CHAPTER 4
ถ้ามันย้ำในจุดนี้ผมก็ได้แต่พูดแล้วถอนหายใจก่อนกระดกกาแฟจนหมดแก้วเป็นลำดับต่อมาให้คู่สนทนาไว้ใจแต่รู้ไหมว่าไอ้เกมส์มันไม่เชื่อในสิ่งที่ผมสื่อออกไป มันมองข้ามตลอดเวลาและเหมือนมันแทบจะมองไม่เห็นเลย
จบก็คือจบ จากก็คือจาก ไม่มีอะไรติดค้างคือไม่มีอะไรติดค้าง ทุกอย่างมันเดินไปแล้วไม่ควรถอยกลับมาที่เดิมอีกแล้ว ทางข้างหน้าคืออนาคตแล้วทำไมผมต้องทิ้งอนาคตตัวเองด้วย
“มันง่ายไปต่างหาก คนแบบซินไม่มีทางปล่อยมึงง่ายๆ”
“ไม่เจอกันแล้วว่ะ ปล่อยแบบนี้ดีแล้ว”
“จะคอยดูวันที่มึงร้องเหมือนหมามาให้กูเห็น”
“กูไม่เหมือนมึงหรอกโว้ย” จมปรักรักใครก็รักคนนั้นตลอดไม่เปลี่ยนถึงผมเดินทางไปรอบโลกตลอดชีวิตไม่กลับมามันก็ไม่คิดเปลี่ยนอยู่ดีไอ้คนนี้รักใครก็จมปรักเหี้ยๆ ตรงนั้นแหละต่างจากผมราวกับฟ้าและเหวลึก ความรัก ความซื่อสัตย์ ความเชื่อใจ ห่วยสิ้นดี “ให้วันนั้นมาถึงก่อนจะให้มึงเอาตีนใหญ่ๆ เหยียบซ้ำเลยเลยไอ้เกมส์ มึงก็รู้ว่ากูเป็นยังไง”
“เพราะกูรู้ไงว่ามึงเป็นยังไง”
“...”
“คนอย่างมึงเดี๋ยวก็ลูปวนกลับมาตายรังเดิม”
จริงเหรอ...
จริงหรือเปล่าที่ไอ้เกมส์พูดไปนั้นก็ไม่รู้ได้เช่นกันว่าต่อไปจะเป็นยังไงกันแน่จะมีวันเกิดขึ้นหรือเปล่ารู้แค่ว่าไม่อยากตั้งความคาดหวัง ไม่อยากมานั่งคิดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น
ไม่อยากให้รกสมองแล้วสุดท้ายต้องมานั่งกลุ้ม
ชีวิตไม่ได้มีแค่นั้นเปล่าวะ
ชีวิตมีอะไรให้ทำเยอะมากกว่านี้
พอแยกกับมันผมก็นั่งร้านกาแฟอีกพักหนึ่งเวลาของแสงจันทร์ก็มาเยือนถึงเวลาย้ายร่างไป ‘มาเมาดิบ’ ร้านเหล้าเด่นเรียกสายตาตั้งแต่สองร้อยเมตรด้วยโทนสีแดงแจ่มเรียกสายตาลูกค้าและนักท่องราตรีทั้งหลายทำให้รอบวนบริเวณไม่มีใครไม่รู้จัก มาเมาดิบตั้งอยู่โซนมหาลัยของรุ่นน้องที่ชื่อ ‘กานต์’
“ไงเฮีย ถึงเวลาออกจากแวนคูเวอร์มาล่าแล้วไง?”
“พวกมึงมันยังไงกับแวนคูเวอร์กันย้ำกันจังกับชื่อเมืองที่กูไปอยู่มา กูมาอุดหนุนร้านมึงไงเห็นว่าใกล้เจ้งแล้ว” เมื่อเข้ามาย่อยสะโพกลงหน้าเคาน์เตอร์ไอ้ปากหมากานต์มันเอ่ยทักอีกทั้งแถมหน้ากวนตีนให้ตั้งแต่หัววัน “ปิดวันไหนล่ะ”
“โหปล่อยๆ ไปบ้างเถอะ นี่ร้านของน้องของนุ่งไงวะ” ไอ้กานต์หันกลับไปสั่งเมนูประจำให้ผมแล้วมันก็หันใบหน้ากลับมามองผมใหม่ นัยน์ตาคมกริบเหลือบมองขึ้นหยุดที่ศีรษะของผมแน่นิ่ง “สีผมโคตรเด่นว่ะ ชอบมากเด็กนอกคนนี้”
“หึ...”
“ว่าแต่พึ่งกลับมาจริงๆ ใช่มั้ย ในกลุ่มก็เงียบมาก”
อ๋อ... กลุ่มทางไลน์
“มาถึงเมื่อคืนแล้วออกเลย”
“เด็ดจริงคนนี้” แต่คราวนี้สายตาไอ้กานต์มันไม่ได้มองที่ผมเหมือนมันมองผ่านไปข้างหลังผมมากกว่า ไม่รู้ว่าไอ้คำว่า ‘เด็ดจริง’ ของมันหมายความว่าไง “พร้อมเด็ดด้วย”
“เป็นเหี้ยอะไรอีกวะ”
“ศัตรูเฮียมาแล้วต่างหาก จมูกดีเหี้ยๆ หมาหรือแมวกัน”
“ใคร?” เพราะผมไม่อยากหันไปมองจึงถาม
“ไอ้คนเจ้าชู้!”
ดี ดีมากทำจริตจนอยากกระโดดเตะผมนึกในใจจากนั้นก็หันเก้าอี้กลับหลังพร้อมเอนพิงเคาน์เตอร์ไม่นานนักไอ้กานต์ปากหมามันก็ย้ายตัวเองมานั่งคู่ข้างกันกับผมก่อนส่งแก้วไวน์ชั้นดีให้
“ตอนกูจริงใจไม่มีใครรู้พอกูเจ้าชู้เสือกรู้ดีนัก”
“ไม่ต้องกระซิบหรอกจัดการเลยแล้วกันนะเฮีย คนนี้ได้ข่าวว่านางฟ้าคณะบัญชีเลย”
“กูว่าไม่ใช่ ไม่ใช่แน่ๆ” ผมพูดแล้วตวัดสายตามองผู้หญิงชุดสีแดงตรงหน้าหล่อนส่งยิ้มมาให้ผมนิดหน่อยก่อนก้าวเท้าเข้ามาในระยะใกล้ชิดเรียกได้ว่าเกือบถึงตัวผมแหละแต่เธอก็หยุดไป “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”
“พี่กันต์ทำไมไม่ตอบไลน์แยมเลยคะ รู้มั้ยคิดถึงจะแย่”
แย่แน่ๆ ผมจำไม่ได้แม้แต่ชื่ออย่าหวังไปถึงไลน์เลยคงจัดการบล็อกไปแล้ว ถ้ารู้ว่าส่งแล้วหนักข้างตัวเองก็เลิกเถอะความสัมพันธ์ที่ผมหยิบยื่นให้มันแค่ชั่วคราวไม่ยั่งยืน ร่างกายแลกกับของที่เธออยากได้จากนั้นก็หวนกลับทางใครทางมันไม่มีซ้ำสองหรือสามสี่ห้า พอทุกอย่างจบลงผมก็ลบความจำลบทุกอย่างทิ้งแล้วเดินหน้าต่อ
“เหรอครับ”
“คืนนี้ไปต่อกับแยมนะคะ” ไม่ว่าเปล่าเมื่อหล่อนเคลื่อนตัวเข้ามาบดเบียดแทรกกลางระหว่างขาของผม น้ำเสียงออดอ้อนเต็มเปี่ยมแบบนี้ควรทำยังไงกันแล้วท้ายสุดเหมือนว่าลำแขนเล็กกำลังโอบกอดรอบลำคอผมอยู่รอมล่อทว่าไม่กี่วินาทีถัดมาก็ถูกกระชากออกไป “ว้าย... แกเป็นใคร!”
“เมียผู้ชายที่แกกำลังแรดอยู่ไง”
“กูว่าแล้ว... มีเรื่องอีกจนได้” คราวนี้ไอ้กานต์เอียงเข้ามากระซิบกับผมที่มองดูพวกเธอสองคนตรงหน้าสาดใส่อารมณ์พร้อมคำพูดแรงใส่กัน “ดาวนิติก็มาได้ทันเวลาพอดีจัง เอาไงดีไอ้เฮียกานต์”
“ดู”
“ไม่ใจดีแยกเหรอ”
“เสียเวลาแดกไวน์หน่า” คนอย่างผมนี่เหรอจะเป็นคนดีเข้าไปแยกผู้หญิงสองคนนั้นที่กำลังมีเรื่องตบตีกันบอกไว้เลยว่าคิดผิด ไม่ช่วย ไม่สน ไม่ใส่ใจ “ใส่ใจแค่นั่งดูก็พอ”
“ตกลงกันต์จะเลือกใครอีแยมหรือดาว”
เกือบครึ่งชั่วโมงที่ไม่ได้มีการห้ามปรามจากผมหรือว่าไอ้กานต์เธอทั้งสองก็หยุดตบตีกันเอง คงเหนื่อยแต่ก็ลบล้างสภาพน่าแขยงเหล่านั้นไม่ได้หรอก ผมยกยิ้มนิดๆ ระยะนั้นก็เลื่อนสายตาไปมองผู้หญิงที่ชื่อดาวหล่อนหอบไร้เหงื่อแทรกซึมออกรอบกรอบใบหน้า
“เลือกแล้วได้อะไร?”
“ถ้าเลือกแยมเราก็ไปต่อกันไงคะ” คนชื่อแยมพูด
“แต่ถ้าเลือกดาวเราจะ... แซบกันถึงเช้าเลยคะกันต์”
“อ้องั้นเหรอ?” ผมเลื่อนสายตาไปหยุดที่แยม “สภาพแบบนี้ยังคิดว่าฉัน... จะเลือกอยู่หรือไง”
