บท
ตั้งค่า

EP 12 | เสือกินมังฯ

@สมจิต แมนชั่น

บอสเงยหน้าขึ้นมองแมนชั่นเจ็ดชั้นตรงหน้าด้วยสายตาไม่ไว้วางใจเลยสักนิด นอกจากมันจะเก่ากว่าที่เขาคิดเอาไว้ ระบบรักษาความปลอดภัยยังเท่ากับศูนย์อีกด้วย

“เธอเรียกมันว่าหอพักจริงๆ เหรอ”

“ค่ะ ก็หนูพักที่นี่”

แครอทตอบกลับไปแบบงงๆ ก็ในเมื่อเธอพักอยู่ที่นี่ถ้าไม่ให้เรียกหอพักจะให้เรียกว่าอะไร

“ฉันคิดว่าบ้านผีสิง”

“อ่ะ! ค่ำมืดแบบนี้อย่าพูดเรื่องผีสิคะ”

เสียงหวานดุขึ้นเล็กน้อยจนคนพี่เห็นไปมองก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ แมนชั่นเริ่มมีความรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาบ้างแล้ว

“งั้นก็เดินดีๆ ล่ะ”

คนตัวเล็กหันไปจ้องหน้าพี่ตาขวาง ก็เขาแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงยานๆ เพราะต้องการแกล้งหลอกผีเธอน่ะสิ

“ขอบคุณที่มาส่งค่ะ!”

แม้จะเอ่ยขอบคุณพร้อมยกมือขึ้นไหว้ตามมารยาทแต่น้ำเสียงกระแทกกระทั้นก็ทำให้คนฟังรับรู้ได้ว่าเธอกำลังประชดเขาอยู่

“เดี๋ยว!”

ความมือไวเป็นนิสัยทำให้บอสคว้าแขนเรียวเอาไว้ก่อนที่เธอจะเปิดประตูลงจากรถ แครอทหันกลับมามองหน้าเขาพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ยังหาเรื่องแกล้งเธอไม่เสร็จอีกหรือไง

“เธออยู่ห้องไหน”

“ถามทำไมคะ”

แครอทถามกลับอย่างรวดเร็วจนลิ้นแทบจะพันกัน ใบหน้าจิ้มลิ้มแสดงออกถึงความไม่ไว้ใจอย่างชัดเจน

“ฉันไม่ขึ้นไปปล้ำเธอหรอก มันเป็นหอหญิง ตลกป่ะ!”

“ห้องเจ็ดศูนย์เจ็ดค่ะ”

คนน้องยอมตอบอย่างจำใจเพราะจะได้ลงจากรถเขาเสียทีตอนนี้ค่ำมากแล้ว รายงานเธอก็ยังไม่ได้ทำ น้ำก็ยังไม่ได้อาบ

“พรุ่งนี้เรียนกี่โมง”

“เก้าโมงค่ะ”

“แปดโมงครึ่งลงมารอตรงนี้”

“พี่จะ...”

“ถ้าฉันมาแล้วไม่เจอ ฉันตามไปจับเธอโยนลงมาจากตึกคณะแน่”

“ค่าาาาาาา!”

แครอทสูดลมหายใจเข้าก่อนจะตอบกลับแบบยาวๆ ด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่มือหนาก็ไม่ยอมปล่อยแขนเธออยู่ดีแถมสายตาของเขาก็เอาแต่จ้องริมฝีปากของเธอ

‘จะหาเรื่องเหน็บแนมอะไรกันอีกล่ะ’

“หนูลงได้หรือยังคะ”

“ก็ลงไปสิ”

คนตัวเล็กเงียบลงแต่ใช้สายตามองไปยังมือของเขาเพื่อให้เขารู้ตัวว่ายังไม่ได้ปล่อยมือออกจากแขนของเธอ

บอสรีบกางมือออกและตีสีหน้าเรียบนิ่งแก้เก้อที่ตัวเองจับแขนเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยแถมใบหน้าหล่อเหลายังหันซ้ายหันขวาก่อนจะหยิบขวดสเปรย์แอลกอฮอล์ขึ้นมาฉีดมือตัวเอง

“ติดเชื้อหรือเปล่าก็ไม่รู้”

แครอทก้าวขาลงจากรถกำลังจะปิดประตูได้ยินประโยคเหน็บแนมของเขาถึงกับแบนปาก คนอะไรปากร้ายยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก

“ระวังเชื้อหนูจะเข้ากระแสเลือดแล้วช็อกตายนะคะ!”

ปึง!

เสียงปิดประตูดังขึ้นอย่างรวดเร็วหลังคนตัวเล็กพูดประโยคประชดประชันจบ แถมเจ้าตัวยังรีบวิ่งเข้าหอพักราวกับกลัวว่าคนตัวโตจะลงไปจัดการเธอ

“ยัยตัวแสบ!”

บอสมองตามร่างเล็กเดินเข้าหอพักไปจะสุดสายตาก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ กับท่าทางของเธอ จู่ๆ ก็นึกย้อนไปถึงภาพที่เธอเงยหน้าขึ้นมาจุ๊บเขา ภาพที่เธอส่องสายตาอ้อนวอนให้เขาช่วยซ่อมรถ ภาพใบหน้าจิ้มลิ้มที่เลอะไปด้วยควันสีดำและภาพเธอตอนหัวเราะออกมาอยากสดใสที่ได้เหน็บแนมเขา

“เฮ้ย! เป็นบ้าอะไรของมึงวะหรือเชื้อยัยเด็กบ๊องนั้นจะเข้ากระแสเลือดจริงๆ”

ใบหน้าหล่อเหลาสะบัดศีรษะแรงๆ หวังจะเรียกสติสัมปชัญญะของตัวเองกลับมาก่อนจะรีบถอยรถออกจากสมจิตแมนชั่นและขับกลับไปยังโรงแรม The one hotel ซึ่งเขาพักอยู่ชั้นสูงสุดของที่นั่นมากกว่าอยู่บ้าน

@คณะวิศวกรรมศาสตร์

ปึง!

เสียงโยนหนังสือลงกลางโต๊ะดังขึ้นทำให้เพื่อนทั้งสองคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าหันไปมองด้วยความไม่เข้าใจ

“เป็นเหี้ยไรวะ หน้าตาหงุดหงิดตั้งแต่เช้า”

กายเอ่ยถามด้วยความสงสัย ช่วงนี้เพื่อนสนิทของเขามักจะมีอาการแปลกๆ ชอบทำตัวเหมือนคนวัยทองอารมณ์แปรปรวน

บอสมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างแทนด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงเหมือนเดิม

จะไม่ให้เขาหงุดหงิดได้ยังไงในเมื่อเขาอุตส่าห์ตื่นแต่เช้าเพื่อขับรถออกจากโรงแรมไปที่สมจิตแมนชั่นแถมนั่งรออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววว่าแครอทจะเดินลงมา

เขาโทรหาเธอก็ไม่รับไลน์ไปก็ไม่อ่าน นี่เธอกล้าท้าทายอำนาจมืดเขาขนาดนี้เลยเหรออยากจะโดนเขาจับโยนลงมาจากตึกจริงๆ สินะ

“ไม่รู้สักเรื่องได้มะ”

“เอ้า! กูถามดีๆ มึงจะพาลใส่กูเพื่อ!”

กายยกมือขึ้นเกาศีรษะพลางทำหน้างอนใส่เพื่อนสนิทของตัวเองหรือว่าช่วงนี้มันจะของขาดเพราะเขาไม่เห็นว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อนจะควงสาวคนไหนเลย

“ของขาดเหรอวะ”

“ไอ้กาย! เสืออย่างกูไม่เคยของขาด”

“ไม่ขาดหรอก แค่ช่วงนี้มันกินมังฯ”

แทนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแถมสายตาของเขายังคงจดจ่ออยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์เพราะกำลังแชทคุยกับแฟนสาวของตัวเอง

“กินมังฯไรวะ”

กายรีบขยับมานั่งตรงหน้าแทนพลางยื่นหน้าเข้าไปถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น บอสเห็นท่าทางของเพื่อนก็เข้าใจได้ทันทีที่ว่าทำไมมันถึงคบกับเฟิร์นเพื่อนสมัยมัธยมของเขาได้นาน

‘ขี้เสือกเหมือนกันนี่เอง!’

“เสือมันอยากกินผักไง”

แทนกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับเงยหน้าขึ้นตอบกายก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าตัวด้วยสายตารู้ทัน เล่นเอาบอสเกือบเก๊กหน้าให้เรียบนิ่งเอาไว้ไม่ทัน

“กูเป็นเสือเว้ย! กินเนื้อไม่ชอบกินผัก”

แม้จะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงมั่นใจแต่บอสก็ยังได้รับรอยยิ้มเยาะเย้ยจากเพื่อนทั้งสองคนกลับมาแทน

“แต่มึงเจอน้องแครอททีไร น้ำลายไหลทุกที”

กายพูดพลางยกนิ้วโป้งและนิ้วชี้ลูบคางตัวเองด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์สุดๆ เล่นเอาคนที่เพิ่งเอ่ยคำตอบออกมาอย่างมั่นใจเริ่มเสียอาการ

“ไปตัดแว่นไปมึงอ่ะ! ยัยโบ๊ะนั่นห่างไกลสเป็กกูเยอะ”

“หึ!”

คำตอบที่แสนมั่นใจถูกตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะในลำคอของแทนเล่นเอาความมั่นใจเต็มร้อยก่อนหน้าลดฮวบลงทันที

“ไปเรียนดิวะ นั่งมองหน้ากูแล้วมีความรู้ขึ้นมั้ย!”

หนีสิครับรออะไรอยู่ พูดจบบอสก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินนำไปยังห้องเรียนของตัวเองทันที พักเที่ยงนี้เขาจะไปจัดการยัยโบ๊ะถึงที่เลยคอยดู เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรขัดคำสั่งเขา

••××××ו•

“เรียนวิชานี้เข็ดคอฉิบหาย”

กายบ่นพลางยกกำปั้นขึ้นทุบเบาๆ ไปตามต้นคอของตัวเอง ตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนกำลังเดินลงจากตึกสาขาอิเล็กทรอนิกส์เพื่อไปพักเที่ยงที่โรงอาหาร

“ไม่เข็ดคอได้ไง มึงนอนทั้งคาบ”

สาเหตุที่กายเข็ดคอไม่ใช่เพราะตั้งใจเรียนหรือนั่งชะเง้อแต่อย่างใด มันเป็นเพราะเขาฟุบหลับตลอดสองชั่วโมงครึ่งต่างหาก

“กินไรดีวะ”

“เตี๋ยวต้มยำศิลปศาสตร์”

บอสตอบกลับคำถามของกายแทบจะทันที จนเพื่อนทั้งสองคนของเขาหันมองหน้ากันอย่างรู้ทัน

ไม่ชอบ ไม่สเป็ก แต่ตามไม่ปล่อย

“พวกมึงมองหน้ากันทำไม กูอยากกินก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นผิดตรงไหนวะ”

“กูพูดไรซะคำยัง”

แทนตอบกลับคนร้อนตัวด้วยใบหน้าเรียบนิ่งแต่อีกฝ่ายกลับอ้าปากค้างเกิดอาการเหวอรับประทานขึ้นมาทันที

‘เป็นเชี่ยไรของมึงเนี้ยไอ้บอส!’

“ใจเย็นๆ เพื่อน เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา”

กายพูดปนขำพลางยกมือขึ้นตบไหล่บอสเบาๆ ก่อนจะเดินตามแทนออกไป ทิ้งให้ร่างสูงยืนหลับตาและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตั้งสติ

เมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงโรงอาหารคณะศิลปศาสตร์ สายตาคมก็กวาดมองหาเป้าหมายของตัวเองทันทีในขณะที่กายและแทนกำลังยืนมองหาโต๊ะนั่งกินข้าว

“นั่งตรงนั้นนะ”

“อืม”

แทนหันไปมองที่ว่างตามนิ้วของกายพร้อมกับตอบรับก่อนจะหันไปเอาชีทเรียนขึ้นตีหน้าผากบอสเพื่อเรียกสติ

ปึก!

“แดกข้าว”

“เออออ”

บอสเดินตามเพื่อนทั้งสองคนไปอย่างว่าง่าย ในขณะที่สายตายังคงสอดส่องหาคนตัวเล็กตลอดเวลาโดยที่เขาไม่รู้ตัว

“แครอทททท~ ทางนี้!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel