บทที่ 5 ตัวปัญหา
ฟางซินพบว่าตัวเองนอนอยู่บนบางอย่างที่นุ่มราวปุยเมฆ เธอหันมองไปรอบๆ ที่เป็นเหมือนกับที่เวิ้งว้างแต่มีสีสันหลากสีราวกับทำจากสายใหม
เธอพยายามจะลุกขึ้น แต่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดทับร่างกาย เธอก้มมองตัวเองที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า มีวิปครีมทาทับไปทั่วทั้งตัวอย่างประหลาดใจ
"อะไรเนี่ยนี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย"
แท้จริงแล้วเธอนอนอยู่บนชีสเค้กชิ้นใหญ่ท่ามกลางเมฆสายใหม ทว่าวิปครีมที่พอกพูนที่ปลายเท้าของเธอกำลังขยับ เหมือนมีบางอย่างอยู่ข้างใน
"อะ อะไรน่ะ"
ใบหน้าคมคาย หล่อเหลาลุกขึ้นมาจากกองวิปครีบ ค่อยขยับเข้ามาคล่อมตัวเธอไว้ วิปครีมที่เปื้อนตัวเขาค่อยๆไหลลงไปกองที่ร่างกายท่อนล่างของชายหนุ่ม
แผงอกมัดกร้ามสมส่วนเผยให้เห็นเต็มตา ผิวพรรณขาวอมชมพูเนียนละเอียด เขาแย้มยิ้ม ดวงตาสดใสของเขาจดจ้องร่างเย้ายวนของฟางซิน
"ซ...ไซ ไซมอน นายมาอยู่นี่ได้ยังไง"
"คุณเป็นของผม ของผมคนเดียว ฟางซิน"
"กรี๊ดดดด!!!"
ฟางซินกรีดร้องลั่นห้อง ลุกขึ้นนั่งเหงื่อออกท่วมตัว
ภาพในห้องช่างคุ้นตา เธอมองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าตัวเองฝันไป แท้จริงแล้วเธอนอนอยู่ในห้องตัวเอง
นาฬิกาที่หัวเตียงบอกให้รู้ว่าเวลานี้เกือบแปดโมงเช้า งานออกแบบยังคั่งค้าง ถึงจะมึนหัวจากอาการเมาค้างอย่างไรก็ต้องลุก
"คุณหนูตื่นแล้วเหรอคะ "
"เสี่ยวติง บอกแม่นมหลี่ช่วยต้มน้าแกงสร่างเมาให้หน่อยสิฉันจะเข้าบริษัท"
"แม่นมจัดการทำเอาไว้ให้แล้วค่ะคุณหนู เดี๋ยวฉันไปอุ่นให้นะคะ คุณหนูจะให้ยกขึ้นมาหรือว่าจะให้ยกไปที่ห้องอาหารคะ"
ฟางซินลุกขึ้นจากที่นอนยืนคิดอยู่สักครู่แล้วหันมาตอบ
"ข้างล่างดีกว่า เดี๋ยวฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะลงไป"
เสี่ยวติงเก็บที่นอนเสร็จก็รีบออกไปจัดการตามที่คุณหนูสั่ง ฟางซินอาบน้ำไปนึกถึงฝันเมื่อกี้แล้วขนลุกซู่
"ฝัน มันก็แค่ความฝัน บ้าจริงเชียวน่ากลัวชะมัด ขนาดฝันนายยังตามมารังควานรึนี่"
ฟางซินใส่แว่นดำเดินเหมือนคนไร้วิญญาณมาที่โต๊ะอาหาร เพราะอาการมึนตึงในหัว ยิ่งมาฝันประหลาดก็พาลปวดหัวหนักไปอีก
เสี่ยวติงเอาน้ำแกงสร่างเมามาให้ ฟางซินยกถ้วยขึ้นดื่มรวดเดียวหมดถ้วย
ประธานลู่มองท่าทางอิดโรยของลูกสาวแล้วอดใจไม่ตำหนิไม่ไหว
"ดูสภาพแกสิ เหมือนผู้บริหารที่ใหน คออ่อนยังจะดื่มเยอะอีก โชคดีนะที่อาหมิ่นอยู่ด้วย ไม่งั้นฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน"
ฟางซินขยับแว่นดำลงมาที่สันจมูก แล้วช้อนตามองบิดากับวิเวียนที่กำลังใส่น้ำตาล กับครีมเทียมลงในแก้วกาแฟประธานลู่
"อาหมิ่น พ่อพูดถึงใครอ่ะ "
วิเวียนมองหน้ากันกับประธานลู่ แล้วหันมองฟางซิน
"เมื่อวานเจอกันแล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ ลูกชายน้า ..."
"จางหมิ่น ครับ ผมเองไงครับคุณหนูฟางซิน"
ฟางซินเงยหน้าหันมองชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งไหล่กว้างยืนยิ้มโปรยเสน่ห์ให้เธอ ในมือเขาถือจานใส่แพนเค้ก บีบวิปครีมไว้ด้านบนกับตกแต่งด้วยลูกสตอเบอรี่สดเอาไว้
เขายื่นจานแพนเค้กมาวางตรงหน้าฟางซินพร้อมแก้วกาแฟหอมกรุ่น
คุณหนูสกุลลู่จ้องตาไม่กระพริบ มองจางหมิ่นหรือก็คือไซมอน นั่งลงข้างๆพร้อมแพนเค้กอีกจานกับกาแฟอีกถ้วยในมือ
เขาใช้ส้อมตักแพนเค้กเข้าปาก วิปครีมติดที่มุมปากเขาทำให้ฟางซินใจเต้นระทึก นึกไปถึงความฝันเมื่อคืนแล้วรู้สึกเก้าอี้ร้อนจนนั่งไม่ติด
"นาย นายมานี่ได้ยังไง ใครให้นายมากัน"
ไซมอนไม่ตอบเอาแต่ยิ้มให้เธอ ประธานลู่หันไปเค้นเสียงดุ
"ฟางซิน พูดอะไรออกมาน่ะ อาหมิ่นอย่าไปถือสานะ ว่าแต่จะย้ายเข้าบ้านลุงเมื่อไหร่ล่ะ บ้านนี้กว้างขวางห้องหับเยอะแยะ จะไปอยู่คอนโดคนเดียวทำไมกัน แม่แกเขาเป็นห่วงนะ"
"คุณลุงครับ ผมอยู่ข้างนอกคนเดียวมานาน อยู่เป็นครอบครัวไม่ค่อยชิน อีกอย่างผมเป็นผู้ชาย มาอยู่ในบ้านแบบนี้จะไม่สะดวกรึเปล่าครับ"
พูดแล้วไซมอนก็หันมาทางฟางซินอีก
"นั่นสิคะ เขาไม่เต็มใจก็อย่าไปบังคับเลยค่ะ"
ฟางซินรีบเสนอความคิด เพื่อกันไซมอนออกไป ประทานลู่หันมาทำตาดุใส่ลูกสาว
"อาหมิ่น ตอนนี้แม่แกก็แต่งงานกับฉันแล้ว แกย้ายเข้ามาก็สมควร เอาอย่างงี้คอนโดนั่นแกก็เก็บเอาไว้ไม่ต้องขายทิ้งหรอก ย้ายเข้ามาอยู่นี่ วันไหนอยากไปนอนที่คอนโดก็ไปได้ดีมั้ย"
"อย่างนั้นผมก็คงต้องรบกวนแล้วล่ะครับ"
ไซมอนหันมองหน้าฟางซิน เขายักคิ้วให้ทีนึงแล้วยิ้ม ก่อนจะแลบลิ้นเลียวิปครีมที่มุมปาก แล้วตามตบท้ายด้วยกาแฟ
ฟางซินแทบอยากจะกรีดร้องด้วยความโกรธ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้แต่เพียงเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้ในใจ
"อาหมิ่น วันนี้ต้องไปมหาลัยฯ รึเปล่า "
ประธานลู่เอ่ยถาม ฟางซินทำหน้านิ่ง กินเพนเค้กไม่รู้ไม่ชี้
"ครับ ไกล้จบแล้ว ขยันหน่อยดีกว่า "
" แล้วไปยังไง มอเตอร์ไซด์ที่เธอขับมาน่ะเหรอ มันไม่อันตรายรึไง"
ประธานลู่แสดงความเป็นห่วง เขาหันไปหาบุตรสาว
"ฟางซิน แกไปส่งน้องที่มหาลัยฯหน่อยสิ แวะไปแป๊บเดียวไม่เสียเวลาหรอก"
กาแฟที่ดื่มเข้าไปเกือบพุ่ง ฟางซินฝืนกลืนลงคอไปหน้าแดงก่ำ
"แค่ก อะ....อะไรนะคะ ส่ง ส่งเขาเนี่ยนะ ทำไมหนูต้องไปส่ง"
"แกเป็นพี่ อาหมิ่นเขาไม่มีรถยนต์ อย่างนี้แกจะได้ทำความสนิทสนมกันไว้ไง"
ฟางซินเอียงคอเบิกตาโตจ้องหน้าบิดา อยากให้สนิทช้าไปแล้วมั้ง เธอหันกลับไปมองน้องชายต่างสายเลือดตัวดีแล้วกัดฟันแน่น
หน้าทะเล้นของไซมอนนี้ช่างน่าหมั่นไส้ ในใจอยากจะจิ้มตาซะให้เข็ด
ไซมอนยักคิ้วให้เธอสองทีแล้วยิ้มสะใจ
"ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับพี่ ได้ยินรึเปล่าประธานลู่อยากให้เราสนิทกัน"
แม้สมองจะกรีดร้องดังลั่น อย่างกับเปิดด้วยเครื่องขยายเสียง1000 แอมป์ แต่ก็ต้องสงบใจ
"ฝากไว้ก่อนเถอะอีตาบ้า"
สีหน้าฟางซินบึ้งตึง ไม่มีรอยยิ้มสักนิด ผิดกับไซมอนที่ยิ้มกริ่มพออกพอใจ เขาขยับเบาะเอนไปด้านหลังกึ่งนั่งกึ่งนอนสบายใจ
ฟางซินแอบเหลือบมองท่าทางเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ เสื้อที่เขาใส่แม้ไม่ได้รัดหรือคับแน่น แต่ผ้าที่บางเบาก็ทำให้พอจะเห็นรูปร่างกล้ามเนื้อที่กำยำ ฟางซินพยายามตั้งสมาธิกับการขับรถเข้าไว้
"ถ้าไม่ใช่เพราะคุณพ่อฉันไม่มีทางมาส่งนายหรอก"
"ทำไมล่ะหรือว่ากลัว"
คำถามของไซมอนทำให้ฟางซินหันขวับมามองหน้าก่อนจะหันกลับไปดูถนนต่อ
"พูดอะไรของนาย กลัวอะไรไม่ทราบ"
เขาลุกขึ้นนั่งตัวตรง เอี้ยวตัวหันมาทางฟางซินแล้วใช้แขนล่ำๆของเขาเท้าแขนที่คอนโซลหน้า
"กลัวใจตัวเองจะทนเสน่ห์ผมไม่ไหวไง"
"บ้า ประสาท ใครเขาจะสนนายกัน หลงตัวเองมากไปมั้ย"
ไซมอนหรี่ตามองจ้องฟางซิน เขายกยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่งแล้วขยับหน้ามาไกล้ๆ
"อืมแต่ผมจำได้นะ ใครน้าพูดว่า แรงอีก แรงกว่านี้อีก เร่งอีกแรงกว่านี้หน่อย"
ไซมอนพูดเสียงกระเส่า ทำเอาฟางซินเหยียบเบรคกะทันหันทันที จนไซมอนเกือบจะหัวทิ่ม
รถคันหลังบีบแตรลั่น ตามด้วยเสียงก่นด่า ก่อนจะขับเลี้ยวแซงไป โชคยังดีที่รถไม่ค่อยมากเพราะเข้ามาในบริเวณมหาวิทยาลัยแล้ว
