11. ทำไมบอกไม่ฟัง
"ไม่นะ ๆ หยีไม่ได้เป็นไรเลยค่ะ”
ฉันได้แต่รีบปฏิเสธทันควัน รู้สึกเขินก็ด้วย รู้สึกอายก็ด้วย และขณะนั้นก็ได้ยินเสียงคนอื่นหัวเราเบา ๆ นี่ฉันคงไม่ได้ทำอะไรให้ทุกคนตลกหรอกใช่ไหม แง่!
“ต้องไปอยู่แล้ว หยีอยากขึ้นไปห้อยกุญแจเหรอ อิอิ”
พี่ปันหยาพูดกับฉัน พลางหัวเราะเบา ๆ ยิ่งดู พี่ปันหยายิ่งน่ารักมาก ๆ ดูเหมาะสมกับพี่ภูมากจริง ๆ นั่นแหละ พอคิดถึงตรงนี้ฉันก็รู้สึกโหวงเหวงในใจแบบบอกไม่ถูก
“งั้นเดี๋ยวตอนนี้เราไปทานอาหารก่อน ทานเสร็จค่อยขึ้นไปโซลทาวเวอร์กัน แต่ตอนนี้หิมะกำลังตกด้วยอาจจะต้องรีบขึ้นรีบลงกันหน่อยนะ หยากลัวเรื่องสุขภาพของทุกคน”
“เดี๋ยวนะคะทุกคน ตาลขอเสนอพวกเราถ่ายรูปหมู่ที่นี่กันหน่อยไหม ตาลอยากเก็บไว้เป็นที่ระทึกตึกตักในหัวกะใจสักหน่อย”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ฉันก็รู้สึกดีมาก ๆ เลยที่เป็นแบบนี้ ฉันจะมีรูปที่ถ่ายกับพี่ภูเป็นรูปแรกด้วยต้องดีใจใช่ไหมล่ะ พี่น้ำตาลเดินไปขอให้พนักงานที่ล็อบบี้มาทำการถ่ายรูปให้ พวกเราเดินไปที่สถานที่ที่โรงแรมจัดไว้เพื่อบริการให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปสวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึก
พี่ที่ล็อบบี้จัดการจัดแต่งตำแหน่งการยืนของพวกเราเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม พี่ปันหยากับพี่น้ำตาลนั่งที่โซฟาสีแดง ฉันกับน้ำขิงยืนอยู่ข้างโซฟาคนละฝั่ง ด้านซ้ายคือฉันและข้าง ๆ ฉันคือพี่ภู!! ใช่แล้วได้ยินไม่ผิด พี่ภูยืนอยู่ข้าง ๆ ฉัน ส่วนน้ำขิงกับพี่วินยืนฝั่งด้านขวา ฉันรู้สึกว่าทริปนี้คงเป็นทริปที่ฉันมีความสุขมากแน่ ๆ เพราะทุกอย่างดูช่างเป็นใจกับฉันมาก ๆ ทุกคนยิ้มพร้อมกันทันทีเมื่อเห็นว่าพี่พนักงานที่ล็อบบี้เตรียมพร้อมถ่ายรูปหลังจากจัดตำแหน่งที่ทางให้พวกเราเรียบร้อย
“อิล...อี…ซัม..!!” แชะ!!
ฉันมีความสุขมากที่ได้ถ่ายรูปกับพี่ภูเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะไม่ใช่รูปคู่แต่ฉันจะเก็บรักษาอย่างดีเลยเชียว กลับไปต้องเอาไปอัดกรอบซะแล้วแหละ
หลังจากที่พวกเราถ่ายรูปกันเรียบร้อยแล้ว พนักงานที่ล็อบบี้ได้แจ้งว่าจะนำรูปไปล้างมาให้ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนี่ก็อยู่ในหนึ่งโปรแกรมของทางโรงแรมที่จัดไว้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน เราเดินทางมายังร้านอาหารที่เลือกไว้ก่อนหน้า ซึ่งเป็นร้านชาบูหม้อไฟเล็ก ๆ แต่แน่นไปด้วยลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก รอเพียงไม่นาน พนักงานก็เดินมาเชิญให้ไปนั่งโต๊ะที่เพิ่งว่างจากลูกค้าเมื่อสักครู่
“หิมะตกหนักมากเรื่อย ๆ จนแทบมองไม่เห็นแล้ว พี่ว่าเราค่อยมาวันหลังกันไหม?”
พี่ปันหยาถามขึ้นหลังจากที่พวกเราทานอาหารกันอิ่มหมีพีมัน และออกมายืนมองสภาพอากาศด้านนอก ซึ่งก็เห็นว่าหิมะตกหนักขึ้นมากจริง ๆ และฉันก็รู้สึกว่าถ้าหากพวกเรายังดื้อดึงที่จะเดินฝ่าขึ้นไปอาจจะเป็นหวัดได้จริง ๆ นั่นแหละ
“เห็นด้วยนะ ไว้เรามาวันพรุ่งนี้ละกัน”
พี่ภูก็เห็นด้วยสินะ วันนี้คงต้องกลับก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาแล้วกัน..แต่ว่า แล้วถ้าพรุ่งนี้ หิมะยังตกไม่หยุดล่ะ?
แต่เนื่องจากวันนี้ทุกคนก็เหนื่อยกันมามากพอแล้ว จึงลงมติเป็นกันว่าวันนี้จะกลับที่พักก่อนเนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างไม่เป็นใจ เมื่อพวกเรากลับมาถึงโรงแรมในไม่ช้าทุกคนต่างก็แยกย้ายกันเข้าไปพักผ่อนในห้องของตัวเอง
“เสียใจจังเลย วันนี้อดไปแขวนกุญแจเลยอะขิง”
“งั้นพวกเราไปกันเองไหม?”
