บทที่3 คอนนิจิวะ
"....ทำไมมึงไม่บอกกู" ว่าจบฉันก็ยื่นโทรศัพท์คืนให้มะลิแล้วหมุนตัวหันหลังกำลังจะก้าวขาเดิน ทว่า
"มึงจะไปไหน" ฉันชะงักแล้วหันไปยิ้มหวาน
"ไปเตรียมชุดต้อนรับพี่เคนตะ..." แล้วหันหลังเดินกลับมาหามะลิ
"...กูจะดูแลเขาเป็นอย่างดี ให้เขาประทับใจที่สุด" ว่าจบ ก็ประสานมือตัวเองไว้ที่หน้าอกด้วยใบหน้าที่เพ้อฝัน
"เฮ้อ" ฉันลืมตาแล้วมองไปยังคนพ่นลมหายใจ
"ชิว์" แล้วหันหลังเดินข้ามรั้วเข้ามาในบ้านขึ้นไปยังห้องส่วนตัวเปิดตู้เสื้อผ้า
"ทำไมมีแต่ชุดเดิม ๆ ไม่ได้แหละฉันต้องไปซื้อใหม่" ฉันพึมพำกับตัวเองแล้วหยิบกระเป๋าสะพายยี่ห้อหรู กุญแจรถ และโทรศัพท์
"ว่าแต่...ไลน์ไปอวดพวกนั้นดีกว่า" พวกนั้นที่ว่าก็คือเพื่อน ๆ สนิทของฉันนั้นเอง
: ทุกคนนนนนนน
AVA: ว่าไงทัพพี
LUK CHAN: คงไม่ส่งคลิปมาอีกใช่ไหม
LULLABEL: มีอะไรเหรอยัยทัพพี
: รู้ไหมว่าใครจะมา
AVA: ฉันจะรู้ไหมเนี่ย
LUK CHAN: ??
LULLABEL: พูดมาเถอะอย่าลีลา
: ก็ได้ ๆ ฉันจะบอกว่าพี่เคนตะจะมาหาฉัน คิกคิก
ทุกคนต่างส่งสติกเกอร์รูปการ์ตูนใบหน้ามองบนเว้นแต่ลูกจันทร์ที่เป็นสติกเกอร์ยิ้ม
: จริง ๆ นะ พี่เคนตะจะมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับบริษัทของฉัน
AVA: เฮ้ย จริงดิ!?
LUK CHAN: ดีใจด้วยนะแกได้เจอกับพี่เคนตะของแกสักที
LULLABEL: เขาจะพาเพื่อนมาด้วยไหมทัพพี
: หยุดเลยยัยคุณหนู! ฉันไม่อยากโดนเฮียใหญ่เอาปืนมาจ่อที่หัว
: ฉันไปหาซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่ไปต้อนรับพี่เคนตะดีกว่า
พิมพ์จบฉันก็เอาโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋าแล้วรีบพาตัวเองออกจากบ้านขับรถไปห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางเมือง
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะน่ะ ทัพพี" พี่หลิวเอ่ยทักระหว่างที่ฉันขอให้พี่แม่บ้าน คนขับรถช่วยขนของที่เพิ่งไปช้อปปิ้งเข้ามาในบ้าน
"ก็แค่เสื้อผ้าเอง ไม่เห็นจะเยอะอะไรตรงไหน" ฉันตอบกลับแล้วเดินนวยนาดไปนั่งที่โซฟา
"พี่คะ เอามาวางไว้ตรงนี้เลยค่ะ" วางกระเป๋าเรียบร้อยก็เอ่ยบอกกับพี่แม่บ้านและคนขับรถให้วางของไว้ตรงโต๊ะกระจก เพราะฉันจะเซ็คของ พี่สาวคนรองของฉันเดินเข้ามาชะโงกดูข้าวของในถุงที่เป็นยี่ห้อหรู ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ฉัน
"แกจะไปไหน ถึงได้ซื้อเสื้อผ้ามากมายขนาดนี้"
"ไม่ได้ไปไหน" ฉันตอบอย่างไม่ใส่ใจแล้วงอนิ้วมองดูเล็บสวยของตัวเอง
"เอ๊ะ ไปทำเล็บดีกว่า" ว่าแล้วก็คว้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นจากโซฟา
"เดี๋ยว!"
"มีอะไรคะพี่หลิว ทัพพีรีบ"
"นี่แกเป็นบ้าอะไร อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ ไหนจะเสริมสวยอีก แกจะไปไหน" ฉันเบือนหน้าหนีแล้วพ่นลมหายใจก่อนจะหันกลับมา
"ที่ทัพพีลุกขึ้นมาซื้อเสื้อผ้า มาเสริมสวยก็เพราะทำเพื่อบริษัทนะคะ" พี่หลิวย่นคิ้วงามใบหน้าสงสัย
"ก็พี่หลิวเป็นคนบอกให้ทัพพีเป็นคนดูแลพรีเซนเตอร์คนใหม่ไม่ใช่เหรอ"
"ก็ไหนแกบอกว่าไม่ทำไง" พี่สาวคนรองสวนกลับทันที
"ทัพพีเปลี่ยนใจล่ะ ทัพพีจะเป็นคนต้อนรับและดูแลพรีเซนเตอร์คนใหม่เป็นอย่างดี และดีที่สุด" ว่าจบฉันก็อมยิ้มกรุ่มกริ่ม
"อืม ๆ งั้นจะไปไหนก็ไป" ฉันฉีกยิ้มกว้างให้พี่หลิวก่อนจะเดินสะบัดบ๊อบออกมา
และแล้วก็ถึงวันที่ฉันรอคอย วันที่จะได้เจอกับพี่เคนตะตัวเป็น ๆ รู้สึกหัวใจเต้นแรงราวกับคนเป็นโรคหัวใจ (หรือเปล่า) มือไม้ฉันเย็นไปหมดระหว่างที่นั่งรถตู้คันหรูราคาแพงที่มีคนขับรถและทีมงาน3-4คนรวมถึงฉันกับมะลิด้วย
"ทัพพี..." มะลิไล่สายตามองมายังชุดที่ฉันสวมใส่ไปรับพี่เคนตะที่สนามบิน
"....มึงโอเวอร์ไปป่ะ" พูดจบ มะลิก็ลอบหายใจพร้อมกับส่ายหน้า
"เวอร์ตรงไหน" ฉันพูดพร้อมกับหยิบกระจกขึ้นมาส่องใบหน้าตัวเองที่วันนี้บอกเลยฉันจัดเต็ม
"เวอร์ตรงที่มึงใส่ชุดกิโมโนมานี่แหละ มึงจะใส่มาเพื่อ?" ใช่แล้ว วันนี้ฉันแต่งกายเป็นสาวญี่ปุ่นเพื่อต้อนรับพี่เคนตะโดยเฉพาะ
"เอ้า พี่เคนตะเป็นคนญี่ปุ่นก็ต้องใส่ชุดกิโมโนป่ะ มึงจะให้กูใส่ชุดฮันบกหรือไง" ฉันพูดกลับพร้อมถลกตาใส่เพื่อน
"เฮ้อ...หัวจะปวด" มะลิบ่นพึมพำแล้วส่ายหน้า
"มึง ๆ เอาหนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่นมาไหม"
"เอามา ๆ" มะลิตอบกลับแล้วหยิบหนังสือยื่นมาให้ฉัน
"ขอบใจ" ฉันรับมาก็เปิดอ่านและท่องคำง่าย ๆ ไว้ทักทายพี่เคนตะเขาจะได้ประทับใจฉัน
จนกระทั่งมาถึงสนามบิน ก่อนลงจากรถฉันก็สำรวจตัวเองพร้อมกับเติมแต่งใบหน้าเพิ่ม
"ทัพพีเร็ว ๆ ใกล้ถึงเวลาแล้ว"
"โอเค ๆ" ว่าจบฉันก็เอาเครื่องสำอางใส่ในกระเป๋าแล้วรีบลงจากรถ มุ่งหน้าตรงไปยังบริเวณสำหรับคนรอรับ
"นั่นไง ๆ พี่เคนตะ" ฉันชี้ไปที่ชายหนุ่มร่างสูงใส่หมวกแก็ปแล้วยังสวมแมสปิดบังใบหน้า มะลิมองฉันสลับหันไปมองที่พี่เคนตะ
"ทำไมมึงรู้ ปิดซะขนาดนั้น"
"กูแฟนคลับตัวยงย่ะ รีบไปกันเถอะ" ว่าจบก็ดึงมือมะลิไปดักหน้าพี่เคนตะ พอไปถึงตัวเขาก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาเย็นชา
"คันจิ๊จังว่ะ" ฉันเอ่ยทักทายสวัสดีเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วก้มโค้งคำนับแต่ในจังหวะที่กำลังจะก้ม ก็โดนคนที่ยืนข้าง ๆ สะกิดแล้วกระซิบข้างหูเบา ๆ 'คอนนิจิวะ' ฉันยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแล้วพูดขึ้นใหม่
"คอนนิจิวะ" แล้วก้มโค้งคำนับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนนิ่ง
"ไทเอ๊ะ โยโคโสะ" ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย พูดจบฉันก็ยกแขนทั้งสองโค้งไว้บนศีรษะคล้ายรูปหัวใจ
"ซารังแฮโย" มะลิก็เอามือมาสะกิดฉันอีกครั้ง แล้วกระชิบบอกเบา ๆ
"มึง นั้นมันภาษาเกาหลี!"
"แหะ ๆ" ฉันหัวเราะเจื่อน ๆ แล้วยกมือเกาท้ายทอยแล้วปล่อยให้มะลิเป็นคนแนะนำเอง
"วะตะชิตะจิ บริษัท เอ็กซ์ดี อีโรติก.." พวกเรามาจากบริษัทเอ็กซ์ดี อีโรติก
"ฉันพูดและฟังภาษาไทยได้" มะลิยังไม่ทันจะแนะนำจบ พี่เคนตะก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทำให้ฉันกับมะลิมองกันด้วยใบหน้าที่ดูเหวอ ๆ
"เอ้า แล้วก็ไม่บอก" เป็นฉันที่พึมพำกับตัวเองเบา ๆ
"จะพาฉันไปได้หรือยัง" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำให้ฉันกับมะลิต้องรีบพาพี่เคนตะไปยังที่จอดรถวีไอพีทันที
หลังจากที่พี่เคนตะขึ้นรถแล้วเขาก็ถอดหมวกและแมสออก ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแล้วมองผ่านกระจกใสไปยังแสงแดดที่ร้อนระอุภายนอกรถ
"ร้อนจัง" เขาบ่นเบา ๆ แต่ฉันหูดีที่ได้ยิน
"ลุงคะ ช่วยปรับแอร์เพิ่มขึ้นหน่อยค่ะ พี่เคนตะร้อน" พูดจบ ฉันก็หันไปที่ด้านหลังแล้วคลี่ยิ้มหวานให้ แต่ทว่า เจ้าของใบหน้าลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นกลับเบือนหน้าหนีฉัน
