บท
ตั้งค่า

พี่ข้ากำลังไป

หั่วเหยียนได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณเพื่อใช้สังเกตการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของฟู่โยวเยวี่ยตลอดเวลาที่นางกล่าวอธิบาย แต่เขากลับตรวจไม่พบความผิดปกติใดใด จึงคิดว่านางคงจะไม่ได้กล่าวคำลวง

"ทำไมตอนนั้นเจ้าไม่ตามเข้าไปด้วยล่ะ?” หั่วเหยียนได้กล่าวถามอีกครั้ง

"ศิษย์ต้องการติดตามเข้าไปเช่นเดียวกัน แต่ว่ากระแสน้ำวนสีดำนั่นมีพลังงานป้องกันบางอย่าง ศิษย์ได้ลองหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลวตลอด" ฟู่โยวเยวี่ยตอบกลับอย่างสุภาพ

"เอาล่ะ ข้าไม่มีอะไรจะถามเจ้าแล้ว เจ้าออกไปได้"

หั่วเหยียนครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะบอกฟู่โยวเยวี่ยให้ออกไป

"ท่านจ้าวนิกาย เหตุใดจึงไม่บังคับใช้การค้นวิญญาณกับนางล่ะ บางทีเราอาจจะได้รู้เรื่องราวจริงเท็จและรัดกุมได้มากกว่า"

เมื่อฟู่โยวเยวี่ยจากไปแล้ว โยวเทียนกู่จึงเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่พึงพอใจ

"จากที่ข้าลองสังเกตดู นางน่าจะไม่ได้พูดโกหกออกมา อีกอย่างนางยังสามมารถเก็บไว้ใช้ประโยชน์ได้อยู่ ถ้าหากการตายของผู้อาวุโสทั้งสองเกี่ยวข้องกับเยี่ยเฉินเฟิงจริง บางทีเราอาจใช้ฟู่โยวเยวี่ยล่อตัวมันออกมาได้” หั่วเหยียนกล่าวตอบเสียงต่ำ ดวงตาทอประกายวาววับ

"เจ้าตำหนักกระบี่ เจ้าตำหนักอัคคี พวกเจ้าทั้งสองคนไปยังบึงทมิฬและตรวจสอบสาเหตุการตายของผู้อาวุโสทั้งสอง หากมีอะไรคืบหน้ารีบแจ้งต่อข้าในทันที" หั่วเหยียนกล่าวสั่ง

"ขอรับท่านจ้าวนิกาย!"

เจี้ยนหยวนและหั่วอวิ๋นคงพยักหน้าพร้อมกัน จากนั้นพวกเขาก็โดยสารวิหคเพลิงบินไปยังพื้นที่บึงทมิฬในทันที

ขณะที่นิกายอัคคีสวรรค์กำลังมองหาสาเหตุการตายของผู้อาวุโสทั้งสอง เยี่ยเฉินเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นในส่วนลึกของภูเขาหิมะที่อยู่ห่างออกไปนับหมื่นลี้จากบึงทมิฬ หยิบแผ่นศิลาอำนาจกระบี่ออกมา เตรียมจะฝึกฝนอำนาจกระบี่ให้ถึงขั้นสมบูรณ์ เพื่อเพิ่มพลังที่แท้จริงของตนเอง

“ชิ้ง...”

เยี่ยเฉินเฟิงปลดปล่อยพลังวิญญาณเข้าไปในศิลาอำนาจกระบี่ และสัมผัสกับรอยตราอำนาจกระบี่สีดำทมิฬเส้นนั้น พลันเกิดเสียงกรีดกระบี่แสบแก้วหูดังก้องขึ้น

อำนาจกระบี่อันแสนน่ากลัวทะลักล้นออกมาจากแผ่นศิลาราวกับสายน้ำหลาก พลังงานระเบิดใส่หิมะด้านหลังของเขาที่ไกลออกไปนับพันจั้งจนเป็นรอยบากหลายสาย และทำให้พลังวิญญาณที่แทรกซึมเข้าไปภายในของเยี่ยเฉินเฟิงถูกฉีกกระชากจนย่อยยับ

"น่ากลัวชะมัด อำนาจกระบี่สมบูรณ์นี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าอำนาจกระบี่เก้าชั้นฟ้าอีก"

เมื่อพลังวิญญาณถูกฉีกกระชากออกจากกัน เยี่ยเฉินเฟิงก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าว ศีรษะของเขาเหมือนกำลังจะระเบิดออกมา

อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะเข้าถึงอำนาจกระบี่สมบูรณ์ เยี่ยเฉินเฟิงได้อดทนต่อความเจ็บปวดเหล่านั้นและใช้พลังวิญญาณของเขาแทรกซึมเข้าไปในรอยตรากระบี่สีดำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งควบคุมสมองกลืนเทวะให้วิเคราะห์ร่วมด้วย

ระหว่างขั้นตอนการอนุมาน เวลาก็ได้ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วและไม่หยุดนิ่ง

เขาไม่รู้เลยว่าเวลาได้ผ่านเลยไปนานแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งแผ่นศิลาอำนาจกระบี่ในมือของเขาเริ่มแตกออก

