บท
ตั้งค่า

3 ซูเปอร์ฮีโร่ผู้ไร้ค่า

3

ซูเปอร์ฮีโร่ผู้ไร้ค่า

ย้อนกลับไปช่วงเวลาก่อนหน้า

ณ มิติของโลกปัจจุบัน

‘ขณะนี้ ฮีโร่พลังลม สามารถควบคุมเครื่องบินซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 252 ชีวิต ลงจอดยังพื้นรันเวย์ได้สำเร็จอย่างปลอดภัย หลังเครื่องบินลำดังกล่าวเกิดเหตุขัดข้อง มอเตอร์ใบพัดไม่ทำงานอย่างไร้สาเหตุ’

‘ข่าวต่อมา เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดขึ้นเมื่อวาน พื้นถนนกลางเมือง K เกิดยุบตัวเป็นหลุมกว้าง ส่งผลให้รถจำนวนร่วม 10 คันตกลงไปด้านล่าง แต่โชคดีมากค่ะที่ฮีโร่พลังดินสามารถช่วยเอาไว้ได้ทั้งหมด จึงไม่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้’

‘มาต่อกันที่ข่าวต่อไปเลยนะคะ ขณะกำลังวิ่งออกกำลังกายริมแม่น้ำ ฮีโร่พลังน้ำสามารถช่วยเหลือเด็กซึ่งพลัดตกน้ำเอาไว้ได้ พ่อแม่ของเธอดีใจมาก หลั่งน้ำตาขอบคุณกันยกใหญ่’

‘มาถึงข่าวสุดท้าย ได้มีกลุ่มนักปีนเขาประสบอุบัติเหตุหิมะถล่ม ฮีโร่พลังไฟจึงอาสาไปกับกู้ภัยเพื่อเข้าให้การช่วยเหลือ จนทุกคนสามารถออกมาได้สำเร็จ เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ เลยค่ะ’

ข่าวสรรเสริญเยินยอผู้มีพลังวิเศษ กำลังฉายอยู่ในจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ บนตัวตึกซึ่งตั้งสูงตระหง่านกลางเมือง ผู้คนมากมายต่างหยุดยืนดู พร้อมส่งสายตา ส่งเสียง และแสดงท่าทางชื่นชมวีรกรรมของกลุ่มบุคคลเหล่านั้น ทว่าสำหรับ ‘จินหลง’ มันกลับเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด

สองขารีบจ้ำเดินเพื่อพาตัวเองไปให้พ้น จากการรับรู้เรื่องราวที่ทำให้เขาเกิดความคิดด้อยค่าตัวเองในทุกวัน แต่เสียงซึ่งดังออกจากลำโพงขนาดใหญ่ ยังคงตามไล่หลังมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเดินเร็วมากเพียงไหนก็มิอาจหนีพ้นอยู่ดี

เด็กหนุ่มมัธยมปลายอายุสิบแปด ผู้เกิดมาในโลกที่ผู้คนถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท คือมนุษย์ปกติ และเหล่าฮีโร่มีพลังเหนือธรรมชาติ สามารถควบคุมธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม และไฟ ซึ่งมีเพียงห้าเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก

โดยเด็กแต่ละคนก่อนเกิดมา ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้เลยว่า ลูกหลานของท่านคนไหนจะเกิดเป็นคนทั่วไปหรือมีพลังพิเศษ แม้พ่อแม่หรือบรรพบุรุษจะเป็นคนมีพลัง แต่ไม่อาจการันตีได้ว่าเด็กที่สืบสายเลือดของตน จะได้รับพลังนั้นๆ มาด้วย

เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเด็กถือกำเนิดออกมาลืมตาดูโลกแล้ว สัญลักษณ์ของธาตุที่เด็กคนนั้นควบคุมได้ จะปรากฏขึ้นบนดวงตาอย่างชัดเจน สีแต่ละสีใช้แบ่งแยกประเภทมนุษย์ สีน้ำตาลหรือดำคือคนปกติทั่วไป สีแดงธาตุไฟ เขียวธาตุดิน เทาธาตุลม และฟ้าเป็นธาตุน้ำ

ทว่าในกลุ่มของผู้มีพลัง ก็จะมีการแบ่งแยกออกเป็นสองประเภทอีกเช่นกัน คือผู้ที่สามารถควบคุมธาตุได้จะถูกเรียกว่าฮีโร่ กับผู้ที่ควบคุมอย่างอื่นได้จะถูกเรียกว่าซูเปอร์ฮีโร่

อย่างเช่นความสามารถในการควบคุมจิตใจของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด จะมีลักษณะตาเป็นสีชมพู ควบคุมสิ่งของตาเป็นสีน้ำเงิน และควบคุมฤดูกาลตาเป็นสีเหลือง

ซึ่งกลุ่มบุคคลที่มีพลังควบคุมสามอย่างนี้ได้ เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ยิ่งกว่าพิเศษ เพราะบนโลกใบนี้มีการค้นพบว่ามีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ และจินหลงคือคนกลุ่มนั้น

เขาเกิดมามีความสามารถเป็นผู้ควบคุมฤดูกาล ตามปกติควรจะสั่งฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ลูกเห็บตก หิมะโปรยปราย หรือไม่ก็กระแสลมร้อนระอุได้

ทว่าจินหลงกลับทำได้เพียงแค่สร้างเมฆฝนก้อนเล็กๆ ที่สามารถปล่อยหยาดฝนปรอยๆ ราวกับฝักบัวซึ่งถูกตะกอนน้ำอุดตันเพียงเท่านั้น

แม้จะเกิดมาเป็นบุคคลซึ่งมีพลังพิเศษ แถมยังเป็นความสามารถที่หายากมาก แต่เขากลับรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา เพราะพลังที่มีอยู่ไม่สามารถเอาไปใช้ช่วยเหลือใครได้ แม้แต่ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน จินหลงยังมองไม่เห็นหนทางด้วยซ้ำไป

นอกจากพลังนี้ยังไม่สร้างประโยชน์ให้แล้ว มันยังสร้างความน่าอับอายให้กับเขาอีก เพื่อนๆ ต่างพากันหัวเราะเยาะ ดูถูกเหยียดหยามสารพัด

บ้างก็ว่าเขาไร้ค่า บ้างก็ว่าไม่สมควรเกิดมาบนโลกใบนี้ ไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย กลายเป็นคนไร้เพื่อน

ทางด้านญาติพี่น้องครอบครัว ทั้งชีวิตมีเพียงคุณปู่เท่านั้น พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่จินหลงอายุยังไม่ถึงสิบเดือน ใช้ชีวิตอยู่กับคุณปู่จนกระทั่งถึงปีที่แล้ว คนในครอบครัวเพียงคนเดียวก็ได้จากเขาไปตลอดกาล

“เฮ้ย! เอาเงินมาดิวะ มัวแต่โอ้เอ้อยู่นั่นแหละ”

ขณะกำลังเดินผ่านตรอกแคบ ซึ่งเป็นทางลัดไปโรงเรียนที่รวดเร็วที่สุด ซึ่งจินหลงใช้เป็นประจำทุกวัน

เขากลับบังเอิญพบกลุ่มเด็กโรงเรียนเดียวกันซึ่งมีพลังพิเศษ คนหนึ่งควบคุมธาตุลมได้ อีกคนควบคุมธาตุดินได้ กำลังรีดไถเงินเด็กโรงเรียนอื่นซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดาเข้าพอดี

จินหลงชะงักเท้าหันไปมอง ด้วยแววตาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะเขาเกลียดบุคคลที่มักชอบใช้ความแข็งแกร่งของตน ข่มเหงรังแกผู้ที่ด้อยกว่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

