แกล้งเป็นแฟน
"แล้วที่บากหน้ามาขอ คิดว่าจะช่วย?” พี่นักรบถามฉันอีกครั้ง
"ก็ถ้าพี่ไม่ช่วย พริ้งก็คงต้องแต่งกับไอ้นนท์มั้ง" ฉันพูดอย่างจนหนทาง ฉันไม่มีหวังเลย เพราะรู้ดีว่าทำอะไรไว้กับเขาบ้าง
"แล้วพี่จะได้อะไร? " พี่นักรบก็พูดขึ้นหลังเงียบไปสักพัก
"ก็พี่อยากได้อะไร พริ้งจะให้ทุกอย่างเลย" ฉันพูดออกไป ฉันจะให้ทุกอย่างที่พี่เขาต้องการ ถ้ามันแลกกับการที่ฉันไม่ต้องแต่งงานกับไอ้นนท์คนไม่รู้จักพอ
"ได้! พี่จะช่วย อย่าคืนคำนะพริ้งว่าจะให้ทุกอย่างที่พี่อยากได้" พี่นักรบตกลง แล้วย้ำกับฉันอีกครั้ง ด้วยแววตาที่ฉันไม่รู้ความหมายของมัน
"ค่ะ ไม่คืนคำแน่นอน" ฉันรับปากอีกครั้ง โดยไม่ทันสังเกตุเห็นรอยยิ้มกับสายตาของคนเจ้าเล่ย์ที่เปลี่ยนไปหลังจากคำพูดของตัวเอง
"ดี หึ งั้นไปได้แล้ว จะพาไปหาแม่วันไหนก็บอก วันนี้จะไปธุระ" พี่นักรบพูดจบก็ไล่ฉันทันที
ฉันรีบลุกจากโซฟาทันทีที่โดนไล่ พอฉันจะเดินออกจากห้องก็โดนพี่นักรบเรียกไว้
"เดี๋ยว ! ..."
อื้อ! ทันทีที่ฉันหันกลับไป พี่นักรบก็จูบปิดปากฉันทันที ถึงแม้จะเป็นแค่การเอาปากมาแตะเฉยๆก็เถอะ แต่แค่นี้ฉันก็จะละลายแล้วนะ
"ถ้าเป็นแฟนกันยังไงก็ต้องมี ฝึกไว้จะได้ชิน"พี่นักรบพูดจบก็มองหน้าฉันยิ้มๆ
"แต่.. แต่แค่แกล้งทำนะคะ ไม่เห็นต้องจูบ " ฉันบอกพี่นักรบออกไป ก็จริงอะ ฉันมาขอร้องให้พี่เขาแกล้งเป็นแฟน ไม่ใช่ขอให้เขาเป็นแฟน งื้ออ!! เขาทำหัวใจฉันสั่น
"ใครบอกว่าจะแกล้งเป็นแฟนให้ตอนไหน ไม่ต้องแกล้ง เป็นจริงๆนี่ละ "
อึ้งสิคะ ฉันกับเขาสื่อสารกันยังไงเนี้ย?
"อึ้งไปเลยไหมละ ฮะฮ่า ปะเดี่ยวไปส่ง"
พี่เขาไม่อ่อนโยนเลย พี่นักรบเห็นฉันอึ้งอยู่ก็จัดการจูงมือฉันออกมาขึ้นรถที่อยู่ตรงลาดจอดรถในคอนโด ใช้แรงลากฉันที่ยืนเอ๋อๆ ออกมาจากตรงนั้นได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะขับออกมาจากคอนโด
"พี่แน่ใจเหรอค่ะ ว่าจะเป็นแฟนกันจริงๆ"
ฉันถามขึ้นอีกครั้ง ตอนที่รถคันหรูของพี่เขาจอดติดไฟแดง ก็ฉันกับเขามันมีกรณีพิพาทย์อยู่นะสิ มันไม่มีทางที่จะเป็นแฟนกันได้เลย
"อย่าให้พูดซ้ำ! "
ง่ะ ทำไมต้องพูดด้วยน้ำเสียงดุๆด้วย เขายังให้ความรู้สึกน่าเกรงขามอยู่เสมอ เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่หลังจากที่ฉันเทเขา เขาก็เปลี่ยนไป
"ก็พริ้งไม่อยากให้พี่ต้องเลิกกับแฟนเพื่อมาคบกับพริ้ง เพียงเพราะพริ้งขอร้องนี่นา" ฉันพูดออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง
"แล้วบอกตอนไหนว่ามีแฟน" พี่นักรบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
"อดีตเดือนมหาลัยแบบพี่เหรอ จะไม่มีแฟน"
