ตอนที่3
ฉันเอ่ยทักทายชายหนุ่มหน้าตีดีอย่างเป็นมิตร และไม่ลืมที่จะฝากรอยยิ้มพิฆาตเอาไว้ให้เขาหลงเคลิ้ม ก่อนจะสะบัดผมเดินเชิด ๆ เริ่ด ๆ ด้วยความมั่นใจ
“แหมม ถ้าเป็นสมัยก่อนนี่เรียก หัวกระไดไม่แห้งเลยนะคะคุณขา” ฉันยักไหล่ให้เนเน่แทนคำตอบ ก็สวยอ่ะ มั่นด้วยช่วยไม่ได้!
“แก ๆ ฉันแวะเข้าห้องนั้นแปบนึงนะ” มารีนบอกเมื่อพวกเราเดินผ่านหน้าห้องน้ำพอดี “เออ ฉันเข้าด้วย ๆ หล่อนยืนมั่นหน้าไปก่อนนะยะเดี๋ยวมา” เนเน่พูดเสริมขึ้น
“เออๆ รีบเร็ว ๆ ล่ะ” ฉันบอกพร้อมกับหาที่ยืนพิงใกล้ ๆ กับบริเวณห้องน้ำ
ระหว่างที่รออยู่นั้นก็เจอใครบางคนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมา……เป็นใครคนนั้นที่ฉันไม่อยากเจอหน้า ความเกลียดพุ่งพล่านอย่างรุนแรงจนฉันไม่สามารถยืนอยู่เฉยได้ หล่อนก็คงคิดเช่นนั้นเหมือนกันถึงได้กล้ายืนประจันหน้ากับฉันแบบนี้!!
“ไงจ๊ะแพรลีน ไม่เจอกันนานดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นนะ” หล่อนเอ่ยทักทายเหมือนจะเป็นมิตร
“หึ เธอก็……..ดูจืด ๆ โทรม ๆ ไปนะ อดยากเหรอหรือไม่มีเงินพอที่จะดูแลตัวเองให้สวยอย่างฉัน!” ฉันมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลนสุด ๆ ซึ่งปกติแล้วมันไม่ใช่นิสัยของฉันหรอกนะ เพราะจะเป็นเฉพาะกับยัยนี่คนเดียว….ยัยเม็ดนุ่น!!
“โถ่ ๆ แพรลีนจ๋า เธอนี่ช่างไม่รู้ตัวเลยนะ” เม็ดนุ่นพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ด้วยการยกมือข้างนึงปิดปากไว้ คนอื่นดูแล้วอาจจะเห็นว่าน่ารัก แต่สำหรับฉันมันช่างดัดจริตสิ้นดี
“อะไร?!”
“ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ ใคร ๆ เขาก็พูดกันไปทั่วว่าเธอน่ะ….ดาวยั่วมัวเซ็กซ์……” เม็ดนุ่นจ้องหน้าฉันอย่างท้าทาย โดยที่ไม่เคยล่วงรู้เลยว่าอันตรายกำลังจะมาเยือน! หล่อนปลุกปั่นประสาทฉันจนขาดสะบั้น
โอ้ย!!
เม็ดนุ่นร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อโดนฉันกระชากเส้นผมสวย ๆ ของหล่อนขึ้นมากำไว้ในมือ
“แล้วมีใครเคยบอกเธอมั้ย ว่าดาวยั่วมั่วไปเรื่อยอย่างฉันน่ะ ฟิวขาดง่าย!!” ฉันยังคงกำเส้นผมเอาไว้แน่นโดยที่หล่อนพยายามใช้มือแกะการเกาะกุมออก แต่ก็ไร้ผลเพราะตอนนี้ฉันกำลังดันหล่อนให้ติดกำแพงแล้วยิ้มเยาะด้วยความสะใจ
“ฉันเจ็บนะแพรลีน!!” เม็ดนุ่นกัดฟันแน่นมองฉันด้วยสีหน้าอาฆาตสุด ๆ
“อย่างเธอเจ็บเป็นด้วยเหรอเม็ดนุ่น ได้ข่าวว่ามีแต่ทำให้คนอื่นเจ็บหนิ? เอาสิโต้ตอบฉันสิ คนอื่นจะได้รู้ธาตุแท้ของเธอไง!”
เม็ดนุ่นไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เพียงแต่พยายามดิ้นให้หลุดจากอุ้งมือของฉันที่จิกหัวเธออยู่ ใจจริงฉันอยากจะกระชากหนังหัวหล่อนออกมาเลยด้วยซ้ำ เมื่อนึกถึงความเลวที่เธอเคยทำเอาไว้!!
“อย่ามาให้ฉันเห็นหนังหน้าเธออีกนะจำไว้!!” ฉันบอกพร้อมกับปล่อยมือออกแต่ก็ไม่วายที่จะผลักหัวเธอเบา ๆ เป็นการเตือนให้จำไว้ว่าที่ไหนมี ‘แพรลีน’ ที่นั่นต้องไม่มี ‘เม็ดนุ่น’
“ทำไมฉันต้องเชื่อเธอด้วย อยากทำสงครามประสาทกับฉันอีกงั้นเหรอ?” เม็ดนุ่นท้าทายแต่มีท่าทีระวังตัวมากยิ่งขึ้น
“ก็ลองดูสิ เธอไม่ได้ตายดีแน่!!”
“คิดไม่ถึงจริง ๆ เธอเปลี่ยนไปมากเลยนะ”
“เหอะ คนเราก็ต้องเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ดูเหมือนเธอจะไม่เปลี่ยนไปเลยนะ ยังแสร้งตีสองหน้าได้เนียนสนิท!!”
ระหว่างนี้มารีนกับเนเน่ออกมาจากห้องน้ำพอดีและกำลังยืนมึนงงกับสถานการณ์ที่เห็นในตอนนี้ ซึ่งเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่กำลังมองมาทางเราสองคนอย่างสอดรู้สอดเห็น และแน่นอนว่าในสายตาทุกคนเห็นว่าฉันกำลังรังแกยัยนี่อยู่
“ในเมื่อเธอต้องการแบบนี้ ก็ได้แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!!” เม็ดนุ่นเขยิบเข้ามาใกล้ชิด พร้อมกับกระซิบให้ฉันได้ยินเพียงคนเดียว ก่อนจะจัดทรงผมให้เรียบร้อยก่อนจะเดินจากไป
“มีเรื่องอะไรกันเหรอแก นั่นอดีตดาวคณะแพทย์นี่นา” มารีนถามอย่างข้องใจ
“แค่เพื่อนเก่าทักทายกันน่ะ”
“เฮ้ย คบกันมา 3 ปีไม่ให้หล่อนเคยบอกหนิยะ ว่ามีเพื่อนเรียนแพทย์” เนเน่ทำท่างอนใส่เพราะคิดว่าฉันปิดบัง
“ก็ไม่ได้สนิทอะไรนี่นา และก็ไม่ได้คบกันนานแล้วด้วย ไปเหอะไม่อยากกินข้าวที่โรงอาหารละ เสียอารมณ์”
ฉันบอกพร้อมกับชวนเพื่อน ๆ ไปกินที่คาเฟ่ข้าง ๆ มหาวิทาลัยแทน ร้านนี้ไม่ค่อยไปบ่อยนักเพราะต้องผ่านคณะแพทย์ ฉันเลยไม่ค่อยอยากจะมาเหยียบสักเท่าไหร่ เพราะไม่อยากเจอยัยเม็ดนุ่นนั้น
จริงอยู่ว่าเมื่อก่อนเราเคยสนิทกันมากตอนเรียนมัธยม เมื่อก่อนฉันมีเพื่อนเยอะกว่านี้แต่ด้วยเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างทำให้ฉันเลือกคบคน ยัยนั่นหน้าตาดีมาตั้งแต่เด็ก หล่อนเป็นคนนิสัยดีน่าตาน่ารัก ตากลม ๆ ชวนมอง ผิวขาว ๆดูมีสุขภาพดี และเธอก็ไว้ผมยาวสีดำมาตั้งแต่เด็ก ดูแล้วเหมือนกับตุ๊กตาน่าทะนุถนอม หล่อนเลยมีเพื่อนเยอะเวลาไปไหนมาไหนก็มักจะพาฉันไปด้วย และฉันรู้สึกดีมากที่ได้เป็นเพื่อนกับเธอ
แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นฉันก็ไม่ได้ติดต่อกลับหล่อนอีกเลย และไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวอีกต่อไปเพราะสิ่งที่นางทำเจ็บแสบยิ่งนัก…..
