Secret Love of Vampire

218.0K · จบแล้ว
ปูริดา - รัตน์วรา - จิ่วเทียนอี้อี - Bobby Pin
109
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

Vampire ล่ารัก “ฉันอยากกำจัดเสื้อผ้าเกะกะนี่ทิ้งไป แล้วจัดการ...จูบ! ไปทั่วผิวเนื้อเนียนนุ่มราวกับแพรไหม” ดึงงับสลับขบเม้มด้วยปากและเขี้ยวแหลมคม จนคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกด้วยความเสียวซ่าน “ฉันจะพาเธอไปเริงร่ากลางวิมานฉิมพลี เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะฝังเขี้ยวแหลมคมบนคอสวยๆ ของเธอ เพื่อดื่มด่ำกับเลือดหวานๆ จนแทบระงับอารมณ์ไม่ไหวแล้วรู้ไหม...ไผ่หลิว” มนตร์เสน่หา Lycan “อ้าว...เหรอ เฮ้อ! ฉันนี่ป้ำเป๋อจริงๆ เลย” มือใหญ่ยกขึ้นลูบไล้ต้นคอแกร่ง เหลียวใบหน้ายิ้มๆ นัยน์ตาพร่างพราวระยับ “ดันลืมไปเสียได้ ให้สัญญากับเมียจ๋าจะรีบกลับมากินเลือดหวานๆ พร้อมมอบสัมพันธ์สวาทยัดเยียดตัวเองให้เป็นสามีของนางฟ้านี่เองนี่นา...เนอะ” “อย่ามาชวนพูดนอกเรื่องนะไลอ้อน ไหนเล่าความจริงมา...ให้หมดนะ” “เล่าตอนที่เรา...” “หยุด!!” นิ้วยาวเรียวยกขึ้นทาบบนปากหนาหยัก “ถ้าไม่เล่ามาให้หมด...ไม่มีสิทธิ์ได้แอ้มเมียย่ะไอ้คุณหมาหน้ายู่” Vampire เจ้าเสน่ห์ “ผู้หญิงกลิ่นหอมอย่างเธอให้ฆ่าทิ้งก็น่าเสียดายแย่อยู่ สู้เก็บไว้ข้างตัวคอยกัดกินเลือดที่คงต้องหวานชวนลิ้มลองน่าจะดีกว่านะ” “ไอ้...ไอ้แวมไพร์สกังค์!” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอขณะโน้มใบหน้าลงพร้อมจมูกโด่งสูดดมกลิ่นสาบสาวหอมจรุงใจ ก่อนแนบปากทับทาบคลอเคลียซอกคอขาวนวลเนียน ปลายลิ้นสากระคายไล้เลียส่วนเส้นชีพจรที่กำลังเต้นตุบๆ อยู่ “ชักอยากรู้เสียแล้วสิ ตอนที่ฉันกัด...” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงกลั้วคอ แยกปากเผยเขี้ยวขาวเป็นเงินยวงขบย้ำลากไปบนลำคอระหงพอให้สาวผิวหอมกรุ่นราวกับกลิ่นของดอกไม้ได้สะดุ้งสยิวเสียว “ดื่มด่ำกับเลือดรสหวานนุ่ม เธอจะทำยังไง”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันพลิกชีวิตสายลับตำรวจนักฆ่าแวมไพร์แก้แค้นโรแมนติก

ตอนที่ 1

1

ท่ามกลางแสงสีพร่างพราวและเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม เหล่าสาวงามหุ่นเอกซ์เซ็กซี่อวดสัดส่วนเรือนกายในเสื้อผ้าน้อยชิ้น โยกย้ายส่ายสะโพกยั่วยวนเหล่าภมรผู้มีอันจะกิน สอยกลับไปบำรุงบำเรอกามา แลกเปลี่ยนเงินทองและความสุขชั่วครั้งชั่วคราว!

แต่เพียงแค่หนุ่มหุ่นล่ำร่างบึกบึน ใบหน้าฉายแววเย็นชา เดินผ่านประตูเข้ามา ทุกสายตาก็โฟกัสไปที่เขาเป็นจุดเดียวกัน

เมื่อชายหนุ่มทรุดนั่งประจำที่...มุมซึ่งจัดไว้สำหรับแขกวีไอพี สาวน้อยพิมพ์มาดาพาร่างสูงด้วยสัดส่วนอกเอวอรชรอ้อนแอ้นรับกับขาเสลายาวเรียว ซึ่งเพิ่งได้รับอภิสิทธิ์ในการได้เข้ามายั่วยวนมอบความสุขให้หนุ่มคีธก็เริ่มทำหน้าที่ของตัวเองในทันที

“พิมพ์นึกว่าคุณคีธจะไม่มาเสียแล้วซิคะ” เอื้อนเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงหวานระคนเซ็กซี่ บดเบียดร่างชื้นให้กลิ่นเหงื่อที่ผุดไหลตามร่องรูขุมขนแตะจมูกโด่งขึ้นสัน กระตุ้นความต้องการของคีธให้พุ่งโลดลิ่วสู่จุดหมายปลายทาง พาเธอกลับรังรักสุดแสนลับของเขา เพื่อจัดเสิร์ฟอาหารรสแซบ ตามข่าวที่ได้ยินมา

“เธออย่าคิดว่าตัวเองโชคดีนะพิมพ์ ที่ได้เข้าไปใกล้ชิดคุณคีธในอาทิตย์นี้น่ะ”

“ทำไมล่ะ” พิมพ์มาดาเอ่ยถามด้วยความสงสัยระคนแบะหน้าหยามหยัน เพื่อนไม่จริงใจกลุ่มนี้พูดให้เธอใจเสียเพราะอิจฉาที่เธอโชคดีกันละซิ แต่ละคนใฝ่ฝันอยากเข้าใกล้คุณคีธจนเนื้อเต้นแล้ว แต่เสนอตัวไปกี่ครั้งๆ ก็ถูกปฏิเสธกลับมา

“ถึงเขาจะหน้าตาหล่อเข้มราวเทพบุตรมาจุติ มาดหรือก็งามสง่าราวกับเจ้าชายจากต่างแดน แต่นิสัยนะซิ...”

ส่วนหนึ่งคือความอิจฉาที่เพื่อนสาวได้ไปบริการคีธจริง แต่อีกส่วนก็คือความตื่นกลัวและกังวลใจ กลัวพิมพ์มาดาจะเป็นเหมือนกับสาวคนอื่นๆ

“ไหน...อย่าเวิ่นเว้อ เล่ามาให้ละเอียดซิ คุณคีธเป็นอะไร”

“แกจำไม่ได้หรือไง สาวๆ ที่ไปอยู่กับคุณคีธหนึ่งอาทิตย์ กลับมาเป็นยังไงบ้าง...ถึงแม้มีเงินทองราวกับถูกเนรมิตมาให้ แต่ทุกคนจำใครไม่ได้เลย หน้าที่เคยสดใสก็ขาวซีดอย่างกับซากศพ หุ่นที่เคยอวบอั๋นก็เปลี่ยนไปเป็นผอมแห้งอย่างกับไม้เสียบผี” คนพูดทำเสียงสั่นๆ เสียวแผ่นหลังขึ้นมาวูบหนึ่งคล้ายถูกจับจ้องจากสิ่งลี้ลับ

“จริงด้วยยายพิมพ์ แกจำยายปาวรินทร์ได้ไหมล่ะ นั่นคนหนึ่งละ กลับมาเนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าขาดวิ่น เลือดไหลอาบ...อย่างกับถูกใครลากไปข่มขืนอย่างนั้นแหละ แล้วยังมีอาการหวาดผวา จนเขานึกกันว่าถูกของ รีบวิ่งหาหมอผีมาทำการรักษากันเสียให้วุ่นวายเลย”

“แหม...เรื่องแค่นี้เอง ยายนั่นอาจไปประสบอุบัติเหตุมาจนความจำหายไปก็ได้” คนไม่เชื่อในอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้เอ่ยอย่างไม่แยแส ไหล่กว้างเลิกขึ้นเล็กน้อย พลางแสยะยิ้มหยามหยัน

แต่ละคน...แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว ขู่ให้เธอกลัวจนถอนตัวไม่เข้าหาคีธ เพื่อตัวเองจะได้เข้าสอดแทรกแทน นึกว่าเธอไม่รู้หรือไง

“พวกเธอกลัวว่าฉันคือคนที่ใช่...นางในฝันที่คุณคีธตามหา คนที่เปลี่ยนหนุ่มเย็นชาเป็นคนมีชีวิตจิตใจ ยิ้มแย้มและหัวเราะได้” เอ่ยถึงเรื่องเล่าที่เคยได้ยินมาจากปากของหนึ่งในคนที่คอยดูแลอารักขาคีธ

“เออ...ตามใจ แกไม่เชื่อพวกเราก็ตามใจ งั้นก่อนแกเข้าไปยั่วคุณคีธ ก็อย่าลืมเต้นให้เหงื่อไหลซกแล้วกัน”

“บ้าหรือเปล่า ไปหาผู้ชายต้องเลิศหรูดูดี ให้เขาประทับใจตั้งแต่แรกเจอไม่ใช่หรือไง”

“อ้าว...แกไปมุดหัวอยู่ในรูไหนฮึยายพิมพ์ ถึงไม่รู้ว่าคุณคีธนะเขาคลั่งกลิ่นเหงื่อ ไม่รู้หรือไงกลิ่นเหงื่อมันกระตุ้นความต้องการของผู้ชายให้จัดการแกเร็วๆ ขึ้น ได้ข่าวว่าคุณคีธของแกนะใหญ่และ...อึดเกินพิกัดด้วยนะโว้ย”

“บ้า! พวกแกนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ น่าอายจะตายไป” บิดกายไปมาด้วยความเขินอาย ใบหน้าร้อนผ่าวจรดลำคอ แต่ประกายในตากลับพร่างพราวระยับ

“โอ๊ย! แกไม่ต้องมาทำตัวเป็นยายสาวน้อยไร้เดียงสาเลยยายพิมพ์ ถูกผู้ชายสอยมากินจิ้มจุ่มตั้งแต่ไม่แตกเนื้อสาว ดีนะที่ยังรักษาตัวเองไม่ให้ป่องได้...แต่ถ้าเกิดแกจำได้ อย่าลืมเล่าให้ฟังนะ คุณคีธจัดการแกท่าไหน ยังไง นานเท่าไหร่ ทั้งอาทิตย์จนเข่าอ่อนเดินไม่ได้อย่างที่พวกเราได้ยินข่าวมาหรือเปล่า”

“พวกแกนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ ฉันไปเตรียมตัวอาบน้ำแร่แช่น้ำนม ขัดนวดผิวให้เนียนนุ่มดีกว่า จะได้ถูกใจคุณคีธ จนตกลงปลงใจเลือกฉันไว้เป็นคู่ตลอดไป” เอ่ยเสียงใสแจ๋ว รอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า ขณะลุกขึ้นยืนก็ยังมีเสียงหัวเราะกลั้วคอ

พิมพ์มาดาเดินเยื้องย่างราวกับนางพญาไปหยิบกระเป๋าสะพายมาคล้องไหล่ ก็เผอิญนึกขึ้นมาได้ รีบหันใบหน้าเปื้อนยิ้มไปมองเพื่อนสาวแต่ละนาง

“อย่าลืมอวยพรให้ฉันด้วยล่ะ ถ้าได้เป็นเมียคุณคีธจริงๆ ฉันจะพาพวกแกไปช็อปต่างประเทศ...พ็อกเกตมันนี่ไม่อั้นเลย”

“วันนี้คุณคีธหน้าตาเครียดจัง มีอะไรทำให้ไม่สบายใจหรือคะ” นิ้วยาวเรียวยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าคมรกครึ้มด้วยไรหนวดเขียวครึ้มยาวจากจอนหูฝั่งหนึ่งไปจรดอีกฝั่งและเหนือริมฝีปากสีแดงสด

“ไม่มีอะไร” เอ่ยปฏิเสธอย่างรู้ความต้องการของเหล่าแมลงเม่าที่โผบินเข้าหาแสงไฟดี แต่ในวันนี้เขาเหนื่อยหน่ายจนมองอะไรก็ทำให้เบื่อหน่ายไปเสียหมด

“พูดอย่างกับคนกำลังทุกข์หนัก มีอะไรบอกพิมพ์ได้นะคะ พิมพ์พร้อมช่วยคุณคีธทุกอย่าง” เอ่ยถามน้ำเสียงเซ็กซี่ ร่างอวบอัดด้วยโนมเนื้อนมไข่รับกับเอวเล็กคอดเอนกายอิงแขนกำยำ ช่วงขาเรียวยาวขาวนวลตวัดเล็กน้อยก็พาตัวเองขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง

มุมปากหนาหยักยกขึ้นเล็กน้อยอย่างหยามหยัน เขากับอีกสี่ที่ไม่รู้จะเรียกอะไร คนหรือหมาบ้าดี พวกชอบทำอะไรไม่เหมือนมนุษย์มนา เปิดคลับเรียกบริการราคะจากสาวงาม เพื่อควานหาหญิงสาวคู่ชีวิต

หญิงสาวผู้มีรักแท้ให้โดยไม่เกรงกลัวตัวตนอันน่าหวาดกลัว ผู้ที่จะมาทำหน้าที่ปลดปล่อยเขาและ...คนและหมาบ้าให้เป็นอิสระจากสิ่งที่เป็นอยู่และดำเนินมายาวนาน แต่สิ่งที่ได้พบ...

สาวงามทุกคนมีตำหนิ ล้วนแล้วแต่กระหายอยากในเงินทองและเพลิงราคะที่โหมลุกไหม้ไม่รู้จักจบสิ้น ทุกคนจึงต้องได้รับการสนองตอบและสั่งสอน!

“ฉันไม่มีอารมณ์” ไม่แค่เหนื่อยแต่เขารู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ทำให้ร่างกายซึ่งเคยแข็งแกร่งอ่อนเปลี้ยเพลียจนหมดแรง หรือวันที่เขาจำต้องละร่างกายนี้ไปเป็นดวงจิตลอยล่องไปอย่างไร้จุดหมายมาถึง!

ก็คงดี...เขาไม่อยากเหนื่อยกับการรอคอยและเฝ้าควานหาอย่างไร้จุดหมายอีกแล้ว

คีธยกมือขึ้นวางบนไหล่กว้างดันร่างเพรียวให้ถอยห่าง อีกสามวันพระจันทร์เต็มดวง...คืนอันเลวร้ายที่เขาและเพื่อนๆ ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดทางร่างกาย!

ใบหน้าคมเข้มมีเกราะคือความเย็นชาเคลือบไว้ยิ้มหยัน “อยากได้คนช่วยผ่อนคลายกำหนัดกับเงินทอง เดี๋ยวฉันสงเคราะห์เรียกคนมาให้แล้ว” ยกมือจับแขนกลมกลึงที่ยกขึ้นพาดบ่ากว้างออกห่าง

“คืนนี้ฉันไม่อยากได้...เหม็นเบื่อคราบคาวๆ ที่เกาะติดบนตัวสาวๆ อย่างพวกเธอ ชอบมาหลอกย้อมแมวขายตัวเอง ทั้งที่ผ่านมาเยอะจนน่าสงสัย จำหน้าคนที่มีอะไรด้วยได้หมดทุกคนหรือเปล่า”

“อุ๊ย! อะไรกันคะคุณคีธ ใครทำให้อารมณ์เสียคะนี่” แม้จะหน้าเสียกับคำพูดชายหนุ่มที่เธอฟังยังไงเหมือนถูกด่านิ่มๆ ใส่หน้า แต่พิมพ์มาดาก็ยังฉีกยิ้มหวานๆ ได้

“คุณมาที่นี่เพราะต้องการผ่อนคลายไม่ใช่หรือคะ พิมพ์กำลังช่วยคุณอยู่นี่ไงคะ” พิมพ์มาดายังไม่คิดยอมแพ้ นิ้วยาวเรียวลูบไล้ไต่บนผิวเนื้อจนถึงเส้นผมหนานุ่ม ที่อยากจับต้องตั้งแต่แรกได้เห็นหน้าและสบสายตากับ...คีธ อีวาโปล่า

ไม่เคยคิดว่าจะตกหลุมรักจนเป็นได้ถึงเพียงนี้...แต่ก็เป็นไปแล้ว!

เมื่อเกิดความรัก...ความอิจฉาก็ตามติดมา ทุกครั้งที่เห็นเขามีผู้หญิงคนอื่นเคียงข้าง เธอเจ็บร้าวไปทั้งใจ อยากเดินเข้าไปกระชากผู้หญิงหน้าด้านเหล่านั้นให้ถอยห่างออกมา แต่ก็รู้ดีสิทธิ์ของตัวเองยังมาไม่ถึง ต้องเฝ้ารออย่างกล้ำกลืน

เมื่อโอกาสมาถึง...ไม่มีวันยอมรับความพ่ายแพ้ โดยไม่ต่อสู้!