บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

2

“ในที่สุดเธอก็เข้ามาใน Club บ้าๆ นี่จนได้” ชมบุหลันเอ่ยกับตัวเองเสียงเบาหวิว ใบหน้ากลมป้อมเปี่ยมล้นด้วยความมุ่งมั่นเงยขึ้นมองแผ่นป้ายบอก พร้อมมือกำหมัดกระทุ้งเข้าหาตัวเองเล็กน้อย “โย่ว” เสียงเล็กดังในลำคอกับความสำเร็จกับการพาตัวเองเข้ามาในคลับ บ้าๆ ที่ชื่อสุดแสนจะน่าเกลียดน่าขยะแขยงเป็นที่สุด...

Club Love เสิร์ฟ Sex!

คลับที่ไม่ใช่แค่บ้าบอ แต่เฮงซวยสุดๆ เพราะผู้หญิงที่จะเข้ามาได้ ต้องขาวสวยหมวยเอกซ์และเซ็กซี่อย่างนางแบบหนังอย่างว่า ที่ผู้ชายติดเรื่องใต้สะดือชอบกันนัก ในขณะที่เธอ...

ชมบุหลันสะบัดศีรษะอย่างปวดร้าว ตอนก้าวลงจากรถก็มั่นใจเต็มร้อย เธอต้องพบต้นตอของเรื่องที่อยากรู้

ทว่าเมื่อเดินเข้าคลับกลับถูกมนุษย์ยักษ์สองตัวที่ยืนเฝ้าอยู่กวาดสายตาไล่มองตั้งแต่ปลายเท้าไล่ขึ้นไปที่ใบหน้ากลมป้อม ก่อนเปล่งวาจาเสียดแทงหัวใจสาวน้อยอย่างเธอจนอยากกระเด้งกระดอนตัวขึ้นสูง แล้วฟาดฝ่ามือตบหัวโล้นๆ เต็มแรง

“ที่นี่ต้อนรับเฉพาะสาวหุ่นดี...”

“ฉันหุ่นไม่ดีตรงไหนยะ!” ชมบุหลันตวาดแว้ดเข้าใส่ แบะหน้าหงิกงอ นัยน์ตาขุ่นเขียวใส่คนพูด

ทำไมยะหุ่นแม่ให้มาของเธอมันไปหนักหัวแม่เท้าข้างที่มีตาปลาเกาะติดอยู่หรือไง ถึงได้มีแต่คนยุ่งกับรูปร่างของเธอนักหนา ไอ้ความสูงร้อยหกสิบ กายไม่บอบบางอ้อนแอ้นอรชรด้วยเจ้าเนื้อที่เกาะอยู่รอบเอว แม้เถียงสุดใจขาดดิ้น เธอไม่ได้อ้วนสักหน่อย แค่...อวบเกือบระยะสุดท้ายเท่านั้นเอง แต่มักถูกเปรียบเทียบกับอีกหนึ่งสาว รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร เอวรับกับทรวงอกกลมกลึงและขาเรียวยาวขาวราวกับลำเทียน

“รู้สภาพของตัวเองดีอยู่แล้ว ไม่น่าให้ต้องตอกย้ำเลยยายเด็กใจแตก ชอบหนีพ่อแม่มาเที่ยวหาผู้ชายจนตัวสั่น”

“ไอ้...ไอ้ปากปีจอ!” เจอคำพูดหมาไม่รับประทาน ชมบุหลันถึงกับเดือดดาลจนเลือดขึ้นหน้า อยากต่อยหน้ายักษ์สองตัวให้คว่ำ แต่เมื่อเทียบหุ่นกันแล้ว...หนูกับราชสีห์ชัดๆ

“กลับไปได้แล้ว หน้าตาอย่างเธอ ยังไงซะคุณคีธเขาไม่สนใจหรอกนะ ไม่ต้องมาอ่อยยั่วให้ยาก”

สองมือเล็กยกขึ้นเท้าสะเอว ใบหน้าผ่องพรรณหงิกง้ำ นัยน์ตากลมใสวาวจ้าขึ้นมาทันควัน

“ถึงฉันไม่สวยแล้วไง” ไม่สวยแต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สักหน่อย ยังไงก็พอไปวัดไปวาได้ไม่อายพระเณรแล้วกัน

“ไปหนักส่วนไหนของคุณพี่สองคนมิทราบ โตแต่ตัวความคิดในหัวเท่าขี้ปลายเล็บแบบนี้นะซิ ถึงได้มาเป็นยามเฝ้าปากถ้ำ ยืนเป็นหมาน้ำลายยืดมองผู้หญิงสวยๆ คนแล้วคนเล่าเดินผ่านหน้าไป” กัดฟันพูดเสียงลอดไรฟัน

“กลับไปเลยยายปากเสีย หน้าตามู่ทู่เหมือนหมาจู คิดมาไต่เต้าเป็นคุณหญิง ไม่มองสารรูปเงาหัวตัวเองเลย”

ได้ยินแล้วปวดตับไตไส้พุง แล้วเธอเป็นคนประเภทยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ อีกทั้งต่อมความสงสัยกำเริบ อยากรู้นักไอ้คลับบ้านี่ซุกซ่อนอะไรไว้กันแน่ ถึงได้ทำเป็นลับลมคมในเสียเหลือเกิน

พอรู้มาบ้างว่าคนที่เข้าไปข้างในได้อย่างหนึ่ง คือต้องมีคนแนะนำพาเข้าไป อีกส่วนก็เป็นพวกเงินถุงเงินถัง คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ชอบละลายเงินไปกับเรื่องไร้สาระ

ฮึ! นี่ไงเธอเข้ามาได้แล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกต่างจากสถานเริงรมย์ที่ผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาเพื่อเร่ขายศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงสักนิด

เห็นเหล่าแมลงเม่าน้อยใหญ่ที่บินหลงเข้ามาในดงแสงสี กว่าจะรู้ตัวว่าต้องสูญเสียเวลาไปกับสิ่งไร้ค่า ก็เมื่อวันเวลาล่วงเลยจนเรียกคืนกลับไม่ได้ ชมบุหลันก็แบะหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายระคนสงสาร

เออ...แล้วนี่เธอมาปลงอะไรกับเรื่องของคนอื่นกันละนี่ อีกอย่างถึงเข้ามาได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ปลอดภัย เกิดอีตาสองยักษ์เฝ้าประตูเกิดความสงสัย เดินเข้ามาหาดู เจอเธอเข้าละก็...เธอคงต้องแปลงร่างเป็นหมูขนุน กลิ้งหลุนๆ คลุกไปบนพื้นถนน เพราะถูกจับโยนออกไป!

ชมบุหลันรีบปรับสายตาให้เข้ากับแสงไฟที่สาดส่องมาชวนเวียนศีรษะ เสียงทุ้มดังกระหึ่มราวกับกระชากหัวใจให้หลุดออกจากอกสลับแหลมเล็กที่เสียดแทงเข้ามาในช่องหูจนต้องหรี่ตา ด้วยเกิดอาการปวดศีรษะเหลือจะกล่าวได้

“เสียงดังอย่างกับระเบิดลง สนุกตรงไหนทำไมถึงชอบมากันนักก็ไม่รู้” คนไม่ชอบเที่ยวตามสถานที่เริงรมย์บ่นพึมพำ

สำหรับเธอ...การได้ท่องเที่ยวไปกับเหล่าตัวอักษรที่ร้อยเรียงเป็นเรื่องราว อย่างหนังสือนิยายรักหวานแหวว นางเอกเป็นนางซินก้นครัว มีชีวิตตกทุกข์ได้ยาก ได้เจอกับพระเอกหนุ่มรูปหล่อฐานันดรสูงศักดิ์ พบรักและร่วมฝ่าฟันก่อนครองรักอย่างมีความสุข

บ้างก็ฉีกแนวไปเป็นพระเอกโหด ดิบ เถื่อน กระชากนางเอกที่แม้เพลี่ยงพล้ำก็ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็พ่ายแพ้ถูกจับทุ่มลงนอนแล้วปู้ยี่ปู้ยำ คลุกดินเปื้อนฝุ่น บ้างก็บนเตียงใหญ่ยักษ์ ให้อรรถรสสนุกไปอีกแบบเป็นไหนๆ

สองมือนุ่มยกขึ้นตบศีรษะตัวเองเบาๆ เรียกสติที่ไพล่คิดไปถึงนิยายชุดใหญ่ที่เพิ่งได้รับเป็นของสำหรับขอบคุณจากปาวรินทร์...

เป็นอะไรที่แปลกมากสำหรับคนตาแข็งค้างที่ต้องอ่านจบไปเป็นเรื่องๆ ถึงจะหลับได้ ทว่าเพียงแค่เปิดอ่านนิยายไปได้ไม่ทันถึงครึ่งเรื่อง ถึงฉากนางเอกกำลังถูกโยนไปบนแคร่ไม้ไผ่ กระชากดึงทึ้งเสื้อผ้าออกหรือเข้าพระเข้านางตอนใด เหมือนมีบางอย่างดึงหนังตาให้ปิดลง ความคิดเริ่มลอยไปในภวังค์กึ่งฝันกึ่งตื่น...

โอ๊ย! เป็นอะไรไปนี่ยายไผ่หลิว อยู่ๆ ถึงได้คิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ขึ้นมาได้

อ๋อ...หรือเป็นเพราะแสงสีชวนเวียนศีรษะและดนตรีที่ดังกระหึ่ม เมื่อฟังไปนานก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปโดยไม่ทันรู้ตัว

ชมบุหลันหยิกเนื้อตัวเองเบาๆ เรียกสติที่กำลังเพริดคืนกลับมา เริ่มต้นกวาดสายตาตามหา...บางคนที่จะให้คำตอบในสิ่งที่เธออยากรู้

“อยู่ตรงมุมไหน พี่รีก็ไม่บอกไว้ด้วยซิ” ชมบุหลันบ่นพึมพำหลังจากกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วนอกจากเหล่าสาวงามในเสื้อผ้าน้อยชิ้น โยกย้ายส่ายสะบัดกายอรชรยั่วยวนชายกลุ่มใหญ่ที่มีทั้งหนุ่มไปถึงวัยกลางคนยกนิ้วขึ้นกวักเรียก เท่าที่เห็นไม่มีใครตรงกับคำพูดของ...ปาวรินทร์สักคน

“เชื่อไหมไผ่หลิว เพียงแค่ได้เห็นแผ่นหลังกว้างอยู่ไกลๆ พี่ก็รู้สึกเหมือนกับว่าพื้นใต้เท้าที่ยืนอยู่สั่นสะเทือน รอบข้างทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว หัวใจแทบหยุดเต้นเลยเชียวล่ะ” ปาวรินทร์เอ่ยเล่าด้วยน้ำเสียงหวานใส ไม่แพ้นัยน์ตากลมใสที่อยู่ในภวังค์เพ้อฝัน

คางมนวางบนสองมือยกขึ้นเท้าบนโต๊ะไม้หินอ่อน “คนอะไรก็ไม่รู้...ดูลึกลับแต่ชวนค้นหา อีกทั้งน่าปรารถนาอย่างร้ายเชียว” กลีบปากสีชมพูสดคลี่ยิ้มอย่างกับคนที่เอ่ยถึงมายืนส่งยิ้มอยู่เบื้องหน้า

ตอนแรกก็ไม่สนใจ แต่ได้ยินบ่อยครั้งเข้าบวกคำพูดแปลกๆ ก็ชวนให้อยากรู้ขึ้นมาตงิดๆ

ชมบุหลันวางหนังสือนิยายในมือลง มองพี่สาวใจดีที่ยอมให้เธออยู่ร่วมบ้านด้วยอย่างไม่รังเกียจเดียดฉันท์ ที่เปลี่ยนไปทุกวัน จากที่เคยสดใสร่าเริง ไม่ว่าใครอยู่ด้วยแล้วสบายใจและยิ้มได้เสมอ แต่คนที่เธอเห็นในตอนนี้ นัยน์ตาเพ้อฝันตกอยู่ในภวังค์รัก ที่เห็นแล้วหม่นหมองและอึดอัดชวนหายใจไม่ออก

“ใครกันนะ ทำให้พี่สาวคนสวยของไผ่หลิวเป็นแบบนี้ได้”

ไม่ให้เกิดความสงสัยได้อย่างไรกัน ในเมื่อปาวรินทร์เปรยอยู่บ่อยๆ จะมีคนรักทั้งที ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้เป็นป้า ทว่าหลังจากที่ไปงานวันเกิดเพื่อนกลับมา พี่สาวคนนี้ก็เปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยใช้ทุกวันอย่างมีความสุข กลับป้ำเป๋อเหลอเฝ้ารอให้ถึงวันศุกร์และเสาร์อย่างใจจดใจจ่อ เพื่อไปเที่ยวคลับที่ตอนเธอได้ยินชื่อครั้งแรก ถึงกับยกมือลูบแขนไม่ทัน เพราะความหนาวในหัวใจ คลับบ้าอะไรก็ไม่รู้ ชื่อชวนสยิวกิ้ว พานทำให้ไหวหวั่นหัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันควัน

“พี่รี...” ชมบุหลันร้องเรียก ยื่นมือไปจับแขนปาวรินทร์เขย่าเบาๆ เมื่อคำถามไม่ได้รับคำตอบ ด้วยคนถูกถามนั่งเหม่อลอย ยิ้มกับสายลมและแสงแดด ใจคอหรือก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวลอยละล่องไปหาใครก็ไม่รู้ เห็นแล้วชวนวิตกกังวลอย่างผู้เป็นป้าของอีกฝ่ายกำลังกลุ้มอกกลุ้มใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะกลัวหลานสาวแสนสวยอย่างนกน้อยไม่ทันคนจะถูกหลอกให้รัก เมื่อได้สมปรารถนาก็สลัดทิ้งอย่างไม่ไยดี

“หือ...มีอะไรไผ่หลิว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel