บทที่ 4 ลูกแมวในกำมือ
เมื่อถึงเวลามื้ออาหารคํ่า ทุกคนในบ้านก็มานั่งรวมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตาที่โต๊ะ อาหารร้อนๆถูกทยอยนำมาเสิร์ฟ บรรยากาศภายในห้องอาหารอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมและเสียงพูดคุย
“หนูเพนน่าจะอยู่ทานข้าวกับเราก่อนก็ยังดีเนาะคุณว่ามั้ยคุณศักดิ์”
คุณหญิงกัลยาณีตัดพ้อถึงว่าที่ลูกสะใภ้ที่รีบกลับไปก่อนจะได้ทานมื้อคำ่ด้วยกัน พูดจบก็หันไปทางสามีหาเพื่อนสมทบความคิดตนเอง
“ไม่รู้สิ”
“เหอะ.. คุณมันเคยรู้อะไรบ้าง นอกจากเรื่องยัยนัญ”
นํ้าเสียงของชายวัยกลางที่ตอบห้วนสั้นไม่ใส่ใจนัก ทำให้คุณหญิงกลยาณีเกิดขัดใจ แล้วหันเหความหงุดหงิดไปลงที่ลัญชนาที่นั่งเงียบ
คำพูดนั้นประหนึ่งตบหน้าหน้าเธอเข้าเต็มแรง
ลัญชนาได้แต่ก้มหน้าลงตํ่า จ้องมองข้าวในจานที่ดูน่ากลืนไม่ลง รสชาติทั้งหมดหายไปทันทีที่ได้ยินถ้อยคำจากคนที่เธอเฝ้าหวังจะได้รับความรักมาโดยตลอด…
เธอนับถือคุณหญิงเหมือนมารดา… ทว่าคุณหญิงกลับมีแต่ปติกิริยาตอบกลับเธอด้วยความเกลียดชัง ซึ่งลัญชนาเองไม่เข้าใจถึงเหตุผลเหมือนกัน
ทั้งที่เธอโตมาภายไต้สายตาของคุณหญิงแท้ๆ… ทว่ากลับไม่เคยได้รับแม้แต่คำพูดดีๆจากหญิงวัยกลางเลยด้วยซํ้า ในขณะที่คนที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงครึ่งวันอย่างเพนน่า… กลับได้รับความเอ็นดูเต็มหัวใจ
ลัญชนาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเจ็บ… และอิจฉาผู้หญิงคนนั้นอยู่ไม่น้อย เพราะเธอเองมีความรู้สึกเหมือนกัน…
“เพนเธอมีธุระทางบ้านน่ะครับม๊า เลยอยู่ค้างที่นี่ไม่ได้”
เสียงทุ้มของเขาที่นั่งเงียบมานานเอ่ยตอบมารดาขึ้นมาเรียบๆแต่ชัดเจน พอให้คุณหญิงได้คลายความเสียดาย
“เฮ้อ… ไว้วันอื่นก็พาหนูเพนมาหาม๊าบ่อยๆล่ะ ไม่รู้ทำไม ม๊ารู้สึกถูกชะตากับแม่หนูคนนี้มากเลย”
“ครับม๊า”
คำตอบสั้นๆของคิเลียนเหมือนประทับตอกซํ้ากลางอกเธออีกครั้ง
ลัญชนาก้มหน้ากินข้าวเงียบๆ ไม่ต่างจากที่เธอกำลังกลืนนํ้าตาลงไปพร้อมคำข้าวเลยสักนิด เพราะเธอไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะรู้สึก…
ท่ามกลางความเงียบอึดอัดที่ปกคลุมโต๊ะอาหาร ชายวัยกลาง หรือ ‘ป๊า’ ที่เธอเคารพรักมาเสมอก็เอ่ยขึ้นด้วยนํ้าเสียงใจดี
“ว่าแต่ยัยนัญล่ะลูก ตอนนี้ปิดเทอมใหญ่แล้วใช่มั้ย”
ลัญชนาเงยหน้าขึ้นตอบเสียงเบาแผ่วอย่างนอบน้อม แววตาอ่อนลงเมื่อสบตาคนพูด
“ใช่ค่ะป๊า…”
เพียงแค่คำถามง่ายๆจากชายวัยกลางกลับทำให้ใจเธออุ่นวาบอย่างบอกไม่ถูก เขาคือคนเดียวในบ้านนี้ ที่ยังมองเธอด้วยความเมตตาเสมอมา
“พอดีเลยนี่ หลังจากจัดงานเลี้ยงผู้บริหารคนใหม่เสร็จ หนูอยู่บ้านว่างๆก็ลองไปฝึกงานกับพี่เขาสิ จะได้มีประสบการณ์ติดตัวไว้บ้างนะลูก อีกเทอมเดียวก็จะจบแล้วนี่”
คำพูดของชายวัยกลางนั้นเต็มไปด้วยความหวังดี แต่ก็ทำให้ลัญชนาถึงกับชะงักไปเล็กน้อย
ความเงียบปกคลุมตัวเธอเป็นวินาที เพราะกำลังนึกคิด…
ฝึกงานกับเฮียคิลอย่างนั้นหรอ?
ในสถานการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขามันไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วอย่างนั้นหรอ…?
ในขณะที่อีกคนนึกคิดด้วยความว้าวุ่นใจ ทว่าอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกลับเหยียดยิ้มด้วยความชอบใจ
แม้เธอจะไม่หันไปมอง เธอก็รับรู้ได้ถึงสายตาของเขาที่ยังคงจ้องมาทางเธอ มัแสายตาที่คมลึกจนทำเอาหญิงสาวขนลุกซู่
ลัญชนาหลบสายตาลงตํ่าอีกครั้ง เธออยากจะปฏิเสธไป ทว่าป๊าเป็นคนเดียวในบ้านนี้ที่เธอไม่อยากทำให้ผิดหวัง หญิงสาวสูดลมหายใจเบาๆแล้วตอบออกไปด้วยเสียงอ่อนนุ่ม
“นัญแล้วแต่ป๊าเลยค่ะ…”
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เสียงประชดประชันจากคุณหญิงก็แทรกขึ้นมาทันควัน
“เหอะ… ทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างก็ดี ไม่ใช่เที่ยวเล่นเถลไถลไปวันๆเหมือนทุกที!”
คำพูดนั้นเหมือนกระสุนที่พุ่งตรงสู่ใจเธออีกครั้ง
แต่ลัญชนาก็ยังเลือกที่จะเงียบ ไม่มีคำโต้ตอบไดๆ เพราะรู้ดีว่าไม่มีคำไดจะแก้ความเกลียดชังที่คุณหญิงมีต่อตัวเองได้
แล้วชายวัยกลางก็หันไปกล่าวห้ามภรรยาเฉกเช่นทุกครั้งที่ลัญชนาโดนแขวะ
“ไม่เอาน่าคุณหญิง ยัยนัญเป็นเด็กดีจะตายไป ยิ่งโตเป็นสาวยิ่งอ่อนน้อมน่ารัก”
ชายวัยกลางพูดกับภรรยาเสร็จก็หันกลับมาหาลัญชนาด้วยแววตาเอ็นดู
“ลูกสาวป๊าคงมีหนุ่มๆมาจีบเพียบเลยล่ะมั้ง”
พูดจบก็ตามด้วยคำถามที่ทำเอาหนึ่งในคนบนโต๊ะชะงัก
“เอ้อ… พูดถึงเรื่องนี้แล้ว หนูมีแฟนบ้างรึยังล่ะลูก? โตเป็นสาวสวยขนาดนี้ ถ้าจะมี ป๊าก็ไม่ห้ามหรอกนะนัญ”
คำพูดของบิดาเหมือนเสียงกระทบผิวนํ้าที่ก่อให้เกิดคลื่นสะเทือนในใจใครบางคนอย่างคิเลียน…
ลัญชนาสัมผัสได้ทันทีถึงสายตาคมกริบที่กำลังจ้องมาอย่างไม่ละไปจากเธอ
แรงกดดันมหาศาลเสียดแทงเข้ามาเหมือนมีอะไรบางอย่างร้อนวาบอยู่บนต้นคอ
คนตัวเล็กกลืนน้ำลายแทบไม่ลง สูดลมหายใจเบาๆ ก่อนจะตอบเสียงเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ม…ไม่มีหรอกค่ะป๊า นัญยังไม่คิดเรื่องนั้นเลยค่ะ”
ยังไม่ทันที่บรรยากาศจะผ่อนคลายลง เสียงทุ้มต่ำของใครอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาทันที
“นั่นสิครับป๊า นัญยังเด็ก… ตามเล่ห์กลผู้ชายไม่ทันหรอกครับ ไม่มีนั่นแหละดีแล้ว”
เขาวางช้อนลงอย่างใจเย็นก่อนจะหันไปยิ้มบางๆให้ป๊า แล้วหันกลับมามองน้องสาวต่างสายเลือดอีกครั้ง
แต่มันกลับไม่ใช่สายตาของพี่ชายมองน้องสาว ไม่ใช่ความห่วงใยแบบพี่น้อง แต่มันคือสายตาของนักล่าที่กำลังมองเหยื่อที่หนีไม่พ้นเงื้อมมือ
เพราะเธอคือลูกแมวในกำมือเขา… ชายไดคิดจะมาจับต้อง… มันต้องผ่านลูกปืนเขาไปก่อน