จากนั้นกระแสอำนาจกระบี่ที่รุนแรงก็ถูกปลดปล่อยออกมาคลุมร่างของเยี่ยเฉินเฟิงที่มีหิมะปกคลุมหนาเอาไว้ ก่อนจะทะยานสูงขึ้นสู่ฟากฟ้า พุ่งทะลุไปจนท้องฟ้ากลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ เมฆลมกระจัดกระจายปั่นป่วน

สะบัดหิมะที่ปกคลุมร่างกายออก เยี่ยเฉินเฟิงลืมตาตื่นขึ้นมา ร่างกายคล้ายกระบี่กล้าที่ถูกฝุ่นเกาะมาราวพันปี แต่เมื่อหลุดออกจากฝักก็สั่นสะเทือนได้ทั่วหล้า

ครู่ต่อมา เยี่ยเฉินเฟิงก็ได้ร่ายรำกระบวนท่ากระบี่ทั้งหมดอยู่บนพื้นหิมะ กระบี่ดุจสายน้ำ ร่างกายดุจมังกรแหวกว่าย อำนาจกระบี่ที่น่ากลัวเป็นดังพายุฝนคลั่ง สาดกระจายไปทั่วทิศทาง

เยี่ยเฉินเฟิงใช้เวลาฝึกฝนอยู่ที่ใต้ธารน้ำแข็งเกือบเดือน ด้วยความช่วยเหลือของสมองกลืนเทวะ ในที่สุดเขาก็สามมารถเรียนรู้อำนาจกระบี่ขั้นสมบูรณ์ได้

"ใช่ ความรู้สึกนี้แหละ..."

เยี่ยเฉินเฟิงร่ายรำท่วงท่าอยู่เกือบครึ่งวัน ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อำนาจกระบี่ขั้นสมบูรณ์ร่วมกับเคล็ดวิชากระบี่ก็เพิ่มสูงขึ้น และเข้าใจเกี่ยวกับอำนาจกระบี่ขั้นสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ภายใต้ท่วงทำนองของเยี่ยเฉินเฟิง เสียงหวีดของกระบี่ได้ดังออกมาเป็นระยะๆ กลิ่นอายพลังที่น่ากลัวได้แผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขา และรวมกันจนกลายเป็นแสงกระบี่อันน่าตื่นตะลึง

จากนั้นพลังอำนาจกระบี่สมบูรณ์ที่น่ากลัวก็ได้พุ่งออกไป ตัดฟันก้อนน้ำแข็งที่สูงนับพันจั้งออกเป็นสองส่วน พลังโจมตีอันน่ากลัวยังคงทิ้งร่องรอยไว้กลางอากาศไม่จางหาย

"อำนาจกระบี่สมบูรณ์ ในที่สุดก็ทำได้แล้ว"

เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังงานของอำนาจกระบี่ ใบหน้าของเยี่ยเฉินเฟิงปรากฏความเย่อหยิ่งและรอยยิ้มจางๆ ออกมาหลังจากผ่านการฝึกอันยากลำบาก ในที่สุดเขาก็สามารถฝึกฝนอำนาจกระบี่สมบูรณ์ให้สำเร็จได้ซักที

มลฑลเป๋ยเสวี่ย เมืองซานหยวน

เมืองซานหยวนเป็นเมืองการค้าที่มีชื่อเสียงในมณฑลเป๋ยเสวี่ย นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่รวมตัวของเหล่านิกายพรรคใหญ่ๆ มีร้านค้าร้านอาวุธรวมถึงร้านขายยาอยู่มากมายภายในเมือง รวมถึงยอดฝีมือที่มีอยู่เกลื่อนกลาด

"เมืองซานหยวนเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก มันเทียบได้กลับเมืองหลวงของแคว้นอย่างจื่อจินและแคว้นอื่นๆ ได้เลย" เยี่ยเฉินเฟิงที่เดินไปตามถนนภายในเมือง เขาเห็นร้านขายของจำนวนมากมายจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชม

เหตุผลที่เยี่ยเฉินเฟิงมาเมืองซานหยวนแห่งนี้ก็เพราะต้องการหาข่าวการเคลื่อนไหวของนิกายอัคคีสวรรค์ รวมถึงขายอาวุธวิญญาณที่ไม่จำเป็นสำหรับเขาทั้งหมดเพื่อแลกเปลี่ยนผลึกวิญญาณระดับกลาง

หากได้รับผลึกวิญญาณระดับกลางสักห้าหมื่นก้อน เขาก็จะสามารถควบคุมหุ่นเชิดหุ่นเชิดวิญญาณกระบี่ให้ทำการโจมตีได้ เท่านี้เขาก็ไม่ต้องกลัวยอดฝีมือจากนิกายอัคคีสวรรค์อีกต่อไป

แม้ความคิดของเยี่ยเฉินเฟิงจะดี อีกทั้งอาวุธวิญญาณ เคล็ดวิชาและทักษะสำหรับฝึกฝนที่เขามีอยู่จะมีมูลค่าสูงมาก แต่เพราะเยี่ยเฉินเฟิงต้องการแลกทั้งหมดเป็นผลึกวิญญาณระดับกลาง ทำให้จำนวนที่ขายได้ไม่ถึงเป้าที่หวังไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel