บท
ตั้งค่า

บทที่7

“ลูกมีพ่อแม่ฉัน ไหนจะไอ้คามกับปู่อีก ยังต้องห่วงอะไรอีก ห่วงตัวเองก่อนดีไหม ถ้าเกิดเธอล้มป่วยไปอีกคนใครจะดูแลลูก” อาจเพราะน้ำเสียงที่เขาใช้มันอ่อนโยนลงค่อนข้างมากเธอถึงได้ยอมพยักหน้ารับอย่างคนไม่มีทางให้ได้เลือกมากนักไปในที่สุด

ทั้งสองใช้เวลาไม่นานก็กลับถึงบ้าน ก่อนที่พรรณรีจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปอาบน้ำก่อน กลับออกมาอีกครั้งเธอก็พบว่าพ่อของลูกผล็อยหลับไปแล้ว ถึงขยับเข้ามาห่มผ้าให้ก่อนจะขยับลุกเบาๆ

“จะไปไหน!” กลับเป็นคชาเสียเองที่ไม่ยอมให้อีกคนจากไปเขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับรั้งร่างบางให้ล้มลงมานอนบนเตียงด้วยกัน

“เอ่อ…นาจะไปนอนที่ห้องเล็กค่ะ”

“นอนที่นี่แหละ!” ครั้นเธอทำท่าจะปฏิเสธ อ้อมกอดแกร่งก็ออกแรงรัดกันแน่นขึ้น นั่นเลยทำให้เธอหมดทางหนี จำต้องนอนนิ่งๆ อยู่ในอ้อมกอดของเขาต่อไป

“นอน! หรืออยากให้ฉันกล่อมนอนแบบคืนนั้น” คนถูกถามสะบัดหน้าไปมาแทบจะทันทีก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงยามเมื่อเผลอนึกไปถึงคืนนั้นที่ว่า ซึ่งมันเป็นคืนที่เธอแทบไม่ได้นอนทั้งคืน

หลังจากได้หลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม พรรณรีกับคชาก็กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งในช่วงค่ำเพื่อเปลี่ยนให้คุณสินีนาถกลับไปพักบ้าง ในส่วนของคนอื่นๆ นั้นก็เพิ่งจะทยอยกลับไปก่อนหน้าพวกเขาได้ไม่นาน เพราะนายหญิงของบ้านบอกว่าเอาอยู่

ซึ่งก็เหมือนว่าท่านนั้นจะเอาอยู่ ตามที่ลั่นวาจาเอาไว้จริงๆ

“แม่ให้กินนม นี่ก็เพิ่งจะหลับไปก่อนหน้าพวกเธอจะเข้ามาได้ไม่นาน หมอมาตรวจแล้ว บอกว่าไข้เริ่มลดลงบ้างแล้ว อีกวันสองวันคงกลับบ้านได้” เป็นคชาที่พยักหน้ารับพร้อมกล่าวขอบคุณแทนอีกคน ที่ก็ได้แต่พนมมือไหวแม่ของเขาไม่ยอมหยุด

“ขอบคุณครับแม่”

“พรุ่งนี้แม่จะมาแต่เช้า” พรรณีไม่ได้พูดอะไรนอกจากยืนรอจนกระทั่งแม่สามีเดินออกไปจากห้อง เธอถึงขยับเข้าไปหาลูก

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสได้เห็นแกล้มป่วย ใจคนเป็นแม่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดจนพาลไปถึงขั้นโทษตัวเองที่ดูแลแกไม่ดี

“ร้องไห้ทำไม” เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองร้องไห้ จวบจนวินาทีที่คนข้างกายนั้นเอ่ยถามขึ้น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน

“นาแค่รู้สึกผิดค่ะ…ที่ดูแลลูกไม่ดี ตัวแกเล็กแค่นี้ จะทรมานมากไหมคะ” คำถามนั้นเขาคงตอบให้เธอไม่ได้ แต่เรื่องที่ว่าดูแลลูกได้ไม่ดีพอนั้น เขาสามารถยืนยันได้ว่ามันไม่จริงเลย!

เธอดูแลลูกได้ดี

ดีเกินอายุอันน้อยนิดของตัวเองด้วยซ้ำ!

แม้จะบอกตัวเองว่าไม่ต้องไปสนใจ แต่บ่อยครั้งที่เขาแอบเห็นว่าตั้งแต่ลูกคลอด พรรณรีก็แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลยสักวัน นั่นยังไม่รวมไปถึงเวลาพักผ่อนที่ก็แทบเหลือน้อยลงทุกชั่วขณะ เพราะลูกตื่นไม่เป็นเวลา ยิ่งในช่วงดึกๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง!

กลับเป็นเขาเองเสียมากกว่า ที่ยังคงกินอิ่มนอนหลับสบาย ในขณะที่ภรรยา กว่าจะเข้านอนได้ก็ตอนที่ลูกหลับไปแล้วเท่านั้น

“นี่มะขิ่น จากนี้ไปเขาจะมาช่วยเธอดูแลเรื่องต่างๆ ภายในบ้าน” ทันทีที่ลูกได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ พรรณรีก็ต้องตกใจเมื่อพบเข้ากับภาพของใครบางคน ที่พ่อของลูกแนะนำให้ได้รู้จัก

“เรื่องนี้คุณแม่ท่านเป็นคนจัดการ ถ้ามีปัญหาก็ไปพูดกับท่านเอาเอง” พอรู้ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้เธอก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก สุดท้ายก็ได้แต่หันไปส่งยิ้มให้อีกคนแทน

การมาของพี่มะขิ่นทุ่นแรงเธอได้มากทีเดียว อีกฝ่ายไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเท่านั้น แต่ยังเว้นระยะห่างให้เธอมีโอกาสได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเองอย่างที่ใจเธอต้องการอีกด้วย จะมีบ้างที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเพราะเธอเป็นฝ่ายร้องขอ และเพราะเป็นอย่างนั้น การอยู่ร่วมกันระหว่างเธอกับอีกฝ่ายถึงเป็นไปได้ด้วยดี

ไม่ได้อึดอัดใจอย่างที่แอบคิดเอาไว้ในตอนแรก

“คุณนาทำขนมขายด้วยเหรอคะ”

“ค่ะ นาไม่อยากอยู่เฉยๆ ก็เลยลองผิดลองถูกไปเรื่อย จนมาถึงขนมไทยนี่แหละค่ะ ที่นาทำได้ดีที่สุด” ซึ่งกว่าจะหาความชอบของตัวเองเจอนั้นเธอก็ใช้เวลาตามหามันนานอยู่ร่วมปี

แต่ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนชีวิตเธอได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

“อร่อยจัง” อีกฝ่ายเอ่ยปากชมทันทีที่หยิบขนมขึ้นมาลองชิม ซึ่งรสชาติของมันก็อร่อยมากเสียจนเธออดทึ่งไม่ได้ที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ซึ่งอายุรึก็เพียงเท่านี้แต่กลับทำทุกอย่างได้อย่างไร้ที่ติ

“ส่วนของเรานาแบ่งไว้ในตู้เย็นนะคะ ถ้าพี่มะขิ่นหิวก็หยิบเอาออกมากินได้เลย” มะขิ่นได้แต่ยิ้มรับในความมีน้ำใจของอีกคน เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่ได้มาอยู่บ้านนี้ เพราะนอกค่าจ้างจะมากกว่าที่อื่นๆ แล้วนั้น เจ้านายสาวยังใจดี มีเมตตามากด้วย ต่างจากบ้านอื่นที่มักจะชอบกดขี่กันด้วยชนชั้นที่ต่ำกว่า

ไม่นานจากนั้นเสียงรถที่แสนคุ้นหูก็ดังขึ้น ก่อนภาพของสามีจะปรากฏขึ้นต่อสายตาหลังจากนั้น พร้อมๆ กับเสียงที่ดังขึ้น

“เดี๋ยวขึ้นไปช่วยเก็บกระเป๋าให้หน่อย คืนนี้ฉันต้องบินไปประชุมงานที่จีน” เขากล่าวเพียงเท่านั้น ก่อนจะใช้เวลาที่เหลือมองหน้ากันด้วยสายตาที่แปลกไปจากทุกวัน ซึ่งมันทำให้เธอต้องก้มหลบก่อนจะเอ่ยถามกลับไปเบาๆ

“คุณคีจะไปนานไหมคะ”

“หนึ่งเดือน” เกิดกลายเป็นความวูบโหวงขึ้นแปลกๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองจะไม่ได้เห็นหน้าเขาเป็นเดือน ถึงจะรู้สึกแบบนั้นหญิงสาวก็ยังบังคับให้ตัวเองปรับท่าทีให้เป็นปกติ ก่อนจะฝากลูกไว้กับมะขิ่น เพื่อที่เธอจะได้มีเวลามากพอขึ้นมาจัดกระเป๋าให้เขา

คชาเป็นคนขี้ร้อน เพราะฉะนั้นเสื้อกันหนาวเอาไปสักสามตัวกำลังดี ในส่วนของครีมต่างๆ ก็คงต้องเตรียมไปเยอะหน่อยเพราะพ่อของลูก ค่อนข้างให้สำคัญกับผิวหน้ามากกว่าส่วนอื่นๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel