2 เด็กใหม่ (ที่เคยเจอ)
เจี๊ยวจ๊าวๆ
“ยัยริน ทำไมวันนี้แกมาสายจังวะ ปกติก็สายอยู่ละ แต่นี่เล่นมาอาจารย์จะเข้าสอนอยู่รอมร่อ” มิน เพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของฉันเอ่ยทัก เมื่อเห็นหน้าสวยๆ ของฉันเสนอเข้าไปให้ห้อง
“เมื่อคืนดูซีรีย์ดึกไปหน่อย” ฉันตอบเพื่อนพร้อมแขวนกระเป๋านักเรียนไว้ที่พนักพิง ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้
“ดูซีรีย์ หรือดูผู้ชายในซีรีย์ ให้พูดใหม่อีกรอบ” เพื่อนฉันพูดพลางเบะปากใส่ฉัน
“แหมมม ก็ผู้ชายในซีรีย์มันหล่ออ่ะ ห้ามใจไม่ไหว เลยฟาสแทรคจากตอนที่ 1 ไปตอนที่ 34 แบบ 8 ชั่วโมงจบ” ฉันว่าพลางทำหน้าเพ้อฝัน
“โห นี่แกไม่คิดจะเก็บไว้ดูวันอื่นบ้างหรือไงฮะ”
“ไม่จ่ะ วันอื่นก็เรื่องอื่นไง ฉันมีซีรีย์เป็นคลัง แคปไว้จนเมมโทรศัพท์จะเต็มหมดแล้วเนี่ย”
“เฮ้อ หมดคำจะพูด เออๆ ช่างมันเถอะ วันนี้ฉันมีเรื่องจะมาเม้าท์มอยให้ฟังด้วยแหละ” ยัยมินพยายามยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะหันมองซ้ายทีขวาที แล้วทำมือป้องปากเหมือนกำลังจะนินทาใครให้ฟัง ส่วนฉันเมื่อเห็นเพื่อนทำท่าแบบนั้นก็รู้งานทันที จึงรีบเอียงหูไปหา “ได้ข่าวมาจากวงใน ว่าวันนี้จะมีเด็กใหม่ย้ายเข้ามาเรียนห้องเดียวกับเราด้วย”
“เดี๋ยวๆ มันน่าตื่นเต้นตรงไหนเนี่ย ทำไมต้องทำลับๆ ล่อๆ ด้วย ก็แค่เด็กใหม่ปะ” ฉันที่อุตส่าห์ตั้งใจฟัง จึงมองค้อนนางทันที ไอ้เราก็คิดว่านางจะเม้าท์เรื่องใครไม่กินเส้นกับใครอะไรยังไงซะอีก
“เดี๋ยว แกกลับมาฟังฉันก่อน ฉันยังเม้าท์ไม่จบ” ยัยมินดึงแขนฉันให้เอียงไปหาใกล้ๆ ก่อนจะเล่าต่อ “ถ้าแค่เด็กใหม่เฉยๆ ก็ไม่น่าตื่นเต้นอะไรหรอก แต่เนี่ยเป็นเด็กใหม่ที่เป็นลูกชายของผู้ก่อตั้งโรงเรียนรายใหญ่ที่พึ่งเสียไปเมื่อ 10 เดือนที่แล้วน่ะสิ แถมพ่อของเขาก็พึ่งจะเสียเมื่อ 2 เดือนที่แล้วนี่เองด้วย ได้ข่าวว่าฆ่าตัวตายทั้งคู่ด้วยนะ”
“ลูกชายของคุณหญิงพรพิมล ธนาภูวนัตถ์ ที่โดดน้ำตายในสวนธารณะข้างโรงเรียนเราน่ะหรอ” ฉันหันไปมองหน้าเพื่อนด้วยอาการเหวอเล็กน้อย เนื่องจากเหตุการณ์ในวันนั้นฉันนี่แหละเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอเดินลงไปในสระด้วยสายตาที่เหม่อลอยเหมือนคนที่หมดอาลัยในชีวิต ก่อนจะค่อยๆ จมหายไปต่อหน้าต่อตาฉันเลย ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยเธอนะ แต่ตอนนั้นฉันช็อคมาก นึกได้อีกทีว่าต้องโดดลงไปช่วยเธอก็หายไปแล้ว พยายามควานหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอจึงต้องรีบปีนขึ้นจากสระ แล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือเพราะโทรศัพท์เปียกน้ำไปตั้งแต่ตอนโดดลงไปละ
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเด็กผู้ชายอายุ 18 คนนึงจะเจอเรื่องที่สะเทือนใจขนาดนี้ แล้วยังจะมีกะจิตกะใจบินกลับมาเรียนโรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆ กับที่แม่ตัวเองตายอีก” ยัยมินพูดพลางทำหน้าเศร้า
นั่นสิ ถ้าเป็นฉัน ฉันคงร้องไห้จนไม่มีแรงจะทำอะไรแน่ๆ เสียทั้งแม่และพ่อในเวลาไม่ได้ห่างกันเลย คนๆ นี้ หัวใจเขาทำด้วยอะไรกันแน่นะ
ตึกๆๆๆ
ในขณะที่ฉันกำลังคิดถึงความรู้สึกของคนๆ นี้อยู่นั้น ก็มีเสียงฝีเท้า 2 คู่เดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าชั้นเรียน พร้อมกับแรงสะกิดยิกๆ จากยัยมินที่แขนฉัน ฉันจึงหันหน้าไปมองเพื่อนด้วยความสงสัย ก็พบว่ายัยมินพยักเพยิดหน้าให้ฉันหันไปทางหน้าชั้นเรียน ฉันจึงค่อยๆ หันไปมอง
แปล๊บ!!
เอาอีกแล้ว ความรู้สึกนี้อีกแล้ว ความรู้สึกเศร้าแบบอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ รู้สึกอยากร้องไห้ออกมาอย่างไม่ต้องกั้นไว้ เมื่อสบตากับผู้ชายคนนี้!! ใช่ คนที่เดินเข้ามาในห้องของฉันพร้อมกับอาจารย์ประจำชั้น คือผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างสระน้ำในสวนสาธารณะที่ฉันเจอทุกๆ เช้าเย็น และพึ่งสบตากันมาหมาดๆ เมื่อเช้านี้ขณะเดินผ่านสวนสาธารณะเพื่อมาโรงเรียน โอ้ อะไรจะบังเอิญปานนั้น
ซุบซิบๆ
เสียงซุบซิบ กระซิบกระซาบดังระงมทั่วห้อง แต่โดยส่วนใหญ่เท่าที่ฟังจับใจความได้ก็ ผู้ชายคนนี้หล่อจัง กรี๊ดดด ฉันรักเขา เขาเป็นเน็ตไอดอลหรือป่าว ฉันต้องได้เขามาเป็นแฟน ยังมีคนที่หล่อขนาดนี้หลุดมาแถวโรงเรียนเราด้วยหรอ บลาๆๆ
เอิ่มมม ชะนีโรงเรียนฉัน แต่จะว่าไปเขาก็หล่อจริงๆ แหละ แต่ดูหล่อแบบน่าหดหู่ น่าสงสารอะไรประมาณนั้น
ตึงๆ
“เด็กๆ เงียบกันหน่อย รักษามารยาทกันบ้าง” อาจารย์ประจำชั้นของฉันเคาะมือลงบนกระดานเพื่อปรามให้ทุกคนหยุดส่งเสียง และเมื่อทุกคนเงียบลงแล้วเธอจึงพูดขึ้นต่อ “อ่ะ วันนี้อาจารย์จะมาแนะนำเพื่อนใหม่ให้พวกเราได้รู้จักนะ ตอนแรกอาจารย์ว่าจะให้เขาแนะนำตัวเอง แต่พอดีเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด อาจารย์เลยตัดสินใจแนะนำให้ดีกว่า เด็กคนนี้ชื่อว่า ตะวัน ธนาภูวนัตถ์ ย้ายมาจากอเมริกาแล้วจะมาเรียนต่อกับเราจนกว่าจะจบ ม.6 หวังว่าทุกคนจะดูแลเพื่อนดีๆ ล่ะ และก็อย่าทำตัวไร้มารยาทใส่เขาด้วย เข้าใจกันใช่มั้ยจ๊ะ?"
“ค่ะ/ครับ” ทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะพวกผู้หญิง แทบจะตีปีกบินไปหิ้วพ่อสุดหล่อมานั่งเลยทีเดียว
“ส่วนเรา ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ หรือต้องการความช่วยเหลือก็ถามเพื่อนๆ ได้นะตะวัน หรือถ้าไม่สะดวกใจก็มาถามอาจารย์โดยตรงก็ได้จ่ะ” อาจารย์ประจำชั้นพูดพลางแตะไหล่ของเขาเบาๆ ส่วนเขาก็พยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนอาจารย์จะพูดขึ้นต่อ “เดี๋ยวเราไปนั่งตรงนั้นละกันนะ เหลือที่นึงพอดี” พออาจารย์พูดจบ พ่อเด็กใหม่รูปหล่อหน้าเศร้าก็เดินตรงมายังโต๊ะที่ฉันนั่งก่อนจะผ่านฉันไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านหลัง เขาทรุดตัวลงนั่งพร้อมกับวางกระเป๋านักเรียนไว้ที่ข้างโต๊ะ ก่อนจะมองเหม่อออกไปนอกหน้าตา
เวลาคาบแรกสิ้นสุดลง ก่อนจะเริ่มเรียนคาบ 2 ก็ยังพอมีเวลาที่หลายๆ คนจะจับกลุ่มคุยกัน ผู้หญิงส่วนใหญ่พากันลุกมาจับกลุ่มบริเวณโต๊ะของเด็กใหม่
“นี่ๆ เราชื่อแอลนะ ยินดีที่ได้รู้จัก นายชื่อตะวันหรอ? เรามาเป็นเพื่อนกันมั้ย?” ยัยแอล ผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมความสวย แซ่บ ตัวแม่ประจำห้องเรื่องการดีลผู้ชาย ทำการเปิดฉากประกาศอาณาเขตให้ชะนีที่เหลือรับทราบไว้โดยทั่วกัน ว่าผู้ชายคนนี้ฉันจอง!
“…” กริบ ไม่มีแม้เสียงใดๆ เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากบางสวยนั้น อย่าว่าแต่เสียงเลย แม้แต่หางตาเขายังไม่เหลือบมามองเธอเลยด้วยซ้ำ
หืมมมม ตั้งแต่เรียนที่นี่มา ไม่เคยพบเคยเจอผู้ชายคนไหน กล้าปฏิเสธปฏิสัมพันธ์กับยัยนี่ จิตใจนายนี่ทำด้วยอะไรเนี่ย อ้อ! ลืมไป มีพี่ภูมิอีกคนนึง แต่คนนั้นเขายังรักษาหน้าให้ยัยนี่อยู่
“อื่ม….นายเป็นคนขี้อายหรอ? ไม่ค่อยชอบพูดใช่มั้ย? อ่า..งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวเราค่อยๆ ทำความรู้จักกันก็ได้เนาะ?” ยัยแอลพยายามชวนคุยอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับใดๆ กลับมา นางจึงจำใจต้องถอยทัพเพราะหน้าแตก เพราะว่าถ้าหากพยายามต่อไปคิดว่าจากที่หน้าแตกจะกลายเป็นหน้าแหกแทน 555
“คิกๆ” ฉันกับยัยมินที่นั่งอยู่ใกล้ๆ และทำเป็นไม่ได้สนใจในตอนแรก เผลอหลุดขำออกมา ทำให้ยัยแอลที่กำลังจะเดินกลับโต๊ะหันมาส่งสายตาพิฆาตใส่ฉัน
“ตลกอะไรไม่ทราบ?” เธอมองฉันด้วยสายตาที่ใครๆ ดูก็รู้ว่านางเกลียดฉันมาก
“ก็พอดีมีคนมาแสดงตลกให้ดู ไม่ขำเดี๋ยวเขาหาว่าเสียมารยาท ฉันก็ขำตามมารยาทไง คิกๆ” ฉันตอบพร้อมยิ้มเยาะอย่างเปิดเผย ไม่ได้ปิดบังว่าฉันก็เกลียดนางเหมือนกัน เกลียดมาเกลียดกลับไม่โกงไงจ๊ะ
“นังริน!!” ยัยแอลทำท่าจะพุ่งมาหาฉัน แต่อาจารย์คาบต่อไปเข้ามาให้ห้องพอดีเวทีต่อสู้เราจึงไม่เกิดขึ้น นางจึงหันหลังเดินไปนั่งที่โต๊ะทันที โดยก่อนไปนางทำปากขมุบขมิบใส่ฉัน เท่าที่อ่านปากนางได้นางบอกว่า ‘ฝากไว้ก่อนเหอะ’
จ้าๆ ฝากไว้หลายเรื่องจัดแล้วจ้า รีบมาเอาคืนสักทีเถอะแม่นาง
ฉันหันไปยิ้มเยาะกับยัยมินเล็กน้อย ก่อนที่จะหันกลับมาตั้งใจฟังอาจารย์เริ่มสอน