"คุณขับภาษาอะไรของคุณเนี่ย มีใบขับขี่รึเปล่า"
"ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นอีกเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะนายฉันจะเสียสมาธิได้ยังไง"
ไซมอนพยักหน้า พลางเลิกคิ้ว เขาพยายามกลั้นขำหน้าตาขึงขังกับแก้มแดงๆ ของฟางซิน
"ยอมรับแล้วสิว่าคุณสนใจผมไม่งั้นคุณจะเสียสมาธิเพราะผมได้ไง"
" ลามก โรคจิต นิสัยไม่ดี หลงตัวเองที่สุด ลงไป เดินไปเองเลย"
ฟางซินออกปากไล่ ไซมอนแกล้งทำมึนไม่ยอมลง ทำเอาเธอเริ่มเหลืออดเปิดประตูออกแล้วเดินอ้อมไปที่ประตูข้างไซมอน
"ออกมาเดี๋ยวนี้!"
เธอดึงเปิดประตู แล้วพยายามเข้าไปปลดล็อคสายนิรภัยของไซมอนออก เขาจับยื้อกับเธอไม่ยอม
"ผมไม่ลง"
"นายต้องลง ลงมาเดี๋ยวนี้!"
"อย่าสิฟางซิน ฟางซิน!"
ไซมอนฉวยตัวฟางซินลงมาที่ตักแล้วจับสองแขนเธอไขว้ทาบลงบนอกของเธอ กดเอาไว้ไม่ปล่อย
"ปล่อยนะ นายจะบ้าเหรอ ปล่อยฉันสิ"
"ทำไมผมต้องปล่อยด้วยล่ะ ทีเมื่อกี้คุณทำผมเจ็บผมยังไม่ได้เอาคืนเลย"
เขากล่าวพลางส่งสายตาตรวจค้นไปทั่วทั้งตัวของฟางซิน วันนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนคอกว้าง กระโปรงเข้ารูปสั้นเหนือเข่าเล็กน้อย แต่มีผ่าข้างขึ้นมาประมาณ3 นิ้ว
ไซมอนมองเรียวขาเธอแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
" วันนั้นผมมองไม่ค่อยชัด วันนี้พอมองดูดีๆ คุณก็สวยเหมือนกันนะ โดยเฉพาะมุมนี้คุณสวยมาก"
"อย่านะ นี่นายจะทำอะไร อย่านะ"
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ไซมอนเห็นท่าทีกลัวของฟางซินเขายิ่งอยากแกล้ง เขาใช้อีกมือที่ว่างจับที่ต้นขาของฟางซินแล้วค่อยๆเลื่อนลูบไปตามข้างเรียวขาจนมือสอดเข้าไปใต้กระโปรงถึงสะโพกของเธอ
"ม..ไม่นะ อย่านะ ปล่อยสิ"
"ไม่เคยได้ยินเหรอ ฝากปลาย่างไว้กับแมวมันจะเป็นยังไง"
"รุ่นพี่ไซมอน"
เสียงเรียกทำให้ไซมอนรีบปล่อยมือจากฟางซิน เธอรีบลุกออกมายืนนอกรถ ไซมอนปลดสายนิรภัยแล้วลุกออกตามมา
เด็กสาวมองฟางซินที่ยืนกอดอกหน้าบึ้งอยู่ตรงนั้น แล้วรู้สึกแปลกๆ
"ฉันเข่อซิงรุ่นพี่จำได้มั้ยคะ"
"จำได้สิ คนที่วาดตาพี่ได้สวยมาก คนนั้นใช่มั้ยล่ะ"
โจวเข่อซิง ก้มหน้าเอียงอาย ที่รุ่นพี่ที่ชอบพอจำตัวเองได้ ฟางซินเบ้ปากหมั่นไส้ เธอไม่อยากยืนเป็นก้างขวางคอ จึงเดินอ้อมไปที่ฝั่งคนขับ
ไซมอนรีบวิ่งไปจับประตูเปิดคาไว้ก่อนที่ฟางซินจะปิดประตูรถ
"ผมไม่ได้เอารถมานะ เย็นนี้ผมจะกลับยังไง คุณมารับผมรึเปล่า"
"รับเหรอ ฝันไปเหอะ ปล่อยมือ"
โดนดุซะอย่างงั้นแล้วไม่ปล่อยก็ต้องปล่อย ไซมอนยอมปล่อยมือ มองดูฟางซินสตาร์ทรถแล้วขับออกไป
เข่อซิงมองไซมอนตาปริบๆทก่อนจะตัดสินใจกล้าเอ่ยถามให้กระจ่าง
"คนนั้น แฟนรุ่นพี่หรือคะ"
"เปล่า ลูกสาวสามีใหม่แม่ผมน่ะ อารมณ์ร้อนน่าดู"
เข่อซิงแอบยิ้มโล่งอก เธอเดินเข้ามาจับแขนไซมอน เขาหันมายิ้มแห้งๆ แล้วจับมือเข่อซินออกจากแขนของเขาอย่างสุภาพ
"กำลังจะเข้าคราสเหรอ งั้นเดินไปด้วยกันดีมั้ย"
ไซมอนชี้ชวน ถึงจะรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่ไซมอนไม่ยอมให้ควงแขน แต่ก็ยังดีที่เขาชวนเดินด้วยกัน
ทั้งคู่เดินตรงไปที่ห้องแผนกศิลป์ หญิงสาวผิวพรรณหมดจด การแต่งกายดูหวือหวา ยืนจดจ้องไซมอนแต่ไกล
แม้จะสวยแต่ใบหน้าประโคมเครื่องสำอางค์ขนาดนั้นก็ทำให้เสียดายความสวยเสียเปล่าๆ
"ไซมอน ไปเก็บลูกแมวข้างทางมาจากไหนล่ะนี่ดูมอมแมมเชียว"
หญิงสาวกล่าวพลางส่งสายตาเหยียดๆ ใส่เข่อซิงไซมอนหันกลับไปมองเข่อซิงนิดนึง ก่อนจะหันกลับไปมองหญิงสาวตรงหน้า
"มอมที่ไหนกัน น้องเขาก็น่ารักดีนี่ เธอก็พูดเกินไปนะหนิงจิน ผมชอบอะไรที่มันเป็นธรรมชาติแบบนี้มากกว่า"
จะด้วยพูดไปอย่างงั้นหรือจริงจังก็ดี แต่ประโยคนี้ก็ทำให้เข่อซิงใจพองโตไม่น้อย ที่แน่ๆ หนิงจินดูจะไม่พอใจอย่างมาก
"ฮึ สวยธรรมชาติ แล้วนายจะไม่แนะนำฉันให้รู้จักหน่อยเหรอ แม่ลูกแมวน้อยของนายเนี่ย"
"หนิงจิน นี่รุ่นน้องปีหนึ่งคณะผม โจวเข่อซิง "
"สวัสดีค่ะ รุ่นพี่หนิงจิน"
เข่อซิงกล่าววาจานอบน้อม แต่หนิงจินกลับตอบแทนด้วยการเชิ่ดปากใส่แถมยังใช้สายตามองหัวจรดเท้า
"ไซมอน คุณพ่อฝากฉันมาบอกนายว่าเดือนหน้ามีแข่ง ให้นายส่งใบสมัครกับเอกสารให้เรียบร้อย นายพร้อมจะเข้าซ้อมร่วมกับทีมเมื่อไหร่ก็แจ้งมาแล้วกัน ฉันไปล่ะ"
