บทที่ 1
ปีสาม
"วันเสาร์ รอด้วยยยยย!" เสียงร้องตะโกนดังมาจากที่ไกลๆ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
"เซย่า อย่าตะโกนสิ อายเขา" เจ้าของร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นตามประสาคนยิ้มไม่เก่ง ถึงแม้จะทำหน้าตาบึ้งตึงเรียบนิ่งขนาดไหนก็ยังคงสวยหวานตามสไตล์ลูกเสี้ยวอเมริกัน ส่วนสูงกว่าร้อยเจ็ดสิบกับรูปร่างแบบบางราวนางแบบมักเป็นที่สนใจต่อคนรอบกาย และถึงจะมีคนให้ความสนใจมากมาย เจ้าตัวกลับไม่เคยมองใครเลยสักคน เพราะเอาแต่ตั้งใจเรียนอย่างเดียว
"ทำไมเดินเร็ว" คนที่วิ่งด้วยความเร็วที่สี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงมาหยุดยืนหอบตรงหน้า บ่นออกมาเบาๆแม้จะยังกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดไม่หยุด
เมื่อสาวสวยประจำคณะบริหารอยู่ด้วยกัน คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ได้แต่หยุดมองเป็นตาเดียว
เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง จนถึงตอนนี้ก็สามปีแล้วก็ยังไม่สามารถหยุดสายตาแบบนั้นได้ มันช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะทั้งสองถูกขนานนามว่าราชินีแห่งบริหาร คนหนึ่งสวยหวานดูเคร่งขรึมน่าค้นหา อีกคนน่ารักสดใสพูดเก่งอัธยาศัยดีแถมยังมีดีกรีนางแบบที่กำลังโด่งดัง ทั้งคู่ดูไม่น่าเป็นเพื่อนกันได้เพราะต่างกันคนละขั้ว แต่ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทที่รักกันมาตลอดสามปี
"บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่ง" คนหน้านิ่งพูดเบาๆเป็นการดุตามแบบฉบับของวันเสาร์ ที่มักจะจริงจังไปหมดเสียทุกเรื่อง
เพราะเป็นพี่ใหญ่ที่ต้องคอยดูแลน้องๆนั่นทำให้วันเสาร์เจ้าระเบียบ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าถอดแบบมาจากคุณย่าที่เสียไปแล้ว เป็นแบบนี้มานาน และแก้ยาก เซย่าจึงพยายามปรับตัวเข้าหา เคยมีทะเลาะกันบ้าง แต่เพราะเซย่าเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายกว่า ทำให้เซย่ามักจะเป็นฝ่ายเข้าหาวันเสาร์ก่อนเสมอ ซึ่งวันเสาร์เองก็พอจะรู้ว่าตัวเองมีข้อเสียที่ตรงนั้น ตรงที่มักเก็บทุกอย่างเอาไว้
"ไม่เอา ไม่บ่น ป่ะ ไปกินข้าวกัน" อีกฝ่ายฉีกยิ้มกว้าง แล้วคว้ามือออกแรงดึง วันเสาร์เดินตามไปอย่างว่าง่าย และส่ายหน้าเบาๆ
เซย่าเป็นคนอารมณ์ดี ร่าเริงและสดใสตลอดเวลา ถึงได้มีเพื่อนเยอะ ต่างจากเธอที่มีแค่เซย่าเท่านั้นที่อยากคุยด้วย คนอื่นๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องเรียน งาน หรือการบ้าน ก็คงไม่มีใครอยากคุยกับคนหน้านิ่งแบบเธอ
"อยากกินข้าวไข่เจียว" เซย่าดันให้วันเสาร์นั่งลงที่โต๊ะ แล้ววางกระเป๋าเอาไว้ ทำตาแพรวพราวมองซ้ายมองขวาหาร้านข้าวไข่เจียวหรืออาหารตามสั่ง
"ทำไมวันนี้มานิเทศน์ฯล่ะเซย่า" วันเสาร์มองไปรอบๆด้วยแววตาไม่คุ้นชิน
ปกติพวกเธอจะกินข้าวที่โรงอาหารของคณะอักษร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริหารมากนัก หรือไม่ก็ออกไปกินที่หลังมหาลัย วันเสาร์ไม่คุ้นชินกับสายตาที่แปลกออกไป เลยรู้สึกประหม่าขึ้นมา
"เปลี่ยนบรรยากาศไง กินที่อักษรมาสามปีแล้ว ไม่เบื่อเหรอ" เซย่าหันมาทำตาแป๋ว พูดเจื้อยแจ้วตามประสาคนช่างพูด สายตาก็กวาดมองไปรอบๆ จนประทะเข้ากับใครบางคนแล้วก็เอาแต่ยิ้มกว้างอ้าปากหวอโบกไม้โบกมือจนวันเสาร์งุนงง แล้วจู่ๆก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาคนที่โบกมือให้
"เซย่า ทำอะไร" วันเสาร์ถามเบาๆแต่เซย่าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
มีแต่คนมองเต็มไปหมดแล้วเนี่ย ก็เข้าใจว่าเซย่ามีชื่อเสียง แต่มันก็ไม่ชินเสียที อยู่ด้วยกันมาสามปีไม่เคยชินกับสายตาแบบนั้นเลย
"ยัยตัวแสบ มาได้ยังไงเนี่ย" แล้วทุกอย่างก็เฉลยเมื่อมีชายร่างสูงหน้าตาดีเดินเข้ามายกมือยีหัวเซย่าจนยุ่งเหยิง รอยยิ้มกว้างของอีกฝ่ายทำเอาวันเสาร์มองด้วยความแปลกใจ
'นั่นมัน....'
