5. เกือบไปแล้ว
หลังจากบ่นให้อีกฝ่ายแล้ว ม่ายจือก็เดินมาที่บ่อน้ำทรงกลมซึ่งมีกลีบดอกไม้ลอยคละเคล้ากันจนเต็มผืนน้ำ ทำให้คนอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อครู่ มีดวงตาเปล่งประกายขึ้นมาทันที
“น้ำอุ่นกำลังดีเลย” ยิ้มกริ่มเมื่อยื่นมือลงไปสัมผัส จากนั้นก็หันมาถอดอาภรณ์ที่สวมอยู่ออกจนหมด แล้วหยิบผ้าขาวที่วางอยู่มาพันห่อหุ้มร่างกายแทน ไม่นานร่างเย้ายวนก็แช่อยู่ในบ่อน้ำ ม่ายจือเพลิดเพลินกับกลีบดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล จนไม่ทันสังเกตุเห็นว่าสามีของตนนั้นกำลังยืนกอดอกมองอยู่
หยวนจิ้งยิ้มกริ่มมองฮูหยินตนกำลังกอบเอากลีบดอกไม้โยนขึ้น ซึ่งมันมีน้ำติดมาด้วย ทำให้เหมือนฝนกำลังตกลงมา
“ดึกแล้ว แช่นานไปจะไม่ดีนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พร้อมกันนั้นร่างสูงก็ยังเดินมาหยุดที่โต๊ะวางชุดด้วย ยืนกอดอกมองฮูหยินตัวน้อยที่อายจนแก้มขึ้นสีเรื่อแล้วในยามนี้
“อะ…ออกไปนะคนชีกอ” ต่อว่าแล้วรีบหันหลังให้ นึกอายสายตาโลมเลียของสามีที่เผยให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง มือก็จับปมผ้าบนอกเอาไว้แน่น ไม่กล้าหันกลับมามองว่าเขาไปหรือยัง
ทว่าไม่กี่อึดใจต่อมา นางก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อมีมืออุ่นจับลงที่ไหล่ทั้งสองข้าง คนไม่เคยโป๊ต่อหน้าบุรุษถึงกับตัวสั่นเทา เพราะท่านโหวไม่ใช่แค่จับ แต่ยังแนบริมฝีปากลงมาสูดดมด้วย
“หอม” เขาพึมพำออกมา ก่อนจะซุกใบหน้าลงที่ซอกคอขาวอีก มือก็เลื่อนลงมาตามไหปลาร้าจนถึงเนินอกอวบที่ล้นผ้า บีบขยำมันอย่างที่ใจปรารถนา จนคนตัวเล็กต้องรีบร้องท้วง
“อ๊ะ!...อย่านะเจ้าคะ ไหนบอกจะไม่…อื้อ” เสียงแหบพร่าขาดหายไปแล้ว เพราะริมฝีปากอิ่มแดงเรื่อถูกฉกชิมก่อนจะได้ตำหนิอีก หยวนจิ้งไม่เปิดโอกาสให้นางต่อต้านได้เลย
คราแรกก็หมายจะรอให้ม่ายจือพร้อมก่อน ทว่าเห็นแบบนี้แล้วเขาอดใจไม่ไหวจริง ๆ อย่างไรเสียนางก็เป็นภรรยาเขา ร่วมรักกันวันนี้หรือวันไหนมันก็ไม่ต่างกันหรอก
ม่ายจือถูกยกขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนร่างของสามี ซึ่งด้านบนเขาไม่ได้สวมอาภรณ์ติดกายไว้ เผยมัดกล้ามเนื้อแน่นให้ได้สัมผัส พาใจดวงน้อยเตลิดไปไกลจนลืมสิ้นสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้
กำหนัดของหนุ่มสาวชักพาให้ทั้งคู่ทำในสิ่งที่สามีภรรยาควรปฏิบัติ แรงดึงดูดของความต้องการแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ยิ่งเนื้อกายได้สัมผัสกันมันยิ่งสร้างความวาบหวามจนหยุดไม่ได้
นิ้วขาวสอดเข้ากลุ่มผมสามีอย่างตั้งใจ อีกข้างก็จับตรึงต้นแขนเขาแน่น เมื่อริมฝีปากหนาดูดกลืนเม็ดไตสีสดของนาง พร้อมกับขยำสะโพกกลมใต้น้ำให้เคลื่อนตัวเข้าหามังกรที่ตื่นตัว กระตุ้นความต้องการจนม่ายจือไม่อาจต่อต้านได้อีกต่อไป มีแต่แอ่นอกกลมกลึงให้เขาเชยชมจนมันขึ้นสีแดงปลั่ง
“หวานเหลือเกินเมียพี่” เสียงแหบพร่าเอ่ยชม
ดวงตาของทั้งคู่ปรือเยิ้มไม่ต่างกัน เมื่อผู้ที่กำลังตวัดดูดเลียเม็ดไตเงยหน้าขึ้นมามอง สร้างความรัญจวนให้กับคนบนตัวยิ่งนัก เหตุใดนางถึงไม่ต่อต้านเขาให้มากกว่านี้กันนะ
หลี่ม่ายจือ เจ้าช่างใจง่ายเสียจริง
หยวนจิ้งยกยิ้มพอใจกับภาพตรงหน้า คนตัวเล็กไม่ได้เอ่ยต่อว่าอันใดเขาเลย มือเรียวจึงรั้งท้ายทอยนางลงมามอบจูบแสนหวานให้อีก ซึ่งครานี้ฮูหยินตัวน้อยเริ่มตอบรับกลับมาบ้างแล้ว ถึงแม้มันจะดูเงอะงะไม่เป็นประสานัก ทว่าถูกใจเขาเหลือเกิน
นางตวัดปลายลิ้นเกาะเกี่ยวตอดไปมา สร้างกำหนัดให้เพิ่มพูน จนร่างแกร่งไม่อาจทานทนต่อความต้องการได้อีกแล้ว เขารั้งกระเตงนางขึ้นจากบ่อ อุ้มตรงกลับมาที่เตียงนอนในสภาพร่างกายเปลือยเปล่า ยามนี้เองที่ม่ายจือได้สติ ทำให้นางเกิดตื่นกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“ทะ…ท่านโหว” มือเล็กยกขึ้นดันอกแกร่งของผู้ที่ทาบทับตนลงมา และบางสิ่งมันก็ชนเข้ากับขาอ่อนด้วย
“ม่ายจือ เจ้าคือฮูหยินพี่แล้ว อย่ากลัว ชีวิตนี้พี่จะมีเจ้าเพียงผู้เดียว พี่จะไม่แต่งสตรีใดเข้ามาอีก เป็นของพี่โดยสมบูรณ์เถิดนะ” เอ่ยเสียงทุ้มอ่อนเว้าวอนคนใต้ร่าง ทำเอาคนฟังใจบางไปเลย มันจะเป็นไปอย่างที่เขาเอ่ยจริงหรือ
หากหยวนจิ้งโหวพบกับนางเอกเล่า นางจะไม่ถูกลืมเลือนตามบทที่ได้รับหรืออย่างไร ถึงตอนนั้นตนจะทำใจได้ไหม
ความคิดมากมายแล่นอยู่ในหัว ทว่าไม่กี่อึดใจต่อมามันก็ถูกกลบไปจนหมด เมื่อสัมผัสหวานละมุนได้แนบลงมาอีกครั้ง แต่มโนสำนึกที่ต่อต้านก็ยังมีอยู่ มือเล็กจึงออกแรงดันเขาอีกหน
“หยวนจิ้งโหว ข้าจะให้โอกาสท่านอีกครั้ง หากยังกล่าวว่าจะมีข้าเป็นภรรยาคนเดียว ภายหน้าห้ามท่านทำข้าเสียใจเด็ดขาด อีกอย่างถ้าข้าปักใจต่อท่านแล้ว อย่าได้คิดมีสตรีอื่น เพราะข้าไม่มีทางยอมเสียท่านให้ใครทั้งนั้น” ดวงตาสวยจ้องเขาเขม็ง ในเมื่อหลายสิ่งมันกลับตาลปัตร ม่ายจือก็อยากลองเสี่ยงดูสักครั้ง จากนางรองตนก็จะกลายเป็นนางร้ายให้ดู ท่าอีกฝ่ายผิดคำพูดที่ให้ไว้ รอดูร่างสองของหลี่ม่ายจือได้เลย
“หึหึ พี่สาบานจะมีเจ้าเพียงผู้เดียว หญิงใดก็ไม่อาจแย่งพี่ไปจากเจ้าได้หรอก” หยวนจิ้งเอ่ยเสียงหนักแน่นจริงจัง พร้อมกับยกมือลูบหัวนางอย่างอ่อนโยน เขาตั้งใจทำอย่างที่พูดอยู่แล้ว ชีวิตนี้จะขอมีภรรยาเดียวจนกระทั่งสิ้นลมหายใจ
