EP 7 | สั่นไหว
@คณะศิลปศาสตร์
คลาสเรียนของนำทัพเริ่มมาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว ส่วนใหญ่วิชาเรียนรวมเขามักจะเลือกนั่งแถวข้างหลังเกือบจะบนสุดเลยก็ว่าได้
น้ำหวานกับไอโกะหยุดยืนกันอยู่หน้าห้องเรียนโดยที่น้ำหวานเป็นคนแง้มประตูห้องเรียนให้เปิดออกก่อนจะกวาดสายตามองหาพี่ชายของตัวเอง
“อ๊ะ! นั่นไงๆ”
นิ้วเรียวชี้ไปยังฟีนน์ชายหนุ่มผมสีเทาควันบุหรี่ที่นั่งอยู่เกือบหลังห้อง เขาเป็นลูกชายคนเล็กของเฟิร์นและกายซึ่งเรียนวิศวะฯเครื่องกลชั้นปีที่สามเหมือนกับนำทัพ
“เฮียทัพนั่งอยู่ข้างเฮียฟีนน์ผู้ชายผมสีเทาอ่ะ”
ไอโกะชะเง้อมองตามไปก่อนจะพยักหน้ารับ ต่อให้ไม่มีฟีนน์นั่งอยู่ไอโกะก็มองหานำทัพเจอเพราะเขาหล่อออร่าพุ่งขนาดนั้นเรดาร์ของเธอทำงานดีอยู่แล้ว
“ขอบคุณมากน้า~”
คนตัวเล็กหันไปกอดน้ำหวานแถมยังขโมยหอมแก้มแฝดสาวไปอีกหนึ่งครั้งก่อนจะผละออก
“อ่อ! ไอโกะขอยืมนี่หน่อยสิ”
นิ้วเรียวชี้ไปยังแว่นตาที่น้ำหวานกำลังสวมใส่อยู่ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แว่นสายตาเป็นเพียงแค่แว่นตากรองแสงเท่านั้นน้ำหวานจึงถอดออกและยื่นให้คนตรงหน้าอย่างง่ายดาย
“นี่จ๊ะ”
ไอโกะรีบเอ่ยขอบคุณก่อนจะรับแว่นตามาสวมและเปิดประตูห้องเรียนเข้าไปทันที
sds
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือโชคเข้าข้าง ที่นั่งซ้ายมือของนำทัพว่างอยู่ซึ่งเจ้าตัวใช้วางกระเป๋าคาดหน้าอกของตัวเองไอโกะจึงเลือกที่จะย่องเข้าไปนั่งตรงนั้น
ไอโกะนั่งลงพร้อมกับเท้าแขนลงบนโต๊ะ ใบหน้าสวยส่งยิ้มหวานให้นำทัพที่หันมามองเธอพลางขมวดคิ้ว
“เฮ้ย!”
ฟีนน์ซึ่งนั่งอยู่ขวามือของนำทัพอุทานออกมา จู่ๆ ก็มีสาวน้อยผมสีน้ำเงินปลายชมพูเดินเข้ามานั่งข้างๆ เพื่อนสนิทของเขาแถมยังมองนำทัพเสียตาหวานหยาดเยิ้มอีกด้วย
“เธอขา~”
ไอโกะเอ่ยเรียกเสียงหวานตามที่เธอซ้อมมาและดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะพูดเสียจนชินปากแล้วด้วย
“เล่นอะไร”
นำทัพไล่สายตามองชุดนักศึกษาที่ร่างบางกำลังสวมอยู่ด้วยความหงุดหงิดใจ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเธอกำลังสวมชุดของใคร เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าน้องสาวฝาแฝดของเขาก็มีตั้งสองคนทำไมเธอถึงเลือกใส่ชุดของน้ำปั่น
“ไอโกะมาจีบเธอขาไงคะ”
“มาวะ ฮ่าๆ รู้จักอ่อวะ”
ฟีนน์เอ่ยแซวทันทีเมื่อไอโกะพูดจบ ดวงตาคมฉายแววความซุกซนพร้อมมุมปากยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
นำทัพหันไปมองหน้าฟีนน์ก่อนขยับปากพูดคำว่า ‘เสือก’ โดยไม่ออกเสียงแต่ไม่ได้ทำให้คนถูกด่ารู้สึกสะทกสะท้านเลยสักนิด