วันเสาร์ทำตาโต หัวใจดวงน้อยเต้นระทึกขึ้นมาทันที ตัวชาหนึบแบบไร้สาเหตุ พอเขาคนนั้นเลื่อนสายตาจากสาวสวยตรงหน้ามาที่เธอ วันเสาร์ก็รีบเบนสายตาหนีฉับพลัน
"พี่สิงห์ ผมยุ่งหมดแล้วเนี่ย ไม่เล่น" เสียงหัวเราะหยอกเย้าดังไปทั่วบริเวณเรียกสายตาจากคนที่อยู่ในโรงอาหาร แม้แต่วันเสาร์เองก็มองอึ้งๆ อดสงสัยไม่ได้ แม้ปกติเซย่าจะอัธยาศัยดี และคุยเก่ง แต่ก็ไม่เคยให้ใครเข้าใกล้ได้ขนาดนี้ แสดงว่าต้องสนิทกันมาก
"โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว" ชายหนุ่มคนเดิมละมือที่ยีหัวเซย่าไปเท้าเอวแทน เขายังคงมองมาที่วันเสาร์เป็นระยะ แต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่ก้มหน้าหรือไม่ก็เสมองไปทางอื่น ไม่ยอมสบตากัน
"เออ พี่สิงห์ มานี่ค่ะ" เซย่ามองตามสายตาของชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้า แล้วลากเอาตัวมายืนใกล้ๆโต๊ะที่อีกคนนั่งอยู่
"วันเสาร์ นี่พี่สิงห์ พี่ข้างบ้านเซเอง พี่สิงห์นี่วันเสาร์ค่ะ เพื่อนสนิทของเซ คนนี้เซรักมาก" เซย่าแนะนำทั้งคู่ด้วยท่าทางสดใส มือยังเกาะแขนของสิงห์เอาไว้ไม่ยอมปล่อย สายตาที่มองมาให้ความรู้สึกหลากหลาย วันเสาร์มองสิงห์ตาปริบๆ รู้สึกประหม่าขึ้นมาทั้งที่ปกติไม่เคยเป็นกับใคร
"เอ่อ สวัสดีค่ะ" ในความประหม่านั้น สั่งให้ใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร คนตรงหน้าฉีกยิ้มกว้างอย่างมีเสน่ห์ หน้าตาเขาหล่อคมเข้ม ผิวสีน้ำผึ้งสวยรับกับดวงตาคมรีสีน้ำตาล ผมทรงอันเดอร์คัทถูกมัดรวบเอาไว้ที่กลางหัว มันดูดีอย่างบอกไม่ถูก
"พี่ไปก่อนนะ มีเรียน" เขาละสายตาจากคนหน้านิ่ง แล้วยกมือวางบนหัวของเซย่าเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกลุ่มเพื่อนที่ยืนรออยู่
บรรดากลุ่มเพื่อนต่างเอ่ยแซวและพูดคุยกันเสียงดัง เซย่าโบกมือลาจนกระทั่งอีกฝ่ายลับตาไป
"พี่สิงห์หล่อเนอะ" เซย่าหันมายิ้มกว้างให้วันเสาร์ คนที่กำลังปรับระดับการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ
"อืม...." ตอบออกไปคล้ายว่ากำลังละเมอ
"พี่สิงห์อยู่ข้างบ้านเซเอง รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ นี่ไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกา เพิ่งกลับมา พี่สิงห์ยังโสดนะ เผื่ออยากรู้" คนตรงหน้าทำตาแพรวพราวคล้ายจะรู้เท่าทันความคิดของเพื่อนสนิท
ภายใต้หัวใจที่สั่นไหว เธอยังคงใบหน้าเรียบนิ่งเช่นนั้น จนเซย่าถอนใจพรืดยาว
"ไม่สนุกเลยไปซื้อข้าวดีกว่า"
วันเสาร์มองตามเพื่อนสนิทไป ก่อนจะนึกถึงใบหน้าเปื้อนยิ้มของคนที่เพื่อนเพิ่งแนะนำ แต่แล้วก็รีบสะบัดหัวแรงๆ เพื่อไล่ใบหน้าคนนั้นออกไป
