บท
ตั้งค่า

เหมียวตัวที่ 2 ขอร้องเหมียว ๆ

เหมียวตัวที่ 2

ขอร้องเหมียว ๆ

“เอาไก่ทอดไปกินด้วยสิ พ่อให้เอามาฝากน่ะ!”

ผมหวนนึกถึงสิ่งที่ลินมันพูดกับผมก่อนที่มันจะเดินจากไปอย่างเจ็บใจ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรับไก่ทอดถุงนั้นมาดื้อ ๆ ทั้งที่ตัวเองไม่กินไก่ทอดตั้งแต่เกิดเรื่อง จะกินเฉพาะวันเกิดเท่านั้นเพื่อรำลึกถึงคุณแม่ที่จากไปตั้งแต่ผมยังเล็ก แท้จุดประสงค์ของลลินนั้นไม่ได้แค่จะแวะเอาไก่ทอดถุงนี้มาตอกย้ำผมแต่ยังใส่ชุดนักศึกษามอเดียวกับที่ผมอยากเรียนมาอวด คงจะอยากเยาะเย้ยที่ผมไม่มีโอกาสได้ใส่เหมือนมัน

ถ้าให้พูดย้อนไปถึงเรื่องราวของผมที่เกี่ยวกับครอบครัวตั้งแต่แรกเริ่ม ผมเองเองก็บอกไม่ได้หรอกนะว่าความขัดแย้งระหว่างครอบครัวมันเกิดขึ้นตอนไหน เพราะตั้งแต่ผมจำความได้พ่อก็ดูเหมือนจะรักแค่ลูกสาวมากกว่าลูกชาย ซึ่งต่างกับครอบครัวอื่นที่รักลูกชายมากกว่า สิ่งที่ทำให้พ่อไม่ชอบผมก็คงจะเป็นเพราะว่าผมด้วยกว่าลลินทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเรียน มารยาทที่ควรปฏิบัติ ผมโง่จนทำให้เขาอับอายไม่สมกับเป็นลูกเจ้าสัว พ่อก็เลยยอมยกผมให้คนใช้ไปเลี้ยงได้ง่าย ๆ เมื่อเอ่ยปากขอ

8 ปีที่แล้ว...

วันนี้คือวันที่ผมถึงขีดจำกัดของความอดทน วันสุดท้ายของวันเปิดการเรียนการสอนเทอมสุดท้ายของชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ วันนั้นผมจำได้ว่าผมรีบสะพายกระเป๋าเป้รูปการ์ตูนคุณหมอแบกเข้าห้องครัวไปเพื่อเข้าไปหาของทานเล่นเนื่องจากผมหิวเอามาก ๆ แต่แล้วจุดสังเกตก็ไปสะดุดที่ไก่ทอดกล่องแดงชื่อดังถังใหญ่ของโปรดของผมวางไว้บนโต๊ะ ด้วยความที่เป็นเด็กผมเลยอยากกินไก่ทอดที่วางอยู่บนโต๊ะถังนั้นมากผมเลยเอ่ยถามป้าทองว่าไก่ทอดถังนี้มันเป็นของใคร

“ป้าทองครับ ไก่ทอดบนโต๊ะนี่ของใครเหรอครับ” 

ป้าทอง คือแม่บ้านของบ้านหลังนี้และยังเป็นป้าแท้ ๆ ของผมด้วย เพราะป้าทองคือพี่สาวของแม่ผมด้วย

“ของคุณท่านค่ะ น่าจะซื้อมาให้คุณหนูทั้งสองนั่นแหละค่ะ”

ผมถึงกับตาเป็นประกายเมื่อได้ยินแบบนั้น ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากจนน้ำลายไหล

“ถ้าอย่านั้น ลันขอแอบชิมได้ไหมครับ”

“ไม่ได้นะคะคุณหนู เดี๋ยวคุณท่านดุรอทานพร้อมกันดีกว่านะคะ”

“ครับ”

เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารเย็นผมยังคงจ้องไปที่เจ้าไก่ทอดแสนยั่วยวน ก่อนที่จะถือวิสาสะยื่นมือไปตั้งใจว่าจะหยิบน่องไก่มาวางบนจานทว่าพ่อก็เอ่ยเสียงเข้มขึ้นมาดักก่อนผมจึงรีบดึงมือเล็กกลับทันที

“เอาใบเกรดออกมาให้พ่อดู อยากรู้ว่าส่งไปเรียนเทอมละล้านเนี่ยได้อะไรกลับมาบ้าง” ผมก้มต่ำหลบหน้าพ่อกรอกตาไปมาอย่างหวาดกลัวเพราะเทอมนี้ผมทำเกรดเฉลี่ยออกมาไม่ได้ดีอย่างที่หวัง มือเล็กกำใบเกรดของตัวเองไว้แน่เพราะถ้าพ่อเห็นคงไม่พอใจแน่นอน

“เกรดสี่ ทำดีมากลลินสมกับเป็นลูกพ่อ”

“ลินตั้งใจเรียนมาก ๆ เลยค่ะ” หัวใจของผมเต้นตุบ ๆ เมื่อได้ยินผลเกรดเฉลี่ยของลลิน เธอยังคงทำได้ดีกว่าผมเหมือนเคย

“ของแกล่ะลลัน” ลลันวัยละอ่อนกังวลเป็นอย่างมากเมื่อเขากลับมาเป็นจุดสนใจกลางวงสนทนา ผมเลยจำใจยื่นใบเกรดยับยู่ยี่ให้พ่อไปอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้

“สามจุดเก้าแปด? อธิบายมาลลัน”

“ละ..ลันขาดสอบไปหนึ่งวิชาครับ วันนั้นผมล้มป่วยคาห้องสอบ ครูเลยให้ลันไปสอบที่หลังก็เลยเกรดตกไปวิชานึงครับพ่อ”

ปัง!

ฝ่ามือหนักทุบโต๊ะอาหารดังกึกก้องไปทั่วโถง ตอนนั้นน้ำตาผมก็ไหลมาคลอที่เบ้าตาเสียแล้ว

“แค่ศูนย์จุดศูนย์สองแกยังทำไม่ได้เหรอลลัน!”

“ฮึก ผมขอโทษครับ”

“ขอโทษเหรอ?”

ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทุกอณูในร่างกายเมื่อพ่อเอ่ยเสียงดุดันไร้ความปรานี จากนั้นเขาก็ทำในสิ่งที่ผมรับไม่ได้ที่สุดในชีวิตเมื่อเขากระชากแขนผมแล้วผลักให้ฟุบลงกับพื้นก่อนที่จะใช้ไม้ตะพดคู่กายตีผมจนเกิดรอยแดงช้ำไปทั้งตัว

เผี๊ยะ! เผี๊ยะ! เผี๊ยะ!

“ขอโทษเหรอ คำขอโทษมันมีไว้สำหรับคนขี้แพ้อย่างแก”

“ฮือ ๆ ผมขอโทษ ผมดื้อเอง อย่าตีผมเลยผมเจ็บ” ผมในวัยเด็กทั้งกราบทั้งขอร้องเพื่อให้เขาไว้ชีวิต

“กินไปเลยลิน อย่าให้มันกินของดี ๆ แบบนี้ไม่เหมาะสำหรับคนโง่ ๆ แบบมัน”

“ค่ะคุณพ่อ น้องลินจะกินให้หมดเลย”

ผมมองลลินที่ได้ครอบครองสิ่งที่ผมอยากินที่สุดด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ใบหน้าที่กำลังยิ้มเยาะเย้ยผมราวกับเป็นตัวตลกมันช่างน่าเกลียดเสียจริง

“ฮือ ๆ ผมหิวครับพ่อ ผมอยากกินไก่ทอดแบ่งให้ผมกินแค่ชิ้นเล็ก ๆ ก็ได้”

“อย่างแกมันต้องกินไก่ทอดค้างคืนใกล้เน่า ไก่ทอดร้านข้างถนนไม่มีราคา มันเหมาะกับคนชั้นต่ำอย่างแก”

“ไปค้นกินที่ถังขยะสิลัน พี่เห็นป้าทองเขาทิ้งเมื่อเช้า ฮ่า ๆ ๆ”

“มองหน้าเหรอ ไม่พอใจเหรอ? ไม่พอใจก็ออกจากบ้านแล้วไปนั่งขอทานใต้สะพายลอยเลยไปไอ้โง่”

เผี๊ยะ! เผี๊ยะ! เผี๊ยะ!

หลังจากที่ผ่านความเลวร้ายจนสร้างบาดแผลในใจให้ผมจนเป็นปม ผมก็มานั่งหลบภัยที่ห้องครัวตรงบริเวณใต้โต๊ะที่มีไว้สำหรับวางของ สองมือพลางใช้สำลีชุบน้ำยาล้างแผลบรรจงทำความสะอาดด้วยน้ำตา ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนจนรู้สึกว่าใต้โต๊ะอบอุ่นกว่าบ้านที่ผมอยู่เสียอีก

“คุณหนู! คุณพ่อตีอีกแล้วเหรอคะ” ป้าทองรีบเข้ามากอดผมทันทีหลังจากที่เห็นสภาพย่ำแย่

“ฮึก ป้าครับ ผมหิวจังเลย” ขณะที่พูดผมพยายามกั้นน้ำตาไว้สุดฤทธิ์เพราะไม่อยากให้ป้าทองเป็นห่วงไปมากกว่านี้

“เดี๋ยวป้าทำไก่ทอดให้กินนะลูก คุณหนูนั่งรอแป๊บเดียวนะคะ”

“ป้าทองครับ ผมไม่อยากอยู่กับพ่อแล้ว ผมขอไปอยู่กับป้าได้ไหมครับ”

“แต่ว่า อยู่กับป้ามันลำบากนะคะ ป้าคงไม่มีปัญญาซื้อไก่ทอดแพง ๆ ให้คุณหนูกินได้บ่อย ๆ”

“ลันจะเป็นเด็กดีครับ ลันจะตั้งใจเรียนจะไม่ดื้อแล้วก็จะไม่กินไก่ทอดอีกแล้ว ลันกินแค่ไข่ต้มก็ได้ขอแค่ลันได้ไปอยู่กับป้าทอง”

“โถ หลานป้า ป้าสงสารลันเหลือเกินลูก”

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาป้าทองก็ตัดสินใจขอผมไปดูแล ตอนแรกผมคิดว่าพ่อจะไม่ยอมและคงรั้งผมไว้แต่แล้วทุกอย่างมันก็ไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิด พ่อไม่เพียงแต่ไม่รั้งแถมยังสั่งเดินเรื่องเอกสารยินยอมต่าง ๆ แล้วโอนชื่อผมเข้าทะเบียนบ้านของป้าทองเสร็จเรียบร้อย ผมจึงตกผลึกได้ว่าความจริงแล้วพ่อไม่เคยอยากจะเก็บผมไว้เลยตั้งแต่แม่จากไป...

“ไก่ทอดหาดใหญ่ค้างคืนร้านเจ๊กอยสินะ”

“ไก่ทอดรถเข็นข้างถนน ถึงจะรสชาติดีเยี่ยมแต่ก็ไม่ได้มีราคาสูงเหมือนไก่ทอดแบรนด์ดัง หึ คงจะเอาไก่ทอดค้างคืนมาตอกย้ำเราสินะ คงคิดว่าไอ้ลันมันจะยอมง่าย ๆ เหมือนตอนเด็กล่ะสิ”

“เมี๊ยว~”

“เฮ้ย ไอ้แมวเหมียวมาจากไหนเนี่ย” ผมพูดด้วยความตกใจเมื่อเห็นแมวจรสีขาวตัวเท่าโอ่งเดินได้ น้ำหนักน่าจะอยู่ราว ๆ หกโลกว่าได้

“เมี๊ยวเมี๊ยว” ไอ้แมวขี้อ้อนมันใช้หัวกลม ๆ ถูไปมาที่ขาของผมแล้วทำเป็นดมฟุดฟิด ๆ ที่ถุงไก่ทอด

“ออกไปกางเกงเลอะขนหมดแล้วเนี่ย พี่ลันเกลียดแมวโว้ยรู้ไว้ด้วย” ผมตัดสินใจใช้เท้าเขี่ยมันให้ออกห่างจากตัวราวกับว่ามันเป็นขยะเปียก แต่แล้วไอ้แมวอ้วนมันก็นั่งท้าวแขนสองข้างไว้ที่พื้นแล้วทำหน้าตาน่าสงสาร

“มะแอ๊ะ…”

“ยะ…อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”

“มะแอ๊ะ มะ..แหงว~”

ปกติแล้วผมไม่ชอบเลี้ยงสัตว์เพราะกลัวว่าจะผูกพันธ์กับมันเกินไป พอวันนึงพวกมันจากไปผมก็จะทำใจไม่ได้ แต่จะว่าไปแล้วมันคงจะเป็นแมวจรตัวใหม่ที่เจ้าของเพิ่งเอามาทิ้ง เพราะเนื้อตัวยังสะอาดอยู่เลย

“ถูกทิ้งเหมือนพี่ลันสินะเราน่ะเจ้าอ้วน เออ ๆ ให้กินก็ได้” ผมเทน่องไก่ทอดค้างคืนที่ได้รับมาจากลลินให้เจ้าอ้วนไปทั้งถุง ในใจก็นึกสงสารมันเหมือนกันที่ได้กินของไม่ดี แต่ถ้ามันไม่ได้กินอะไรเลยบางทีมันอาจจะตายก็ได้

“อร่อยมากเลยเหรอ ไก่ทอดมันค้างคืนนะพวกนุดใจร้ายซื้อมาแกล้างพี่ลันน่ะ”

“ง่ำๆ ม๊าว” เจ้าแมวอ้วนไม่ได้สนใจในสิ่งที่ผมพูดเลยนอกจากตั้งหน้าตั้งตากินไก่ทอดอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนกับมันไม่เคยกินของแบบนี้มาก่อน ผมลูบหัวเจ้าอ้วนด้วยความเอ็นดูบวกกับสงสารที่โดนเอามาทิ้ง เมื่อนุดใจร้ายพวกนั้นไม่เห็นค่าก็ทิ้งพวกเจ้าก้อนไปทำเหมือนพวกสัตว์ไม่มีความรู้สึก ผมละเกลียดจริง ๆ คนพวกนี้...

“อร่อยก็กินให้หมดเลยนะเจ้าแมวอ้วน”

“เฮ้ย ทำอะไรมีใจของฉันน่ะ!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel