ตอนที่ 4
“ว่าแล้วต้องอยู่ที่นี่ ปกติเก็บตัวอยู่ในห้อง นึกยังไงออกมานั่งเปลี่ยวคนเดียวอย่างกับคนอกหัก” แก้มทักทายเพื่อนตั้งแต่ประถม
“ก็ อกหักมั้ง” มิ้ง นักเขียนสาวเจ้าของดวงตาคมดุ แม้หน้าบึ้งตึงหรือทำหน้าดุแต่เวลาเธอยิ้มก็ชวนโลกละลายได้เหมือนกันแต่เพราะรอยยิ้มของเธอมีผลต่อผู้รับจึงกลายเป็นเสือยิ้มยาก ลมหายใจผ่อนหนักเบาจนแก้มเลิกคิ้วมองเพื่อนด้วยความสงสัย
“ไม่มีแฟนอกหักได้ไง” ตรินเดินเข้ามาพร้อมของกินที่แวะซื้อระหว่างทางมายื่นให้แก้มแล้วเดินไปยืนริมตลิ่งเอามือล้วงกระเป๋า
“อกหักกับงาน ไม่เข้าใจเลย แค่ไม่ได้เขียนนิยายตามกระแสทำไมถึงไม่มีใครสนใจหรือนิยม ยอดตกฮวบ แม้แต่ค่าเช่าห้องค่าอาหารแมวยังลำบาก เหลือเงินเก็บส่วนสุดท้ายแล้วด้วย” ความกลัดกลุ้มของมิ้งทำให้ตรินมองหน้ากับแก้มหาทางออกให้คนที่ท้อ
“แล้วนิยายที่เขานิยมคือแนวไหน” ตรินถามในฐานะที่เป็นแฟนเพื่อนแต่ก็สนิทไม่แพ้กัน
“มาเฟีย โรมานซ์ ติดเรตหน่อยเห็นยอดพุ่งกันกระหน่ำ ฉันไม่ได้อยากมีชื่อเสียงแค่ต้องการเงินหมุนเวียนไว้จ่ายภาระที่แบกอยู่ ฉันก็ลองเขียนอยู่นะแต่เหมือนขาดอะไรไปยอดเลยไม่พุ่งไม่เข้าตาไม่รู้ว่าขาดอะไร”
“ขาดประสบการณ์หรือเปล่า” คำพูดของแก้มทำให้มิ้งหันขวับมองค้อนทันทีทำตรินหลุดหัวเราะปล่อยให้สองสาวสนทนากันส่วนตนเดินไปซื้อของกิน
“ประสบการณ์อะไร นี่ก็ลองทุกอย่างแล้วนะ”
“เรื่องใต้สะดืออะนะ”
“ไม่มีแฟนจะลองอะไรกับใครเล่า ไม่ถนัดผิดตรงไหน ก็อยากลองอยู่เหมือนกันแต่ไม่มีใครมาจีบ”
“ก่อนอื่นนะ ยิ้มให้เป็นก่อน หน้าตึงเป็นตูดใครจะชอบ” แก้มยื่นมือบีบแก้มอมชมพูของมิ้งพยายามทำให้เพื่อนยิ้ม
“ใครจะไปยิ้มลง เครียดจะตายอยู่แล้ว หรือฉันควรจะไปหางานอื่นทำแต่ฉันทำไม่ได้หรอก ความอดทนน้อย”
“มาสมัครที่โรงงานไหม แล้วเขียนเกี่ยวกับสาวโรงงาน เผื่อได้ไอเดียอะไรดีๆ สาวโรงงานแซ่บนะ คุยกันแต่ละทีเรื่องผัวทั้งนั้นแกจะได้เปิดโลกด้วย ไม่ต้องทำตลอดไปก็ได้ สักเดือนสองเดือนให้พี่ตรินฝากเข้าให้แล้วมาทำด้วยกัน เก็บประสบการณ์” คำพูดของแก้มทำให้มิ้งนิ่งคิดหันมองหลายคู่ที่เดินควงกันผ่านหน้าก่อนหยิบขวดเครื่องดื่มมายกดื่มตอบเพื่อน
“ประสบการณ์ชีวิตจริงย่อมดีกว่าใช้จินตนาการ”
“ใช่ เผื่อได้รู้อะไรใหม่ๆ ด้วย สาวโรงงานไม่ธรรมดาอย่างที่คิด เชื่อเถอะแกอาจได้ไอเดียอีกมาก กลับจากทำงานก็มาคิดงานเขียน แกชอบเรียนรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”
“เข้าท่าแฮะ”
“เห็นไหมล่ะ ทุกอย่างมีทางออกเสมอ ถ้ากล้าก้าวออกมา”
“ทำหาประสบการณ์ไม่เลว”
“นั่นแหละ เดี๋ยวเอาเอกสารเข้ามาสมัครพรุ่งนี้ให้พี่ตรินพาเข้า” แก้มยกมือตบหลังมิ้งเบาๆ อย่างให้กำลังใจก่อนเอียงหน้ามองตรินเดินเข้ามาพร้อมของกินมากมาย
“คุยอะไรกันเข้าๆ ออกๆ ”
“หูดีเกินไปไหมพี่ตริน แก้มฝากมิ้งเข้าทำงานแผนกเดียวกันได้ไหมพี่”
“ได้สิ ไม่มีปัญหา ดีเลย จะได้หายเครียดมีเพื่อนคุย ออกมาจากจุดเดิมบ้างชีวิตจะได้มีสีสัน” ตรินพยักหน้ารับเห็นดีเห็นงามด้วย
“มีสีสันแน่นอน ช่างที่โรงงานมาใหม่งานดีเว่อร์แกต้องเห็น เอาไปเป็นแบบอย่างพระเอกแกได้เลยมิ้ง” แก้มหยิบยกอย่างดี๊ด๊าทำตรินเลิกคิ้วเกือบสำลักน้ำอัดลมที่กำลังจะกระดก
“งั้นกลับก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เจอกัน”
“มาแต่เช้าเลยจะได้เข้าทำงานอยู่กับแก้ม” ตรินเสนอทำให้มิ้งพยักหน้ารับลุกขึ้นปัดก้น
“ตกลง ต้องซื้อชุดใช่ไหม พอมีเงินอยู่ ราคาเท่าไหร่”
“ไม่ต้องเลย เอาชุดฉันนี่ ใส่ไม่ได้หลายตัว เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาไปให้เปลี่ยน แกทำไม่นานจะเสียค่าชุดไปทำไม”
“อือ เจอกัน ขอบใจนะ พี่ตรินด้วย” มิ้งยกมือตบแขนตรินแล้วหันมากอดแก้มก่อนวิ่งออกไปโบกรถเมล์เพื่อกลับห้องเช่าในอพาร์ทเม้นท์