Risk Friend : 02 - 1
Risk Friend : 02
--------------
“อย่าขยำเสื้อกู!!”
“...!” เสื้อเชิ้ตราคาแพงยับยู่ยี่ในมือถูกปล่อยทิ้งในทันทีที่ได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดของผู้เป็นเจ้าของ
“ใจลอยไปถึงดาวเสาร์แล้วมั้ง มันเป็นยังไง” แสตมป์เดินออกจากห้องน้ำมาหย่อนก้นลงตรงขอบเตียง ขณะที่ฉันล้มตัวนอนแผ่หลาบนฟูกนุ่มนิ่ม เหม่อมองหลอดไฟกลมประดับกลางเพดานสีขาวสะอาดด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
จะพูดยังไงดี…
อารมณ์ ณ ตอนนั้นคือแบบยุ่งเหยิงมาก ใจหนึ่งก็อยากทุบให้หลังแอ่น แต่อีกใจก็อยากดึงมากอดแน่น ๆ ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งดีใจ เหนื่อยก็เหนื่อย ปวดขาก็ปวด แถมหน้ายังมีแต่คราบเหงื่อ ไม่สิ! ผสมด้วยคราบน้ำตาอีก
อยากจะบ้าตาย!
เป็นการเจอกันครั้งแรกในรอบสี่ปีที่ไม่โอเคเลย ทั้งที่พยายามฮึบแล้วแท้ ๆ แต่ก็นั่นแหละ…ฉันเผลอปล่อยไก่ตัวใหญ่เบ้อเริ่ม
ในบรรดาเพื่อนสนิท ม่านหมอก เป็นคนเดียวที่เวลาอยู่ด้วยแล้วฉันรู้สึกว่าตัวเองโคตรอ่อนแอ และที่น่ากลัวกว่านั้นคือไม่ว่าฉันจะโตขึ้นมากแค่ไหน เวลาจะผ่านไปกี่ปี หรืออยู่ห่างกันเป็นพัน ๆ ไมล์ ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ซึ่งฉันรับรู้ได้ในวินาทีแรกที่เห็นหน้าเขา
มันแย่มากเลยว่าไหม...
“เฮ้อ...” สุดท้ายทำได้แค่พ่นลมหายใจเฮือกยาวผ่านปลายจมูกอย่างเซ็ง ๆ
“จะบอกว่าไม่ดีใจ?”
“ก็…” ยังไม่ทันได้ตอบ คนถามก็แทรกขึ้นอย่างรู้ทันซะก่อน
“กูไม่เชื่อค่า มึงรอมันทุกวัน อยู่ ๆ จะมาบอกว่าไม่ดีใจที่มันกลับมา ตอแหลค่ะ”
คำว่า รอทุกวัน ในประโยคของเพื่อนทำฉันหันขวับด้วยความประหลาดใจ
จำได้ว่าไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้ให้ใครฟังเลยนะ ทั้งความรู้สึกตอนที่ม่านหมอกย้ายไปอยู่อีกซีกโลกแล้วก็ไม่เคยติดต่อส่งข่าว หรือการเฝ้ารอแบบไร้จุดหมายนี่ด้วย
แต่แสตมป์พูดเหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในใจฉันยังไงยังงั้น
…แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว
“อะ เอาที่ไหนมาพูด ก็ไม่ได้รออะไรขนาดนั้นซะหน่อย เวอร์” พยายามให้คำแก้ต่างดูน่าเชื่อถือด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่มันก็ยังติดตะกุกตะกักอยู่ดี
“จ้า...” มันลากเสียงยาวแกล้มประชด พร้อมกับคว้าเสื้อผ้าของตัวเองที่กองอยู่ข้างฉันไปพับต่อ “แล้วเนี่ย จะมาช่วยหรือมาทำให้เหนื่อยกว่าเดิม เสื้อผ้าก็อยู่ของมันดี ๆ กระแดะเอาออกมาพับแล้วก็ทำไม่เสร็จ เดือดร้อนกูอีก!”
ฉันหรี่ตาลงแล้วเอานิ้วแหย่เข้าไปในรูหูตั้งแต่แม่คนที่สองเริ่มขยับปากร่ายมนตร์ ถึงจะยังได้ยินอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าต้องทนฟังแบบชัดถ้อยชัดคำ สงสัยจะปล่อยให้มันอยู่กับมี๊บ่อยไปหน่อย ได้วิชามาเยอะเชียว
หมายถึงวิชาขี้บ่นน่ะ…
ไอ้เราก็อุตส่าห์มีน้ำใจ เห็นว่าต้องขนของเข้าหอใหม่คนเดียวเลยอาสามาช่วย แล้วดูสิ่งที่ได้ตอบแทนสิ!
ทำดีไม่เคยได้ดี เป็นไอ้จ้าวนี่มันน่าสงสารจริง ๆ
พอเจ้าของห้องคนใหม่ลุกเอาเสื้อผ้าไปจัดเรียงเข้าตู้ ฉันก็ดีดตัวขึ้นนั่งก่อนจะกระโดดลงจากเตียงพุ่งออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ของย่านชานเมืองนอกระเบียง
ความจริงก็แอบเศร้านิดหน่อยที่ไม่ได้เรียนด้วยกัน แสตมป์มันอยากเป็นพยาบาลคนสวยแสนใจดีน่ะ ก็เลยต้องเลือกลง มหา’ลัย เฉพาะทาง ส่วนฉันไม่ได้มีใจรักในสายงานพวกนี้เลย เพราะงั้น บริหาร ดูเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ หนึ่งคือเอาไปต่อยอดกับธุรกิจของครอบครัวได้ และสองมันไม่ปวดหัวมากหรือต้องถวายจิตวิญญาณเหมือนคณะโหด ๆ อย่างหมอ พยาบาล นิติฯ ถาปัตย์ หรืออีกมากมาย
…
คฤหาสน์เดชาพิพักษ์
หลังจากที่ขลุกสร้างความวุ่นวายให้เพื่อนรักทั้งวัน ฉันก็กลับเข้าบ้านตอนหกโมงกว่าพร้อมน้ำพริกแสนอร่อยที่มี๊ชอบ
“แล้วมี๊ละคะ…”
เมื่อเห็นว่ากลางชุดโซฟาสุดหรูในโถงใหญ่มีเพียงผู้เป็นพ่อนั่งทำหน้าเครียดอยู่กับไอแพดในมือ จึงเอ่ยถาม จากนั้นก็พาตัวเองไปนั่งลงข้าง ๆ ฝั่งซ้ายพลางดึงท่อนแขนแข็งแรงของป๊ามาออดอ้อนออเซาะตามความเคยชิน
“น่าจะขึ้นไปอาบน้ำนะ” ป๊าวาดมือข้างเดียวกันขึ้นลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน
“ไอ้เฮียไปไหน”
หมายถึง เฮียตะวัน พี่ชายฝาแฝดของฉัน
นี่ก็อีกคน…ไม่รู้เป็นยังไง แค่เข้ามาแล้วไม่เห็นพาหนะคู่ใจของมันจอดอยู่ในโรงรถ ก็ต้องถามหาแล้ว ทั้งที่เจอหน้าก็แทบจะฆ่ากันตายตลอด
“ไปสนามเซิร์ฟ” ป๊าขยับปากตอบ ตายังคงจดจ่ออยู่กับกราฟและภาพรวมดัชนีราคาหุ้น “ลูกล่ะ เลิกเล่นแล้วเหรอ ป๊าเห็นเซิร์ฟสเก็ตถูกทิ้งไว้ในห้องเก็บของหลายปีแล้วนะ”
“อือ เบื่อแล้ว” ถึงคนพาเล่นจะกลับมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์…
ฉันไม่หายโกรธง่าย ๆ แน่
“...?” คราวนี้ป๊าหันมาเลิกคิ้วมองกัน คล้ายกับอยากได้เหตุผลหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันตัดใจทิ้งสิ่งที่ชอบไปง่าย ๆ
“สตรีมเกมสนุกกว่าเยอะเลย ไปดีกว่า” นี่เป็นวิธีการเลี่ยงตอบคำถามได้ดีที่สุด ฉันยกแขนป๊าไปพาดคืนไว้บนตักท่านเหมือนเดิม แล้วยื่นหน้าไปขโมยหอมแก้มผู้ชายของมี๊ฟอดหนึ่ง ก่อนลุกเดินเอื่อยเฉื่อยไปขึ้นบันได
“อ้าว กลับมาแล้วเหรอ ลูกกินข้าวมารึยัง” มี๊เปิดประตูออกมาในตอนที่ฉันก้าวถึงบันไดขั้นสุดท้ายพอดี ทำให้ฉันต้องเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน จากที่จะเข้าห้องตัวเองก็ปรี่ไปสวมกอดท่าน หอมแก้มซ้ายขวา และจบด้วยจุมพิตหนัก ๆ ตรงหน้าผาก
มี๊ตอนอาบน้ำใหม่ ๆ เนี่ยตัวห๊อม…หอม
“เรียบร้อยแล้วค่า จ้าวซื้อน้ำพริกที่มี๊อยากกินมาให้ด้วยนะ”
“ว้าว ลูกสาวใครเนี่ยมันน่ารักจริงๆ” มี๊กดหัวฉันแนบอก ก่อนจะปรับน้ำเสียงให้แข็งขึ้นในประโยคต่อมา “จะเอาอะไรว่ามา”
“มี๊ใครเนี่ย รู้เห็นทุกอย่างเหมือนมีตาทิพย์”
“อย่ามาลีลา”
“วันนี้ขอสตรีมยาว ๆ ได้มุ้ย” ฉันช้อนมองผู้ให้กำเนิดตาปริบ ๆ ไม่ต่างจากลูกแมวกำลังอ้อนวอนขอความเห็นใจ
“ยาวนี่ถึงกี่โมง”
“ก็ดึกหน่อย”
“ไม่เอายันเช้านะ”
“ไม่ถึงแน่นอน” ฉันรีบเอานิ้วชี้กับกลางไขว้กันไว้ได้หลัง ไม่ได้อยากโกหกนะ แต่กลัวมันติดลม และที่ต้องขออนุญาตก่อนก็เพราะว่ามี๊ชอบแอบใช้กุญแจผีไขเข้ามาสอดส่องอยู่เรื่อย
แม้เราสองพี่น้องจะโตแค่ไหนก็ยังดูเป็นเด็กในสายตามี๊เสมอ
…
ครืด! ครืด!
ระหว่างกำลังตีบอสอย่างดุเดือดกับเพื่อนร่วมทีม หน้าจอไอโฟนที่วางอยู่ใกล้ ๆ ก็สว่างวาบขึ้นมา ฉันเหลือบมองเล็กน้อย เห็นแล้วว่าเป็นแจ้งเตือนข้อความไลน์จากใครบางคน แต่ยังไม่สามารถละมือออกจากเมาส์และคีย์บอร์ดได้ในเวลานี้
“พี่ภีม มาช่วยกันหลังให้จ้าวหน่อย”
“แป๊บ ๆ”
พี่ภีมคือปรมาจารย์แห่งเกมแบล็คดีเซิร์ท เป็นทั้งผู้สร้างกิลด์และคอยพาน้อง ๆ ไปตามล่าบอสตัวเป้ง เควสไหนที่ว่ายากนะ พี่ภีมจัดการได้หมด
ฉันรู้จักพี่เขามาเกือบสามปีได้แล้ว ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการสตรีมใหม่ ๆ ทั้งที่อยู่ในเชียงใหม่เหมือนกัน แต่ไม่เคยนัดเจอสักที ส่วนมากก็จะอยู่แต่ในเกมเนี่ยแหละ
“จ้าวว่ามันจะไม่ไหว ของแตกหมดแล้ว”
“ไหวดิ อีกสองหลอดเอง”
“โห!!! ใช้คำว่าเอง”
“เอาน่า เชื่อพี่”
ฟู่วววว์…เกือบหลับแต่กลับมาได้
ฉันเป่าลมออกปากระบายความอึดอัดที่สะสมมาตลอดสามสิบนาทีกว่า หลังเควสอันโหดร้ายจบลงด้วยชัยชนะแบบฉิวเฉียด เรียกได้ว่าบอบช้ำเอาเรื่องเหมือนกัน หูฟังสีโปรดถูกปัดลงไปคล้องต้นคอ ก่อนจะเอือมหยิบไอโฟนมาดู
MM : พรุ่งนี้ไปซื้อของเป็นเพื่อนหน่อย (22:05)
MM : เดี๋ยวเลี้ยงชาบู (22:05)
MM : 1 มื้อ (22:06)
MM : 3 มื้อ (22:10)
MM : ทั้งอาทิตย์เลยอะ (22:12)
MM : ????? (22:20)
MM : เตี้ย!!!! (22:25)
MM : อ่านก็ช้า เสือกอ่านแล้วไม่ตอบอีก (22:29)
JJ : ไม่ ไป!!!! (22:29)
...
----------------------------------------------------
#แบล็คดีเซิร์ท (Black Desert) คือเกมต่อสู้ผจญภัยแนวเก็บเลเวล
#เควส = กิจกรรมในเกม
#บอส = ศัตรูที่ต้องเอาชนะเพื่อผ่านเควสนั้น ๆ
#กิลด์ = กลุ่มของผู้เล่นที่เล่นด้วยกันเป็นประจำโดยเฉพาะ
#สตรีมเกม = ถ่ายทอดสดเกมที่เล่นแบบเรียลไทม์
#ของแตก ความหมายในเกม คือพวกไอเทม ชุดสวมใส่ ที่โดนบอสตีจนพลังลดเหลือน้อย