“จริงนะ” เอ่ยถามเสียงเบา ในใจก็นึกกลัวว่านี่อาจเป็นเพียงคำหลอกล่อของเขา เพื่อให้ได้ร่วมรักกับนาง
หยวนจิ้งยิ้มเอ็นดูฮูหยินของตนที่ยังคงตื่นกลัว พอได้พูดคุยเช่นนี้อารมณ์กำหนัดเขาก็ผ่อนบางลง มือเรียวจึงเอื้อมไปดึงเอาผ้าห่มมาคลุมให้นางจนถึงคอ สร้างความประหลาดใจให้กับคนใต้ร่างเป็นอย่างมาก “พี่จะพิสูจน์ให้เจ้าเห็น” บอกแล้วเขาก็ดึงผ้ามาคลุมให้นางจนถึงหัว ก่อนจะขยับลุกออกจากเตียงเข้าห้องอาบน้ำไป “รีบแต่งตัวเสีย ถ้าพี่ออกมาแล้วเจ้ายังอยู่สภาพนี้ พี่จะไม่ใจเย็นปล่อยเจ้าแล้วนะ” เสียงตะโกนดังมาให้คนบนเตียงต้องรีบเปิดผ้าห่มออกมามอง พอไม่เห็นเขา นางก็รีบรั้งผ้ามาม้วนตัว แล้วลงจากเตียงไปที่หีบอาภรณ์ที่อยู่อีกมุมห้องทันที และกว่าจะจัดการกับชุดที่ไม่คุ้นเคยได้ก็นานพอดู
ทว่าเสียงบางอย่างมันก็ดึงความสนใจให้ม่ายจือต้องเดินไปเงี่ยหูฟัง ใบหน้าเนียนใสเห่อร้อนขึ้นมาทันที ก่อนจะรีบวิ่งกลับมาขดตัวอยู่ที่มุมเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมจนถึงคอ
“อีตาบ้า คนหื่น” ต่อว่าเขาพร้อมกับยกผ้าขึ้นมาคลุมหัว เมื่อนึกถึงเสียงครางกระเส่าของสามีที่ดังมาให้ได้ยิน
ก็รู้อยู่หรอกว่าผู้ชายเวลาต้องการมาก จะทำให้ร่างกายทรมาน ก็ใครใช้ให้เขาไม่รู้จักอยู่เฉย ๆ เองล่ะ อยากมาล่อลวงนางก่อนทำไม สมควรแล้วที่ต้องช่วยตัวเองแบบนั้น
มัวแต่นึกก่นด่าเขา เลยไม่ทันได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินออกมา จนกระทั่งผ้าห่มมันถูกดึงนั่นแหละ ใบหน้างามจึงเผยออกมาให้เห็น พร้อมกับอาการตื่นตกใจ คนตัวโตจึงยิ้มเอ็นดู
“หึหึ นึกว่ายังอยู่สภาพเดิมเสียอีก” เขาเอ่ยหยอกเย้าจนนางหน้าแดง ยิ่งไปกว่านั้นสายตายังมองสำรวจเขาด้วย ตอนนี้หยวนจิ้งโหวสวมเสื้อนอนสีขาวกางเกงสีดำ ซึ่งมันเป็นชุดนอนเบาสบายน่าจะถูกตัดเย็บมาอย่างดี
‘ขนาดใส่ชุดนอนยังดูหล่อเลยแฮะ เรานี่โชคดีจังที่ได้แต่งงานกับเขา ต่อให้วันหน้าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่อย่างน้อยเราก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับหนุ่มหล่อมากกว่าสาว ๆ คนอื่นแหละเนาะ’ ยิ้มกริ่มชอบใจในความคิดของตน นางคงทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากปล่อยให้มันเป็นไปตามชะตาที่ใครไม่รู้เป็นคนกำหนด จากที่สัมผัสนี่มันไม่ใช่บทประพันธ์ของตนแน่
เพราะพระเอกในเรื่องที่นางเขียนมีนิสัยเย็นชา พูดน้อย เขาจะดีกับนางเอกเท่านั้น ซึ่งหลี่ม่ายจือไม่ใช่
#โอ๊ย!! ลูกสาวเกือบโดนงาบ
