บท
ตั้งค่า

สถานีที่สาม...ค่ายวันสุดท้าย (2)

สถานีที่สาม...ค่ายวันสุดท้าย (2)

การเดินทางจากจังหวัดเชียงรายมาสู่กรุงเทพฯ ใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงจนตอนนี้เวลาล่วงเลยไปสองทุ่มกว่าแล้ว

พลันเมื่อยกข้าวของลงจากรถ สมาชิกในค่ายก็ต่างแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนเนื่องจากเหนื่อยล้ากับการเดินทาง กวินอาศัยอยู่ที่หอนอกใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยจึงขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับไป พั้นซ์เองก็มีแฟนมารอรับ ส่วนฉันก็ขับรถยนต์มาเนื่องจากระยะทางจากบ้านกับมหาวิทยาลัยนั้นห่างกันหลายกิโลฯ เลยทีเดียว

ฉันขนสัมภาระขึ้นไปไว้ท้ายรถก่อนจะนั่งประจำฝั่งคนขับ หลังจากนั้นก็ออกตัวรถตรงไปตามหนทาง ซึ่งจุดหมายก็คือบ้านเช่าที่พ่อกับแม่เป็นคนคัดเลือกและตรวจตราให้เองกับมือ

ใช้เวลาราว ๆ สิบห้านาทีก็มาถึง ฉันเดินลงจากรถและรีบวิ่งไปเปิดรั้วบ้านเพื่อที่จะได้นำรถเข้าไปจอดด้านใน หากแต่ว่าลูกกุญแจที่มีอยู่ในพวงกลับทำให้ฉันเกิดความสับสนจนต้องงมหาอยู่หลายนาที

“โอ๊ย! ย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งหลายเดือนแล้วทำไมยังจำกุญแจไม่ได้อีกเนี่ยไอ้โมเอ๊ย”

นอกจากพวงกุญแจจะมีหลายดอกแล้ว ฉันยังลืมอีกด้วยว่ากุญแจไขประตูรั้วมีลักษณะแบบไหน

ให้ตาย...ไอ้โมแกมันเซ่อซ่าจริง ๆ นั่นแหละ!

“เอ่อ ขอโทษนะครับ บ้านคุณใช่บ้านเลขที่ 199/22 หรือเปล่าครับ”

ระหว่างที่ฉันกำลังฟึดฟัดหงุดหงิดกับการหาลูกกุญแจอยู่นั้นกลับมีรถหกล้อขับมาจอดไม่ใกล้ไม่ไกล กระจกรถเปิดออกตามด้วยเสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ด้านในตะโกนถามออกมา

“ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ” ฉันหันไปตอบรับพร้อมกับทำหน้าแปลกใจ เห็นรถหกล้อขับมาจอดแบบนี้ก็พอจะรับรู้ว่าเขาจะต้องรับจ้างขนย้ายของเป็นแน่

“พอดีผมมาส่งของให้กับบ้าน 199/23 น่ะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าหลังไหน ผมเห็นบ้านเลขที่ของบ้านคุณใกล้กับบ้านลูกค้าของผมน่ะครับ”

“อ้อ! ทับยี่สิบสามอยู่ฝั่งซ้ายฝั่งนี้เลยค่ะพี่ ถ้าบ้านฝั่งขวาจะเป็นทับยี่สิบเอ็ด” ฉันชี้นิ้วไปยังบ้านฝั่งซ้ายที่ยังไม่มีใครเข้ามาอยู่อาศัย ตั้งแต่ที่ฉันย้ายเข้ามาก็เห็นว่าเดิมทีบ้านหลังนี้ติดประกาศขายและให้เช่าอยู่เหมือนกัน

ถ้ามีรถมาขนย้ายของแบบนี้ก็แปลว่าฉันกำลังจะมีเพื่อนบ้านเพิ่มสินะ...

“ขอบคุณมากเลยครับ!”

“บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่ค่ะพี่ เขาน่าจะซื้อเก็บไว้ปล่อยเช่าแน่เลย บ้านเลขที่ก็ไม่ติดให้มันเด่นชัด” ฉันชะโงกหน้าไปมองของท้ายรถที่เป็นเฟอร์นิเจอร์เสียส่วนใหญ่

จากเดิมที่กำลังจะขับรถเข้าไปจอดในบ้านก็เป็นต้องเปลี่ยนใจ มาคอยสอดส่องความคืบหน้าของเพื่อนบ้านคนใหม่ ตามประสาคนชอบใส่ใจเรื่องคนอื่นแทน

“แล้วนี่พี่ต้องยกของพวกนี้ลงเองเหรอคะ พี่ยกไหวเหรอ” ฉันถามต่อขณะที่สายตาก็ยังมองหาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ผมมากันสองคน ช่วยกันยกแป๊บเดียวก็เสร็จครับ อ้อ! นั่นไงลูกค้าที่จ้าง ขับมาพอดีเลย”

แสงไฟจากตัวรถยนต์สาดส่องมาทำให้ฉันหันขวับไปมอง ด้วยความสว่างที่กระทบดวงตากลับทำให้ฉันจำต้องยกมือขึ้นป้องใบหน้า หากแต่ว่าสายตาก็ยังคงหรี่มองคนว่าจ้างที่กำลังจะกลายเป็นเพื่อนบ้านกันในอีกไม่ช้า

“นี่เธอ”

เสียงนี้มัน...

เสียงทุ้มคุ้นหูเอ่ยเข้าสู่โสตประสาท ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาทำให้ภายในหัวสับสนพัวพันไปหมด ร่างสูงเดินลงจากตัวรถ ก้าวเดินเข้ามาช้า ๆ จนกระทั่งยืนบังระดับแสงไฟจากหน้ารถที่สาดส่องพานทำให้ฉันสามารถกลับมามองเห็นได้ตามปกติ

แต่ทว่า...

“ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่”

“อะ...องศา! องศาเหรอ!? นะ...นายคือคนที่จะมาอยู่บ้านหลังนี้งั้นเหรอ!?” ฉันไม่ได้ตอบแต่เลือกที่จะโพล่งคำถามออกไปแทน

ใช่...เมื่อกี้ฉันพูดคำว่าองศา

เพราะคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าคือองศายังไงล่ะ!

เพื่อนบ้านคนใหม่คือองศาจริง ๆ งั้นเหรอ?

คนที่กำลังจะย้ายเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ คือองศาจริง ๆ ใช่ไหม?

โอ้ มาย ก๊อต…ไอ้โมไม่ต้องไปตะลอนจีบคนหล่อที่ตึกแพทย์แล้วโวย!

“อย่าบอกนะว่าเธอ...”

“ใช่! เราอยู่บ้านหลังนี้ หลังนี้เลย! โอ้มายก๊อต! นี้แปลว่านายอยู่ข้างบ้านเราใช่ไหมเนี่ย ถามจริง!? โอ๊ย…ไม่อยากจะเชื่อ!” ฉันตะโกนถามออกมาอย่างบ้าคลั่งเมื่อตอนนี้กำลังตื่นตกใจและไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้

แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความบังเอิญมันเกิดขึ้นได้ง่ายดายแบบนี้ บ้านของฉันอยู่ข้างบ้านขององศาเนี่ยนะ!?

ฮือ...โชคดีชะมัดเลย!

“เหอะ...เรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย”

“จะให้ขนลงเลยไหมครับ” เสียงของเจ้าของรถหกล้อดังขึ้นเรียกสติให้กู่กลับ

“เดี๋ยวผมเปิดประตูให้นะครับ” องศาตอบรับก่อนจะเดินผ่านตัวฉันและจัดการเปิดประตูรั้วบ้านออก

จังหวะนั้นฉันทำได้เพียงสะบัดหน้าแรง ๆ พลางยกมือขึ้นขยี้ตา จะได้ให้แน่ชัดไปเลยว่าตอนนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่แค่ความฝันที่ฉันเพ้อพกไปเอง

และใช่...มันไม่ใช่ความฝัน!

โอ้มายก๊อต…เพื่อนบ้านของไอ้โมนาคือองศาสุดหล่อของมหาวิทยาลัยนะทุกคน รู้ยัง!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel