แต่ประโยคต่อมานี่สิทำให้ชะงัก

“จะทำอะไรคิดถึงลิลลี่หน่อย ลูกมึงอ่ะไอ้หิน”

ลิลลี่งั้นเหรอ?

หินงั้นเหรอ?

“…”

“ไม่อยากเจอเขาแน่เหรอวะ”

“…”

“ตกลงจบยังไงกันแน่ ไม่มีใครรู้เลยนะ”

“ถ้าตอนนั้นมันดี ตอนนี้จะมาไม่อยากเจอทำเหี้ยอะไร”

“…”

“เลิกเสือกเรื่องนี้ได้แล้วไอ้สัส มันควรจบตั้งนานแล้ว”

“จบหรือพึ่งเริ่ม?”

“มึงรู้อะไรมาเว”

แบบนี้อีกฝ่ายจะโกหกไม่ได้แล้วนะ ทางเดียวก็คือต้องพูดความจริงเท่านั้น

คนชื่อเวพลาดไปแล้ว

และฉันก็ค้นพบว่าตลอดเวลาตัวเองก็พลาดเช่นกันที่คอยให้เลอาสืบอะไรต่างๆ จากคนชื่อเวเพราะเขาคงรู้หมดแล้วถึงได้หาทางป้องกันทุกอย่างในช่วงหลายปีอีกทั้งยังย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ ก็เพราะแบบนี้สินะ

ไม่ฉลาดเอาเสียเลยสำหรับคนชื่อเว

พลาดเพราะปากพล่อย

พลาดเพราะคิดว่าอีกฝ่ายไม่สงสัย

“...”

“อย่าคิดไม่บอกไม่งั้นได้ยำตีนจากกู”

“เออ กูรู้ว่ามึงอยู่ที่โน้นมึงทำอะไรบ้างแล้วมึงก็รู้หลีกเลี่ยงกับเธอ”

“แล้วมันเกี่ยวอะไร?”

“แสดงว่ามึงตั้งใจทำสินะหิน กีดกันขนาดนี้เลยเหรอวะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel