บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 วันประกาศผลสอบ

สามวันหลังจากการสอบเข้าเรียนผ่านพ้นไปก็ถึงวันประกาศผล พวกเซสมารอประตูโรงเรียนเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ รวมทั้งผู้เข้าสอบจำนวนหนึ่งด้วย เมื่อถึงเวลา บานประตูขนาดใหญ่ก็เปิดทางให้ทุกคนตรงดิ่งไปที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ โชคดีที่เช้านี้ยังไม่มีใครมามาก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเบียดฝูงชนเข้าไป

“เซส!”

“ใครชื่อเซส!”

“ออกมาหน่อย!”

'เรียกทำไมวะ' หนุ่มสวมแว่นเดินไปหากลุ่มคนที่เรียกเขา แถมพวกนั้นมีแต่คนสวมแว่นตาเหมือนกันด้วย ท่าทางจะเป็นพวกเด็กเรียนยกทีม

“ผมเองครับชื่อเซส”

“เจอตัวแล้ว เจ้าคนสอบข้อเขียนได้ที่หนึ่ง!”

“อะไรนะ”

“หมอนั่นได้ที่หนึ่งเหรอ”

“ไหน ๆ ขอดูหน้าหน่อย”

“...” ชายหนุ่มได้แต่พ่นจุดไข่ปลาเพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ตอนนี้มีผู้เข้าสอบมากหน้าหลายตาเข้ามารุมล้อมดูหน้าเขาอย่างตื่นเต้น พวกเอวิสจึงทำได้แค่มองอยู่ห่าง ๆ พลางกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนรับมือกับผู้คนมากมายไม่ถูก

“ผู้เข้าสอบสามหมื่นคน แต่โรงเรียนรับแค่หกร้อยคน ฉันได้ที่สอง แพ้เซสสามสิบคะแนนเหรอเนี่ย” หนุ่มผมทองยืนมองบอร์ดประกาศรายชื่อพลางทำหน้าบอกบุญไม่รับ “เลน่าสอบได้ที่เท่าไหร่”

“ฉันสอบได้ที่สองร้อยสามสิบค่ะ”

“เมย์ล่ะ”

“ทุกคน ฮือ...” หญิงสาวทรุดนั่งลงกับพื้นพลางร้องห่มร้องไห้ ลำบากเพื่อนทั้งสองต้องเดินมาปลอบ เซสก็ฝ่าฝูงชนออกมาดูเมื่อเห็นเมเทเลียทำท่าเหมือนคนหมดแรง

“เมย์เป็นอะไรครับ”

“เซสดูสิ ฉันสอบได้ที่ห้าร้อยเก้าสิบเก้าล่ะ เกือบสุดท้ายเลย แง...”

“อย่างน้อยก็ได้เข้าเรียนต่อนะครับ” คนพูดนั่งชันเข่าลงข้าง ๆ ตามด้วยตบบ่าปลอบใจ ทว่าเธอก็ยังสะอึกสะอื้นเหมือนจะร้องไห้ต่อ เซสจึงหยิบกระดาษสำหรับห่อขนมออกมา ในนั้นมีแพนเค้กชิ้นเล็ก ๆ จำนวนหนึ่ง เขายื่นให้เธอหยิบไปกินปลอบใจสักสองสามชิ้นแล้วค่อยเก็บเข้ากระเป๋าตามเดิม

‘ประกาศค่ะ ขอให้ผู้ผ่านการสอบทุกคนไปรายงานตัวที่หอประชุมใหญ่เพื่อรับคู่มือนักเรียน หากไม่มารายงานตัวภายในวันนี้ ทางเราจะถือว่าสละสิทธิ์นะ ขอบคุณค่ะ’

“เขาเรียกรายงานตัวแล้วค่ะ” เลน่าหันมาบอกทุกคนหลังจากการประกาศจบลง ในขณะที่เซสช่วยดึงให้เมเทเลียลุกขึ้นเนื่องจากยังไม่หายเศร้าที่สอบได้ลำดับเกือบสุดท้าย

“เซส ทำยังไงก็ได้ให้เมย์หายเศร้านะ”

“เอวิสก็ช่วยผมหน่อยสิครับ”

'จะให้ตูปลอบผู้หญิงเหรอ ตูไม่ได้มีความอดทนมากขนาดนั้นนะโว้ย!' เซสสบถในใจอย่างหงุดหงิดทั้งที่ปั้นหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่น่าเสียดายที่หนุ่มผมทองสนใจเลน่ามากกว่า ลำบากเขาต้องทำยังไงก็ได้ให้เมเทเลียหายเศร้าสักที

เอาแพนเค้กให้กินละกัน!

เสียงนกน้อยสีดำดังแว่วมาจากระเบียงเพื่อให้ผู้รับสาส์นออกมารับข้อความตอบกลับจากลูกชายที่ตอนนี้ไปอยู่ในแดนมนุษย์ ทว่าผู้ที่ออกมาจากห้องแล้วรับของแทนนั้นไม่ใช่ชายหนุ่มผมสีทมิฬเหมือนทุกครั้ง แต่กลับเป็นหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีม่วงดำเหมือนชนชั้นสูงและสวมผ้าคลุมลายลูกไม้สีดำคลุมศีรษะรวมทั้งใบหน้าเอาไว้ ร่างบางแกะเชือกที่มัดขานกตัวนั้นแล้วนำม้วนกระดาษกลับเข้าไปข้างใน

“เซเรียสส่งข่าวมากล่ะสิ”

“ค่ะ” เจ้าของเสียงใสนำม้วนกระดาษไปให้คนถามที่นั่งอยู่ท่ามกลางกองเอกสาร วาเรียสรับของมาจากนั้นก็คลี่ม้วนกระดาษออกเพื่ออ่านข้อความด้านใน

ท่านพ่อ โรงเรียนซินเทลล่าประกาศผลสอบแล้ว ข้าได้ที่หนึ่งนะครับ เมื่อกี้เพิ่งไปรายงานตัวมา อีกสามสัปดาห์ โรงเรียนจะเปิดเทอม ข้าจับฉลากเลือกหอแล้ว หอที่ข้าอยู่ชื่อซิลวา ตั้งชื่อตามประเทศซิลวา หมายเลขห้องคือยี่สิบสอง ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนใหม่สามคนของข้าจะอยู่ห้องใกล้ ๆ กัน

ท่านพ่อ ข้าคิดว่าจะสมัครใช้บัตรเมจิกมันนี่การ์ดสำหรับนักเรียน เวลาซื้อของแล้วจ่ายเงินก็จะใช้บัตรนั้นแทนเงินสด โดยมีเครื่องสแกนโค้ดด้วยเวทมนตร์เพื่ออ่านข้อมูล วิธีสมัครก็แค่นำเอกสารยืนยันตัวตนและข้อมูลนักเรียนไปให้ ส่วนจำนวนเงินที่ข้าจะเติมเข้าบัตร ข้าจะถอนจากบัตรเดิมที่มีอยู่ ตอนนี้ข้าจะต้องกลับบ้านก่อน อีกไม่กี่วันเจอกันครับ

เซเรียส เพนเดลรอน

“อีกไม่นาน เซเรียสจะกลับมา” เจ้าของห้องกล่าวเสียงเรียบพลางม้วนกระดาษแผ่นนั้นแล้วเก็บไว้ในลิ้นชักซึ่งเต็มไปด้วยจดหมายของลูกชาย

“วันไหนคะ”

“เขาบอกว่าอีกไม่กี่วัน” ทันทีที่เขาพูดจบก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เมื่ออนุญาตแล้ว เด็กรับใช้สองคนก็ยกเอกสารกองใหม่เข้ามา ทำเอาคนเห็นชักอยากจะบ้าให้รู้แล้วรู้รอด

วัน ๆ ทำแต่งาน อีกสักหน่อยคงเป็นลมเพราะงาน!

'นี่เหรอสนมที่ท่านจ้าวเพิ่งรับเข้ามา' หนึ่งในสองเด็กรับใช้หันมาเห็นหญิงสาวที่มีผ้าลายลูกไม้คลุมศีรษะและใบหน้าจึงไม่รู้ว่าหน้าตาของเธอเป็นอย่างไร เขาค้อมศีรษะให้บุคคลทั้งสองก่อนจะเดินตามเพื่อนร่วมงานออกไปเงียบ ๆ