ฉันรู้ว่าเขายังไม่มีแฟนหรอก ถ้าเขามียัยพี่ตัวดีของฉันก็ต้องบอกฉันแล้วสิ คงไม่ปล่อยให้ฉันเสนอหน้ามาหาเขาหรอก แต่เขามีคนคุยนะ มันก็ต้องมีไม่ใช่เหรอ ที่ฉันถาม ก็เผื่อว่าเขาจะมีคนที่ชอบอยู่ไง ฉันไม่อยากมีปัญหาทีหลัง
"แฟนไม่มี" ฉันเกือบจะยิ้มแล้วถ้าไม่ยินประโยคต่อมาของเขา
"แต่คนคุยไม่ได้นับ"
เชอะ! จ้า พ่อคนหล่อ ฉันทำหน้างอทันทีที่พี่เขาพูดจบ ก่อนจะได้ยินเสียงข้อความจากแอบฯ ไลน์
ไลน์! ไลน์! ใครส่งอะไรมาให้เนี่ย
กลุ่มบริหาร : คลาสที่ยกวันนี้ มีเรียนปกติตอน 13.00 น.นะคะ จะมี อ.มาสอนแทน ขอให้นักศึกษาเข้าเรียนให้ทันด้วยนะคะ
เป็นไลน์จากอาจารย์ที่ยกคลาสนั่นแหละ ไลน์มาแจ้งว่ามีเรียนวเอาป่านนี้นี่นะ 11.45 น. จะเที่ยงแล้ว แต่เรียนบ่าย ใครจะไปทันวะ ดีนะฉันเตรียมตัวกะว่าจะไปเรียนอยู่แล้ว อาจารย์เปลี่ยนใจง่ายไปไหมคะ จะยกก็ยกกระทัน จะเปิดสอนก็เปิดแบบเร่งด่วน
"พี่นักรบ ช่วยไปส่งที่มหาลัยได้ไหมคะ พอดีอาจารย์ที่ยกคลาสเพิ่งไลน์มาบอกว่ามีเรียนปกติ"
ฉันบอกออกไปหลังจากอ่านไลน์เสร็จ คือจะให้ฉันรอให้พี่เขาไปส่งที่บ้านเพื่อขับรถไปมหาลัยเองมันก็ใช้เวลาอะ เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน
"เหมือนพี่ว่าง?"
เอ้า! ทำไมพูดแบบนี้ ฉันกำลังจะพูดอะไรต่อ ก็เห็นพี่นักรบตบไฟเลี้ยวเพื่อวนรถ เปลี่ยนเส้นทางไปมหาลัย หึปากร้ายแต่ใจดีไม่เปลี่ยนเลยพอฉันเห็นพี่นักรบขับรถเปลี่ยนทิศทางเป็นทางไปมหาลัย แทนที่จะเป็นทางกลับบ้านฉันก็ยิ้มแก้มปริ ส่วนพี่เขาก็ทำหน้านิ่งๆ และขับรถต่อไป
"ไม่ต้องไปทำแล้วมั้งธุระเนี้ย" ไอ้เรื่องชอบพูดให้รู้สึกผิดเนี้ยก็ที่หนึ่ง
"พี่นักรบจอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพริ้งต่อแท็กซี่ไปมหาลัยเองก็ได้ค่ะ พี่จะได้ไปทำธุระต่อ นี่ก็เสียเวลามามากแล้ว" ฉันบอกอย่างเกรงใจ
"ไม่รอเกรงใจพี่ พน.เลยละ หืมมม อีกครึ่งชม.จะถึงมหาลัยแล้วนี่นะ ไม่เป็นไร บอกแพรกับไอ้ฉลามรอไปก่อนก็ได้"
กัดเก่งไปอีก! นัดพี่แพรกับพี่ฉลามนี่เอง เราไม่ได้พูดอะไรกันต่อจนกระทั่งรถวิ่งมาจอดหน้าตึกคณะของฉัน
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง" ฉันพูดก่อนจะเปิดประตูเตรียมลงจากรถ
"เอาโทรศัพมา" ฉันยื่นให้พี่เขาอย่างงงๆ ก่อนถึงจะบ้างอ้อ เมื่อพี่เขาพูดต่อ
"เรียนจบแล้วโทรมา จะมารับ......ไม่กลับไปเอารถรึไง หรือจะไปค้างคอนโดแพร"
ฉันที่กำลังอึ้งอยู่ ถึงกับตาโตเมื่อรถพี่นักรบขับออกไปแล้ว ใช่สิ ฉันขึ้นรถมากับพี่เขาทั้งๆที่รถฉันจอดอยู่คอนโดพี่แพรนี่นะ โธ่เอ้ย! แค่เขาบอกจะไปส่งก็เดินตามเขาไปขึ้นรถเลยนี่นะ อยากจะบ้าตาย!! กับความใจง่ายของตัวเอง
