บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 คิดถึง

ปึก!

เซบาสเตียนเปิดประตูรถเข้ามานั่งก่อนจะปิดประตูลงจนเกิดเสียงดังปึ้ง เมื่อเห็นว่าลูกน้องหนุ่มกำลังหลับสบายอยู่บนเบาะคนขับ สภาพอย่างกับคนไม่ได้พักผ่อนมาเป็นอาทิตย์ พอนึกคิดดูก็ใช่ว่าเขาจะสั่งงานสั่งการจนลูกน้องไม่ได้หลับไม่ได้นอนสะหน่อย ใครมาเห็นเข้าคงนึกว่าเขามันเจ้านายอำมหิต ซึ่งไม่ใช่แน่นอน เมื่อผู้ชายอย่างเซบาสเตียนเป็นคนสุภาพอ่อนโยน นั่งคิดแล้วก็ภูมิใจในตัวเองขึ้นมาอีกเท่าตัว แต่หารู้ตัวไม่ว่าความอ่อนโยนนั้นเขาได้แสดงให้วิเวียนเห็นเพียงคนเดียว

สายตาชำเลืองมองลูกน้องชายที่ดูเหมือนจะงัวเงียตื่น สงสัยจะได้ยินเสียงประตูรถที่ถูกปิดลง ก็ไม่ให้ได้ยินได้ยังไงกันล่ะ เมื่อตัวเขาเองจงใจปิดให้เกิดเสียงดังปั้งขนาดนั้น

“สบายเชียวนะมึง”

เสียงห้วนเปร่งขึ้นพรางกับยกมือขึ้นกอดอก สายตาจ้องอยู่ในกระจกหลังจากที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง ทำเอารอยตาสว่างทันทีเมื่อเห็นหน้าเจ้านายที่ดุอย่างกับเสือ ไม่เห็นจะเหมือนนตอนอยู่กับสาวเลยสักนิด

“อุ้ย…”

รอยยิ้มแหยๆ แก้สถานการณ์ รีบเผยคำแก้ตัวออกมาเป็นชุดใหญ่ กันไม่ให้ผู้เป็นนายบ่นตัวเองยับเสียก่อน

“บอสจะมาบ่นผมไม่ได้นะครับ บอสนั่นแหละครับ ที่ลืมการลืมงานลืมลูกน้องอย่างผมด้วยอีกต่างหาก ผมอุตส่าห์ยํ้าแล้วยํ้าอีกว่ามีประชุมสำคัญตอนเช้า ดูเวลาตอนนี้สิครับ มันเที่ยงอยู่แล้วนะครับ”

รอยบ่นเป็นชุดใหญ่ ในใจก็เตรียมรับคำด่าจากเจ้านายไว้แล้ว ทว่าวันนี้กลับแปลกไปจากวันอื่น เมื่อดูเหมือนเซบาสเตียนจะไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับคำบ่นอุบอิบของลูกน้อง มิหนําซํ้ายังปล่อยผ่าน กอดอกพิงเบาะรถพร้อมหลับตาลงอย่างสบายอกสบายใจเฉย เพิ่มเติมคือพูดจาเอ่ยชมลูกน้องแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“กูรู้มึงเก่ง มึงจัดการได้อยู่แล้ว เรื่องแค่นี้เอง”

คำพูดคำจาที่แปลกไปของเจ้านายทำเอารอยงงกันไปพักใหญ่ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับนายกูวะเนี่ย

“เฮ้อ… นายใหญ่ให้ไปหาครับ”

สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วบอกถึงตารางภารกิจต่อไป ไม่โดนด่าก็บุญหัวแล้วล่ะไอ้รอยเอ้ย ถ้ารู้ว่าบอสอยู่ในช่วงครั่งรักแล้วจะอาการแบบนี้ คงหาเมียให้เขาไปนานแล้ว ทำอะไรก็จะได้ไม่โดนบ่นโดนว่าแบบแต่ก่อน บุญหัวไอ้รอยแล้วสิทีนี้

“อืม กูก็ว่าจะไปหาป๊าพอดี ไปสิ”

เซบาสเตียนตอบในขณะที่เปลือกตาปิดติดกันสนิท แม้คำพูดที่บอกกับวิเวียนว่าซื้อดอกไม้ไปให้พ่อนั้นเป็นเพียงข้ออ้าง แต่ก็ใช่ว่าเขาจะโกหก เมื่อดอกไม้พวกนั้นกำลังจะไปเยือนบิดาเขาจริงๆ ก็นอกจากพ่อก็ไม่รู้จะไปให้ใครแล้ว

ไม่นานรถคันหรูเงาก็ถูกขับเคลื่อนเข้ามาจอดประจำที่เฉพาะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท เท้ายาวก้าวลงจากรถพร้อมยกมือขึ้นจัดคอเสื้อ ก่อนจะก้าวเข้าบริษัทไปในท่าทางสะเท่เชียว

“ว่าไงครับ คุณเบรย์เดน”

