บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 รู้ใจ

ท่านชายปริ้นซ์

"เมื่อไหร่หมอจะมา จะรอให้คุณชายตายก่อนใช่ไหม แม่นมให้ใครก็ได้ไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้เรารอไม่ไหวแล้วนะ"

น้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความห่วงใยจากท่านชาย เอ่ยสั่งแม่นมคนสนิทด้วยความกระวนกระวายใจ ขณะที่เขาเพิ่งทำการผายปอดให้กับคุณชายอยู่หลายรอบ แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรจากคุณชาย ยิ่งทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

"ท่านชายหมอกำลังมาค่ะ ได้โปรดใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ตอนนี้การเต้นของหัวใจเป็นปกติดีค่ะ อย่ากังวลไปเลยนะคะ" แม่นมของคุณชายไมล์บอกอาการที่ตัวเธอได้ทำการตรวจอาการเบื้องต้นอยู่ตลอดเวลา

"แม่นมจะให้เราใจเย็นได้ยังไง ในเมื่อคุณชายยังไม่ได้สติแบบนี้ เราทำไม่ได้...ใครอยู่ข้างนอกรีบไปตามหมอให้เข้ามารักษาคุณชายให้เร็วที่สุด"

ท่านชายกล่าวกับแม่นมของคุณชายไมล์ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะรีบหันไปตะโกนไปทางประตูหน้าห้องที่ยังคงเปิดไว้ เสียงดังโวยวายราวกลับไม่ใช่ท่านชายปริ้นซ์ที่แม่นมรู้จัก ก่อนที่เธอจะหยิบโทรศัพท์โทรหาหัวหน้าองครักษ์ที่รอรับหมอจากหน้าวังพงศ์เจริญ

"หมอมาหรือยังคะ อาการของคุณชายไม่สู้ดีเลย"

"ตอนนี้หมอกำลังลงจากเฮลิคอปเตอร์ครับ เดี๋ยวผมจะรีบพาเขาเข้าไปเดี๋ยวนี้"

ท่านชาย แม่นมของคุณชายไมล์ทั้งสองมีสีหน้าลุ้นระทึกรอคำตอบที่จะได้รับ

"ว่าไงครับนมหมอมาหรือยัง?"

"หัวหน้าองครักษ์กำลังพาหมอเข้ามาค่ะ"

สิ้นคำกล่าวของแม่นม ท่านชายปริ้นซ์ก็มีสีหน้าแห่งความหวังปรากฏขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มใบหน้าสวย ทางฝ่ายของแม่นมของคุณชายไมล์ก็มีอาการไม่ต่างกัน

"จริงหรอ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราจะรีบออกไปต้อนรับแล้วรีบพาเข้ามาข้างใน"

ไม่ทันที่ท่านชายจะได้ก้าวขาออกจากห้อง หัวหน้าองครักษ์ได้เดินนำหน้าหมอหนุ่มเข้ามาภายในห้องนอนของท่านชายพอดี

"ท่านชายจะออกไปไหนหรอครับ" หัวหน้าองครักษ์เอ่ยถาม แต่ท่านชายปริ้นซ์ไม่ได้ตอบคำถาม กลับหันไปพูดกับหมออย่างกระวนกระวายใจ

"หมอช่วยดูอาการคุณชายก่อนเถอะ อาการของเขาไม่ดีเลย"

"ครับท่านชาย ผมจะพยายามจนสุดความสามารถครับ"

"เราฝากด้วยนะ ช่วยเขาหน่อย"

"ครับท่านชาย ไม่ทราบว่าใครรู้ข้อมูลโรคประจำตัวของเขาบ้างหรือเปล่าครับ" หมอเอ่ยถามทุกคน

"ฉันค่ะ ฉันเป็นแม่นมส่วนตัวของคุณชายค่ะ"

"ดีมากครับ ถ้ายังไงช่วยบอกรายละเอียดเกี่ยวกับโรคประจำตัวของเขาให้ผมได้ฟังทั้งหมด ระหว่างที่ผมทำการตรวจอาการเบื้องต้นนะครับ ขอเชิญท่านชายและคนอื่นๆ ออกจากห้องนอนก่อนนะครับ เพื่อความสะดวกในการตรวจรักษาอาการ"

"ได้..." ท่านชายเดินนำหัวหน้าองครักษ์และแม่นมของตนออกจากห้องนอนไปตามคำบอกของหมอ คนทั้งสามออกมายืนรอหน้าห้องด้วยอาการตั้งตารอผลการตรวจและการรักษาของคุณชายไมล์ แต่ก็ทำให้คุณชายปาร์วีนอดสงสัยไม่ได้กับเรื่องๆ หนึ่ง

"หัวหน้าองครักษ์ เราขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม"

"ไม่ทราบว่าท่านชายมีอะไรหรือเปล่าครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องของลูกชายกระผมได้ทำผิดวันนี้ ผมต้องขอโทษแทนลูกชายผมด้วยนะครับ ท่านชายจะลงโทษยังไงกับเขาก็ได้ ผมยอมรับในบทลงโทษทุกอย่าง แต่ผมขอถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างท่านชายกับลูกของผมเป็นความจริงหรือเปล่าครับ"

"หัวหน้าองครักษ์สำหรับเรื่องนั้นจะเป็นความจริงหรือไม่ เรายังไม่อยากตอบตอนนี้ เดี๋ยวเราจะคุยเป็นการส่วนตัวกับท่านภายหลังได้ไหม เราอยากว่าหมอหนุ่มคนนั้นเขาเป็นใคร ทำไมเราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนตั้งแต่กลับมาที่วัง"

คำตอบของท่านชายทำให้หัวหน้าองครักษ์รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเปราะหนึ่งและต้องละทิ้งความอยากรู้ลงชั่วคราวเพื่อจะตอบคำถามที่ท่านชายถามขึ้นเมื่อสักครู่นี้

"หมอหนุ่มคนนั้นชื่อซีซ่าครับ เป็นหลานชายของหมอประจำวังที่เพิ่งปลดเกษียณไปได้เมื่อสองเดือนก่อน เพิ่งจบการศึกษาจากคณะแพทย์และเข้ามารับตำแหน่งเป็นหมอประจำวังคนใหม่ครับท่านชาย"

ท่านชายปริ้นซ์ฟังหัวหน้าองครักษ์อธิบายอย่างตั้งใจก่อนจะแย้งขึ้น

"แล้วทำไมไม่เห็นมีใครบอกเราเลยสักคน ว่าหมอใหญ่ปลดเกษียณแล้ว เราก็ว่าอยู่ทำไมช่วงที่เรากลับมาไม่เคยเห็นหน้าหมอใหญ่เลย รวมถึงหมอประจำวังคนใหม่นี้ด้วย เราก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ท่านหัวหน้าองครักษ์ ท่านทำงานกันยังไงเห็นเราเป็นอะไร ไม่คิดจะบอกกันบ้างเลย" ท่านชายปริ้นซ์กล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจบวกกับน้ำเสียงที่ดูเกรี้ยวกราด สร้างความเกรงกลัวให้กับหัวหน้าองครักษ์และแม่นมเป็นอย่างมาก จนทำให้คนทั้งสองที่ยืนฟังคำตำหนิของท่านชายต้องยืนตัวสั่น

"ท่านชายคะ อย่าไปตำหนิหัวหน้าองครักษ์เลยนะคะ เราสองคนก็จะบอกท่านชายอยู่เหมือนกัน แต่ติดที่ช่วงนี้กำลังยุ่งเรื่องงานเลือกคู่สมรสของท่านชายกันอยู่ค่ะ พวกเราเลยยังไม่ได้บอก" แม่นมประจำตัวท่านชายกล่าวด้วยน้ำเสียงขอความเห็นใจจากท่านชายของตนทางสายตา

ฝ่ายหัวหน้าองครักษ์มีสีหน้ารู้สึกผิดและยืนก้มหน้ารับคำตำหนิอยู่นิ่งๆ

"เป็นเพราะทุกคนวุ่นวายอยู่กับเรื่องเลือกคู่ให้กับเราอยู่ใช่ไหม ถึงทำให้เราไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของทุกเรื่องในวัง ถ้าอย่างนั้นเราขอประกาศตรงนี้เลยว่า จะไม่มีพิธีการเลือกคู่สมรสระหว่างเรากับท่านหญิงคนใดก็ตาม จะไม่มีพิธีนั้นเกิดขึ้น หากนมบังคับหรือให้เราต้องเลือกคู่สมรสอีก เราก็จะไปจากวังแห่งนี้และไม่กลับมาที่นี่อีก นมคงรู้ว่าเราเป็นคนพูดจริงทำจริง ใช่ไหมครับนม"

คำกล่าวของท่านชายปริ้นซ์แฝงด้วยความเด็ดขาด แม่นมผู้เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กต้องยืนนิ่งไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ ถึงแม้ว่าเธอจะมีเหตุผลต่างๆ มากมายเพื่อที่จะอธิบายให้กับท่านชายของเธอฟัง แต่ตอนนี้มันสายเกินที่เธอจะสามารถอธิบายอะไรได้อีก แล้วงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ล่ะจะเป็นอย่างไรต่อไป ที่สำคัญคุณชายจากเมืองไกลก็ยังไม่ได้สติ ก่อนที่เธอจะรวบรวมความกล้า ถามอะไรจากปากท่านชายบางอย่างว่าสิ่งที่เธอคิดและคำตอบของท่านชายจะตรงกันหรือไม่

"ท่านชายรักคุณชายไมล์ใช่ไหมคะ"

เมื่อท่านชายปริ้นซ์ได้ฟังคำถามก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย ก่อนจะอธิบายให้กับแม่นมของตนได้ฟัง

"นมเราจะบอกว่าเราไม่ได้รักคุณชายไมล์หรอกนะ แต่เรารู้สึกชอบเขาเท่านั้น เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตบ้าง แต่คำในพินัยกรรมที่ท่านแม่เขียนไว้ เราคงทำไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ชอบผู้หญิง เราชอบคุณชายไมล์ ถ้านมไม่ขัดข้อง เราก็จะปฏิบัติตามคำในพินัยกรรมที่ท่านแม่เขียนไว้อย่างเคร่งครัด สำหรับเรื่องทายาทที่จะสืบราชสกุลนั้นเราขอปรึกษากับคุณชายก่อน แต่ตอนนี้เราขอความช่วยเหลือจากนมและหัวหน้าองครักษ์ ว่าอย่าเพิ่งบอกคุณชายไมล์ได้ไหม ว่าเรารู้สึกยังไงกับเขา เมื่อวันหนึ่งที่เราพร้อมเราจะบอกเขาเอง"

คนทั้งสองต่างรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ท่านชายกล่าว แต่นั่นคือความประสงค์ของท่านชาย ที่เขาทั้งสองคนไม่สามารถที่จะขัดได้

"ตามประสงค์ค่ะท่านชาย"

ก่อนที่หัวหน้าองครักษ์และแม่นมประจำตัวจะโค้งคำนับด้วยความเคารพที่หน้าห้องนอน เพื่อรอฟังผลการรักษาจากด้านในต่อไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel