Chapter 3
Russian Sky
วันรุ่งขึ้นฉันตื่นแต่เช้าเพื่อไปวิทยาลัยและเริ่มเรียนเป็นวันแรก
เมื่อเดินลงบันไดไปก็พบว่าชั้นล่างไม่มีใครถึงแม้ไฟยังเปิดอยู่และประตูหน้าไม่ได้ล็อคกลอน อเล็กเซไม่อยู่ เหมือนจะออกไปก่อนแล้วเพราะฉันไม่เห็นเสื้อโค้ทของเขาแขวนข้างประตู
ส่วนดิมิทรีคงยังอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้านหลังนี้
พอจะออกประตูก็เห็นดิมิทรีเดินออกมาทางเดียวกัน เท้าคู่ใหญ่ในบู้ทยาวสีดำย่ำลงบนหิมะและทำให้เกิดรอยยุบเหนือพื้นขาวยวบบอบบาง
เขายิ้มอรุณสวัสดิ์ให้ฉัน “ไปด้วยกันไหมอนาสเทเซีย?”
“นายเรียนสาขาอะไรเหรอ? ฉันยังไม่รู้เลย” ฉันถาม
“เอกดนตรี โทประติมากรรม”
ฉันชะงักนิดหนึ่ง รู้สึกทึ่ง “น่าสนใจ”
ดิมิทรีก้าวเท้าเดินนำไปตามทางเดินเยือกแข็ง กิ่งไม้สีเทาและใบไม้แห้งที่ร่วงหล่น “จะมาเยี่ยมที่คณะบ้างก็ได้ และเร็วๆ นี้จะมีคอนเสิร์ต ฉันจะโซโล่ฟลูท”
“นายเล่นฟลูทเป็นอย่างเดียวเหรอ?” ที่ฉันถามเพราะเข้าใจว่านักศึกษาในสาขาดนตรีเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชิ้นเป็นส่วนใหญ่
“เปียโน ไวโอลิน กีตาร์ ก็หลายอย่าง ฮาร์พ”
“นายเป็นอัจฉริยะหรือไง...” ฉันนึกว่าเขาจะเล่นเป็นอีกสักหนึ่งหรือสองอย่าง แต่นี่มันหลายอย่างมาก
พลันดวงตาของฉันมองผ่านกำแพงข้างทางและสะดุดกับโปสเตอร์แผ่นหนึ่ง ชะงักเมื่อเห็นว่าโปสเตอร์นั้นประดับด้วยใบหน้าของดิมิทรีในเวอร์ชั่นที่เซ็ตเส้นผมเนี้ยบ ใส่สูทผูกทักซิโด
มันเป็นโปสเตอร์คอนเสิร์ต มีฟลูทเล่มยาววาวแววสีเงินอยู่ในมืออันงดงามของดิมิทรี
“นั่นโปสเตอร์คอนเสิร์ตนายนี่”
“ใช่ คอนเสิร์ตฉันเอง”
ในโปสเตอร์ระบุว่าการแสดงของเขาจะจัดขึ้นที่คอนเสิร์ตฮอลล์ของมอสโกเลยทีเดียว ดังนั้นงานระดับนี้จึงไม่ใช่งานแสดงของนักศึกษาหากแต่เป็นคอนเสิร์ตของนักแสดงมืออาชีพ
ดวงตาสีครามเข้มราวกับภาพจิตรกรรมในโปสเตอร์จ้องมองมา ฉันยิ่งรู้สึกถูกดึงดูดเข้าไปหาดิมิทรีมากยิ่งขึ้นอีก
ฉันสนใจในตัวดิมิทรี ตกหลุมรักอย่างที่ไม่เคยรักใครก็วันนี้
ช่วงกลางวันฉันลองเดินไปที่คณะดุริยางคศิลป์ คณะของดิมิทรี
อาคารเก่าแก่งดงาม แว่วเสียงดนตรีหลายชนิดภายใน
และแล้วในห้องหนึ่งที่ประตูประดับด้วยกระจกใสฉันเห็นร่างสูงของดิมิทรีไกลออกไปกว่ายี่สิบก้าว เขากำลังเล่นฮาร์พ พิณขนาดใหญ่ตระหง่านซึ่งมีเพียงไม่กี่คนในโลกเท่านั้นที่เล่นเป็น
ชายที่เล่นฮาร์พเป็นเช่นนั้นหรือ...?
หัวใจฉันเต้นผิดจังหวะอย่างช่วยไม่ได้ เรียวนิ้วในมือแกร่งของดิมิทรีเกลาเส้นฮาร์พใสที่สะท้อนประกาย ส่งเสียงไพเราะและพลิ้วไหวทำให้อากาศอบอุ่นจนลืมความหนาวยะเยือกของเดือนตุลาคมไปเสียสนิท
ฉันถูกสะกดราวกับลืมตัวตนต่อหน้าภาพนั้นและเสียงพิณฮาร์พของดิมิทรี
จนกระทั่งผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาและจูบเขา หญิงสาวผู้งดงามกำลังทาบทับริมฝีปากสวยครอบครองริมฝีปากของดิมิทรีอย่างอ่อนหวาน
เสียงพิณฮาร์พหยุด
เช่นเดียวกับฉันที่ได้รู้ความจริงว่าดิมิทรีมีคนรักอยู่แล้ว ซึ่งก็คือเธอคนนั้น
และนั่นไม่ใช่เรื่องผิด ฉันก็แค่ไม่รู้เพราะฉันเองรู้จักดิมิทรีได้เพียงวันเดียว เขาเห็นฉันเป็นเพื่อนเพราะจิตใจที่อ่อนโยนและความใจดี
เมื่อนั้นฉันถึงได้รู้ว่าฉันไม่อาจครอบครองดิมิทรีได้
“นั่นนาตาชา” เสียงหนึ่งที่เอ่ยขึ้นเยื้องหลังออกไปสองสามก้าวทำให้ฉันหันไปมองเจ้าของเสียง
ก่อนจะเห็นว่าเป็นอเล็กเซที่พูดขึ้นเมื่อครู่นี้
ดวงตาสีฟ้าอ่อนราวกับน้ำแข็งของร่างสูงที่เพิ่งมาถึงจ้องมองฉันเหมือนจับผิดอะไรบางอย่างได้
ไม่สิ ฉันไม่คิดว่าอเล็กเซสังเกตว่าฉันออกจะชอบดิมิทรี
“คนรักของดิมิทรีใช่ไหม?” ฉันถามถึงผู้หญิงคนนั้น
“ถ้าไม่ใช่จะจูบกันได้อย่างไร?” ร่างสูงประดับเส้นผมสีอ่อนตอบด้วยรอยยิ้ม “ว่าแต่เธอดูจะชอบมองดิมิทรีนะ มีอะไรติดหน้าหมอนั่นอยู่งั้นเหรอ?”
“ฉันก็มองไปทั่ว ดิน ฟ้า อากาศ อย่าลืมว่าฉันมาใหม่”
สีหน้าอเล็กเซที่เหมือนจงใจกวนประสาททำให้ฉันชักสีหน้าใส่เขาทันที
“อ่า จริงสินะ” ถึงเสียงทุ้มนุ่มลึกนั่นลากเรียบเหมือนคล้อยตามแต่ดูเหมือนอเล็กเซจะไม่ได้เชื่อใจฉัน
เขามันอสรพิษชัดๆ
ดวงตาสีอ่อนบนใบหน้าคมจัดเปลี่ยนเป็นเลื่อนมองเพื่อนผู้นั่งติดพิณฮาร์พสูงตระหง่านหลังกระจก หากแต่พูดกับฉัน “แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีหวังในตัวดิมิทรีหรอกนะ”
ฉันตวัดสายตาจ้องคนพูดอย่างโกรธเคือง “ฉันไม่ได้คิดอะไรกับดิมิทรี นายกำลังบ้าบอ”
อเล็กเซเอ่ยเรียบเรื่อย “ฉันไม่ขัดหรอกถ้าเธอจะชอบเพื่อนฉัน ไอ้หมอนั่นเป็นคนที่ใครได้อยู่ใกล้ก็หลงใหล”
ให้ตายเหอะ ฉันรู้สึกระคายกับทุกคำพูดของหมอนี่
“อย่าถอดใจไป วันหนึ่งโอกาสอาจเป็นของเธออนาสเทเซีย”
“พูดงี้หมายความว่าไง? อย่ามาพูดอะไรที่ฟังไม่รู้เรื่องและใส่ร้ายคนอื่นแบบนี้สิ” ฉันเสียงเยือกเย็น ใครจะยอมตกอยู่ใต้เกมของคนที่ดูไม่น่าไว้ใจแบบเขากัน
เรียวปากหล่อเหลายกยิ้ม พอใจที่ได้แกล้งฉันนิดๆ “ก็แล้วแต่”
“เฮ้ อเล็กเซ น้ำรั่ว ทำไมยังไม่รีบไปอีก?” จู่ๆ ชายคนหนึ่งเรียกอเล็กเซเสียงดังจากอีกตึกหนึ่ง
อเล็กเซร้องบอกกลับ “อ่า เข้าใจแล้ว เร่งจริง”
แล้วร่างสูงนั้นเดินไปตามเสียงเรียก ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าอเล็กเซไปไหนและเกี่ยวอะไรกับน้ำรั่วถึงได้ต้องดูรีบเร่งทำตามคำสั่งคนอื่นขนาดนี้ แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
การที่ถูกคนลากไปจนไม่มีเวลาจะมาจับผิดหรือหาเรื่องฉันมันก็เป็นเรื่องที่ดี
หากทว่าเมื่อฉันมองไปยังประตูกระจกบานเดิมอีกทีกลับพบว่าหญิงสาวคนรักของดิมิทรีไปเสียแล้ว ฉันเห็นดิมิทรีมองตามนางฟ้าแสนสวยคนนั้นไป
ฉันอดยิ้มไม่ได้
ดิมิทรีและนาตาชาช่างเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันจริงๆ
