บทที่4 ชวนไปเล่นน้ำสงกรานต์
รถตู้คันหรูราคาแพงสีขาวได้ขับเข้ามาในโรงแรมดังกลางใจเมือง เพราะโรงแรมแห่งนี้จะเป็นที่พักสำหรับพรีเซนเตอร์คนใหม่ที่บริษัทได้จัดเตรียมไว้ให้ เมื่อรถจอดสนิท ลุงคนขับก็ลงจากรถแล้วช่วยหยิบกระเป๋าข้าวของพี่เคนตะออกมา
"เดินทางมาเหนื่อย ๆ พี่เคนตะพักผ่อนก่อนนะคะ" ฉันพูดน้ำเสียงหวานพร้อมกับส่งรอยยิ้มสวยให้ แต่ทว่าเขากลับทำสีหน้าเฉยชา นิ่งเรียบใส่ซะงั้น
"เชิญค่ะ" ไม่สนใจ ฉันคิดว่าเขาคงจะเหนื่อย จึงเลือกที่จะผายมือให้เขาเดินนำหน้าตามลุงที่เป็นคนขับรถไปยังห้องพักหรู
ลุงคนขับรถเปิดประตูห้องแล้วนำข้าวของพี่เคนตะเข้าไปไว้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะยื่นคีย์การ์ดให้กับเจ้าของห้อง
"ขอบคุณครับ" พี่เคนตะกล่าวขอบคุณลุงที่ช่วยขนของอย่างสุภาพก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง ขณะที่ฉันกำลังจะก้าวขาเดินตามเข้าไป ก็ต้องหยุดชะงัก
"ไหนบอกว่าให้ฉันพักผ่อน..." สายตาคมที่เย็นชากวาดมองฉัน และมะลิกับลุงที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"...กลับไปกันได้ล่ะ ขอบคุณ" ว่าจบดาราAV ชื่อดังก็ปิดประตูทันที
ฉันยังคงยืนนิ่งรู้สึกเสียดาย แล้วเสียใจจัง ก่อนจะก้มหน้ามองไปยังชุดที่สวมใส่
"จัดเต็มมาซะขนาดนี้ ไม่คิดจะชมกันบ้างเลยเหรอ เฮ้อ" พูดจบ ฉันก็ยกไหล่แล้วพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่
"ทัพพี กลับ!" มะลิที่ยืนอยู่ด้านหลังสะกิดและเรียก
"ยังไม่ได้ถ่ายรูปกับพี่เคนตะไปอวดเพื่อน ๆ เลยอ่ะมึง"
"เขาไม่ได้อยู่แค่วันเดียวป่ะ"
"มึงดู...วันนี้กูจัดเต็มเลยนะ" ฉันส่งสายตาให้มะลิมองมายังชุดกิโมโนที่ฉันสวมใส่
"เฮ้อ...ไป ๆ กลับลุงรออยู่" มะลิลอบหายใจแล้วดึงมือฉันกำลังจะพาเดิน แต่ฉันก็ยื้อไว้
"เดี๋ยวก่อน ๆ"
"อะไรอีก" ฉันฉีกยิ้มกว้างแล้วล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา
"ขอถ่ายรูปหน้าห้องก็ยังดี" ว่าแล้วก็ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายเซฟฟี่กับประตูห้องพี่เคนตะ แซะ!
"โอเค สบายใจล่ะ"
"หัวจะปวด!" มะลิบ่นพึมพำแล้วเดินนำหน้าฉันมาที่ลิฟต์
อีกด้าน
ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นเดินเข้ามานั่งที่โซฟา แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดเบอร์โทรหาใครบางคน ติ๊ดดดดด ติ๊ดดดด
(ฮาโหล) เสียงทุ้มดูมีอายุเอ่ยทักทายเข้ามาในสาย
"ผมมาถึงแล้ว" พอปลายสายกดรับเขาก็เอ่ยขึ้นทันที
(กลับมาอยู่ถาวรเลยใช่ไหม)
"ครับ ช่วยหาคอนโดให้ผมหน่อย"
(ทำไมไม่เข้าบ้าน)
"ถ้ามีมัน ก็ไม่มีผม" เคนตะขบกรามแน่นเมื่อภาพในอดีตผุดเข้ามาในหัว
(เรื่องมันก็นานแล้วนะ) ปลายสายพยายามพูดให้ชายหนุ่มใจเย็นลง เพราะคิดว่าเขาคงไม่ได้ลืมเรื่องอดีตนั้นได้
"เพราะมันทำให้แม่ผมตาย...ผมไม่มีวันลืม" เคนตะมีความแค้นใจกับบุคคลที่พูดถึงมาก
(แวะไปเยี่ยมพ่อแกบ้างนะ)
"ทำไมผมต้องไป?" ชายหนุ่มย้อนถามกลับโดยไม่ต้องการจะฟังเหตุผลจากปลายสาย
(อย่างน้อยพี่คชาก็เป็นพ่อแกนะ ถ้าเขารู้ว่าแกกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรต้องดีใจมากแน่ ๆ)
"หึ" เคนตะแค่นเสียงหัวเราะออกมาด้วยแววตาที่โกรธเกลียดพ่อตัวเอง
(น้องสาวแกก็อยากจะเจอ...)
"มันไม่ใช่น้องสาวผม!" เขาแทรกพูดขึ้นก่อนที่ปลายสายจะพูดจบ
(เฮ้อ...) ปลายสายพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ ก่อนจะพูด
(...เรื่องคอนโดเดี๋ยวอาจัดการให้)
"ขอบคุณครับ" สิ้นเสียง เคนตะก็กดวางสาย ก่อนจะหยิบพอตสีแดงขึ้นมาสูบแล้วเดินไป เปิดผ้าม่านที่บังกระจกใสขนาดกว้าง มองทิวทัศน์เมืองหลวงของประเทศไทยแล้วลอบหายใจเบา ๆ ด้วยสีหน้าที่ดูเบื่อหน่ายอากาศ และการจราจรที่ติดขัดของเมืองแห่งนี้ แต่เนื่องจากที่เขาต้องกลับมาอยู่ที่เมืองไทยก็เพราะคำขอของมารดาก่อนที่จะเสียชีวิต
ควันสีขาวขุ่นพวยพุ่งกระจายไปทั่วห้องขณะที่ในหัวของเขามีแต่เรื่องในอดีตที่เจ็บปวด
.
.
.
เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นก็รีบลุกจากที่นอนเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัว หลังจากแต่งตัวแต่งหน้าเรียบร้อยก็เดินลงมาจากห้อง เห็นป๋ากับแม่นั่งรับประทานอาหารอยู่
"อ้าว ทัพพีมากินมื้อเช้าด้วยกันสิ" แม่เหลือบมาเห็นฉันพอดีจึงเอ่ยเรียก
"ทัพพีจะออกไปกินข้างนอก"
"แกจะไปไหนแต่เช้า" ป๋าฉันเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับย่นคิ้วสีหน้าสงสัย
"ไปหาผู้ชาย อุ้ย...." ฉันรีบเอามือปิดปากแล้วฉีกยิ้มกว้าง.
"...ไปหาพี่เคนตะที่โรงแรม"
"แกจะไปหาเขาทำไม ช่วงนี้ป๋าให้เขาพักผ่อนไปก่อนเพราะมันเป็นเทศกาลสงกรานต์"
"ทัพพีจะชวนพี่เคนตะไปเล่นน้ำสงกรานต์อ่ะป๋า" ฉันเดินเข้ามาที่ป๋าแล้วบีบนวดแขนท่านอย่างออดอ้อน
"จะขออะไรอีก" ป๋ารู้ทันทีว่าฉันต้องขออะไรท่าน
"ทัพพีมีเรื่องจะปรึกษา...." พูดจบ ฉันก็ขยับเก้าอี้นั่งลง
"....ถ้าเราจะให้พี่เคนตะได้ไปสัมผัสการละเล่นน้ำสงกรานต์ของไทยเพื่อเป็นการโปรโมตดีไหมป๋า" ฉันแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย เพราะอยากไปเล่นน้ำสงกรานต์กับพี่เคนตะ ถ้าชวนเขาโต้ง ๆ เขาต้องไม่ไปแน่ ฉันจึงคิดแผนการนี้
"ป๋ารู้มาว่า เคนตะเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว เขาคงไม่ชอบที่เจอผู้คนเยอะ ๆ หรอก อย่าไปรบกวนเขาเลย" ป๋าดูไม่เห็นด้วยกับฉันเลย
"ไม่รบกวนหรอก ทัพพีกับมะลิจะเป็นคนดูแลพี่เคนตะเป็นอย่างดีเอง"
"...." ป๋านิ่งแล้วจ้องหน้าฉัน
"นะป๋านะ ๆๆๆๆ ถ้าเป็นป๋าบอกพี่เคนตะยอมไปแน่ ๆ" ฉันจะต้องได้เล่นน้ำสงกรานต์กับพี่เคนตะ นั่นเป็นความคิดที่อยู่ในหัว
"เอา ๆ ก็ได้ ๆ แต่อย่าไปบังคับพี่เขานะ" สุดท้ายป๋าก็หลงกลแผนของฉัน
"โอเคค่ะป๋า" ฉันคลี่ยิ้มหวานพร้อมกับทำสัญลักษณ์โอเค แล้วก้าวขาเรียวเดินออกมาจากห้องอาหาร
ฉันออกมาจากบ้านแล้วเดินข้ามรั้วไปยังบ้านของมะลิ
"มะลิซ้อน โว้ยมะลิซ้อน" ฉันตะโกนเรียกเธอเสียงดัง
"มาโวยวายเนี่ย" มะลิเดินออกมาจากบ้านแล้วท้าวเอวสองข้างพูดกับฉัน
"ไปหาพี่เคนตะกัน"
"ตอนนี้?" ฉันผงกหัวยิก ๆ
"งั้นรอแปบ" มะลิไม่ทักท้วงอะไร และทำตามที่ฉันบอกอย่างว่าง่าย
.
.
.
"มึงแน่ใจนะว่าจะชวนเขาไปเล่นน้ำ....ไม่ใช่ชวนเขามาให้มึงลวนลาม" ระหว่างทางฉันได้บอกเรื่องที่คุยกับป๋าให้มะลิฟัง พอพูดจบมะลิก็เอ่ยขึ้นทันทีแล้วมองขวางมาที่ฉันราวกับคนรู้ใจ
"ทำเป็นรู้ทัน" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงยียวนแล้วโยกหัวไปมาด้วยความทะเล้น
"แวะกินข้าวก่อนนะ" ฉันมองไปที่นาฬิกาดิจิตอลที่หน้ารถ
"ก็ได้ พี่เคนตะคงยังไม่ตื่นหรอก" จากนั้นฉันก็เลี้ยวรถเข้าไปที่ห้างสรรพสินค้าหรู
"เอ๊ะ.." ฉันหยุดชะงักเมื่อเห็นชุดคู่ที่ใส่เล่นน้ำสงกรานต์
"...มึง ๆ แวะก่อน ๆ" จากนั้นฉันก็เดินไปยังบูธเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดคู่ชายหญิงสีม่วงขึ้นมา
"เหมาะกับคุณผู้หญิงมากเลยค่ะ" พนักงานขายเดินเข้ามาพูดแล้วคลี่ยิ้ม
"ใส่แล้วคงจะเซ็กซี่มากเลยนะคะ หุ่นดีอยู่แล้วด้วย" คำนี้แหละฉันตัดสินใจซื้อทันที ซึ่งทางด้านมะลิที่ยืนกอดอกมองฉันแล้วเบ้ปากใส่
หลังจากกินข้าวอะไรเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ขับรถมายังโรงแรมที่พี่เคนตะพัก ก่อนจะขึ้นไปที่ห้องของเขา
กริ่ง กริ่ง ฉันกดกริ่งที่หน้าสองครั้งประตูก็ไปเปิดสักทีจึงจะกดอีกครั้ง แต่ทว่าประตูห้องก็เปิดออกมาพร้อมกับร่างชายหนุ่มล่ำ ๆ หน้าอกแน่น ๆ ซิกแพคเรียงเป็นลอน ฉันเบิกตาจ้องมองอย่างไม่กระพริบ พี่เคนตะหุ่นดีมากเลย น้ำลายจะไหล สมองซีกไหนไม่รู้สั่งให้ฉันทำในสิ่งที่อยากทำคือการเอื้อมมือไปบริเวณหน้าท้องของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
