บทที่ 6 ซื้อโลกทั้งใบให้เธอยังได้
“พ..พอเลยค่ะ หยุดเต๊าะวิได้แล้ว”
วิเวียนยิ้มเขิน หัวใจดวงน้อยเต้นแข่งกันระรัวไม่เป็นจังหวะจนเกิดเสียงดังตุบตับอยู่ตรงกลางอก รีบหลบสายตาคนที่ผละใบหน้าออกห่างจากตนแล้วมามองหน้าเธอแทน แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสไกล้ชิดกับผู้ชายในระยะแบบนี้ แต่กับผู้ชายตรงหน้ากลับทำให้เธอผลอยหวั่นไหวไปด้วยแปลกๆ
อีกคนก็เอาแต่ยิ้มกรุ่มกริ่มมองดูคนตัวเล็กกว่าด้วยแววตาเอ็นดูในท่าทางเขอะเขินของเธอ แถมสายตาที่มองมานั่นก็แพรวพราวเกินจนคนถูกมองรับรู้ได้โดยไม่ได้หันมองกลับ วิเวียนทำตัวไม่ถูกอยู่นานหลายวิจนต้องรีบยื่นช่อดอกไม้ในมือให้พร้อมบ่ายเบี่ยงหัวข้อสนทนา
"น..นี่ค่ะ ดอกไม้ที่คุณสั่ง "
" ขอบคุณครับ ฝีมือคุณไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลย ไว้พรุ่งนี้ว่างผมมาใหม่นะครับ "
เซบาสเตียนรับมาพร้อมกล่าวขอบคุณ หยุดรุกแค่นี้ไปก่อนก็ได้ เพิ่งจะรู้จักกัน หากรีบร้อนเกินไปก็กังวลว่าวิเวียนจะรู้สึกอึดอัด ซึ่งเขาไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
“ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ”
วิเวียนยิ้มรับตอบถ้อยเสียงนุ่มนวลสมกับบุคลิกนิสัยอันอ่อนโยนของเธอ นำพาคนฟังยิ้มหน้าบานจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ หันหลังก้าวออกไปได้ไม่เกินสามก้าวก็ต้องหยุดชะงักหันกลับมามอง เมื่อมีชายรูปร่างสมส่วนคนหนึ่งเดินสวนเขาเข้ามาพร้อมกล่าวทักวิเวียนเหมือนรู้จักกันมาก่อน
“สวัสดีครับคุณวิเวียน”
เสียงจากชายแปลกหน้าดังก้อนเข้าโสทประสาทคนที่ตั้งท่าพร้อมเดินออกไป เป็นการอันต้องหันกลับมามองอย่างไว
“อ้าว คุณแมกซ์ตัน มาซื้อดอกไม้หรอคะ”
วิเวียนกล่าวทักทายตอบอย่างเป็นกันเองจนคนที่ยืนมองอยู่ไม่ไกล้ไม่ไกลคิ้วขมวดหากัน
"ใช่ครับ ครั้งก่อนคุณจัดดอกไม้ให้แม่ผม เธอชอบมากเลยล่ะครับ”
แมกซ์ตันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในขณะที่ตอบ ทำเอาเซบาสเตียนที่ยืนมองนึกหมั่นไส้ คงจะมาขายขนมจีบให้วิเวียนล่ะสิท่า ทำมาเป็นซื้อดอกไม้ให้แม่ เหอะ! เห็นแบบนี้จะยอมได้ยังไงกันล่ะ ไม่รอช้า เซบาสเตียนรีบก้าวเท้าเดินกลับเข้ามา เสียงฝีเท้าของเขาเรียกความสนใจจากสองคนที่ยืนคุยกันให้หันมามอง วิเวียนก็ต้องขมวดคิ้วบางขึ้นด้วยหน้าตาสงสัย เมื่อเขาเพิ่งจะก้าวออกไปได้ไม่ถึงสองนาที
“ผมว่าจะซื้อดอกไม้อีกสักช่อน่ะครับ เอาไปให้แม่”
เซบาสเตียนไขข้อสงสัยทันที พร้อมยิ้มทรงเสน่ห์ให้กับเจ้าของร้านดอกไม้ แข่งกับชายที่ยืนอยู่ข้างเขา ตราบไดที่คนอย่างเซบาสเตียนยังมีชีวิต ชายคนไหนก็อย่าหวังจะได้ผู้หญิงคนนี้ไปครอบครอง
“เอ่อ… งั้นรอสักครู่นะคะ เดี๋ยววิจะรีบไปจัดการให้ทั้งสองคนเลยค่ะ “
วิเวียนยิ้มแห้ง เมื่อเห็นว่าชายสองคนชำเลืองมองกันแปลกๆ อย่างกับว่าเป็นศัตรูกันมาก่อนอย่างไงอย่างงั้น
“ได้ครับ—”
“ได้อยู่แล้วครับ คุณวิไม่ต้องรีบเลยครับ สำหรับคุณ ผมรอได้เสมอ”
แมกซ์ตันเปร่งเสียงพูดยังไม่ทันพ้นคอก็ถูกเซบาสเตียนแทรกตัดบทขึ้นด้วยโทนเสียงนุ่มแทบจะแอ๊บเสียงสองเสียงสามเก่งกว่าผู้หญิงสะแล้วพ่อคุณเอ้ย
“เอ่อ..ค่ะ งั้นนั่งรอกันก่อนนะคะ”
วิเวียนทำหน้าแหยๆ ด้วยความประหม่ากับสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสดใสสักเท่าไหร่ ก่อนจะหันหลังก้าวออกไปจัดการหน้าที่ตัวเองให้ได้ไวที่สุด เพื่อที่จะแก้ปัญหาด้วยการส่งลูกค้ากลับไวๆ
พอวิเวียนออกไปเท่านั้นแหละ ชายสองคนหันมองหน้ากันควับ ด้วยสายตาที่โครตจะบ่งบอกว่ามองหน้าหาเรื่องอ๋อ
“มองอะไรไม่ทราบครับ”
เป็นเซบาสเตียนที่เริ่มกวนประสาทด้วยคำถามที่ดูเหมือนจะสุภาพ ทว่าโทนเสียงนี่สิ กวนยิ่งเสียกว่าอะไร หากเป็นนักเลงข้างถนนคงได้แลกหมัดกันเข้าให้แล้ว
“คุณเองก็มองนิครับ ไม่ทราบว่ามองอะไร”
แมกซ์ตันเองไม่มีทางยอม กวนมากวนกลับ สวนตอบด้วยสีหน้าท่าทางที่พร้อมบวกทุกเวลา
“อยากมองตายแหละครับ ก็แค่จะหันไปมองว่าแถวนี้มีนกมีกาอยู่รึเปล่า แต่ไม่ยักรู้ว่าจะมีคุณยืนอยู่เลยนะครับ “
เซบาสเตียนเผยสีหน้าทะเล้นตามประสาคนกวนประสาท สิ่งที่เขาอยากจะสื่อคือเตรียมตัวนกได้เลยหากคิดจะแข่งกับเขาเรื่องจีบวิเวียน
“เหอะ… งั้นคุณคงต้องตายจริงๆแล้วแหละครับ เพราะผม… จีบสาวแล้วไม่เคยตายไม้ “
แมกซ์ตันสวน สีหน้าบ่งบอกถึงความมั่นอกมั่นใจ แต่ในความคิดอีกคนกลับกลายเป็นมั่นหน้ามากกว่านี่สิ
“งั้นเราคงต้องมารอดูกันสักตั้งแล้วแหละครับ”
เซบาสเตียนท้าทาย แล้วอีกคนก็ตอบรับทันทีด้วยความเป็นลูกผู้ชาย ไม่เคยจะกลัวเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว สายตาสองคู่ยังคงจ้องกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จนกระทั่งวิเวียนเดินกลับมาพร้อมดอกไม้ในมือสองช่อที่เหมือนกันเป๊ะ เพราะเธอกลัวว่าสองคนจะนึกเคืองกันเหมือนเด็กขึ้นมา หากดอกไม้ของใครคนหนึ่งถูกมองว่าสวยกว่า
“เอ่อ…”
วิเวียนยิ้มแหยๆ ด้วยความประหม่า เมื่อดอกไม้ถึงในมือทั้งสองแล้วแต่ดูเหมือนสองคนไม่ได้จะสนใจดอกไม้นั่นเลย ไม่แม้แต่จะก้มมองมันตอนเธอยื่นให้ด้วยซํ้า ก็แหงสิ ในเมื่อมันเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อที่จะเข้าหาเจ้าของร้านชัดๆ
“แฮ่ม.. ไม่ทราบว่าคุณว่างมากหรอครับ ดอกไม้ก็ได้ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วไม่คิดจะกลับรึยังไงกันครับ”
เซบาสเตียนแขวะเสียงกวน
“แล้วคุณล่ะครับ ไม่มีงานการรึยังไงกันครับ ถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ไม่รู้จักกลับ “
แมกซ์ตันแขวะกลับอย่างไม่ยอม
“หึ… พอดีผมเป็นเจ้าของธุรกิจน่ะครับ จะเข้างานตอนไหนก็ย่อมได้”
เซบาสเตียนตอบกลับท่าทางทะเล้นใช่ย่อยพรางกับยักไหล่ขึ้นเบาๆ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขานั้นไร้เรื่องราวต้องให้กังวล แถมยังเป็นการอวดคร่าวๆ ว่าตัวเองคู่ควรกับวิเวียนขนาดไหน ด้วยฐานะที่จะซื้อโลกทั้งใบให้เธอยังได้ เพียงขอแค่เธอเอ่ยปากว่าอยากได้เท่านั้น โลกใบนี้จะต้องมาตั้งไว้ตรงหน้าเธอทันที
ก็พี่มันสายเปร์~~