นักศึกษาคนอื่นๆ เริ่มหันมามองทางไอโกะเนื่องจากเธอสวมชุดนักศึกษาสีขาวและนั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มเสื้อช้อปสีแดงเลือดหมู ผิวขาวออร่าสะท้อนแสงจนแสบตาและสีผมที่ยิ่งทำให้เธอโดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิม
“ฉันเรียนอยู่”
นำทัพเอ่ยเสียงปนดุ ไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังหงุดหงิดใจเรื่องที่เธอใส่ชุดนักศึกษารัดรูปของน้ำปั่นหรือเรื่องที่เพื่อนๆ ในสาขากำลังหันมาให้ความสนใจกับเธอ
“เธอขาตั้งใจเรียนได้เลยค่ะ ไอโกะสัญญาว่าจะนั่งนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ดื้อไม่ซนเลย”
ไอโกะพูดพลางส่งยิ้มหวานให้เล่นเอาหนุ่มๆ วิศวะฯเครื่องกลถึงกับใจละลายกันเป็นแถว
“มองเชี่ยไรกันครับ”
น้ำเสียงต่ำเอ่ยย้ำชัดทุกคำ สายตาเด็ดเดี่ยวเล่นเอาทุกคนหันกลับไปมองกระดานไวท์บอร์ดอย่างรวดเร็ว
ไอโกะเอนตัวลงนอนซบแขนของตัวเองพลางหันหน้ามาส่งยิ้มให้เขาอย่างล้อเลียน ท่าทางเหมือนเด็กหวงของเล่นของเขาทำให้เธออดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเองว่านำทัพก็มีใจให้เธอเช่นกัน
“นอนแบบนี้ดีมั้ยคะ เธอขาจะได้เห็นไอโกะแค่คนเดียว”
ยิ่งขยับตัวกระโปรงพลีทที่เธอใส่อยู่ก็ยิ่งร่นขึ้นมาจนเกือบถึงโคนขา นำทัพถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะถอดเสื้อช้อปสีเลือดหมูออกมายื่นให้เธอ
“คลุมขาไว้”
“ได้ค่ะ^^”
ไอโกะยิ้มหวานมากกว่าเดิมเมื่อเห็นเขาแสดงท่าทางหวงเธอขนาดนี้ ในขณะที่ฟีนน์ก็หันมามองเพื่อนสนิทของเขาด้วยสายตาล้อเลียนไม่ต่างกัน
ใบหน้าเคร่งขรึมหันกลับไปสนใจกระดานไวท์บอร์ดอีกครั้ง ไอโกะนอนมองนำทัพด้วยสายตาชื่นชมยิ่งเวลาที่เขากำลังใช้สมาธิจดจ่อกับอะไรยิ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิม
ดวงตากลมโตไล่มองแขนแกร่งที่โผล่พ้นเสื้อยืดสีดำลงมา เส้นเลือดปูนนูนเด่นชัดทั้งที่เขาแค่วางมันเอาไว้เฉยๆ
อยากลองสัมผัสดูจัง!
นิ้วเรียวทำงานอัตโนมัติทันที ไอโกะยื่นนิ้วไปจิ้มแขนของนำทัพเบาๆ ด้วยสายตาใคร่รู้ก่อนจะเริ่มสนุกสนานขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเจ้าของแขนไม่หันมาพูดอะไร
“อย่า ซน”
“แหะๆ”
นำทัพพูดเน้นย้ำทีละคำโดยไม่ได้หันมาสบตาเธอ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ไอโกะรีบดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว คนพี่ส่ายศีรษะเบาๆ ให้กับความซนของคนตัวเล็ก
“เลิกเรียนแล้วเราไปเที่ยวกันนะคะ”
ไอโกะเอ่ยชวนเสียงเบา เธอตั้งใจว่าวันนี้อยากจะขอเขาเข้าไปดูรถบ้านเพราะตั้งแต่อยู่ที่บ้านของน้ำหอมมาเธอยังไม่เคยได้เข้าเหยียบอาณาเขตรถบ้านของเขาเลยสักครั้ง
“ที่?”
“รถบ้านของเธอขา”
คำตอบของเธอทำให้นำทัพปรายตามองด้วยความสงสัย เขาคิดว่าเธออยากจะออกไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าหรือไม่ก็สถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติชอบไปกันแต่เธอกลับขอไปที่รถบ้านของเขา
“นะคะ ไอโกะอยากเข้าไปดูข้างใน”
“เพื่อ?”
“ก็ไอโกะอยากเห็นว่าข้างในเป็นยังไง เธอขาจัดข้างในสวยแค่ไหน”
ฟีนน์หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อที่เขาจะสามารถมองหน้าไอโกะได้ชัดขึ้น
“รู้หรือเปล่าว่ามันคือห้องเชือด อุ้ย!” พูดไม่ทันจบนำทัพก็โน้มตัวลงมาบังหน้าเขาเอาไว้ ฟีนน์ถึงกับสะดุ้งเมื่อสบตากับเข้าดวงตาคมกริบของเพื่อนสนิท “เอียงตามมาทำไม กูตกใจหมด”
“ห้องเชือดคืออะไรเหรอคะ”
ไอโกะชะเง้อหน้าขึ้นมาถามเนื่องจากนำทัพบังตัวเธอเอาไว้เสียมิดเลย ดวงตาคู่สวยฉายแววความสงสัยอย่างชัดเจน
“นั่งเงียบๆ” นำทัพหันมาส่งสายตาดุดันให้เธอก่อนจะพูดประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ทำได้จะพาไป”
ไอโกะถึงกับทำหน้างอเมื่อเธอโดนดุแล้วดุอีก ไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าจะดุอะไรนักหนา ขนาดเธออ้อนเขาเสียเสียงหวานหยดย้อยเขายังไม่เห็นจะมีท่าทางหวั่นไหวอะไรเลย
“猛者!” (คนดุ!)
“...”
“ชิ! ไอโกะนอนรอก็ได้”
คนที่บอกว่าจะนอนรอคว้ามือหนาข้างที่ว่างของนำทัพมาวางบนโต๊ะก่อนจะนอนหนุนฝ่ามือเขาต่างหมอนพลางหลับตาด้วยใบหน้าหงิกงอ
การกระของเธอทำให้หัวใจอีกฝ่ายสั่นไหว ทั้งๆ ที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแสนงอนแต่กลับดึงมือของเขาไปนอนหนุนอย่างออดอ้อนเสียอย่างนั้น
นำทัพหันมามองหน้าไอโกะพร้อมหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ แผนการจีบของยัยเด็กญี่ปุ่นร้ายกาจกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก เพียงแค่ไม่กี่วันก็ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวได้แล้วเหรอเนี้ย
อันตรายเกินไปแล้ว!
ดูเหมือนว่าคนที่บอกจะนอนรอนั้นนอนหลับไปจริงๆ ฝ่ามือใหญ่ของนำทัพแนบไปกับแก้มนุ่มและเขาก็ไม่กล้าดึงมือกลับเพราะกลัวจะรบกวนการนอนของเธอ
“จ้องขนาดนั้นไม่แดกไปเลยล่ะ”
อีกครั้งที่ประโยคกวนประสาทของฟีนน์ดังขึ้น นำทัพหลับตาลงช้าๆ อย่างข่มอารมณ์ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่เขาไม่ได้อยากสนิทกับมันเลย
“ไม่เสือกสักเรื่อง...คือตาย?”
“กูเป็นคนไทย ชอบใส่ใจเรื่องชาวบ้าน”
“ป้าเฟิร์นน่าจะยังไม่รู้เรื่องที่มึงแอบเช่าคอนโด...”
“พอ! หยุด! กูไม่เสือกล่ะ”
“หึ”
“ไอ้...ไอ้ขี้ฟ้อง”