"จะทำอะไร!" ฉันชะงักดึงมือกลับมาทันที
"เอ่อ...เมื่อคืนหลับสบายหรือเปล่าคะ" พี่เคนตะเบือนหน้าหนีแล้วลอบหายใจเบา ๆ
"มีธุระอะไรก็พูดมา" แล้วหันมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"คือทางบริษัทอยากจะให้พรีเซนเตอร์คนใหม่ไปร่วมเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์เพื่อเป็นการโปรโมตน่ะค่ะ" พูดจบ พี่เคนตะก็ขมวดคิ้วสีหน้าราวกับคิดอะไรบางอย่าง
"ไม่มีในสัญญานิ"
"คือ เป็นการขอความร่วมมือค่ะ" มะลิแทรกพูดขึ้น พี่เคนตะตีสีหน้านิ่งซึ่งไม่สามารถเดาความคิดของเขาได้เลย
"นี่ชุดใส่เล่นสงกรานต์ค่ะ" ฉันยื่นถุงยี่ห้อหรูที่มีชุดเล่นน้ำสงกรานต์คู่กับฉันให้เขาเพื่อเป็นการมัดมือชก พี่เคนตะจ้องมาที่ฉันและถุงในมือสลับกัน
"ฉันบอกแล้วเหรอว่าจะไป"
"สงกรานต์ไทยสนุกมาก ๆ เลยนะคะ และยังเป็นเทศกาลที่ได้รับการยกย่องจากยู..." หันไปที่มะลิ
"...ยูอะไรวะ" แล้วกระซิบถามเบา ๆ
"ยูเนสโก"
"ใช่ ๆ ยูเนสโก" ฉันหันไปพูดกับพี่เคนตะต่อ แล้วฉีกยิ้มกว้าง
"เฮ้อ" พี่เคนตะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักแล้วกระชากถุงไปจากมือ ทำให้ฉันฉีกยิ้มกว้างไปอีกด้วยความดีใจ
"กลับไปได้แล้ว" พี่เคนตะว่าจบแล้วกำลังจะปิดประตู
"พรุ่งนี้ทัพพีจะมารับนะคะ" เขาไม่พูดอะไรตีสีหน้านิ่ง ทั้ง ๆ ที่ฉันยิ้มหวานส่งไปให้ ปัง! เสียงปิดประตูกระแทกเสียงดังทำให้ฉันกับมะลิสะดุ้งโหย่ง
"รุนแรงดีจัง" ฉันเอ่ยแล้วอย่างเคลิบเคลิ้ม
"กูอยากจะบ้า" มะลิเงยหน้าขึ้นมองเพดานแล้วสะบัดทั้งสอง ราวกับเอือมระอาฉันเต็มทน แต่ฉันโนสน สนแคร์ค่ะ
หลังจากที่ฉันกับมะลิเดินออกมาจากลิฟต์ ได้เดินผ่านเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ก็เห็นหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดียืนสอบถามอะไรบางอย่างกับพนักงาน พอฉันกับมะลิเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก็ได้ยินหญิงสาวถามหาพี่เคนตะ
"คุณเคนตะ ฮิโร พักอยู่ที่นี่ใช่ไหมคะ"
"ดิฉันไม่สามารถบอกได้ค่ะ เพื่อเป็นความส่วนตัวของลูกค้าที่มาเข้าพัก" พนักงานตอบกลับไปอย่างสุภาพ
"ฉันเป็นน้องสาวพี่เคนตะค่ะ..บอกฉันมาเถอะฉันต้องการพบพี่ชาย" เมื่อได้ยินแบบนั้นฉันก็ฉุกคิดอะไรออกมา
'พี่เคนตะเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น แต่ทำไมฉันไม่รู้ว่าเขามีน้องสาวด้วย' แล้วเพ่งมองไปที่ใบหน้าหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นน้องสาวพี่เคนตะ
'ไม่เห็นจะเหมือนพี่เคนตะสักนิด' ใช่แล้ว ใบหน้าของแตกต่างกับพี่เคนตะมาก
"งั้นช่วยบอกพี่เคนตะให้หน่อยได้ไหมคะ ว่าน้องสาวที่ชื่อลดามาขอพบ"
'ลดา?'
