บทย่อ
“ฉันคือแขกคนสำคัญของที่นี่ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธอ้อมกอดของฉันเลยสักคน” ใบหน้าหล่อระบายยิ้มอย่างชั่งใจ เขาคงคิดว่าฉันจะเหมือนผู้หญิงหน้าโง่พวกนั้นน่ำสินะ คิดง่ายเกินไปแล้ว! “เผอิญว่าฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีอารมณ์มาเสวนากับแขกคนสำคัญของร้านซะด้วยสิ ขอโทษแรงๆ หนึ่งทีแล้วกัน” “นี่เธอ!” มือแกร่งบีบข้อมือฉันแรงขึ้นเป็นการเตือน คิดว่าแค่นี้จะทำให้คนอย่างฉันกลัวและยอมอ่อนข้อรึไง “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร...เธอจะบอกว่าเธอปฏิเสธิที่จะอยู่กับฉันอย่างงั้นเหรอสาวน้อย” จะถามย้ำให้มันได้อะไรขึ้นมาเมื่อรู้คำตอบอยู่แล้ว ไร้สาระซะจริง “นั่นมันก็ส่วนหนึ่ง เพราะว่านายไม่มีในสิ่งที่ฉันพอใจ” “อะไรล่ะที่เธออยากได้แต่ฉันไม่มี ฉันสามารถเสกหามาให้ถ้าเธอ...ตกลงว่าคืนนี้จะไปต่อกันสองคน”สายตามองต่ำลงมาที่เสื้อเกาะอกอย่างมีเลศนัย แผนร้ายใจทรามนะคนๆ นี้ คงจะถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจมาตั้งแต่เด็กๆ เลยมักจะชอบใช้นิสัยลูกคุณหนูผู้มีอันจะกินซื้อสิ่งของที่อยากได้ด้วยเงินสินะ แต่ต้องขอโทษแรงๆ อีกครั้ง... เผอิญว่าฉันไม่ใช่สิ่งของซะด้วยสิ!“สิ่งที่นายไม่มีนั่นน่ะ...คือน้ำยายังไงล่ะ!” จบคำพูดที่เรียบง่ายฉันก็คว้าแก้วเหล้าที่วางไว้ใส่ตัวสาดใส่หน้าร่างสูงตรงหน้าในทันที และแน่นอนว่ามันมากพอที่จะทำให้เขาเผลอปล่อยมือที่จับกุมฉันให้หลุดออกอย่างง่ายดาย แค่นี้มันยังน้อยไปซะด้วยซ้ำถ้าเทียบกับสายตาที่จ้องมองกัน
บทนำ
บทนำ
ชีวิตที่เลือกไม่ได้
หากคุณกำลังต้องการแก้แค้นใครสักคน....
ขอเชิญใช้บริการ RED ANGEL ของเราได้
[ลงนาม : วอดก้า เวเลอร์]
“ลิเคียวเจ้าหญิงน้อยของแม่ โตขึ้นลูกจะต้องเป็นคนดี มีความสุขเหมือนกับเจ้าหญิงน้อยในเทพนิยายนะลูกรัก”
“ทำไมตำนานในเทพนิยาย แม่มดต้องถูกสาปด้วยละคะแม่”
“เพราะแม่มดเป็นคนไม่ดีจ๊ะ แต่ว่าลิเคียวลูกของแม่เป็นเด็กดี ก็เลยได้เป็นเจ้าหญิง”
“แล้วถ้าวันหนึ่ง...หนูกลายเป็นคนไม่ดีละคะ หนูจะถูกสาปเหมือนกับแม่มดชั่วร้ายรึเปล่า”
เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่ดังขึ้นภายใต้ค่ำคืนที่มีแสงจันทร์สลัว สายลมพัดโบกไม้ใบยอดหญ้าโบกสะบัดไปมาโต้ลมเย็นๆ ไปทั่วบริเวณ ความเงียบเข้าปกคลุมไปซอกตึกอันปลอดผู้คน ถังขยะที่ถูกวางเรียงรายกองเป็นแถว ส่งกลิ่นเหม็นโชยมาให้สัมผัสเป็นระลอกๆ สถานที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก ที่ไม่น่าจะมีใครอยากก้าวล้ำเข้ามาเหยียบ
ยกเว้นก็แต่เธอ! ดวงตากลมโตสีน้ำเงินเข้มราวกับมหาสมุทรลึกเงยขึ้นจ้องมองดวงจันทร์ที่สาดส่องอย่างเหม่อลอยราวกับว่ามันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับเธอในวินาทีนี้