ทันไดที่ฝีเท้าหยุดลง เซบาสเตียนเปิดประตูเข้ามาในห้องประจำโดยที่ไม่มีการเคาะประตูอะไรทั้งสิ้น ก่อนจะเอ่ยทักทายคนที่นั่งหันหลังอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหาร ทันไดที่เสียงของเขาดังขึ้น คนที่นั่งอยู่จึงหมุนเก้าอี้กลับมา เซบาสเตียนยิ้ม มองหน้าชายวัยกลางที่แม้จะอายุเยอะแล้วแต่ก็ยังคงเรียกได้ว่าหล่อเหลากล้ามเนื้อเป็นหมัดๆ กับหนวดเคราตามช่วงปากที่เป็นสไตล์ประจำตัวของบิดาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งแตกต่างจากเขาที่ไม่ชอบให้มีอะไรมาผุดอยู่บนใบหน้าอย่างสิ้นเชิง

“เชิญนั่ง”

ชายวันกลางกล่าวเสียงห้วน พร้อมผายมือไปยันเก้าอี้ตรงหน้า

“ไม่บอกก็นั่งครับ”

เซบาสเตียนยิ้มกวนตามสไตล์ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของบิดา ชายวัยกลางไม่ได้สนใจอะไรกับความกวนประสาทของลูกชาย หนําซํ้ายังดูภูมิใจ เมื่อรู้ตัวเองดีว่านิสัยมันถ่ายทอดมาจากผู้เป็นพ่ออย่างเขาหมด มันต้องแบบนี้สิ อุตส่าห์ตั้งใจปั๊มมันขึ้นมา จะให้เสียแรงได้ยังไง เชื้อพ่อมันต้องข้นกว่าอยู่แล้ว

“ได้ยินว่าติดสาวหรอ”

เบรย์เดนไม่รอช้าที่จะเข้าประเด็น เมื่อตัวเองกับลูกชายคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นคำถามแบบไหนก็ถามกันได้ง่ายๆ ไม่ต่างจากคำว่ากินข้าวรึยัง

เซบาสเตียนยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินที่พ่อถาม ไม่ต้องบอกก็รู้ คงไม่มีใครแล้วล่ะที่จะกล้านำเรื่องพวกนี้มาแจ้งให้บิดาเขาทราบ แต่เขาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ดีด้วยซํ้า หากบิดายืนยอมที่จะช่วยงาน เขาก็จะได้มีเวลาไปจีบวิเวียนมากขึ้น

"แน่นอนสิครับ เธออ่อนโยนเหมือนแม่…”

เซบาสเตียนตอบเสียงเบาลง เหมือนมีอะไรอยู่ในใจเมื่อพูดถึงมารดา และใช่… ผู้หญิงที่เป็นดั่งชีวิตของเขาคนนั้นคือผู้ให้กำเนิด ทุกครั้งที่เห็นวิเวียน ภาพจำของมารดามักจะผุดขึ้นมาในหัวของเขาเสมอ

“ให้ไปสู่ขอให้มั้ย”

ชายวันกลางถาม ซึ่งเขาเองไม่ได้ล้อเล่น เห็นลูกชายเอาแต่เหลวไหลมานาน ไม่ยอมคบใครจริงใครจังซักที เมื่อถูกผู้เป็นมารดาปลุกฝังมาอย่างดีกับการเลือกคู่ชีวิตที่เมาะสม

“ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าครับ”

เขาไม่ได้อยากรีบร้อนอะไร เชื่อว่ายังไงวิเวียนก็ต้องกลายมาเป็นแม่ของลูก หากรีบร้อนเกินไปก็กลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาด สู้ค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้วได้ครอบครองทั้งตัวและหัวใจเธอดีกว่า

" ดอกไม้ครับ " 

ชายหนุ่มเปลี่ยนประเด็นเป็นการยื่นดอกไม้ที่พกมาด้วยให้กับบิดาหน้าตาเฉย

"แกไปเหมาเค้ามารึไง "

ชายวัยกลางถามในเชิงประชด ซึ่งก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เมื่อเจ้าลูกชายมันยื่นดอกไม้ช่อใหญ่มาให้ตั้งสองช่อพร้อมกัน

"อีกช่อของแม่…"

เซบาสเตียนกล่าวเสียงเบา พร้อมมองไปที่ดอกไม้ช่อสีขาวสะอาดตา เช่นเดียวกับผู้เป็นบิดาที่จับจ้องอยู่บนช่อดอกไม้สวยเหมือนจะครุ่นคิดถึงอะไรบางสิ่ง แม้จะไม่มีการแสดงออกถึงอารมณ์ไดๆบนใบหน้า แต่ก็เห็นได้ชัดว่าแววตาสองคู่มีความเศร้าโศกปนเปียนเข้ามา

“อืม… นึกถึงแม่แกขึ้นมาเลยแฮะ แม่หนูนี่ฝีมือไม่เลวจริงๆ”

“ใช่มั้ยล่ะครับ”

ชายวัยกลางกล่าว แล้วอีกคนก็สมทบทันที ไม่แปลกใจที่ลูกชายจะไปติดเธองอมแงมขนาดนั้น เขาเองเพียงเห็นดอกไม้ไม่กี่ช่อซึ่งยังไม่ใช่เจ้าของมันยังทำให้รำลึกถึงผู้เป็นภรรยาขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะเป็นการจัดแต่งที่ออกมาอย่างระเบียบ ทั้งการเลือกใช้ดอกไม้ชนิดที่ดึงดูดสายตา กับกลิ่นอายความอ่อนโยนที่สะท้อนกลับถึงคนทำ มันช่างคล้ายคลึงกับหญิงคนรัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel