บทที่ 5 ลูกพ่อมันติดสาว
“คุณจะซื้อดอกไม้ร้านวิให้วิอีกทีเนี่ยนะคะ”
“ได้มั้ยล่ะครับ”
“วิว่า… มันฟังดูแปลกๆ อยู่นะคะ”
วิเวียนทำหน้าครุ่นคิด ไอได้มันก็ได้อยู่หรอก แต่จะซื้อดอกไม้จากเธอ ที่เธอเป็นคนจัด แล้วก็กลับมาให้เธออีกที มันก็ฟังดูแปลกๆ อยู่นั่นแหละ
“ฮะๆ ผมล้อเล่นครับ ผมจะเอาไปให้พ่อน่ะครับ”
เซบาสเตียนหลุดขำกับสีหน้าครุ่นคิดตอนนี้ของหญิงสาวที่น่าเอ็นดูไปสะหมด จนต้องแก้สถานการณ์ด้วยคำว่าล้อเล่น กลัวหญิงที่หมายปองจะคิดเยอะจนเครียดก่อน
“งั้นเดี๋ยววิจะรีบจัดการให้นะคะ “
วิเวียนได้ยินเช่นนั้นก็หันกลับมาตอบชายตรงหน้าพร้อมยิ้มให้เขาทันที แม้ดูรูปลักษณะภายนอกของเซบาสเตียนจะไม่ใช่ผู้ชายที่อ่อนหวานแต่อย่างไร ด้วยใบหน้าคมคายกับดวงตาเฉียบแหลมลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสนั่น ทว่าเธอกลับรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนที่มาจากจิตใจของเขา จะมีผู้ชายสักกี่คนกันที่จะซื้อดอกไม้ไปให้พ่อ วิเวียนครุ่นคิดไปในขณะที่ยืนจัดดอกไม้ด้วยความตั้งใจ หารู้ไม่ว่าสายตาจากชายที่เธอกำลังนึกถึงนั้นมองดูทุกการกระทำของเธออยู่ตลอด และสิ่งที่เธอคิดมันสวนทางกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง เมื่อจุดประสงค์ของเซบาสเตียนที่เอาแต่มาซื้อดอกไม้ร้านเธออยู่บ่อยๆ ก็เพื่อที่จะขายขนมจีบให้เจ้าของร้าน ไม่ได้เป็นดั่งข้ออ้างที่ว่าจะซื้อไปให้คนนั้นคนนี้เลยสักนิด
ในเวลาเดียวกันที่คนในร้านกำลังนั่งวุ่นอยู่กับการจีบสาว แต่ดูเหมือนคนที่รอนอกร้านกำลังร้อนรนใจอยู่ไม่นิ่ง เมื่อประชุมใหญ่กำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่นาที แต่บอสเจ้าเอาแต่ใจเอาแต่ติดสาวจนไม่ยอมกลับไปทำการทำงาน
“เมื่อไหล่บอสจะออกมาวะเนี่ย ติดสาวจนลืมการลืมงานแล้วรึไง ประชุมก็กำลังจะเริ่มอีกสิบนาที แล้วเลื่อนก็ไม่ได้อีก! พอเข้าไปตามก็มามองตาขวางใส่ โอ้ยยชีวิตรอย!”
