จำฉันได้ไหม
“เออจีนพวกกูสองคนกลับก่อนนะ มึงจะกลับพร้อมพวกกูป้ะ”
“กลับก่อนเลย เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนชุดก่อน”
“เคๆ” หลังจากที่พวกเราร่วมกิจกรรมรับน้องเสร็จทุกคนต่างก็พากันกลับบ้าน เหลือแค่พวกเราสามคนที่ยังไม่กลับ แต่ตอนนี้เหลือฉันแค่คนเดียวแล้วเพราะเพื่อนทั้งสองก็ต้องรีบกลับบ้าน ฉันเองยังกลับไม่ได้เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบเลยว่าเสื้อผ้าที่ฉันใส่เป็นของใคร จากนั้นฉันจึงเดินไปหารุ่นพี่ที่กำลังเก็บของกันเพื่อสอบถามหาเจ้าของ เพราะฉันจะได้คืนได้ถูกคน
“เอ่อ...พี่คะ”
“มีไร ทำไมไม่กลับ” พี่ว้ากยังคงพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเช่นเดิม วันนี้ฉันคงจะกลายเป็นรุ่นน้องคนโปรดไปเสียแล้ว ทุกคนถึงต้อนรับดีขนาดนี้
“คือหนูแค่จะมาถามว่าเสื้อผ้าชุดนี้เป็นของใครคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะซักมาคืน” พี่ว้ากคนนั้นทำหน้าครุ่นคิดไปครูหนึ่ง มันทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้เลยว่าเสื้อผ้าชุดนี้เป็นของคนที่ไม่มีชีวิตแล้วหรือเปล่า
“เอาไปเถอะ เจ้าของมันไม่เอาแล้วล่ะ”
พูดแบบนี้ฉันยิ่งอดคิดไม่ได้ พวกเขาเอาเสื้อผ้าคนตายมาให้ฉันใส่ได้ยังไงกันเนี่ย!
“ไม่ได้หรอกค่ะพี่ยังไงหนูก็ต้องเอามาคืน ของมันมีเจ้าของอะ บอกหนูเถอะนะพี่”
“โอ้ย ยุ่งยากจริงๆ เลยเว้ยน้องคนนี้ ถ้าอยากคืนก็ไปตามหาเจ้าของเอาเอง อยู่ตึกปรินซ์นู่น”
“ตึกปรินซ์? ”
“ใช่ตึกปรินซ์” เขาพูดส่งๆ ออกมาแคนั้นก่อนที่จะเดินจากฉันไป เขาจะแกล้งอะไรฉันอีกหรือเปล่าฉันชักจะกลัวแล้วสิ ใครๆ ก็รู้ว่าตึกปรินซ์นั้นใช่ว่าอยากเข้าไปก็เข้าไปได้ เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ไว้ใจเขาเด็ดขาด
ตึกปรินซ์
“อึก....” ฉันลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างฝืดเคือง ไม่น่าเชื่อเลยแฮะว่าตอนนี้ฉันจะมายืนประจันหน้าอยู่ที่หน้าตึกปรินซ์ ทว่าสภาพภายนอกของมันราวกับบ้านร่างที่ฉันเห็นในโซเชียลเลย ไม่รู้ว่าฉันถูกหลอกให้มาที่นี่หรือเปล่า
“นี่พี่ว้ากไม่ได้แกล้งฉันใช่ไหม ที่แบบนี้หรอที่เหล่าเจ้าชายเขาอยู่กัน” บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบไร้ผู้คน แม้แต่เสียงลมพัดยังไม่มีเลย ชักจะวังเวงเกินไปแล้ว แบบนี้ฉันควรกลับหรือเปล่านะ ท้องฟ้าก็เริ่มจะไร้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์แล้วด้วย
“มาทำไร!” เสียงทุ้มนิ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของฉันปลายเสียงให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกจนขนลุกทำให้ฉันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
“คือ...ฉัน...ฉันมาหาเจ้าของเสื้อค่ะ” พี่คนนี้ถ้าจำไม่ผิดเขาน่าจะชื่อเรน เจ้าชายกลัวฝน เพราะมีผลโหวตน้อยกว่าพี่ปืนไปแค่นิดเดียวเอง พอมองใกล้ๆ แล้วหล่อเหมือนพระเอกเกาหลีเลยแฮะ
“นี่มันเสื้อประจำตำแหน่ง Prince's influence เธอไปขโมยมาใช่ไหม”
เสื้อประจำตำแหน่ง Prince's influence แบบนี้ก็แปลว่าเสื้อตัวนี้คือเสื้อของพี่ปืนอย่างนั้นหรอ กรี๊ดดดด จะเป็นลม! เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นของคนก่อน
“เปล่านะคะ คือเมื่อเช้าฉันเกิดอุบัติเหตุจนชุดมันเปื้อน พี่ว้ากก็เลยเอาชุดนี้มาให้ใส่ค่ะ”
“แล้วเธอมาที่นี่ทำไม”
“มาตามหาเจ้าของเสื้อค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะซักมาคืน”
“อยู่ข้างใน” เขาดเอ่ยจบแค่นั้นก็เดินสับเท้าเข้าไปข้างในแล้วปล่อยให้ฉันยืนงงคนเดียว
“...”
“อ้าว ตามมาสิน้อง!”
“ค..ค่ะๆ”
ทันทีที่ปลายเท้าของฉันเฉียดเข้ามาในที่ของเหล่าเจาชาย ขนทั้งตัวบนร่างกายของฉันก็ลุกซู่ขึ้นมาโดยมิได้นัดหมาย ไม่ใช่อะไรหรอก พวกเขาแค่เปิดแอร์เย็นมากๆ ทว่าฉันก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่นะเพราะที่นี่คนนอกไม่ได้เข้ามากันง่ายๆ
สิ่งแรกที่สะดุดตาเมื่อเข้าไปก็คือพี่ฮอค เจ้าชายต้องคำสาป ที่กำลังปัดกวาดเช็ดถูพื้น ฉันว่าคงเป็นเพระเขาแน่ๆ ข้างในถึงได้น่าอยู่ ส่วนคนที่สองคือพี่กองพล เจ้าชายหมอพี่ ที่ตอนนี้กำลังเช็ดถูอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการล่าผีของเขา และคนสุดที่ฉันหมายตาและเป็นอันดับหนึ่งในดวงใตของสาวชาว Klever ก็คือพี่ปืน ที่ตอนนี้กำลังนอนเล่นบนโซฟาอย่างชิวๆ ครั้งนี้ฉันต้องเก็บอาการให้เยอะๆ กลัวว่าจะทำขายหน้าอีก
“ไอ้ปืน”
“ว่า”
“มีแขก”
“มาในนามแขกใคร”
“เออ แขกกูก็ได้”
“น้อง ไปปั้มลายมือตรงนั้น”
“ค่ะ” พี่เรนออกคำสั่งแล้วไปชี้ไปที่โต๊ะที่มีป้ายว่า คนสำคัญ เป็นโต๊ะสำหรับการปั้มลายมือเพื่อยืนยันว่ามีใครเข้ามาบ้างและมาในนามแขกของใคร
“มีอะไร”
“คือว่าฉันไม่รู้ว่าเสื้อผ้าชุดนี้เป็นของใคร ก็เลยมาตามหาเจ้าของเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะซักมาคืนให้ค่ะ” แต่ตอนนี้ฉันพอจะรู้แล้ว อิๆ
“แค่เนี๊ยะ? ”
“มีอีกเรื่อง!”
อื๊อ!! ทำไมตอนนี้ฉันลิ้นแข็ง ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย คงเป็นเพราะฉันเขินเกินไปถึงแม้ว่าจะพยายามเก็บอาการแล้วก็ตาม แต่คนตรงหน้ากลับของฉันด้วยแววตาจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วถ้าไม่พูดตอนนี้เราก็คงจะไม่มีโอกาสได้ทำแล้วนะ...จีน
“พี่...จำฉันได้ไหม”
“อย่าเล่นมุกซ้ำ ฉันไม่ตลก ไม่มีมุกที่ดีกว่านี้แล้วหรอ”
“ไม่ใช่มุกนะ พี่จำฉันไม่ได้จริงๆ หรอ ฉันจีนไงลูกป้าจ๋อมไง ที่เป็นแม่บ้านอะ”
“แม่บ้านฉันมีตั้งหลายคน ฉันจำไม่ได้หรอก เธอออกไปได้แล้ว พวกฉันจะประชุม”
“แต่ว่า!”
“ออกไป!”
“ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาใหม่”
“ไม่ต้อง! ที่นี่ใช่ว่าใครจะเข้ามาก็ได้ โดยเฉพาะติ่งแบบเธอ”
“น้องรีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวมืดก่อน”
“อืม”
หลังจากตอบรับไป ฉันก็เดินออกมาจากที่นี่ทันที แล้วปล่อยให้พวกเขาทำหน้าที่กันต่อ จะว่าไปแล้วก็รู้สึกเฟลเหมือนกันนะที่พยายามแล้วแต่ไร้ผล แต่ช่างมันเถอะ ฉันเชื่อว่าสักวันเขาจะมองฉันบ้าง
“ติ่งทุกวันนี่น่ากลัวเนอะ กุเรื่องขึ้นมาด้วย” ฮอคเอ่ย
“แต่กูดูแล้ว น้องเขาเหมือนจะพูดจริงนะ มึงแน่ใจหรือเปล่าว่าไม่รู้จัก” เรนเอ่ย
“ก็กูจำไม่ได้” ปืนเอ่ย
“ไม่ใช่ว่าปิดบังเรื่องเมียนะ” กองพลเอ่ย
“เมียแม่มึงสิ จะประชุมไหมถ้าไม่ประชุมกูกลับนะ เดี๋ยวอีกหน่อยฝนตกไอ้เรนก็กลับอีก” ปืนเอ่ย
“มาเว้ยรวมตัวประชุม!” กองพลเอ่ย