ใบหน้าเย็นชาตวัดมองร่างใหญ่โปร่งไร้ซึ่งสติเบื้องหลังกองขยะอย่างมีชัย รอยยิ้มเล็กๆ ค่อยๆ เผยขึ้น ยอมเมื่อหันไปมองภาพของ ‘เหยื่อ’ ก่อนที่มือบางจะโยนขนนกสีแดง ให้ลอยละลิ่วไปตกอยู่ที่บนตัวชายหนุ่ม ที่มีดีกรีเป็นถึงหัวหน้าแก้งอันธพาลผู้โด่งดัง ที่ทั้งเก่งกาจและสามารถมากมายตามคำเล่าลือ แต่ทว่าเธอ ผู้หญิงตัวเล็กๆกลับเอาชนะเขาได้โดยใช้เวลาไปเพียงแค่ไม่ถึงสามนาทีเท่านั้น
มือเรียวสวยล้วงไปหยิบโทรศัพท์เครื่องจิ๋วสีดำที่มีจี้รูปนางฟ้าสีแดง ที่เป็นหลักและสัญลักษณ์การมีตัวตนในองค์กรของเธอออกมาอีกครั้ง ก่อนจะกดโทรออกไปที่ปลายสายด้วยท่าทีเฉยเมิน จนกระทั่งอีกฝ่ายรับสาย เธอถึงได้เอ่ยรายงานด้วยคำพูดเพียงสั้นๆ
“ภารกิจ...สำเร็จแล้ว”
[ความเป็นมาของนางฟ้าองค์ที่สอง : วิสกี้]
ภายใต้ท้องฟ้ายามเย็น ท้องฟ้าสีครามเริ่มจะแปรเปลี่ยนเป็นสีเทาจางๆ บรรยากาศโดยรอบที่แสนจะเงียบเชียบ ราวกับจะบอกให้รู้ ว่าลมหนาวได้พัดผ่านมาเยือนอีกครั้งแล้วในเวลานี้
เช่นเดียวกับหญิงสาวในชุดลำลองแสนธรรมดา ที่ในมือเต็มไปด้วยอุปกรณ์เข้าครัวสารพัดชนิด เรือนผมสีน้ำตาลประกายแดงยาวเลยสะโพกลงมาค่อนข้างมาก เปลือกตากลมโตสีเขียวมรกตกระพริบถี่ขึ้น ขาเรียวก้าวอย่างว่องไว เมื่อเหลือบไปเห็นว่าความมืดมิดเริ่มจะเข้าปกคลุมบริเวณที่อยู่เข้าไปทุกชั่วขณะ จุดหมายปลายทาง คือคฤหาสน์หลังงามท้ายซอยที่สุดแสนจะเปล่าเปลี่ยว
สำหรับใครหลายๆ คนอาจจะเรียกสถานที่พักพิงที่มีไว้สำหรับพักอาศัยนั้นว่า ‘บ้าน’ แต่สำหรับฉัน… ที่นั่นมันไม่ต่างอะไรจากนรกบนดินเลยแม้แต่นิดเดียว
เพี๊ยะ!
“แกมัวไปแรดที่ไหนมาห๊ะ! รู้ไหมว่าฉันกับน้องรอกินข้าวเย็นนานแค่ไหนแล้ว” ใบหน้าขาวใสสะบัดไปด้านข้างตามแรงตบที่ได้รับ เบื้องหน้าคือหญิงชราวัยกลางคนกับลูกสาวที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวต่างแม่ยืนสง่ารอต้อนรับการกลับมา สายตาเกลียดชังมองจ้องมาอย่างไม่ขาดสายทั้งๆ ที่เธอมีศักดิ์เป็นถึงลูกเลี้ยงแถมยังเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้เสียด้วยซ้ำ
ชื่อของฉันคือ ’วิสกี้’ อดีตลูกสาวของนายกเทศมนตรีชื่อดัง ซึ่งพอแม่เสียไปได้ไม่นานนัก พ่อก็เข้ามาสารภาพความผิดกับฉันว่าเขาต้องการแต่งงานใหม่ ซึ่งนั่นเอง…ที่มันเป็นต้นตอของความทุกข์
ดูเหมือนฉันคือซินเดอเรลล่าที่มีทั้งแม่เลี้ยงใจร้ายและน้องสาวต่างแม่ที่ขี้อิจฉา แต่ความจริงแล้วใครหลายคนหารู้ไม่ว่าชีวิตที่ผ่านพ้นมาของฉันนั้น มันน่าสมเพชเสียยิ่งกว่าเจ้าหญิงในนิทานพวกนั้นเสียอีก สามปีหลังจากที่พ่อแต่งงานใหม่ ท่านก็จากไปด้วยโรคประจำตัว และนับตั้งแต่นั้นมา…นี่ก็เข้าปีที่สี่แล้วที่แม่เลี้ยงได้เผยธาตุแท้ออกมาให้ได้เห็น ห้องนอนชั้นบนที่เคยเป็นของฉันตอนนี้กลายเป็นของอลิช น้องสาวต่างแม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนฉัน...ได้พักอยู่ในห้องคนใช้ชั้นล่างสุด และต้องทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อแลกกับการไม่ถูกเฉดหัวออกจากบ้าน