พวกนั้นเองก็หันกลับมามองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว ราวกับกำลังประกาศด้วยสีหน้าว่าอย่าเข้ามายุ่ง และจินหลงเองก็รู้ตัวดีว่าไม่สามารถช่วยเหลือใครได้ ฝืนเข้าไปก็เป็นการแส่หาเรื่องเจ็บตัวเสียเปล่าๆ จึงเลือกหันหน้ากลับและตั้งใจจะเดินจากไปเงียบๆ

ทว่าแววตาเว้าวอนขอความช่วยเหลือของเด็กมนุษย์คนนั้น กลับกวนใจจินหลงจนไม่อาจก้าวขาเดินได้อีกต่อไป เขาหยุดนิ่งยืนอยู่กับที่ร่วมสองนาที ก่อนตัดสินใจเดินกลับไปตรงจุดเดิมอีกครั้ง

พวกนั้นกำลังง่วนอยู่กับการนับเงินที่รีดไถมาได้ ขณะเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนั่งร้องไห้กองอยู่กับพื้น จินหลงตัดสินใจใช้พลังสร้างเมฆฝนก้อนเล็กๆ ขึ้นมา ก่อนจะสั่งให้มันปล่อยหยดน้ำตกใส่เด็กเกเรทั้งสอง

ความจริงเขาอยากทำให้มันดูน่ากลัวมากกว่านี้ อย่างการสร้างฟ้าผ่าใส่ หรือไม่ก็ลูกเห็บขนาดใหญ่ให้หล่นใส่หัวพวกมัน แต่นั่นก็เป็นได้เพียงแค่จินตนาการ

“เห้ย! ทำบ้าอะไรของแกวะ?”

คนถูกก่อกวนหันมองจินหลงด้วยสายตามุ่งร้าย การเรียกความสนใจพวกนั้นออกจากเด็กอีกคนดูคล้ายว่าจะเป็นผลสำเร็จ ทั้งสองคนตั้งท่าเดินดิ่งเข้ามาหาเขา จินหลงจึงรีบหมุนกายหันหลังวิ่งหนีทันที

พวกมันวิ่งไล่จินหลงผ่านตึกแล้วตึกเล่า ใช้พลังพิเศษของตนสร้างลมให้พัดปะทะใส่ ส่วนอีกคนสร้างกำแพงดินดักทางไม่ให้หนี แต่ด้วยความโชคดีทำให้เขาหลุดพ้นมาได้ทุกครั้ง แต่ก็ยังคงสลัดพวกนั้นไม่หลุด

ในที่สุดจินหลงก็ถูกต้อนให้วิ่งเข้าตึก เขามุ่งตรงขึ้นสู่ชั้นบนเพื่อหาทางหนี เพราะด้านล่างสองคนนั้นกำลังไล่บี้มาติดๆ และเหมือนโชคจะไม่ได้ช่วยจินหลงเสมอไป เมื่อเขาวิ่งขึ้นมาจนถึงชั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นดาดฟ้าโล่งกว้างไร้ที่ให้หลบซ่อน

“ฮ่าๆ นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็เป็นแค่ซูเปอร์ฮีโร่กระจอก”

คนที่ควบคุมธาตุดินได้หัวเราะร่วน ราวกับกำลังตลกขบขันมาก สร้างความหงุดหงิดให้จินหลงยิ่งนัก

ก้อนเมฆสีดำก้อนเล็กๆ ลอยตัวต่ำอยู่เหนือหัวพวกมัน แต่ก็เพียงเท่านั้น เพราะจินหลงทำได้แค่โกรธ แต่ไม่อาจสั่งสอนคนที่พูดจาดูถูกเขาได้อยู่ดี

“ไม่น่าเกิดมาในหมู่พวกเราเลย เสียเกียรติฮีโร่กับซูเปอร์ฮีโร่ชะมัด ไร้ค่า! ไอ้ขยะ!!”

