EP.4 | นมล้นเสื้อ?
สองอาทิตย์ต่อมามหาวิทยาลัยที่จันทร์เจ้าขาสอบติดก็เปิดเรียนพอดี วันนี้เธอจึงตื่นเช้ากว่าปกติ อันที่จริงเพราะเมื่อคืนรู้สึกตื่นเต้นจนแทบนอนไม่หลับ ดวงตากลมเลยสว่างจ้าเสียตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันขัน
จันทร์เจ้าขารีบลุกขึ้นไปอาบน้ำสระผม ทำใจอยู่ครู่ใหญ่เพราะอากาศในเวลานี้หนาวเสียยิ่งกว่าอะไร พออาบน้ำเสร็จก็หยิบชุดนักศึกษาที่ติณนภพจ้างช่างฝีมือดีมาตัดให้ขึ้นสวมใส่อย่างภาคภูมิใจ
หญิงสาววัยยี่สิบปีมองร่างของตัวเองในกระจกเพื่อสำรวจความเรียบร้อย เธอรวบผมยาวสีน้ำตาลอ่อนขึ้นเป็นทรงหางม้า แล้วหยิบกระเป๋าสะพายใบหรูขึ้นมาคล้องบ่าเดินลงไปยังชั้นล่าง
ระหว่างเดินก็คิดเล่น ๆ ในใจว่าติณนภพจะมีท่าทีอย่างไรตอนที่เห็นเธออยู่ในชุดนี้ แน่นอนว่าต้องคาดหวังไว้ให้เขาชอบ
เธอตื่นเต้นดีใจล่วงหน้าจนเผลอยิ้มไม่หุบ
ติณนภพนั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องอาหารพลางดูรายงานการประชุมครั้งล่าสุดด้วยสีหน้าตึงเครียด หุ้นของบริษัทในปีนี้แม้จะไม่ตกไปจากเดิมแต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามเป้าที่เขาหวังเอาไว้
จันทร์เจ้าขาที่เห็นเช่นนั้นก็เกิดความลังเล ถึงอย่างนั้นก็ยังเดินเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“คุณป๋าคะ เจ้าขาใส่ชุดนี้แล้วดูเป็นยังไงบ้างคะ” พูดจบก็หมุนตัวโชว์เขาสองสามที จ้องหน้าหล่อเหลารอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
ติณนภพยกกาแฟขึ้นดื่มพร้อมละสายตาจากเอกสารตรงหน้าเงยขึ้นมองหญิงสาวในชุดนักศึกษา
พรวด!!
พลันกาแฟดำที่ยังไม่ทันกลืนลงคอก็ถูกพ่นกระจายออกมาหกเลอะเต็มโต๊ะอาหาร
“เจ้าขา! ทำไมชุดตรง..เอ่อ..ตรง..นะ..หน้าอกของเธอมันถึงได้ฟิตแน่นขนาดนี้ล่ะ!” ประโยคแรกเขาเรียกเธอเสียงแข็ง แล้วค่อย ๆ ผ่อนลงตอนที่ต้องพูดถึงก้อนนิ่มทั้งสองลูก
ติณนภพเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความประหม่าอย่างหนัก จังหวะการหายใจถี่รัวขึ้นตามลำดับ เขาพยายามห้ามตัวเองไม่ให้เงยหน้าขึ้นมองที่ส่วนนั้นของจันทร์เจ้าขา
มีสาวสวยชุดนักศึกษารัดเปี๊ยะที่ไม่ต้องพยายามเพ่งสายตาก็สามารถมองเห็นร่องอกขาวอวบได้อย่างชัดเจนมายืนอยู่ตรงหน้า ใครบ้างจะไม่รู้สึกร้อนรุ่มในอก?
จันทร์เจ้าขาที่ได้ยินเช่นนั้นรีบก้มมองหน้าอกของตัวเอง ดวงตากลมสวยเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่ากระดุมชุดนักศึกษาแทบจะปริแตกออกมาอยู่รอมร่อ
“คะ..คือ..จะ..เจ้าขาก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงคับแน่นได้ขนาดนี้น่ะค่ะคุณป๋า” นักศึกษาสาวแก้ตัวหน้าเจื่อน
“รออยู่ตรงนี้อย่าเพิ่งไปเรียนจนกว่าฉันจะกลับมา!” ติณนภพออกคำสั่งโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอแล้วรีบเดินขึ้นไปบนชั้นสอง
จันทร์เจ้าขายืนก้มหน้างุด ถึงภายนอกติณนภพจะดูเป็นคนสุขุมและนิ่งเงียบ ทว่าในยามโมโหเขากลับน่ากลัวเป็นทีหนึ่ง
รอไม่นานนักร่างสูงก็เดินลงมาจากบนชั้นสองพร้อมเสื้อแขนยาวที่พาดอยู่บนท่อนแขน นักศึกษาสาวขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อย นึกสงสัยในใจว่าเขาเอาเสื้อแขนยาวมาทำไม
“ใส่ซะ แล้วเวลาอยู่มหา’ลัย ห้ามถอดออกเด็ดขาด!” ติณนภพสั่งเสียงเข้มพร้อมยื่นเสื้อแขนยาวให้
จันทร์เจ้าขารีบยื่นมือสั่นเทาไปรับเสื้อแขนยาวจากเขา แล้วสอดแขนใส่มันในทันที
“ค่ะ เจ้าขาสัญญาว่าจะไม่ถอด เจ้าขาเองก็อายเหมือนกันที่ชุดมันโป๊แบบนี้”
“อุตส่าห์ให้ช่างดี ๆ มาวัดตัวตัดให้ แล้วทำไมพอถึงวันใส่มันฟิตซะจนจะเห็น...เฮ้อ!” ติณนภพชะงักนิ่งก่อนจะกลืนคำพูดที่ว่า ‘จนจะเห็นนม’ ลงคอไป ต่อหน้าเธอที่ใสซื่อบริสุทธิ์เขาไม่ควรพูดจาเช่นนั้น
จันทร์เจ้าขายืนนิ่งอย่างคิดไม่ตก เธอมั่นใจมากว่าวันนั้นวัดสัดส่วนทุกจุดอย่างละเอียดดีแล้ว แล้วทำไมวันนี้ถึงได้มีปัญหา
หรือว่าพี่ช่างตัดเสื้อจะแอบแกล้งเธอ?
หรือว่าเพราะเธอ..เอ่อ..อวบอั๋นขึ้น?
“เจ้าขาขอโทษนะคะที่วันนั้น...”
“ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้นมันไม่ใช่ความผิดเธอ ไปรอที่รถเถอะเดี๋ยววันนี้ฉันไปส่ง” ติณนภพพูดปัด สิ่งหนึ่งในตัวเธอที่เขาไม่ชอบก็คือการยอมไปหมดเสียทุกอย่าง
ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่รู้จะมาขอโทษทำไม
รถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาจอดเทียบท่าริมบาทวิถีหน้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง นักศึกษาหนุ่มสาวที่เริ่มทยอยเดินเข้ารั้วสถานศึกษาต่างพากันหันมองด้วยความสนอกสนใจ บ้างก็หันไปเมาท์ซุบซิบกับเพื่อนในกลุ่มอย่างออกรส
“แกว่าเจ้าของรถเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง” ซินดี้หนึ่งในสาวสวยของกลุ่มเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก
“แหม รถดำเท่ห์ซะขนาดนั้นก็ต้องผู้ชายสิ” แครอลตอบอย่างมั่นใจ
“ชายหรือหญิงฉันไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าเขาต้องรวยมากแน่ ๆ พ่อของลูกในอนาคตชัด ๆ” เจเล่ทำหน้าเพ้อฝัน
“ฮึ...” เสียงหัวเราะดังลอดลำคอของมิเชลออกมาเบา ๆ พร้อมคิดในใจว่า ‘อย่างแกน่ะเขาไม่เอาทำเมียหรอกเจเล่’
ไฮโซสาวถอดแว่นกันแดดราคาแพงออก จ้องมองไปที่รถสปอร์ตคันหรูด้วยความสนใจ เห็นแค่รถก็รับรู้ได้ถึงรสนิยมของคนขับ เขาต้องเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่เหมาะสมกับเธอมากเป็นแน่
มิเชลหรือมินตราวดีไฮโซสาวทายาตคนเดียวของนักธุรกิจชื่อดังอย่างศตวรรษ
เจ้าหล่อนเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าคมสวยแสนเย้ายวน ปลายจมูกโด่งคมเป็นสัน เส้นผมสีเทาควันบุหรี่ถูกดัดเป็นลอนยาวสลวย ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสุดเผ็ดร้อน
ยามใดที่เธอผลิยิ้ม ยามนั้นเป็นต้องกระชากใจชายทุกผู้ที่ได้เผลอมอง
ดวงตากลมสวยฉายแววเป็นประกายเมื่อได้เห็นเจ้าของรถสปอร์ตคันหรูก้าวลงมาจากรถ เขาไม่ใช่คนไกลที่ไหนแต่เป็นติณนภพคู่แข่งทางธุรกิจของศตวรรษผู้เป็นบิดา
สำหรับศตวรรษแล้วติณนภพเป็นคนเดียวที่ทำยอดกำไรและผลงานการขายได้เทียบเท่าเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าศตวรรษจะงัดกลยุทธ์อะไรอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะตั้งรับแล้วแก้เกมได้ทันจนเขาต้องเจ็บใจอยู่ร่ำไป
อายุก็น้อยกว่าแต่กล้าดียังไงมาตีเสมอเขา
“เนี่ยน่ะเหรอคุณติณนภพคนนั้น...” มิเชลพูดอย่างมีจริต ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นใครก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจจนอยากรีบเข้าไปทำความรู้จัก
แต่ไม่นานสีหน้าของเจ้าหล่อนก็เริ่มเรียบตึง ไม่ถึงกับไม่พอใจ แค่ประหลาดใจในตอนที่เห็นหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มอีกคนก้าวขาลงจากรถแล้วเดินตามติณนภพมา
“คุณติณท์มีรสนิยมแบบยัยต้มจืดนี่ด้วยเหรอ” มิเชลพึมพำเบา ๆ แล้วยืนสังเกตท่าทีระหว่างติณนภพและยัยต้มจืดนั่นอย่างจริงจัง ในหัวพลางคิดหาวิธีที่จะทำให้เขากลายมาเป็นของเธอ
“ขอบคุณมากนะคะคุณป๋าที่มาส่ง เจ้าขาจะตั้งใจเรียน จะไม่ทำให้คุณป๋าผิดหวังเลยค่ะ” จันทร์เจ้าขาฉีกยิ้มร่าดีใจที่ติณนภพเดินมาส่งเธอถึงหน้าประตูรั้ว
แม้ลึก ๆ จะแอบไม่ชอบใจกับสายตาแทะโลมของนักศึกษาสาวคนอื่น ๆ ที่มองเขาก็ตาม
“มาเรียนห้ามมีแฟนเด็ดขาด จำคำฉันเอาไว้นะจันทร์เจ้าขา” หลังพูดจบติณนภพก็เกิดความสับสนในตัวเอง
นี่เขาไปห้ามเธอมีแฟนทำไมกัน?
“เอ่อคือเมื่อกี้นี้ฉัน..” เมื่อคิดได้ก็ทำท่าจะแก้ตัว ทว่านักศึกษาสาวกลับแทรกขึ้นเสียก่อน
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เจ้าขา...จะ..เจ้าเขา..จะไม่..ระ..รักและไม่ยุ่งกับผู้ชายคนไหนนอกจากคุณป๋าค่ะ!” เธอรวบรวมความกล้าก่อนโพล่งออกมาอย่างเหนียมอาย คิดแค่ว่าการรักแค่เขาและการไม่ยุ่งกับผู้ชายคนอื่นคือสิ่งที่ควรปฏิบัติเพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณอย่างติณนภพ
“อืม...ถ้าทำได้แบบนั้นก็ดี” ร่างสูงยิ้มบางเบาในดวงตา รู้สึกพอใจกับคำตอบของจันทร์เจ้าขาอย่างมาก เพราะส่วนลึกในใจของเขาก็ไม่อยากที่จะให้ไอ้ผู้ชายหน้าไหนมันมาอยู่ใกล้เธอทั้งนั้น