รอยยืนบ่นยับอยู่คนเดียวหน้ารถ อยากจะด่าก็เป็นเจ้านายอีก เกิดเป็นรอยนี่มันน่าโมโหสะจริงๆ เดินวนไปวนมายกนาฬิกาข้อมือดูก็พบกับเวลาที่หมุนไปเรื่อยๆ ไม่รอคนติดสาว จนนึกวิธีแก้ปัญหาออกอยู่อย่างหนึ่ง รอยรีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหาคนที่โผล่เข้ามาในความคิดทันที
(มีอะไร ไอ้รอย)
เสียงจากปลายสายแทรกเข้ามาทันทีที่สายถูกรับ รอยไม่รอช้ารีบกล่าวถึงปัญหาทันที
" นายใหญ่ครับ ช่วยเข้าประชุมแทนบอสหน่อยได้มั้ยครับ อีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะเริ่มแล้วอีกอย่างประชุมนี้เลื่อนไม่ได้จริงๆครับ "
รอยอธิบายนํ้าเสียงรีบรนสุดๆ แต่ปลายสายยังคงใจนิ่งมีเวลามาถามถึงเจ้าตัวปัญหา
(แล้วนายมึงไปไหน)
"ติดสาวครับ ไม่ยอมไปประชุม "
รอยรีบฟ้องตามความจริง ให้มันรู้กันสะบ้าง ปล่อยให้ลูกน้องต้องเป็นเดือดเป็นร้อนแทน ปลายสายถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความเอาแต่ใจของบุตรชายคนเดียว แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะช่วย
(เฮ้อ… ไอ้ลูกเวร สงสัยเสร็จงานต้องจัดการมันสักหน่อย ประชุมเดี๋ยวฉันเข้าแทนเอง เสร็จแล้วบอกนายมึงให้มาเข้าพบฉันด้วย)
ปลายสายสั่งเสียงเรียบ จะละเลยบริษัทไว้แบบนั้นก็ไม่ได้ เมื่อลูกชายเหลวไหล คนเป็นหัวหน้าครอบครัวอย่างเขาก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
“ครับ”
รอยตอบรับเสียงหนักแน่น ก่อนสายจะถูกตัดไป ให้เจ้านายโดนเสียบ้างก็ดี จะได้เข้าใจความรู้สึกลูกน้องอย่างเขาบ้าง ในขณะที่เขาต้องยืนเป็นเดือดเป็นร้อนกับงานที่เป็นหน้าที่ของเจ้านาย แต่ตัวเองกลับกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้สาวอยู่ในร้านดอกไม้
เวลาผ่านไปอีกเกือบชั่วโมง จนวิเวียนจัดดอกไม้เสร็จแล้วเดินกลับมาหาคนที่นั่งรอพร้อมช่อดอกไม้สีสวยในมือที่ถูกตกแต่งรวมกันด้วยดอกไม้สองสามชนิด
“สวยมากเลยครับ ผมชอบมาก"
"โดยเฉพาะ…. คนทำ”
เซบาสเตียนเมื่อมีโอกาสก็ไม่ยอมให้หลุดมือ พูดคำหยอดแทรกเข้าไปในคำสุดท้าย ปากบอกชอบซึ่งไม่ได้หมายถึงดอกไม้ เมื่อสายตามันเอาแต่จับจ้องอยู่บนใบหน้านวล ทำเอาวิเวียนหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาไม่รู้เป็นครั้งเท่าไหร่กับการกระทำแพรวพราวของลูกค้าหนุ่มคนนี้
“คุณจะเต๊าะวิให้ได้ทุกจังหวะเลยรึยังไงกันคะ”
วิเวียนเผยยิ้มแหยๆ แก้เขินไปกับคำพูดปนตลก ในขณะที่หัวใจดวงน้อยกำลังเต้นตุบๆ ไม่เป็นจังหวะ
“แล้วเชื่อมั้ยล่ะครับ ว่าผมเต๊าะคุณคนเดียว”
เซบาสเตียนยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ก็ใช่ว่าสิ่งที่เขาพูดจะไม่ใช่ความจริง ในเมื่อเขาเองไม่เคยเต๊าะใครแบบนี้มาก่อน วิเวียนเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาเป็นคนเริ่มจีบ แต่ถ้าจะถามว่าได้สกิลขั้นเทพนี้มาจากใคร ก็คงต้องบอกว่ามาจากสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวตั้งแต่เกิด พอดีเชื้อพ่อมันแรง
“หน้าตาคุณไม่น่าเชื่อถือสักนิดเลยค่ะ”
วิเวียนขำเบาๆ พร้อมกล่าวสิ่งที่อยู่ในความคิด แม้ลึกๆเธออาจไม่รู้ตัวว่าแอบหลงเชื่อเขาไปแล้วบางส่วน
" แย่จังเลยนะครับ "
ร่างสูงโปร่งหยัดกายลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมก้าวเข้าไกล้หญิงสาว นำพาคนตัวเล็กเผยสีหน้างุนงง ก่อนสองเท้าจะหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมโน้มหน้าเข้าไกล้เธอจนร่างระหงแข็งทื่อ เมื่อเห็นว่าเธอเสียอาการให้กับตัวเองอย่างชัดเจน ปากหยักได้รูปยกยิ้มขึ้นก่อนจะเลี่ยงใบหน้ามาข้างหูอีกคนพรางเอ่ยกระซิบเบาๆ
“คุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ เพราะยังไงผมก็จะมาพิสูจน์ให้คุณเห็นทุกวันเอง ว่าผมพูดความจริง”