เธอพูดธุระเสร็จก็เดินจากไปแบบเคืองๆ แต่ก็ยังไม่วายแกล้งเดินชนไหล่เข่อซิงซะเกือบจะล้ม
เข่อซิงได้แต่มองตามตาปริบๆ ไม่รู้ว่าตัวผิดอะไรด้วยซ้ำ
"เจ็บรึเปล่า"
เด็กสาวยิ้มเขินส่ายหน้าเล็กน้อย แค่คำห่วงใยของไซมอนไม่กี่คำก็ทำให้เธอมีความสุข วาดรูปไปเหม่อไปตลอดคราสเรียน หูแทบไม่ได้ยินอาจารย์สอนสักนิด
บริษัทลู่เสียนกรุ๊ป
"คุณลู่คะ คุณปวดท้องอีกแล้วนะ เอาแต่กินยาแบบนี้มันไม่ดีหรอกค่ะ น่าจะไปหาหมอสักหน่อยนะ"
เลขาหลินเอาน้ำอุ่นกับยาแก้ปวดท้องมาวางที่โต๊ะให้ฟางซิน ปากก็พร่ำบ่นไม่หยุด
"บ่นเป็นคนแก่เลย กินยาแป๊บเดียวก็หาย เรื่องอะไรฉันจะเสียเวลาครึ่งค่อนวันหาหมอตรวจนู่นนี่ด้วยเล่า เห็นมั้ยว่างานมันเร่งอยู่"
ฟางซินกินยาแล้วยกแก้วน้ำดื่มตาม แม้จะปวดจนหน้าซีดแต่เธอก็ไม่อยากเสียเวลาแม้เพียงน้อยเพื่อที่จะออกแบบใหม่ให้ทันช่วงซัมเมอร์
หนังสือภาพแบบลายต่างๆที่เคยออกแบบทิ้งๆไว้ถูกนำมากองเต็มโต๊ะ หวังว่าจะได้ไอเดียในเร็ววัน แต่กลับหัวตื้อจนนึกอะไรไม่ออก
เธอเอนหลังหลับตาสักพัก พลางนึกถึงภาพวาดที่เธอซื้อมาจากแกลลอรี่
เด็กสาวนัยตาสีฟ้าล้ำลึกท่ามกลางมวลดอกทานตะวัน ทำให้รู้สึกถึงท้องทะเล แสงแดดอุ่น ทว่าความคิดดันล่วงเลยไปถึงชายหนุ่มหุ่นเฟิร์มกำลังเล่นเซิร์ฟท้าทายโต้ลมคลื่นอย่างบ้าระห่ำ เร่าร้อนเร้าใจซะได้
เธอจินตนาการลุกไล่ไปตามร่างกายกำยำขึ้นไปจนถึงสันกรามคมเด่นชัด รอยยิ้มมีเสน่ห์
ฟางซินลุกพรวดขึ้นนั่งตัวตรง นึกในใจว่าเกือบไปแล้ว รู้สึกโล่งอกที่สมองไม่ได้นึกไปถึงใบหน้าที่ไม่อยากจำ แต่ดันจำขึ้นใจ
"บ้าจริง อย่างกับโดนของแน่ะ สงสัยต้องไปวัดให้ซินแสเขียนผ้ายันต์ล้างซวยให้มั้ยนี่"
ไหนๆก็หัวแล่นแล้วเธอรีบจับดินสอขึ้นร่างแบบ บางทีโปรเจคนี้น่าจะช่วยได้
ไซมอนจะเรียนจบในอีกไม่กี่เดือน เขามาก็เพราะต้องลงเรียนให้ครบก็เท่านั้น เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ให้คำแนะนำน้องๆ แล้วก็เขียนภาพไปขายที่แกลลอรี่มากกว่า
"เลิกคราสแล้วจะไปต่อที่ร้านหม้อไฟเปิดใหม่แถวนี้มั้ย แกเลี้ยงนะ"
เฉิงหมิงเสนอ ไซมอนหันมามองหน้าเพื่อนรักแล้วส่ายหัว
"เสียใจด้วยไม่ล่ะ วันนี้ไม่ได้เอามอเตอไซด์มาไม่อยากกลับดึก เอ้อ นายไปส่งฉันหน่อยได้มั้ย"
"ส่งที่ไหนล่ะ คอนโดเหรอ"
ไซมอนยิ้มมีเลศนัย เขามีแผนการในใจ
เสียงฮือฮาดังตลอดทางที่เขาเดินผ่านตั้งแต่ย่างก้าวเข้าบริษัทลู่เสียน สาวใหญ่สาวน้อยหันมองหนุ่มหน้ามนคิ้วคมเข้ม รอยยิ้มมีเสน่ห์ กันแทบทุกคน
เขาตรงไปที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ แล้วเคาะที่เคาเตอร์เรียกพนักงานให้หันกลับมา
"อุ้ย แม่เจ้า ม..มีอะไรให้รับใช้คะคุณเอ่อ"
"ผมจางหมิ่นครับ ผมมาพบคุณลู่ เอ่อประธานลู่น่ะครับ"
"นัดเอาไว้รึเปล่าคะ"
สาวประชาสัมพันธ์เท้าแขนสองข้างบนเคาเตอร์ ส่งสายตาหวานฉ่ำ จนไซมอนต้องผงะ
เขาขมวดคิ้วนิดหนึ่งก่อนจะตอบออกไป
"เปล่านัดครับ ผมเป็น..."
"เอาแบบนี่ไปให้ช่างที่แผนกขึ้นรูป ทำตัวเรือนมาให้ฉันดูหน่อย บอกว่าขอด่วนนะ วันนี้ที่โรงงานเจียรนัยมีเพชรล็อตใหม่เข้ามา ฉันจะต้องเข้าไปดู มีปัญหาอะไรโทรหาฉันทันทีนะ"
คงไม่ต้องขอพบท่านประธานให้เสียเวลา เสียงกำลังสั่งงานพนักงานนั้นช่างคุ้นหู
ไซมอนหันไปมองใบหน้าหมดจดของเธอแล้วรีบวิ่งไปดักหน้า
"คุณลู่เจอกันอีกแล้วนะ คุณได้ผมเอ้ย ไปส่งผม แล้วคิดจะทิ้งเอาไว้ไม่พากลับมันใช้ได้เหรอครับ"
"น...นาย นาย มาทำไมที่นี่"
"ก็มารอคุณไงไม่ได้เหรอ"
"รอฉันเนี่ยนะ ฉันไม่ว่างมาเล่นกับนายนะ หลีกไปเลย"
ฟางซินยื่นมือไปดันตัวไซมอนให้หลบ แต่เขากลับจับมือเธอแนบบนอกของเขาไม่ยอมปล่อย ท่ามกลางสายตาพนักงานมากมาย
"ปล่อยนะ คนมองใหญ่แล้ว "
"มองก็มองสิผมก็ไม่ได้ทำอะไรคุณสักหน่อย เอหรือว่าจะทำดี"
ไซมอนพูดพลางขยับเข้ามาไกล้ๆ เท่านั้นยังไม่พอยังโน้มตัวลงมา ทำเอาฟางฟางซินผงะแต่ถอยหนีไม่ได้เพราะมือถูกดึงเอาไว้
"ยอมแล้วฉันยอมแล้ว ฉันจะไปส่งนายที่บ้าน พอใจรึยังล่ะ"
"เยี่ยมผมพอใจมาก ขอบคุณนะครับ คูณหนูลู่
"ไปเถอะ"
นาทีที่เขาปล่อยมือ ฟางซินก็รีบเดินจ้ำออกไปหน้าบริษัทเพื่อไปขึ้นรถ ไซมอนวิ่งตามไปติดๆ แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาขยิบตาให้พนักงานประชาสัมพันธ์ ทำเอาพนักงานสาวใจละลาย
"หล่ออะไรอย่างนี้นะ เสียดายถูกผู้จัดการลู่เอาไปซะแล้ว"