ธนาคารประจำโรงเรียนในขณะนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายแน่นขนัดซึ่งทุกคนเป็นนักเรียนใหม่ทั้งนั้น หลังจากรายงานตัวเสร็จ ทั้งกลุ่มก็พากันมาทำบัตรเมจิกมันนี่การ์ด เมเทเลีย เอวิส และเลน่าได้บัตรของตัวเองแล้วซึ่งเป็นบัตรสีฟ้าคราม ทว่ายังมีอยู่คนหนึ่งที่ยังจัดการเรื่องไม่เสร็จ

“เอวิส เซสไปไหนล่ะ” หญิงสาวผมสีขาวจำได้ว่าสองหนุ่มทำบัตรด้วยกัน

“ฉันไปทำบัตรก่อน แต่เซสขอแยกไปส่งจดหมายให้ทางบ้าน ตอนนี้คงกำลังทำบัตรอยู่ โน่นไง นั่งรอคิวอยู่น่ะ” เขาบุ้ยใบ้ไปทางหนุ่มสวมแว่นที่ลุกจากเก้าไปนั่งตรงหน้าพนักงาน แต่ยังไม่ทันได้นั่ง อยู่ ๆ ก็มีหญิงวัยกลางคนแซงขึ้นมานั่งแทนทำให้ร่างสูงชะงัก

“อ้าวเฮ้ย! แซงคิวกันนี่!” เอวิสที่ยืนดูอยู่กับพวกเมเทเลียถึงกับหลุดสบถเสียงดัง

“อะไรน่ะ ป้าคนนั้น”

“แซงคิวเฉยเลย”

คนอื่นที่ต่อแถวรอก็พากันซุบซิบขณะมองคนแซง

“คุณป้าคะ ฉันคงไม่สามารถทำบัตรให้คุณป้าได้ ถึงแม้ว่าคุณป้าจะทำงานที่โรงเรียนนี้มานานจนเราทุกคนรู้จักกันดี ถึงยังไงก็ต้องต่อแถวรอคิวนะคะ” พนักงานสาวไม่อยากให้คนตรงหน้าแซงคิวเพราะเห็นใจคนอื่นที่มารอนาน

“นี่! ฉันอยู่ที่โรงเรียนซินเทลล่ามานาน อีกอย่างพวกนั้นยังหนุ่มยังสาว ให้คนแก่ทำบัตรก่อนไม่ได้หรือไง ฉันจะทำบัตรใหม่ ได้ยินไหม!”

“เอ่อ...”

“ขอโทษนะครับ” เซสลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ หญิงวัยกลางคนพลางยื่นเอกสารให้พนักงานสาวก่อนจะหันมามองคุณป้าคนนั้น “อายุมากแต่ท่าทางยังแข็งแรงดี แบบนี้ไม่ควรทำนะครับ คนอื่นเขามารอตั้งนานแล้ว”

“นี่เจ้าสี่ตา อย่ามาว่าฉันนะ พวกแกยังหนุ่มยังสาว แต่ฉันน่ะแก่แล้ว เสียสละให้คนแก่ไม่ได้เหรอ อ้อ! หรือว่าที่บ้านไม่เคยสอนเรื่องการเสียสละ เป็นผู้ชายแท้ ๆ พ่อสอนมาแบบไหนเนี่ย” หญิงวัยกลางคนยังคงไม่ยอมแถมยังจิกกัดเซสพลางมองตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมเบ้ปากใส่ ทำเอาหนุ่มเรียบร้อยถึงกับของขึ้นเลยทีเดียว

บังอาจมาว่าท่านพ่อ เขายอมไม่ได้!

“ขอโทษนะครับ แล้วป้าแก่นักเหรอครับ หน้าตาก็เหมือนคนอายุสี่สิบกว่า ๆ ท่าทางก็แข็งแรงดี นี่ถ้าป้าเป็นยายแก่หลังค่อมถือไม้เท้าเดินมา ผมจะไม่ว่าอะไรเลย อย่ามาอ้างคำว่าเสียสละ ถ้าป้ายังไม่รู้จักระเบียบวินัยทางสังคม ทำงานอยู่โรงเรียนนี้มานานแล้วยังไง ป้าเป็นใหญ่คับโรงเรียนเหรอ ดูจากลักษณะการแต่งตัวก็รู้ว่าป้าเป็นแม่บ้านทำความสะอาด ทำตัวแบบนี้ไม่กลัวถูกมองว่าเป็นพวกไม่มีมารยาทเหรอครับ รู้ถึงไหน อายถึงนั่นโดยเฉพาะลูกหลานที่บ้าน”

“ไอ้เด็กนี่! กล้าดียังไงมาด่าฉันฉอด ๆ มันจะมากไปแล้วนะ!”

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมสามารถด่าได้แรงกว่านี้อีกเป็นเท่าตัว ถ้าเข้าใจแล้วก็กรุณากลับไปต่อแถวเหมือนคนอื่น ๆ เถอะ จะได้ไม่เป็นภาระของสังคม”

“ใช่ ๆ กลับไปต่อแถวเลย!” ทันทีที่เซสกล่าวจบก็มีเสียงประท้วงของคนต่อแถวรอจากด้านหลัง อีกทั้งสายตาของคนทั้งธนาคารที่มองมาก็ยิ่งทำให้นางทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินกลับไปแต่โดยดี

“ขอบคุณมากค่ะน้อง หวังว่าคุณป้าท่านนั้นจะคิดได้ซะบ้าง” พนักงานสาวยื่นสมุดบัญชีและบัตรเมจิกมันนี่การ์ดมาให้พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ

“ไม่เป็นไรครับ” เซสรับของมาแล้วลุกเดินจากไปก่อนที่จะมีคนอื่นมานั่งแทน เจ้าตัวตรงไปหาเพื่อนทั้งสามที่ยืนรออยู่ ซึ่งพวกเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

“ถ้าไม่เห็นกับตา ฉันคงไม่คิดว่าเซสจะด่าใครเป็นนะคะ” เลน่าถึงกับหัวเราะฝืด ๆ

“นายนี่ปากจัดเอาเรื่องนะ ฉันชักกลัวเวลาต่อปากต่อคำกับนายแล้วสิ” เอวิสอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขามีเรื่องทะเลาะกับหนุ่มผมดำ เขาจะเถียงชนะหรือเปล่า

“ผมไม่เท่าไหร่นะครับ แต่ถ้าเป็นคนที่บ้าน อาจด่าแรงกว่านี้ก็ได้” คนพูดเหงื่อตกเล็กน้อยเมื่อนึกถึงพ่อตัวเอง ซึ่งตอนนี้ทางด้านพระราชวังซัลลิแวน วาเรียสกำลังเทศนาขุนนางในท้องพระโรงจนไม่มีใครกล้าเงยหน้ามองเขาเลย

“ทุกคน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะกลับโรงแรมนะ พอดีพวกพี่ ๆ จะมาน่ะ”

“พวกพี่ ๆ เหรอครับ” เซสเลิกคิ้วข้างหนึ่งเมื่อได้ยินว่ามีคนมาหาเมเทเลีย พลันความทรงจำหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในสมอง ในสงครามเมื่อห้าปีก่อน นอกจากหญิงสาวที่เขาเจอในสนามรบแล้วก็มีพวกพี่ ๆ ของเธอที่เขาเคยเจอ!

“เมย์ถอยออกมา! นั่นคือเจ้าชายแห่งแดนมืด!”

“เมย์!”

“เจ้าจะทำอะไร!”

“ปล่อยเมเทเลียนะ!”

คำพูดของพวกเขายังคงดังก้องอยู่ในสมอง อย่างที่เมเทเลียพูด เธอมีพี่ชายทั้งหมดสองคนและอยู่ในเหตุการณ์เมื่อตอนนั้นด้วย

“จะว่าไปพวกพี่ ๆ เขาก็เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนซินเทลล่าด้วยนี่ เห็นว่าจะกลับมาเยี่ยมโรงเรียน พวกเราไปทักทายหน่อยก็ดี อีกอย่างจะได้แนะนำให้เซสรู้จักด้วย” เอวิสรู้จักสองคนนั้นเช่นกันเพราะเป็นเพื่อนสนิทของเมเทเลียมานาน เซสชะงักเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ปั้นหน้ายิ้มสดใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนด้วยนะครับ”

หลังจากจัดการเรื่องทำบัตรเรียบร้อยแล้ว ทั้งสี่ก็กลับมาที่โรงแรม ที่นั่นพวกเขาได้พบกับชาวเทวาจำนวนหนึ่งซึ่งมองจากลักษณะการแต่งตัวแล้วคงเป็นทหารองครักษ์นอกเครื่องแบบ แสดงว่าผู้มาใหม่ต้องเป็นบุคคลสำคัญจริง ๆ เมเทเลียเห็นเข้าก็เก็บอาการดีใจไว้ไม่มีมิด เธอรีบวิ่งเข้าไปในตัวอาคารแล้วพบกับพนักงานต้อนรับที่รออยู่

