ตอนที่ 3
“นายท่าน” มาลี มาลาเอ่ยขึ้นเมื่อแทริกปรากฎกายขึ้น
“อาบน้ำให้นาง” แพทริกวางร่างบอบบางลงบนเตียง อื้ม และเมื่อเขาทำอะไรบางอย่าง เดซี่ก็กลับมาขยับตัวได้อีกครั้ง
กรี๊ดดดด และเธอก็กรีดร้องออกมา เธอรู้ตัวตลอดเวลา มีหรือว่าจะไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัวมา
“เสียงร้องมีพลังมากจนหูของพวกเราทั้งสองแทบแตก” มาลาเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือปิดหูของตัวเอง
“นายท่านพวกข้าไม่รู้จริงๆว่าทำไม เสียงของนางถึงส่งผลต่อพวกเราขนาดนี้” แพทริกมองไปยังสองนางที่แววตาเริ่มเปลี่ยนไป
“พวกเจ้ากินครั้งสุดท้ายเมื่ไหร่” และสองปีศาจสาวก็นึกขึ้นได้ “ไป” แพทริกไล่ทั้งสองทันที อย่างไรแล้วทั้งสองนี้ก็คือปีศาจที่ต้องดื่มเลือด แต่ทั้งสองรู้ดีว่าไม่อาจทำร้ายมนุษย์ได้ แต่แพทริกรู้ว่าสองปีศาจนั้นก็ไม่ได้ละเว้นมนุษย์เสียทีเดียว พวกนางก็จะดื่มเลือดมนุษย์ที่ชั่วร้ายและกำจัดหลักฐานไม่ให้เหลือหลักฐานถึงสวรรค์ได้
อื้มมมม เมื่อแพทริกปิดปากเธอเพราะเขาเริ่มหนวกหูแล้วเช่นกัน “ตาบอดพิการแค่นี้ไม่พอใช่มั้ย อยากเป็นใบ้ด้วยมั้ย” เดซี่หุบปากและหยุดดิ้นทันที
“ทำแบบนี้ทำไม ลักพาตัวฉันมาทำไม อยากได้เงินเหรอ ป๊าฉันยินดีจ่าย อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” เดซี่ร้องขอชีวิตด้วยความหวาดกลัว
แพทริกมองเข้าไปในดวงตาที่เบิกกว้าง และจ้องเข้าไปในดวงตา ไม่มีความหวั่นไหวใดๆเลย เธอตาบอดจริงๆเหรอ ใช่ว่าเขาจะไม่เชื่อแต่เขาอยากแน่ใจ
“นี่ตาบอดตั้งแต่เมื่อไหร่” เดซี่งง จู่ๆเจอคำถามนี้เข้าไป
“ตั้งแต่เกิด”
“โกหก”
“นี่ ถ้าไม่เชื่อแล้วจะถามทำไม แล้วการตาบอดของฉันมันเกี่ยวอะไรกับการลักพาตัวมาด้วย”
“ถ้าผมจะบอกคุณว่า ผมเอาคุณมาทดลองยาละ” กรี๊ดดดด เดซี่กรีดร้องดังลั่น แพทริกเริ่มเห็นด้วยกับมาลีและมาลาแล้วว่า เสียงของเดซี่มีพลังแสบแก้วหูจริงๆ มันไม่ธรรมดา
“หุบปาก!” ฮึบ เดซี่ปิดปากตัวเองทันที นั่นไม่ใช่เพราะกลัวแต่จู่ๆร่างกายเธอก็หยุดแหกปาก ทำตามคำสั่งของเขาเฉยเลย
“นี่คุณทำอะไรกับฉัน” แพทริกไม่ตอบคำถามนี้ แต่พูดอย่างอื่นที่สำคัญกว่า
“ถ้าผมบอกว่าสามารถรักษาให้คุณกลับมามองเห็นอีกครั้งได้ละครับ” สีหน้าของเดซี่เปลี่ยนไปทันที การมองเห็นคือสิ่งที่เธอต้องการที่สุด
“จะฆ่าก็ฆ่า จะเรียกค่าไถ่ก็ทำสิ ทำไมต้องเอาเรื่องแบบนี้มาทำร้ายจิตใจกันด้วย”
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันอยากทดลองยา เธอไม่สนใจเหรอไง”
“นี่คุณเป็นหมอโรคจิตหรือไง” เฮ้ยยย อืม แพทริกตอบรับอย่างว่าง่าย เอาไงก็ได้ ขอให้ได้พลังของตนคืนมา ตอนนี้เขารู้แล้วว่าพลังของเขาอยู่ที่ดวงตาของเธอ แต่เขาจะเปิดเนตรคู่นี้ได้อย่างไรกันละ
จู่ๆ เดซี่ก็เกิดอาการบางอย่าง ความจริงมันไม่ได้พึ่งเกิด เธอรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่หมอเข้ามาตรวจอาการเธอแล้ว อาการนั้นหายไปตอนที่หมอจากไปและเกิดอีกครั้งเมื่อเขากลับมาอุ้มเธอออกมาจากเตียง
“เกิดอะไรขึ้น” แพทริกเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อฝ่ามือเล็ก คว้าปะป่ายและหยุดที่ไหล่หนาของเขาไว้
“ทำไมฉันถึงร้อนวูบๆวาบๆแปลกๆ” แพทริกมุ่นคิ้ว จับจ้องมองเดซี่อย่างพิจารณา ‘ไม่จริง’ แพทริกคิดอยู่ในใจเงียบๆ
อื้มมม แต่จู่ๆ แพทริกไม่ทันระวัง แม่สาวร้อนรุ่มก็โผเข้ามากอดเขา ใบหน้าเข้มสะบัดหนีอย่างรวดเร็ว พรึ่บ! เขาดึงร่างเธอออกและผลักเธอให้แผ่นหลังนาบกับผนังไว้ สองมือของเขากดไหล่เธอไว้
ฟู่ววววว ควันสีขาวโพยพุ่งมาจากที่ใดและมาได้อย่างไร แพทริกไม่มีเวลาหาคำตอบ ตุ๊บ ร่างสูงล้มลงหมดสติไปในทันที
“นายท่าน นายท่่าน...ฮ้าร์สสสสส” ภาพเปลือยของสองร่างปลายริมลำธาร อยู่ในท่วงท่าขย่มเขย่า สองขาเรียวโอบรอบเอวสอบไว้แน่น สองแขนประคองกอดคล้องคอแกร่งไว้อย่างมั่นคง
ดวงตากลมวาวโรจน์ด้วยความเกรี้ยวกราด ตึก ตึก ตึก เดซี่สาวก้นครัววิ่งกลับเข้าครัวที่อยู่ของตนไปในทันที
“ท่าน...ท่าน” เสียงตะโกนดังก้อง เธอกำลังเรียกใครกัน ฟู่ววววว และแสงสีทองก็พวยพุ่ง
“เจ้าตกลงแล้วใช่หรือไม่”
“ใช่ ท่านบอกมาว่าข้าต้องทำอย่างไร ถึงจะทำให้จอมเวทย์แพทริกมาคุกเข่าต่อหน้าข้า!!” เดซี่มองรอยยิ้มของคนตรงหน้า ไม่สิ! เขาไม่ใช่คนแน่ๆ แต่เป็นอะไรก็ได้ที่ให้เธอสามารถอยู่เหนือแพทริกได้ ชายผู้ที่เธอหลงใหลอยากให้กอดเธอทำกับเธอเหมือนกับเหล่านางๆ เหล่านั้นบ้าง
“ทนเจ็บหน่อยนะ” ชายร่างสูงที่มีผิวอร่ามสว่างดั่งทองคำ เอ่ยขึ้น อื้มมมม และเมื่อเขาสาดแสงสีทองพุ่งมาที่เธอ เดซี่ทรุดฮวบล้มลงกับพื้นด้วยความทรมาน ตอนนี้เธอรู้สึกว่าร่างกายเธอเหมือนถูกเข็มร้อยเล่มทิ่มแทงลึกไปถึงกระดูกทีเดียวพร้อมกันในทันที
เฮ้ยยยย เฮ่อ เฮ่อ เดซี่หอบหายใจร่างกายเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อที่ผุดผาดออกมาตามร่างกาย “ท่าน...ท่านทำอะไรกับข้า”
“ไม่เป็นอันตรายกับตัวเจ้าหรอก ตอนนี้ในร่างกายของเจ้ามียาวิเศษของสวรรค์ สิ่งที่เจ้าต้องทำก็แค่เอาเลือดของเจ้าผสมกับอาหารให้จอมเวทย์แห่งเงาแพทริกกินไปเรื่อยๆ และเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เองว่าเขาเป็นของเจ้าแล้ว” เฟี้ยวววว และร่างสูงก็หายไปในทันที ไม่แถลงหรือให้รายละเอียดต่อความไม่เข้าเท่าไหร่ของนาง แต่เดซี่ก็จดจำวิธีการจัดการกับแพทริกได้