คนควบคุมธาตุลมได้เอ่ยเสริมเพื่อนตัวเอง พวกมันหัวเราะชอบอกชอบใจที่จินหลงไม่อาจตอบโต้กลับได้ ปากก็พล่ามดูถูกเหยียดหยามเขากันอย่างสนุกปาก จนจินหลงเผลอปล่อยกระแสฟ้า ให้ผ่าลงมาจากก้อนเมฆเล็กๆ ก้อนนั้น

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

ทุกคนเกิดความตกใจแม้กระทั่งผู้ที่เป็นคนลงมือทำ จินหลงงุนงงว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยทำได้มาก่อน ขณะที่สองคนนั้นกระโดดหลบสายฟ้ากันจ้าละหวั่น

“หน็อย… ไอ้ขยะ! กล้าทำร้ายพวกเรางั้นเหรอ?”

คนควบคุมลมหันมามองจินหลงตาขวาง หลังทุกอย่างกลับมาอยู่ในความสงบ สายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยงปร้างเมื่อครู่จู่ๆ ก็หยุดลงไปเอง แม้จินหลงจะพยายามบังคับให้มันกลับมาผ่าต่ออีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

พวกมันสาวเท้าย่างสามขุมเข้าหา จินหลงจึงรีบเดินถอยหลังหนีจนสุดท้ายหมดหนทางหลบหลีก เมื่อถูกต้อนจนมาหยุดยืนอยู่ริมขอบดาดฟ้า

ด้านหน้ามีพวกนั้นขวางอยู่ แม้ด้านข้างจะมีพื้นที่ว่าง แต่ความกว้างแค่นี้คงหนีไม่พ้นอยู่ดี ส่วนด้านหลังคือความว่างเปล่า ที่ข้างล่างเป็นพื้นถนนมีรถวิ่งไปมามากมาย

ไม่มีทางให้เขาหนีอีกแล้ว คงมีแต่ต้องยอมเจ็บตัวปล่อยให้พวกมันรุมซ้อม ทว่าคนควบคุมธาตุลม กลับไม่ได้มีความคิดแค่จะทำร้ายร่างกาย มันหมายจะเอาชีวิตของจินหลงเลยต่างหาก

กระแสลมรุนแรงพัดปะทะร่างจินหลงจนเซถอยหลัง สองขาที่ควรแตะอยู่บนพื้นดาดฟ้าลอยขึ้น ค่อยๆ หงายหลังร่วงหล่นลงสู่พื้นด้านล่าง

รอบกายคล้ายวิดีโอที่ถูกปรับให้สโลโมชั่น จินหลงงุนงงสับสน ว่าขณะนี้เหตุการณ์ที่เจอคือเขากำลังจะตายใช่หรือไม่ หรือความจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่จินตนาการที่เขาชอบคิดไปเอง ว่าหากหายไปจากโลกใบนี้ได้ก็คงจะดี

หากแต่ช่วงชีวิตที่ผ่านมานั้น จินหลงไม่เคยได้ทำประโยชน์ให้กับใครเลยสักคน มันดูน่าเสียดายมากนัก อุตส่าห์ได้เกิดมาแล้วทั้งที เขาน่าจะมีโอกาสช่วยเหลือใครได้บ้าง อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิตก็ยังดี

แต่ก่อนที่จะได้รับข้อสรุปจากการประเมินสถานการณ์เอาเอง รอบข้างกลับมีแสงสว่างวาบจนแสบตา จินหลงจึงรีบหลับตาปี๋ ก่อนทุกอย่างจะกลับมาชัดเจนอีกครั้งในเวลาเพียงเสี้ยววินาที

แทนที่เขาจะต้องนอนอยู่บนพื้นถนนในสภาพเละเทะ เพราะตกจากตึกเกือบยี่สิบชั้น กลายเป็นว่ามายืนอยู่กลางลานกว้างที่ไหนสักแห่ง ที่มีผู้คนแต่งตัวประหลาดคล้ายอยู่ในยุคโบราณ กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตางุนงง ไม่ต่างจากจินหลงที่มองบุคคลพวกนั้น

แล้วผู้ชายหน้าตาซูเปอร์หล่อระเบิดระเบ้อคนนี้ คนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขานี่ คือใครกัน?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel