บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 แด๊ดดี้/1

“นี่ความเคลื่อนไหวของพวกมันครับ” รูปภาพหกเจ็ดใบร้อยเรียงกันวางไว้บนโต๊ะไม้สักขัดมันอย่างดี ปรากฏภาพของฝ่ายตรงข้ามชัด

ใบหนึ่งถูกหยิบขึ้นมาพิจารณาอยู่ชั่วครู่ ก่อนวางลงดังเดิม

แววตาเรียบเฉย ไม่แยแส ไม่ให้ค่า...ฉายอยู่แบบนั้น

“จัดการได้”

แล้วฝ่ามือแกร่งก็สอดเข้าหยิบบุหรี่มวนใหญ่คู่ใจในกระเป๋าเสื้อตัวในออกมา คีบเข้าสู่ริมฝีปาก จุดไฟเพียงครู่...ก่อนจะสูดเอาควันสีขาวอัดแน่นเข้าไป พ่นพวยพุ่งออกมาทางริมฝีปากและจมูกโด่งคมนั้น

คนที่มันคิดจะเล่นกับคนอย่างลีโอ ซาน จะไม่ได้มีลมหายใจ

นั่นคือกฎ

ขณะที่พ่นเอากลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากริมฝีปาก สายตาคมกริบก็มองที่ปลายบุหรี่ สีแดงระเรื่อจากการเผาไหม้ มาพร้อมๆ กับเถ้าถ่านที่กำลังจะร่วงสลาย

คนที่กล้าจะแตะต้องผู้ยิ่งใหญ่ ชะตาคงไม่ต่างจากปลายบุหรี่ตัวนี้เท่าไหร่นัก

“ท่านครับ”

ชายร่างท้วมที่ศีรษะมีผมแซมเพียงหน่อย เดินเข้ามาด้วยสีหน้ากังวลอยู่เป็นนิจ เอ่ยขึ้นเชิงตักเตือน หากแต่เขากลับไม่ได้ใส่ใจ

“มันจะยังคงเป็นอย่างนั้น”

“แต่...”

"อย่าจมอยู่กับอดีต อย่าเอามันมาตัดสินอนาคต” ชายชราถอนหายใจช้าๆ ก่อนก้มหน้ายอมรับในสิ่งที่ผู้เป็นใหญ่ตัดสิน

เฉิน ลู่ ดำรงตำแหน่งฐานะผู้ช่วยหัวหน้าแก๊งมู่เซียน มาห้าชั่วตำแหน่ง ตั้งแต่ทวดของเขา ยันปัจจุบัน

แม้หูตาของชายฮ่องกงโดยกำเนิด จะแหลมคม กว้างไกล แต่นั่นเป็นเพียงความคิดยุคเก่า เขามองขาดเพียงบางเรื่องเท่านั้น และมักกังวลอยู่เสมอ

“ผมแค่ไม่อยากให้ท่านประมาท” ค้อมศีรษะให้ด้วยความเคารพ อดไม่ได้จริงๆ ที่จะยืนหยัดในหน้าที่ของผู้ปกป้อง คุ้มครองหัวหน้าแก๊งให้คงอยู่

การอยู่ในตำแหน่งมาชั่วห้าอายุคน มันคือแผลเป็นที่ฝังแน่น ว่าเขาไม่สามารถที่จะดำรงไว้ซึ่งหัวหน้าให้อยู่ในตำแหน่งได้นานที่สุด

“แต่การไม่เสี่ยงเลย ก็คงเป็นแก๊งอย่างทุกวันนี้มาไม่ได้” ในน้ำเสียงเรียบเฉยมีความเจ็บปวดลึกๆ ปะปนอยู่ และเขาจะไม่มีวันแสดงมันออกไปมากกว่านี้

“ออกไปได้แล้ว ฉันมีเรื่องต้องคิดต่อ” หนุ่มลูกครึ่งสามเชื้อชาติ พ่นควันบุหรี่ออกจากริมฝีปากซ้ำๆ อัดควันเข้าไปถี่ๆ จนควันสีขาวพวยพุ่งไปทั่วทั้งใบหน้า

ส่งผลให้เสี้ยวหน้าคมดุ ทรงพลังมากยิ่งขึ้น ดวงตาคมกริบที่แข็งกร้าวประกาศว่าตนคือผู้ยิ่งใหญ่ รับด้วยจมูกโด่งคมที่ทะยานพุ่ง ยกให้ริมฝีปากหยักดูดุดัน น่าเกรงขามยิ่งขึ้นไป

มีเคราสากระคายที่เรียงตัวตามสองข้างแก้ม ทั่วคางหนาและเหนือริมฝีปาก แววตาแดงก่ำอยู่เป็นนิจช่างน่าเกรงขาม

เขาเป็นปิศาจสำหรับคนที่อยู่ตรงกันข้ามกับเขาเสมอ

“เดายาก คนอย่างแด๊ดเนี่ยเขาไม่ใช่คนที่จะแสดงความรู้สึกออกมาได้ง่ายๆ ต้องถามคนนั้นแหละ...ว่าตลอดการสัมภาษณ์ แด๊ดเขาแสดงอารมณ์อะไร” โสภาว่าอย่างตื่นเต้น กระตือรือร้น จากที่จะมาเป็นฝ่ายถามเขา ดันมาถูกล้อมพร้อมเค้นเอาคำตอบเสร็จสรรพ

ฟางข้าวมองหน้าสองสาวไปมา แล้วก็ต้องถอนหายใจเชิงเหนื่อย

“ก็ทั่วไปนะคะ”

“เนี่ยไอ้ฟางมันก็ตอบแต่แบบนี้น่ะค่ะเจ้โส จนปัญญาจะซักไซ้!”

ทั่วไปทั้งร่างกายน่ะ

"คือปกติเนี่ย เบบี้ของแด๊ดจะเป็นสาวไทยน้อยมาก พอมีนะแต่เป็นลูกครึ่งมากกว่า คือแด๊ดนิยมต่างชาติ ฝรั่ง จีน ฮ่องกง เกาหลีเฮียได้มาหมด แล้วก็ชอบเปรี้ยวๆ หน่อย แต่ซิงๆ แด๊ดไม่เคยได้ชิมมาก่อนนะ ท่าจะสนใจก็น่าจะสนใจตรงนี้” แม้จะไม่มีคำตอบให้แต่โสภาก็วิเคราะห์เสร็จสรรพ ตามประสาแม่พระของวงการเด็กเสี่ยทั้งหลาย

“แล้วทำไมคราวนี้ แด๊ดถึงอยากจะมาสนสาวไทยขึ้นล่ะคะ” นารีผู้ช่างสงสัยรีบเสาะ

“แด๊ดเขาจะเข้ามาทำธุรกิจในไทยน่ะ ก็เลยคิดว่าน่าจะได้เข้ามาอยู่สักพัก แต่รายนี้ขี้เบื่อ เปลี่ยนทุกสามเดือน ก็คงจะอยากเปลี่ยนเชื้อชาติผู้หญิงดูล่ะมั้ง”

ได้ยินอย่างนี้ก็ยิ่งรู้สึกห่อเหี่ยวใจ ข้อดีของชายอายุคราวพ่อคนนี้คงจะมีอยู่ข้อเดียวคือ ‘เป็นเกราะคุ้มกัน’ ให้ได้
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel