EP05 เขาเป็นคนใจดี ^0^
“ใครวะที่เดินมาในห้องผู้บริหาร” ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะผมไม่เคยเห็นผู้ชายคนกลางและคนข้างๆ อีกสองคนมาก่อน อาจเป็นว่าผมพึ่งทำงานได้แค่สามเดือนเท่านั้น
“มึงพึ่งมาอยู่ไม่กี่เดือน มึงเลยไม่เคยเห็นคุณกรณ์” ไอ้โจ้บอก
“แล้วคุณกรณ์ที่มึงว่าคือลูกของคุณจักรพันธ์ใช่ปะ” ผมเอ่ยบอกเมื่อถึงบางอ้อ เพราะผมจำคุณจักรพันธ์ได้ดี เพราะเขาคือเจ้าของบริษัท และคุณกรณ์ เป็นลูกของท่านที่มาสานต่อและนั่งบริหารแทนมาสามปี แต่ว่าตั้งแต่ผมทำงานที่นี่มาก็ไม่เคยเห็นคุณกรณ์เลย เพราะเขาเดินสายหาลูกค้าและเทคโอเวอร์โรงแรมมากกว่าสามแห่งในสองปี นับตั้งแต่บริหารมา ทำให้หุ่นขึ้นต่อเนื่องโดยตลอดปีที่แล้ว เห็นว่าแจกบ้านแจกรถให้ฝ่ายบริหาร และหัวหน้าแผนก ไอ้พวกนี้มันก็ได้รถคนละคันเหมือนกัน ในแผนกเลขานุการมีแต่ไอ้นพได้บ้าน เพราะมันเป็นหัวหน้า
“ใช่ แกพึ่งกลับมาจากอิตาลี วันนี้มึงพรีดีๆ นะ งานแรกของมึงที่ต้องพรีหน้าเขา” ไอ้นพบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“หัวหน้า ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”
ภาวนาให้ผ่านไปด้วยดี สาธุ!
ผมก้าวเดินเข้ามาในห้องประชุมใหญ่ก่อนสิบนาที เพื่อวางเอกสารกับไอ้โจ้ประมาณเก้าฉบับ แม่บ้านวัยกลางคนคือป้าจุ๊บและพี่จวง พวกเธอเป็นผู้หญิงสองคนในชนกลุ่มน้อยที่เป็นผู้หญิงในบริษัท พวกเธอสองคนมาวางแก้วน้ำและขวดน้ำมาจากโรงงานน้ำดื่มของบริษัท จัดเรียงไว้อย่างสวยงาม
“มึงอยู่มาสองปีแล้ว กูอยากถามว่า” ผมเอ่ยบอก แล้วมองหน้าไอ้โจ้ ไอ้โจ้มองมายังผม
“ว่า” ไอ้โจ้ตอบกลับ
“มึง คุณกรณ์เป็นคนอย่างไง ดุปะมึง กูกลัวพรีไม่ดีแล้วเขาจะด่ากู” ผมถาม
“ใจดีมึง ถ้าเขาไม่ใจดี พวกกูไม่ได้รถได้ทองกันคนละบาทหรอก มีแต่ไอ้นพที่ได้บ้าน เพราะมันเป็นหัวหน้า แล้วแม่งไม่ได้เป็นแค่หัวหน้า มันยังเป็นบอดี้การ์ด ไอ้ห่านี่มันเป็นอดีตทีชาติแม่นปืน” โอ้โจ้บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไอ้นพอะนะแม่นปืน ความรู้ใหม่ที่ไม่มีใครเคยเล่าให้ผมฟังมาก่อน
“จริงเหรอวะ”
“จริง พวกกูยังต้องไปเรียนกับมันเลย สนใจไปเรียนกับพวกกูปะ ไว้ป้องกันตัว อนาคตไม่แน่นอน” ไอ้โจ้มันบอกด้วยน้ำเสียงขบขันทีเล่นทีจริง
“เรื่องนี้กูขอผ่าน” ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมเป็นคนใจร้อน เดี๋ยวไม่พอใจใครก็ยิงเอาง่ายๆ เช่นยิงไอ้ตัวเหี้ยที่ผมเจอเมื่อตอนเช้า
ไม่นานนักผมเห็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัททยอยก้าวเข้ามาในห้องประชุม ผมยกมือไว้พวกเขาตามมารยาท จนเหลือห้านาทีสุดท้าย ผมทิ้งหน้าที่ต้อนรับให้ไอ้โจ้และไอ้นพลูกพี่ของผมเอง
ผมหันไปเห็นไอ้นพหันมาหาผม แล้วพยักหน้า ผมยืนขึ้นเมื่อเห็นคุณกรณ์ เดี๋ยวนะคุณกรณ์ ทำไมหน้าคุ้นจังวะ
“ไอ้ตัวเชี่ย” ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ดีที่ไม่มีใครได้ยิน แล้วมันมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้ม เป็นยิ้มที่ดูกวนตีนฉิบหาย อยากเอาเท้าทีบยอดหน้าจริงๆ
“ผมขอแนะนำเลขานุการคนใหม่ นาย ลักนัย วีรกิตธาดา ตำแหน่งเลขานุการครับ” ไอ้นพแนะนำผมว่าอะไรก็ช่างมันเถอะ แต่ไอ้ห่านี่คือเจ้านายของผม เวรกรรมของกูตั้งแต่ชาติปางไหนที่มาได้เจอมึงยังไม่พอ ยังเป็นลูกน้องของมันอีก รู้สึกสมเพชชีวิตจริงๆ
“ไอ้คิ้มแนะนำตัวกับบอสและคณะกรรมการ” ไอ้นพบอกผมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาข้างๆ ผม
“ผม ลักนัย วีรกิตธาดา ตำแหน่งเลขานุการครับ” ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง อยากกัดลิ้นให้ตายไปเลย
“งานที่ส่งมาคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว” ไอ้ตัวเฮียมันถามผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย วางท่าชิบ
“โครงการที่บาหลีคืบหน้าไปเจ็ดสิบเบอร์เซ็นแล้วครับ ส่วนของโรงแรม ฟิตเนต สนามกอล์ฟ สนามเทนนิส รวมไปถึงสนามในร่ม เสร็จสิ้นหมดแล้ว มีเพียงพูลวิลล่าตรงริมหาดประมาณสี่หลังที่ยังไม่เสร็จ ส่วนอื่นเสร็จสิ้นหมดแล้วครับ” ผมบอกเช่นนี้ ขณะที่ใช้รีโหมดกดเปิดสไลด์
“ผมได้ประสานงานกับมิสเตอร์จอนสัน เขาบอกว่าจะส่งงานภายในเดือนธันวาปีนี้” ผมเอ่ยบอกอีกครั้ง
“ส่งรายงานมาให้ผมด้วย ขอแบบละเอียดไม่เกินวันศุกร์นี้” ไอ้คิ้มมันบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ได้ครับ” ผมบอกส่งๆ ไม่เสร็จก็ต้องเสร็จละวะ
“ใครมีข้อสงสัยอีกไหมครับ” ไอ้นพเอ่ยถามกรรมการในห้อง พวกเขาไม่ถามหรอก เพราะผมได้อธิบายการประชุมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก่อนไอ้กรณ์มันจะเสด็จมา
ทำไมชีวิตกรูตั้งมาเจอมันด้วย เจอไม่ธรรมดาด้วยนะ เพราะมันเป็นเจ้านายของผม
ต้องเรียกว่าบุพเพสันนิวาส หรือ บุพเพอาละวาดดี 555
.........................................
คนที่ไม่ได้อยากเจอที่สุด กลับเป็นเจ้านายของเฮียคิ้ม
แล้วทีนี้เฮียคิ้มจะทำอย่างไงดีละทีนี้
ขอย้ำอีกที เรื่องนี้ไม่เน้นเนื้อหา เน้นกระแทกนะสาววาย 555
ไรท์ชอบอ่านคอมเม้นท์ของทุกๆ ท่าน อย่าลืมคอมเม้นท์ด้วยนะคะ
และอย่าลืมกดหัวใจให้ด้วยนะ