“พวกเขามาแล้วใช่ไหมคะ”

“ใช่ค่ะ เชิญที่ห้องนั่งเล่นได้เลย” พนักงานสาวผายมือให้ร่างบางวิ่งเข้าไปในห้อง โดยมีพวกเซสเดินตามมาทีหลัง ทันทีที่หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปก็เห็นชายหนุ่มสองคนซึ่งทั้งคู่มีผมสีขาวยาวประบ่า นัยน์ตาเป็นสีฟ้าเช่นเดียวกัน ใบหน้าคล้ายคลึงกันมาก ถ้าไม่บอกว่าเกิดคนละปีคงนึกว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝด

“ท่านพี่เมอร์เดส! ท่านพี่เมอร์เดียส!”

“เมย์!” เมอร์เดียสซึ่งเป็นพี่ชายคนรองลุกขึ้นมาอ้าแขนรับน้องสาวที่พุ่งมากอดก่อนจะปล่อยให้เธอไปกอดพี่ชายใหญ่บ้าง เมอร์เดสลูบผมน้องสาวเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูแล้วหันไปทักทายพวกที่ตามเข้ามา

“เอวิส เลน่า สบายดีนะ”

“สบายดีครับ ไม่ได้เจอพี่เมอร์เดสตั้งนาน ยังหล่อไม่เปลี่ยนเลย” แล้วเจ้าตัวก็หันไปมองคุณพี่รองซึ่งตอนนี้เขากำลังยื่นตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลให้น้องสาว เมเทเลียจำได้ว่าเป็นตุ๊กตาตัวโปรดจึงรีบรับไว้ “พี่เมอร์เดียสเอาของมาให้เมเทเลียด้วยเหรอครับ”

“ก็เมย์ลืมตุ๊กตา ข้าก็เลยต้องเอามาให้ โอ๊ะ! ตอนนี้ไม่ต้องใช้สรรพนามแบบนั้นแล้วนี่ งั้น...ฉันคิดว่าทุกคนคงดีใจที่ได้ของฝาก” เมอร์เดียสหยิบกล่องบรรจุขนมขึ้นชื่อของแดนเทวามาให้เด็ก ๆ เอวิสกับเลน่ารับมาแล้วกล่าวขอบคุณตามมารยาท

“เมย์ เธอมีเพื่อนใหม่ด้วยเหรอ” เมอร์เดสหันมาเห็นชายหนุ่มผมสีทมิฬซอยยาวระคอ นัยน์ตาสีแดง สวมแว่นตา และสวมชุดสีดำ เขามองอย่างสนใจก่อนที่เมอร์เดียสจะหันมามองบ้าง

“พี่เมอร์เดส ข้าว่าเขาดูคุ้น ๆ นะ” คนเป็นน้องชายบอกพี่ใหญ่พลางเดินเข้าไปมองอีกฝ่ายใกล้ ๆ เมอร์เดสก็ตามมาดูบ้าง เขากวาดสายตามองผู้มาใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่รู้ทำไมมันคุ้นมากเหมือนเคยเห็นมาก่อน

'เวรล่ะ โจทก์เก่านี่หว่า!' เซสสบถในใจทั้งที่ปั้นหน้าเหมือนคนปกติ อย่างที่ว่าเขาเคยเจอสองคนนี้มาก่อน แต่ตัวเองสวมหน้ากากไว้จึงแน่ใจว่าทั้งสองจำหน้าไม่ได้ แต่ถ้าเป็นบุคลิกและท่าทาง เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

“มีอะไรเหรอครับ” เซสยิ้มแย้มแจ่มใส

“ไม่มีอะไรหรอก” เมอร์เดสถอนหายใจพลางส่ายหน้า

“สงสัยพวกฉันจะคิดไปเอง พอดีว่าเห็นนายแล้วรู้สึกเหมือนเห็นโจทก์เก่ามาอยู่ตรงหน้าน่ะ แต่เจ้านั่นชอบแผ่รังสีอันตรายแต่นายไม่มีสิ่งนั้นเลย ว่าแต่ชื่ออะไรล่ะ” เมอร์เดียสเห็นว่าเป็นเพื่อนใหม่ของน้องสาวจึงอยากรู้จักชื่อเอาไว้ เจ้าหนุ่มเรียบร้อยแอบโล่งอกที่ทั้งคู่จำเขาไม่ได้

“ผมชื่อเซส โดโนเวนครับ”

“ฉันชื่อเมอร์เดส รินเซีย ส่วนนี่น้องชายฉันชื่อเมอร์เดียส รินเซีย เราสองคนเป็นพี่ชายของเมเทเลีย นายนี่ตัวโตจังนะ สูงเท่าพวกฉันเลย ถ้าไม่บอกว่าอายุเท่าเมเทเลีย ฉันคงนึกว่าอายุเท่ากับพวกฉัน” เมอร์เดสแนะนำตัวให้ทั้งตัวเองและน้องชายพลางพิจารณาขนาดตัวของอีกฝ่าย เซสเป็นคนตัวสูงพอ ๆ กับพวกเขา แถมรูปร่างก็ไม่ได้ผอมด้วย “นายเคยฝึกต่อสู้มาก่อนหรือเปล่า”

“ก็ฝึกมาบ้างนะครับ” เจ้าคนสวมแว่นตายังคงทำตัวเหมือนชายหนุ่มผู้เรียบร้อยด้วยการเดินไปนั่งกับเพื่อน ๆ ที่กวักมือเรียกให้มานั่งบนโซฟาด้วยกัน

“ไหนดูสิ มีข่าวอะไรมาบ้าง” เมเทเลียจิ้มวงเวทขนาดเล็กที่ปรากฏอยู่บนโต๊ะกระจก จากนั้นก็มีภาพสามมิติปรากฏขึ้นอยู่กลางห้องแล้วฉายภาพข่าวคล้ายกับโทรทัศน์ ก่อนที่จะมีเสียงประกาศดังขึ้น

‘ต่อไปเป็นรายงานข่าวจากประเทศโรซานค่ะ จากที่เคยเกิดเหตุพายุพัดถล่มเมืองหลวงแคนเดียน สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง และเจ้าหญิงแห่งโรซานก็หายตัวไป ตอนนี้ทางโรซานพบตัวเจ้าหญิงแล้วค่ะ เจ้าหญิงกำลังจะลอบเข้าไปในแดนมืดพร้อมปีศาจธรรมดาจำนวนหนึ่ง โชคดีนะคะที่ตามไปทัน...’

ข่าวนั้นทำให้เซสซึ่งกำลังรับขนมจากเอวิสสะบัดหน้าไปมองภาพสามมิติทันที ภาพนั้นฉายให้เห็นทหารจำนวนหนึ่งกำลังคุมตัวหญิงสาวผมสีเขียวน้ำทะเล นัยน์ตาสีเดียวกันกับเส้นผม ใบหน้าของเธอคล้ายคลึงกับใครบางคนในรูปภาพที่พ่อเคยให้เขาดูไม่มีผิด!

“...แม่ของเจ้าชื่อเซซาเนีย แอมโบเรีย เป็นเจ้าหญิงแห่งโรซาน นางเป็นคนที่สวยมาก ใจดี อ่อนโยน ใครอยู่ด้วยก็รักนางทั้งนั้น”

เซเรียสจำคำพูดนั้นได้ดีเพราะพ่อของเขาเป็นคนบอกเอง ทว่าภาพที่เห็นนั้นคือแม่ของเขากำลังถูกคุมตัวอยู่ หนุ่มสวมแว่นรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติจะได้ไม่มีใครสงสัย เขาตั้งใจว่าถ้าได้กลับบ้านจะถามเรื่องนี้กับวาเรียส

“ข่าวเจ้าหญิงแห่งโรซานเองเหรอ หรือว่าปีศาจที่เจ้าหญิงรักคือจ้าวปีศาจจริง ๆ ถ้าใช่ก็ไม่น่าเลย” เมอร์เดสส่ายหน้าอย่างเห็นใจอีกฝ่าย “...ยิ่งตอนนี้มีข่าวแว่ว ๆ ว่าจ้าวปีศาจมีสนมแล้วด้วย” ชายหนุ่มไม่สังเกตเลยว่าคำพูดนั้นทำให้เซสชะงัก

จ้าวปีศาจมีสนมเหรอ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel