
บทย่อ
พรึ่บ! ร่างกำยำโถมหาร่างเปลือยบอบบางอย่างไม่รีรอ เดซี่หนีไปไหนไม่ได้เพราะเธอมองไม่เห็น “คุณทำร้ายผู้หญิงตาบอดได้ คุณยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า”มุมปากหยักยกยิ้มอย่างหยันๆ ก่อนจะเอ่ยว่า “เดี๋ยวเธอก็จะรู้ว่าฉันนี่แหละผู้ชายตัวจริง” อื้ม! ริมฝีปากอิ่มไม่อาจร้องถามเรียกร้องอะไรไดอีก เมื่อโพรงปากหวานถูกปิดด้วยริมฝีปากหยักหนาแข็งกระด้างที่ไม่เสียเวลาจะสอดใส่ลิ้นคว้านเข้าไปดื่มด่ำความหวานในโพรงปากของเธอเดซี่ไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมเธอไม่ขัดขืนเขาในทันทีที่เขาแตะต้องร่างกายของเธอ ในทางตรงข้ามร่างกายนี้กลับตอบสนองกลับเขาอย่างเต็มใจในทันที ‘เพราะอะไรกัน’ เป็นความกังขาที่เดซี่ไม่เข้าใจสักนิดอ้าร์สสส เสียงร้องประท้วงกลายเป็นเสียงคราง เมื่อฝ่ามือร้อนไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง ไปหยุดที่ระหว่างขาเรียวเล็ก ปลายนิ้วแข็งแรงแหวกกลีบสาวที่เปียกฉ่ำแฉะอยู่แล้ว ร่างสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยต้องมือชายสั่นระริกสะท้านเสียววาบหวาม ขนอ่อนลุกชัน “อย่าหยุด” เมื่อโพรงปากอิ่มเอิบเป็นอิสระ แม้จะหายใจไม่ทันแต่จู่ๆเมื่อเขาผละหายไป ในขณะที่เธอกำลังเคลิบเคลิ้มกับความรู้สึกเปรมปรีด์ที่เขาพึ่งจะเริ่มเองเท่านั้นแพทริกไม่ได้ผละไปไหน เขาไม่ได้มีเวทย์มนต์ในการย้ายสิ่งของเหมือนอาเธอร์ เขาทำได้เพียงการทำลายทิ้งดังนั้นแพทริกจึงผละออกมาจัดการกับเสื้อผ้าที่ตนสวมอยู่ ออกจากร่างกายของตน เพราะการใช้พลังทำแบบนั้นมันจะทำให้ร่างกายเกิดอุณหภูมิสูงมากในเสี้ยววินาทีนั้น เจ้าของร่างกายจะเจ็บแต่เพียงเสี้ยวสั้นๆ จนแทบไม่รู้ตัว เหมือนกับที่เดซี่เป็นมาแล้วเมื่อครู่ เมื่อเขาร่ายเวทย์ใส่เธอหมับ! เขาไม่ใช่ชายบริสุทธิ์ แพทริกกอบกุมมือบางที่ยื่นเพื่อตามหาเขาไว้ และเขาก็ส่งมือเล็กนั้นมาเกาะกุมแท่งเนื้อยาวใหญ่ไว้ที่เพิ่มขนาดแล้ว โอ้วววว แพทริกครางออกมา แค่เธอจับไว้ไม่กี่เสี้ยววินาที แท่งเนื้อก็ยืดขยายใหญ่มากขึ้นอีกในอุ้งมือเล็กนั้นทันทีดวงหน้าเดซี่แดงก่ำ ทั้งๆที่เธอตาบอดตั้งแต่เกิด แต่เหตุใดเธอจึงรู้ว่าสิ่งที่เธอจับอยู่นั้นคืออะไร แพทริกแม้จะเสียวซ่านแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ สองมือเล็กประคองลูบคลำไปมาอย่างใคร่รู้“รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เธอจับอยู่มันคืออะไร” แพทริกเอ่ยถามอย่างหยั่งเชิงปลายนิ้วเล็กทั้งห้าของเธอสางเส้นขนที่ปกคลุมส่วนโคนแท่งเนื้อที่เธอจับไว้ และเลื่อนเคลื่อนไปเรื่อยๆ อื้มมมม “มันคือส่วนใช้สืบพันธ์ุของผู้ชายใช่มั้ยคะ” เสียงร้องตอบบางเบา“ใช่แล้ว เธอเคยเห็นหรือเคยจับต้องหรืออย่างไร” อื้ม เดซี่ส่ายหน้า “ฉันอ่านจากหนังสือ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงจินตนาการณ์ภาพเหมือนได้ลางๆจากการจับอยู่ตอนนี้ บางทีฉันก็รู้สึกว่าเคยเห็นมาก่อน แต่คงเป็นไปไม่ได้ ก็ฉันตาบอดตั้งแต่เกิด”“ลองเลียลิ้มรสมันดูสิ” ซีรี่ห์ Revenge of the wizard มีทั้งหมด 7 ตอนนะคะI : The IcarusII : dark shadowIII : infernoIV : the oceanV : the voiceVI : The SoilVII : Bloody
ตอนที่ 1
แพทริกมองคฤหาสน์หลังงาม ที่นี่ทำให้เขารู้สึกถึงขุมพลังที่เขาตามหามานานกว่าสองพันปี แต่เขาเข้าไปไม่ได้ เพราะที่นี่ยังมีพลังบางอย่างที่เขามองไม่เห็นซึ่งร้ายกาจมาก ร้ายกาจถึงขั้นรับรู้ถึงพลังของเขาได้
“อาเธอร์พี่ข้า...หากข้าทำลายพลังของท่านในตัวข้า ท่านจะกลายเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น” แพทริกเคร่งเครียด เมื่อคำนึงถึงอาเธอร์ แม้ร่างแหลกเหลวสลายไปแล้วแต่เมื่อใดก็ตามที่เขาเจอกับอาเธอร์ในชาติภพใหม่และคืนพลังส่วนนี้ให้ไป อาเธอร์จะจดจำทุกๆอย่างของตนได้ และสามารถสร้างโอกาสให้กับตัวเองอีกครั้ง แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ในทันที
‘มาลี มาลา’ แพทริกส่งกระแสจิตเรียกข้าบริวารที่อาเธอร์สร้างและช่วยไว้
“ท่านแพทริก” ไม่นานทั้งสองก็ปรากฎตัว
“เจ้ารู้ใช่มั้ย การมีอยู่ของเจ้าบ่งบอกว่าอาเธอร์หาได้สูญสิ้นไม่”
“พวกเราทราบเจ้าค่ะ” มาลี มาลา เอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน “เศษเสี้ยววิญญาณของนายท่านอยู่ในตัวท่านแพทริก”
“ใช่แล้ว ข้ารับพลังของท่านพี่อาเธอร์มาพร้อมกับเศษเสี้ยววิญญาณส่วนน้อย วิชานี้ก็มีแต่ท่านพี่เท่านั้นที่ทำได้”
“เจ้าค่ะ” แพทริกมองเข้าไปในคฤหาสน์
“พลังของข้าถูกกักกั้นไว้ที่นั่น ข้าไม่อาจเข้าไปได้” มาลี มาลา มองตากัน “แน่นอนว่าเจ้าทั้งสองก็ไม่อาจเข้าไปได้เช่นกัน”
“พวกข้ารู้สึกถึงพลังของเทพผู้พิทักษ์”
“มีเกราะขุมพลังปกป้องคฤหาสน์หลังนี้ คราวนี้ข้าคงเจอศึกหนัก เทพผู้พิทักษ์ตนนี้ไม่อ่อนแอเหมือนเจ้าหลินเลยสักนิด”
“ข้านึกออกแล้ว พลังปกป้องมาร แต่ไม่ทำร้ายเทพด้วยกัน” แพทริกจ้องมาลีและเขาก็นึกถึงใครคนหนึ่งได้ ‘เทพธิดาราตรี’
“พวกเจ้ากลับไปก่อน ข้ารู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร”
“เทพธิดาราตรี รักสันโดษยิ่งนัก พวกข้าทั้งสองเคยได้เข้าพบกับนางครั้งหนึ่ง นางมีโฉมที่งดงาม” แพทริกยกยิ้ม เรื่องนั้นทำไมเขาจะไม่รู้
“มาลี มาลา พวกเจ้าไปเถอะ ไม่มีอะไรที่ต้องห่วงทั้งนั้น”
พรึ่บ! ควับ ควับ ควับ แพทริกเดินไปเดินมาอยู่ที่ทุ่งลานกว้าง เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่สว่างจ้าในยามกลางวัน เวลาค่อยๆผ่านไปจนตะวันลับฟ้า ประตูที่ไม่เคยมองเห็นในยามตะวันส่องสว่างตอนนี้ได้ปรากฎตรงหน้าแพทริก แอ๊ดดดด ประตูเปิดออกให้กับแขกที่ไม่รับเชิญ
“ข้าไม่คิดว่าจะได้เห็นหน้าท่านอีก” แพทริกมองเข้าไปผ่านม่านบังตา แม้จะทะลุม่านแต่หญิงสาวหลังม่านกลับยืนหันหลังให้เขา
“เจ้าเคยไปเยี่ยมข้ามั้ย”
“ข้าเป็นเทพธิดาจากสรวงวรรค์ ท่านเป็นแค่มนุษย์ที่บำเพ็ญฝึกวิชาจนมีปราณ หาใช่ลูกหลานเทพไม่”
“เจ้าไม่เคยเปลี่ยน ข้ามอบหัวใจให้กับเจ้า แต่เจ้าเฉยชากับข้า เพราะข้าต่ำต้อยในความคิดของเจ้า” ฮาฮา เสียงใสกังวาล
“เพราะอย่างงี้สินะ ท่านถึงได้เข้าสู่วัฎจักรจอมเวทย์ ไปภักดีต่ออาเธอร์ และตอนนี้ท่านยังเก็บรักษาเศษวิญญาณของอาเธอร์ไว้อีกด้วย”
“ราตรี เจ้าไม่รู้สึกว่าเป็นหนี้ข้าบ้างเหรอ”
เสียงหัวเราะกังวาลใสดังขึ้นอีกครั้ง “ได้...ข้าจะคืนนี้แต่กาลก่อนให้ท่าน บอกมาสิว่าท่านต้องการอะไร” แพทริกยกยิ้ม เมื่อเขาเข้าไปเอาตัวเดซี่ออกมาไม่ได้ ก็ต้องให้เธอออกมาด้วยตัวเธอเอง
เสียงการเดินย่ำบนเส้นทางเบรลล์บล็อก ปรากฎร่างระหงเธอมีดวงตากลมโตขนตาหนางอนเป็นแพนรำพัน สะกดคนที่มองเข้าไปในดวงตานั้นได้อย่างง่ายดายแต่ช่างน่าเสียดายที่เจ้าของดวงตานั้นหาได้รับรู้ความอ่อนไหวของผู้ที่มองเธอแม้สักนิด
“พี่ไมค์” เดซี่นั่งลงที่เก้าอี้ประจำของเธอ
เฮ้ยยย “นี่พี่ไม่ได้ขยับ รวมถึงกลั้นหายใจเลยนะเนี่ย” เดซี่ไม่สนใจคำพี่ชาย เธอลงมือกินอาหารตรงหน้า ไมค์ก้มหน้าสนใจไอแพดในมือต่อ
“พี่ไมค์” จู่ๆเดซี่ก็เรียกพี่ชาย ไมค์แค่ขานรับในคอ แต่สายตายังคงอ่านข่าวจากไอแพด
“ป๊ารู้เรื่องพี่กับนางแบบคนนั้นแล้วนะ” !! คราวนี้ไมค์เบิกตากว้างมองเดซี่ แต่ก็นั้นแหละท่าทางของเขาเดซี่ไม่อาจเห็น แต่เธอยิ้มขบขัน ทุกอย่างเกิดจากความรู้สึกที่เธอคาดเดาได้
ผลุ๊บ เสียงร่างสูงลุกจากเก้าอี้ “พี่ไปก่อนนะ” ไมค์พูดจบก็เดินออกจากห้องอาหารไปอย่างรวดเร็ว นั่นก็เพราะเขาไม่ต้องการเจอหน้ากับป๊า จำต้องฉิ่งหนีเพื่อเลี่ยงคำถามกับคำต่อว่าที่จะตามมา
“อ้าวนั่น...ไมค์ทำไมถึงดูรีบร้อนแบบนั้น” เสียงของป๊านั่นเอง เดซี่ทำแค่ยิ้มอย่างขบขัน “ลูกพ่อเช้าวันนี้เป็นไงบ้าง”
“หนูไม่เป็นไรค่ะ” เดซี่ตอบกลับผู้เป็นบิดาอย่างสดใส เส้นผมนุ่มสลวยถูกฝ่ามืออุ่นค่อยๆลูบไล้อย่างอ่อนโยน สองพ่อลูกนั่งกินไปคุยไปจนเดซี่เตือนให้บิดาไปทำงาน
“เดซี่ ป๊าไม่อยากให้ลูกอยู่เพียงลำพัง”
“บ้านหลังนี้หนูอยู่มาตั้งแต่จำความได้นะคะ แม้หนูจะมองไม่เห็น แต่หนูก็จะไม่ได้รับอันตรายอะไรจากบ้านหลังนี้แน่นอนค่ะ”
“อ๊ะอ๊ะ ไม่เคยชนะเจ้าได้เลย” เสียงหัวเราะของสองพ่อลูกดังออกมาอย่างมีความสุข เดซี่เมื่อส่งบิดาไปทำงานเธอก็เดินตามทางเบรลล์บล็อกเพื่อขึ้นชั้นสอง
เดซี่ค่อยๆขึ้นไปทีละก้าวอย่างช้าๆ เฟี้ยวววว ! เสียงลมทำให้เธอหยุดฝีเท้าในฉับพลัน “นั่นใคร” เธอไม่เคยต้องเอ่ยถามว่าเป็นผู้ใด เธอเสียสัมผัสการมองเห็นเท่านั้น แต่สัมผัสอย่างอื่นของเธอเหนือกว่าคนทั่วไปหลายเท่า
อร้ายยย ตั่บ ตั่บ ตั่บ อุ้ย อึ๊บ ร่างระหงล่วงหล่นลงมาหมดสติไปโดยทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
กรี๊ดดดด “คุณหนู”
“ร้อยวันพันปี ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหา แล้วเนี่ยเกิดอะไรขึ้น บันไดมันก็อยู่ที่เดิม ทำไมเดซี่ถึงตกลงมาได้...ใครก็ได้ช่วยบอกป๊าทีได้มั้ย”
“ป๊า ใจเย็นๆก่อน เดซี่อาจจะไม่เป็นอะไรก็ได้” ทุกคนต่างร้อนใจ
“ป๊าบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้ดูแลน้องดีๆ น้องเกิดมาก็อาภัพนัก ตาบอดตั้งแต่เกิดไม่มีทางรักษา...ป๊าทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เดซี่มีความสุข”
แพทริกที่ยืนอยู่ไม่ห่างทำเพียงแค่มองกลุ่มชายสามสี่คนที่ร้อนอกร้อนใจ ในที่สุดเขาก็ตามหาเดซี่จนเจอ เธอตาบอดตั้งแต่กำเนิดอย่างงั้น เหรอ เธอต้องเสียการมองเห็นเพื่อสะกดพลังของเขาไว้ มุมปากหยักยกยิ้มอย่างสะใจ
“ไว้เจอกันที่รัก เรื่องราวของเราน่าสนุกแล้วสิ” แพทริกเดินจากไปพร้อมกับที่หมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน
“คนป่วยแค่ช๊อคหมดสติไปครับ พักสักวันสองวันก็กลับบ้านได้แล้วครับ”
ห๊า! ทุกคนตกตะลึง เธอตกบันไดมานะ ตั้งแต่ขั้นที่เท่าไหร่ไม่มีใครรู้ แต่เลือดสักหยดก็ไม่มี กระดูดแตกหักก็ไม่มี ประหลาดเกินไปแล้ว แต่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เคยเกิดขึ้นกับเดซี่ นอกจากเธอไม่สามารถมองเห็นได้ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็ไม่เคยเจ็บป่วยอะไรกับเขาเลย
