EP19 สงสัย
EP19
.
.
.
08 : 00 AM.
กลิ่นหอมอบอวลของข้าวต้มลอยแตะจมูกคมสันปลุกคนตัวโตให้รู้สึกตัวขึ้น คาวีเปิดเปลือกตาแล้วกวาดมองทั่วบริเวณห้องก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง เขาเดินไปหาคนตัวเล็กที่โซนครัวแล้วแอบมองอยู่คนเดียว
"ทำกับข้าวให้วีกินหรอ"
"อื้อ…วีจะกลับกี่โมงอ่ะ เมื่อคืนวาว่าจะติวหนังสือให้แต่พอออกมาจากห้องนํ้าวีก็หลับแล้ว"
"วันนี้วันหยุดนิ ให้วีอยู่กับวาได้มั้ย" คาวีไม่ยอมกลับไปอย่างง่ายดายเขาเดินมาประชิดแผ่นหลังบาง ทำให้ทิวารีบถอยตัวออกห่าง
"วาต้องไปทำงานพาร์ทไทม์"
"จะขยันไปไหนครับ" ว่าแล้วมือหนาก็ยกขึ้นยีผมด้วยท่าทางเอ็นดูบวกกับรอยยิ้ม ทำเอาทิวาตกอยู่ในภวังค์ เธอจ้องมองใบหน้าหล่ออย่างไม่เข้าใจ พลันคำถามก็ผุดขึ้นมาในหัว ผู้ชายเจ้าชู้คงจะทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนคงไม่แปลกหรอกที่จะทำกับเพื่อน
"ก็วาต้องใช้เงินนิ"
"งั้นวีไปส่ง"
"อื้อ…ก็ได้ แต่ตอนนี้ วีไปอาบนํ้าก่อนได้มั้ย" บอกเสร็จใบหน้าหวานก็หันกลับมาสนใจหม้อข้าวต้มต่อ ทำให้คาวียอมผละร่างกายออกห่าง เขารู้ดีว่าคนตัวเล็กกำลังเขินอาย จึงไม่อยากแกล้งต่อ
"ครับ" ตอบเสร็จก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเดิม ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ลับร่างคนตัวโตมือบางก็เลื่อนขึ้นขยํ้าหน้าอกข้างซ้ายของตนเอง แอบชอบมาตั้งสามปี ให้ตัดใจมันคงไม่ได้ง่ายหรอกนะ อีกอย่างคาวีก็เริ่มทำให้เธอเผลอใจไปมากกว่าเดิมซะอีก หรือเธอควรหลีกเลี่ยงความรู้สึกนี้ดี
ทิวาสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออก เธอปิดแก๊สแล้วตักข้าวต้มขึ้นใส่ชามสองที่แล้วเตรียมไว้บนโต๊ะอาหารเพื่อรอคาวีอาบน้ำเสร็จ ผ่านไปราวห้านาทีชายหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องนํ้าด้วยสภาพเปลือยท่อนบน ท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวพันรอบเอวสอบเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
ในตอนนั้นเองเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น คาวีที่ยืนอยู่ใกล้กว่าจึงอาสาเดินไปเปิดให้ พอเปิดออกสองสายตาก็สบกันเข้าให้
พรึ่บ!
"ไอ้เหี้ยวี?"
"หล่อขนาดนี้เรียกกูเหี้ยได้ยังไง"
"มึงมาทำห่าไรที่ห้องวา" วาเลิกคิ้วสงสัย สายตาไล่มองร่างกายคาวีตั้งแต่หัวจรดเท้า กระเป๋าเป้ที่แขวนบนบ่าร่วงหล่นลงพื้น เธอกำลังตกใจที่เห็นคาวีอยู่ในห้องทิวา ปกติจะเป็นพีทที่ชอบมาติวหนังสือและค้างคืนด้วยกันบ่อยครั้ง
"ทำไมเพื่อนมานอนห้องเพื่อนไม่ได้?"
"ก็ได้ แต่ปกติมึงไม่ได้มาไงไอ้เวร หลีกดิ" ปันสบถหน้านิ่ง เธอกำลังสงสัยเป็นอย่างมากกับความผิดปกติครั้งนี้ เท้าเตะเข้าที่กลางเป้าคนตรงหน้าแล้วใช้แขนผลักออกพร้อมกับแทรกตัวเข้ามาในห้อง
"ปัน…ทำไรเนี่ย" ร่างหนางอตัวด้วยความเจ็บ เหมือนจะชินกับนิสัยสามหาวของปันแต่มันก็ไม่ชินสักที
"…" ปันไม่ได้ตอบอะไร เธอหันหน้ากลับมาแล้วยกนิ้วกลางขึ้นก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาทิวา
"อ้าวปัน มาพอดีเลย ทานข้าวด้วยกันก่อนมั้ย" ทิวาหันไปทักทายเพื่อนผู้หญิงคนเดียวภายในกลุ่ม
"ก็ดี" ว่าแล้วก็หย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ ในขณะเดียวกันคาวีก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาหยิบชุดที่ทิวาเตรียมให้ขึ้นมาสวม
"มองวีแบบนั้นนี้หมายความว่ายังไง" ทิวาถาม ปันจึงขยับชามข้าวต้มของวีขึ้นมาซด
"เมื่อคืนมันค้างที่นี้หรอ"
"อืม"
"เห้ย!"
"อะไรปัน"
"ไม่มีอะไรถึงร้านค่อยคุย"
"อะไรของปัน…" ทิวาตกใจกับเสียงสบถของปัน แต่พอถามเธอก็ไม่ได้ตอบอะไร สายตาสำรวจภายในห้องต่อ จนกระทั่งคาวีแต่งตัวเสร็จ เสียงโทรศัพท์มือถือก็เรียกเข้า
ครืด~ ครืด~
'ธาม' สายตาคมกริบตวัดมองรายชื่อบนหน้าจอ เมื่อพบว่าเป็นธามที่โทรมา เขาจึงกดรับสายแล้วกรอกเสียงลงไป
"ว่าไง"
[มึงเห็นคะแนนสอบย่อยล่าสุดรึยัง ของอาจารย์ธวัชชัย]
"ยัง" คาวีตอบไม่ใส่ใจนัก
[ทั้งกลุ่มเราสามตัวแม่งไม่ผ่าน]
"กูด้วยหรอ" ปากถามสายตาก็ปรายมองสองสาวที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร พอเห็นสายตาของปันที่จ้องมองอยู่ก่อนร่างกายก็สะดุ้งตกใจ
[เออดิ บักโง่]
"แล้วไงต่อ"
[ถามมาได้ไอ้เวร จารย์นัดสอบซ่อมไงวะ แล้วตอนนี้พวกกูกำลังอยู่มหาลัยแล้ว กูลากไอ้พีทมาเป็นไม้กันหมาด้วย มึงรีบมา เลิกติด…แล้วมาซะ]
ตู้ด…
ไม่ปล่อยให้คาวีได้ถามอะไรต่อ ธามก็รีบกดตัดสายโดยรถ ทำให้เขาถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย แปลว่าทั้งกลุ่มผ่านอยู่สามคน ไม่ผ่านอยู่สามคนและคนที่ผ่านก็คือพีท ทิวา และปัน สองคนนี้ไม่ว่างเพราะต้องไปทำงานพาร์ทไทม์จึงเป็นพีทที่ต้องคอยช่วยเพื่อน
"มีอะไรรึเปล่าวี" ทิวาเป็นคนถาม
"อาจารย์นัดสอบซ่อม ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปส่ง"
"ไม่เป็นไร รีบไปเถอะ"
"เกิดมาโง่ก็ต้องทำใจหน่อยนะ" เป็นปันที่พูดเย้ยหยัน ทำให้คาวีส่ายหัวเอือมระอา ก่อนจะคว้าข้าวของแล้วเดินออกจากห้องทิวาไป ทำให้ข้างในเหลือเพียงทิวาและปันที่กำลังนั่งกินข้าวด้วยกัน
"วา"
"ว่าไง…"
"ให้พูดเถอะนะ ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน"
"ว่ามาสิ"
"ทำไมอยู่ๆเพื่อนเราถึงแปลกพร้อมกันถึงสองคน" ปันถามแล้วจ้องมองใบหน้าหวาน ทิวาสนิทกับพีทมากที่สุดเธอจึงอยากถามให้แน่ชัด ส่วนคาวีจากที่เคยเจ้าชู้มาก ตอนนี้ก็กลับกลายเป็นเทผู้หญิงทุกคน คล้ายกับว่ากำลังมีคนที่เขาพร้อมจะหยุด
"วาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" ถึงแม้จะรู้สึกอย่างที่ปันรู้สึกแต่เธอเองก็ไม่รู้เหตุผลเพราะอะไร เพราะพีทชอบเธอแบบนั้นหรอถึงได้เปลี่ยนไป แต่ทำไมแต่ก่อนแววตามันคนละคนกันเลยล่ะ เปอร์เซ็นต์มันแทบจะเป็นศูนย์พอๆกับคาวีที่จะชอบเธอ
"เริ่มจากไอ้พีทก่อนเลยนะ จากที่อยู่ๆคนคนนึงอ่ะ มันจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนได้ขนาดนี้เลยหรอวะ ไอ้วีมันอาจจะเจอใครแล้วพร้อมหยุดแต่แค่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ไอ้พีทมันยิ่งแปลกเข้าทุกวัน มันแปลกตั้งแต่วันเกิดของไอ้วีเเล้ว"
"ก็จริง วาเองก็อยากรู้คำตอบเหมือนกัน" เธอเองก็อยากรู้ว่าทำไมพีทถึงกลายมาชอบเธอได้ ไหนจะรอยสัก พีทไม่เคยสัก เขารู้ดีว่านักศึกษาแพทย์ไม่ควรสักในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนได้ขนาดนั้น แววตาที่เหมือนกระหายครั้งแรกที่เจอกัน รอยแผล ทุกอย่างมันเหมือนไม่ใช่พีท
"มึงสนิทกับมันนิ มันอาจจะป่วยเป็นโรคสองบุคลิกโดยที่ไม่รู้ตัวรึเปล่า หรือว่ามันมีแฝดหรอวะ…"
"พีทเป็นลูกชายคนเดียว เราก็รู้เรื่องนี้มาตลอด"
"ตระกูลมันดังจะตายไป จริงที่ไอ้พีทมันเป็นทายาทคนเดียว แต่มันอาจจะมีอะไรที่เรายังไม่รู้ก็ได้นะเว้ย" ใช่แล้ว…ตระกูลนักธุรกิจชื่อดังมีลูกชายเพียงคนเดียว คือพีท พชร พ่อของเขาเป็น ผอ. โรงพยาบาลหลายแห่งในกรุงเทพ และยังมีธุรกิจผลิตเทคโนโลยีชั้นนำ แต่ก่อนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทางรถยนต์ ทั้งสองก็ได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ว่าให้บริษัทแห่งนั้นเปิดขายให้นักลงทุนมาทำต่อ เงินและทรัพย์สินทุกอย่าง มอบให้พีทแต่เพียงผู้เดียว ขนาดพินัยกรรมยังมอบให้พีทเพียงคนเดียว มันจะเป็นไปได้ยังไงที่พีทจะมีแฝด?
.
.
.
เอาล่ะ มีเรื่องให้เดากันอีกแล้ว555555555555555555
