บท
ตั้งค่า

Episode 02 ปฐมบท 2/2

ผมที่นั่งดูข่าวไลฟ์สดไปพลาง ก็ได้ตอบกระทู้ที่เด้งขึ้นมาหรือแม้จะไปตั้งกระทู้ขึ้นมาเองอย่างเมามันส์

_ถ้าเกิดว่ามีเวทมนตร์ขึ้นมาจริงๆ ตู้จะขอย้ายโรงเรียนไปเรียนที่ฮอกวอตส์จะได้หรือป่าวฟ่ะ

>>แล้วแต่เอ็งเลย :p

>>น่าสน *0*b

“ทุกวันนี้ก็เรียนศาสตร์เวทมนตร์กันอยู่นะ ศาสตร์พยากรณ์ไง เห็นถูเลขกันอย่างเอาจริงเอาจัง?”

_ถ้าเวทมนตร์มีจริงๆ ทุกคนจะทำยังไง

>>แปลงร่าง!!!!!!!!!!!!!!!!!

>>ฟาร์มเวลสิคราบบบบบบบบ

“เฮ้อออ คิดแล้ว คงยุ่งเหยิงแน่ๆ ถ้ามัเวทมนตร์ในยุดสมัยนี้ เพราะว่าเวทมนตร์จะถูกสั่งห้ามใช้อย่างแน่นอน เพราะในยุคสมัยที่สงบสุขแบบนี้ คงไม่ต้องการพลังที่มากเกินไปอยู่ดี”

แต่ระหว่างที่ผมดูข่าวอยู่นั้น ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อยจนต้องเอามือมากุมหัว

ตึก... ตึก!

มันอะไรกัน...

ทุกอย่างเกิดขึ้นในช่วงที่ซากโบราญเกิดความสั่นไหวเล็กน้อย

ก่อนที่ผมจะหันกลับไปมองหน้าจออีกครั้ง ซึ่งทุกอย่างก็ขาวโพลนไปหมด

...... ปุจุบันหนึ่ง ..... .... .....อนาคตหนึ่ง ..... ถึงเวลาที่ทุกอย่างจะต้องเข้ารูปเข้ารอยแล้ว ......

วูบ.........

“อืม..... อะไรกัน.... เมื่อกี้..... “

ผมที่นอนแผ่แหงนมองท้องฟ้าด้วยความมึนงงหลังจากที่อาการปวดหัว ได้ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้งนั้น ก็ได้ผล็อยหลับไป

เมื่อกี้กำลังนั่งดูข่าวอยู่ไม่ใช่เหรอ... แล้วทำไม... ช่างเถอะ... ง่วงนอนจัง... ปวดหัวอีกตางหาก......

เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้

“งื่มๆ ..”

มืด? อืออออ แล้ว? .... ทำไมหนาวจัง

ผมลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปโดยรอบก่อนที่จะเอาแขนทั้งสองข้างกอดตัวเองหลังจากที่มีลมหนาวเข้ามากระทบผิวหนัง แต่แล้วเมื่อผมสังเกตสิ่งต่างๆ โดยรอบเสร็จแล้วก็ถึงกับต้องตกใจ

ที่นี่มันป่านี่นา ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ย? แล้วที่ผมนั่งดูข่าวอยู่เมื่อสักครู่นี้ล่ะ มันหมายความว่ายังไงกัน?

ผมเห็นว่ามันน่าจะไม่มีประโยชน์อะไรถ้ายังนั่งอยู่ตรงนี้ต่อไป ผมก็เลยลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางที่งุ่มง่ามเซไปเซมา ด้วยอาการที่ยังมึนๆ หัวอยู่ แถมยังหนาวอีกตางหาก

ผมมองไปโดยรอบอีกครั้ง

“ถ้ามีที่อุ่นๆ ให้พักสักคืนก็คงจะดีไม่ใช่น้อย”

ผมบ่นเบาๆ เพราะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นแม้แต่สถานที่ๆ จะให้ผมพักพิงได้เลย แล้วใครมันจะมาคิดว่า จะได้ออกป่าหลังจากนั่งดูข่าวหรือเล่นเกมอย่างเมามันอยู่กันละครับ

หมอกก็หนา แถมต้นไม้ก็รกไปหมด หว้า!!! มีน้ำค้างมาเกาะผมจนรู้สึกได้ว่าเปียกไปหมดเลย

ซู่ววววว......

ผมที่กำลังจับผมตัวเองเขย่าเพื่อที่จะไล่น้ำค้างออกไปนั้น ก็มีเสียงลมพัดเบาๆ พร้อมๆ กับป่าที่รกอยู่นั้น ได้เปลี่ยนไป

อยู่ดีๆ มีทาง ทั้งที่เมื่อกี้ยังไม่มีอยู่เลยแท้ๆ คงไม่ใช่ป่าผีสิงหรอกมั้ง?

แต่ป่าที่เมื่อกี้ยังดูน่ากลัวอยู่นั้น ตอนนี้กลับมีทางเดิน และดอกไม้เบ่งบาน ทั่งๆ ที่เมื่อกี้ยังเป็นต้นดอกหญ้า หรือต้นไม้ที่หนาทึบ มืดจนน่ากลัวอยู่เลย จนทำให้รู้สึกสับสนเล็กน้อยกับป่าแห่งนี้

ผมลองนั่งยองๆ ลงไปพร้อมกับหยิบดอกไม้ที่บานสะพรั่งขึ้นมาหนึ่งดอก ซึ่งจากที่มันบานสะพรั่งอยู่แล้ว มันกลับยิ่งบานและเป่งประกายมากยิ่งขึ้นขึ้นไปอีก เหมือนกับว่ามันกำลังดีใจอยู่ยังไงยังงั้น จนผมที่เห็นแบบนั้นไม่กล้าทิ้งมันเลยทีเดียว

และหลังจากนั้นผมก็เดินตามทางที่อยู่ดีๆ ก็ปรากฏขึ้นมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

ยังมืดอยู่แท้ๆ แต่ดอกไม้กลับเบ่งบานได้ มันเป็นเรื่องที่แปลกเอามากๆ สำหรับผม แถมยังบานมาตลอดทางที่ผมเดินมาอีกด้วย

ข้างหน้ามีแสง?

ผมหรี่ตาเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะเห็นแสงได้ในที่แบบนี้ หรือผมคิดมากไปเอง? แต่ก็ต้องเข้าไปดูอย่างระมัดระวังละนะ

หลังจากนั้นผมเดินไปหลบอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งที่ใหญ่พอที่จะบังตัวของผมมิดชิด ก่อนที่จะยื่นหน้าออกไปดูเล็กน้อย

ต้นไม้แปลกๆ? สีส้มสดใส ผมที่กำลังหนาวอยู่นั้น ก็ได้แต่มอง คงไม่มีพิษมีภัยอะไรหรอกมั้ง น่านอนจัง...

ลักษณะของมันเหมือนต้นเห็ดยักษ์อ้วนๆ สีส้ม ดูนุ่มนิ้ม และมีที่ๆ น่านอนสบายอยู่ที่โคนของมัน แถมหัวมันส่องแสงสีส้มที่ชวนให้ดูอบอุ่นอยู่ไม่มากก็น้อยอีกด้วย

น่าจะอุ่นแล้วนอนสบายไม่ใช่น้อยเลยน้า..... แต่กลัวมันกลายเป็นต้นไม้กินคนเนี่ยสิ ต้นมันแปลกๆ แถมใหญ่จนน่ากลัว ถ้าจำไม่ผิดต้นไม้ที่มันกินแมลง มันมักจะมีเหยื่อล่อ ซึ่งในป่านี้มันจะหนาวมากในตอนมืด มันเลยอาจจะสร้างความอบอุ่นขึ้นมาเพื่อที่จะล่อสัตว์ให้เข้าไปหามันใกล้ๆ ก็อาจจะเป็นไปได้

น่ากลัว... เอ๊ะ

ผมที่มองต้นไม้แปลกๆ นั่นอยู่นั้น ก็เห็นกวางตัวหนึ่ง กำลังมองผมอยู่ มันมองผมด้วยในตาสีฟ้าสว่างสดใส ถึงจะเรียกว่ากวาง แต่มันเป็นแค่ส่วนคล้ายจากที่ผมเคยเห็นมา มันมองผมเสร็จก็มองไปที่ต้นไม้สีส้มๆ เหมือนเห็ด ดูนุ่มนิ่มๆ น่านอนสบายนั่น

เหมือนมันรู้เลย แถมมันไม่กลัวผมด้วย

มันทำท่าเหมือนกับงงเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินไปที่ต้นไม้นั่น ก่อนที่จะนอนลงบนที่ต้นไม้นิ่มๆ นั่น แล้วน่าจะอุ่นด้วย

“มันน่าอิจฉาเกินไปแล้วววว”

ผมที่กะจะวิ่งไปนอนมั่งก็หยุดตัวเองเอาไว้ทัน

ต้องดูให้ดีก่อนสิ ไม่แน่ต้นไม้นั่นอาจจะรอทีเผลออยู่ เพราะงั้นอย่าพึ่งเข้าไปใกล้จะดีที่สุด

แล้วเจ้ากวางนั่น ก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างสบายอารมณ์อยู่พักใหญ่ๆ จนผมต้องยอมแพ้แล้วก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปด้วยความอิจฉา เมื่อเจ้ากวางเห็นเช่นนั้นมันก็มองมาที่ผมแล้วหรี่ตาลง

แท่นที่คาดว่าเป็นสุสาน

“เธอช่าง.... งดงาม...!!! ”

“เฮ่ย! ท่านทำอะไรน่ะ อย่าจับสุ่มสี่สุ่มห้าสิครับ!!! ”

ตู๊ด!!! ตู๊ด!!! ตู๊ด!!!

สัญญาณเตือนพร้อมๆ กับหน้าจอสีแดงที่เด้งขึ้นมาในชุดเป็นมุมเล็กๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเกิดสิ่งผิดปรกติขึ้น

“แย่ล่ะสิ ตรวจพบพลังงาน คริสตัลที่อยู่ภายในโลงศพมีความเคลื่อนไหว จะให้เราทำยังไงต่อไปดีครับ”

“ใจเย็นๆ เฝ้าระวังและตรวจสอบต่อไป ทุกอย่างยังอยู่ในขอบเขตที่ยังพอรับได้ แต่ระวังคริสตัลที่มีศพอยู่ภายในเอาไว้ด้วย ห้ามจับอีกโดยเด็ดขาด”

“รับทราบ...”

คริสตัลที่มีศพอยู่ภายในโลกศพนั้น มีร่างของใครก็ไม่รู้อยู่ภายใน แต่ที่แน่ๆ มันอันตรายเกินไปที่จะสัมผัสมัน ซึ่งทุกคนในหน่วยสำรวจเลยขอคำสั่งและรับรู้สถานการณ์โดยรอบ จนได้รับคำสั่งให้สำรวจต่อไปอย่างระมัดระวังโดยหลีกเลี่ยงคริสตัลที่มีศพอยู่ภายใน

ถึงการสำรวจจะราบลื่อมาถึง ณ ปัจจุบัน ก็ใช่ว่าส่วนสุดท้ายนั้น จะไม่มีอะไร เพราะฉะนั้นทุกคนที่ทำการสำรวจมาไม่ต่ำสามเดือน เลยต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

“รายงานที่ 3475-b คริสตัลที่อยู่ภายในโลงศพนั้น ได้มีศพเด็กผู้หญิงอายุราวๆ 11 ถึง 14 ปีอยู่ภายใน และเมื่อสักครู่ที่ได้มีหนึ่งในทีมสำรวจได้ไปสัมผัสคริสตัล ก็ทำให้คริสตัลที่มีศพของเด็กหญิงอยู่ภายในนั้น เกิดความสั่นไหว และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย เลยได้รับอนุญาตให้ทำการสำรวจต่อไป............”

......

“รายงานที่ 3478-b รูปประพันสัณฐานของศพที่อยู่ภายใน...........”

……

“รายงานที่ 3514-b เราไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่ว่า..... IO=*^&%เด๊..^G#%..@ !) (&! @Dผู้...# (*.%^$) .J@ (K*Fตะ... %....... ซ่า!!!!!!!!!!!!!!!!! ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel