ตอนที่2 ขอลูกคืน
ฟึ่บ... ยังไม่ทันที่เพลินฝันจะวิ่งหนีเข้าไปหลังร้านเธอก็ถูกน่านฟ้าดึงเอาไว้ และเป็นอินทัชที่วิ่งมาขวางหน้า สาวเจ้าหลับตาปี๋ขบเม้มริมฝีปากแน่นชาวาบไปทั้งตัว ด้วยไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาเจอน่านฟ้าที่นี่
สองแขนแกร่งรวบพลิกตัวคนตัวเล็กให้หันมาประจันหน้ากับเขา น่านฟ้าจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ตอนนี้ซีดเผือดไร้เลือดฝาดทั้งยังเอาแต่หลับตาไม่กล้ามองหน้าหรือปริปากพูดอะไร เขาจ้องมองเธออยู่แบบนั้นไม่ละสายตา
“แอ้ มา...ม่ะ” เสียงใสของยัยหนูตัวกลมที่ยืนหน้าบานเรียกคนเป็นแม่อยู่ในเปลทำเพลินฝันแทบลมจับ ทั้งเสียงนั้นยังดึงความสนใจจากสองหนุ่มได้เป็นอย่างดี ทำสองหนุ่มจ้องมองไปยังเด็กหญิงตัวกลมในเปลเป็นตาเดียวก่อนจะหันมามองหน้ากันด้วยสายตาฉงนบ่งบอกถึงความสงสัยที่ตรงกัน
เพลินฝันได้แต่ยืนเงียบไม่ยอมตอบรับเสียงเรียกของลูกสาว ตอนนี้เธอรู้สึกหูอื้อตาลาย ในหัวตอนนี้มีเพียงคำว่า ‘ตายแน่’ วนเวียนอยู่ไม่เว้นว่าง
“มา...ม่ะ มา..ม่ะ แอ้ะ!!” ใช่ตอนนี้เสียงเจ้าตัวกลมกำลังเริ่มเพิ่มความหนาของน้ำเสียงเตรียมตัวที่จะดุในไม่อีกกี่วินาที
“หม่าม๊าอยู่ตรงนี้ไงคะ” เพลินฝันที่ถูกขึงเอาไว้ด้วยสองแขนแกร่งเอี้ยวตัวมองกลับหลัง ส่งเสียงหวานปนสั่นเครือเอ่ยตอบลูกรัก คำพูดของเธอที่คุยกับเด็กหญิงตัวกลมในเปลเริ่มทำให้น่านฟ้าเริ่มขมวดคิ้วย่นมากขึ้น
“ลูกคุณ...กับใคร?” เขาเอ่ยถามหญิงสาวเสียงแข็ง ทั้งสายตายังจับจ้องไปที่เด็กหญิงตัวกลมกระโปรงชมพูฟูฟ่องไม่วางตา ดวงตากลมคู่นั้นที่จ้องมองมายังเขาตาแป๋ว ทั้งยังพวงแก้มที่ฟูเป็นซาลาเปา รวมถึงปากเล็กอมชมพู หากเด็กหญิงไม่มีโบว์คาดอยู่ที่หัวก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรูปถ่ายของเขาตอนแรกเกิด
สาวเจ้าแทบจะน้ำตาไหล หัวใจเกือบจะหยุดเต้นเสียให้ได้ ไม่อยากตอบคำถามนี้เอาเสียเลย
“เหมือนคุณน่านไม่มีผิดเลยนะครับ”
เพลินฝันเข่าทรุดลงพื้นยืนไม่อยู่ เมื่ออินทัชได้พูดเปรยแสดงออกถึงความสงสัยในความลับที่เธอต้องการปกปิด แต่ด้วยหน้าตาของลูกเธอที่ไม่ผิดไปจากผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อ คงทำให้เธอหาทางปฏิเสธได้ยาก และถึงจะปฏิเสธเรื่องลูกไปได้เธอก็มีคดีอื่นที่น่านฟ้าจะต้องสะสางกับเธออยู่ดี
“มีอะไรจะแก้ตัวไหม”
เพลินฝันพูดอะไรไม่ออกรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างคาอยู่ที่คอ พอจะเริ่มอ้าปากพูดก็ไม่มีเสียง ซ้ำน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลพรั่งพรูลงมาอาบแก้ม อาการของเธอเสมือนการรับสารภาพทุกอย่างไปแล้ว ไม่เคยได้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับเรื่องที่จะต้องได้เจอน่านฟ้าที่นี่มาก่อน เพราะคิดมาตลอดว่าเขานั้นใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ
น่านฟ้าเดินดุ่มไปอุ้มเด็กหญิงตัวกลมหมายจะเดินออกไปจากร้าน เพลินฝันรีบลุกขึ้นมาขวางและพยายามจะดึงตัวลูกของเธอออกให้พ้นพันธนาการของชายหนุ่ม แต่เธอก็เอื้อมไม่เคยถึงตัวของลูกเลย
“มา...ม่ะ มา..ม่ะ” เด็กหญิงที่ถูกอุ้มเหวี่ยงหลบไปมาก็เริ่มส่งเสียงดังเรียกคนเป็นแม่ ทั้งเสียงร้องของลูกและภาพที่น่านฟ้าอุ้มลูกเธอเดินหนีต่อหน้าต่อตาทำเพลินฝันใจจะขาด
“จะพาลูกเพลินไปไหน ปล่อยยัยหนูมาให้เพลินนะคะ” เพลินฝันตามน่านฟ้าจนมาถึงบนรถเธอเกาะแขนเขาเอาไว้แน่น หากเขาไม่ยอมปล่อยลูกเธอคืนมาง่ายๆ เธอก็จะไม่ยอมห่างจากตัวของเขาเช่นกัน
“เฮ้อ” อินทัชปิดร้านของหญิงสาวเรียบร้อยก่อนจะเดินไปที่รถ ขับกลับออกจากหน้าร้านตรงไปที่บ้านของน่านฟ้า
ในระหว่างที่นั่งอยู่ในรถน่านฟ้าก็ไม่ยอมให้เพลินฝันได้แตะตัวลูกและยังไม่ยอมพูดจาอะไรกับเธอ ด้วยรู้สึกเคืองใจที่หญิงสาวในเรื่องที่เธอสร้างเอาไว้ให้เขา
เด็กหญิงยังคงร้องร้องงอแงระงม คนเป็นแม่ที่ไม่สามารถอุ้มลูกได้ก็ทำได้แต่ปลอบลูกด้วยน้ำเสียงปนสะอื้นเท่านั้น กว่าจะถึงบ้านเจ้าตัวกลมในอกคนเป็นพ่อที่ร้องให้จนเพลียก็หลับลงไปได้
“เรื่องของขวัญคุณโมนาเอายังไงครับ” อินทัชหันไปถามเจ้านายที่นั่งกอดเด็กหญิงตัวกลมไม่ยอมปล่อยถึงธุระที่เจ้านายตนยังทำไม่สำเร็จเมื่อมาส่งเจ้านายถึงบ้านแล้ว
“คงจะต้องเป็นคุณจัดการแทนผมแล้วล่ะ บอกเธอว่าผมติดธุระด่วนฝากขอโทษเธอด้วย”
“ครับ”
คุยธุระจบอินทัชก็กดปุ่มเปิดประตูให้น่านฟ้าได้ลงจากรถ อินทัชแสยะยิ้มอ่อนเมื่อมองกระจกมองหลังแล้วเห็นเพลินฝันเดินตามติดเจ้านายของเขาต้อยๆ เชื่อได้เลยว่าหลังจากนี้ชีวิตอันสงบเงียบของเจ้านายของเขาต้องได้วุ่นวายหลายเรื่องแน่นอน
“เพลินขอโทษนะคะที่ตอนนั้นหนีคุณมา เดี๋ยวเพลินจะรีบหาเงินมาคืนคุณ แต่ตอนนี้คืนยัยหนูมาให้เพลินนะคะ”
“ลูกผม” น่านฟ้ารีบสาวเท้าหนีหญิงสาวที่กำลังจะเอื้อมมือมาคว้าลูกออกจากอกของเขา
“ก็ลูกเพลินเหมือนกัน” เพลินฝันเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาจึงเอ่ยตอบกลับเสียงขุ่น ตอนนี้เธอเริ่มที่จะมีน้ำตารื้นขึ้นมาอีกรอบ
“นั่นอุ้มลูกใครมาคะคุณน่าน” เนื้อนวลแม่บ้านรูปร่างท้วมรีบเดินปรี่เข้ามาหาเจ้านายที่ยืนอยู่กับหญิงสาวแปลกหน้าที่หน้าประตูบ้าน
“ลูกผมครับ เอาไปนอนที่ห้องผมก่อน ฝากป้านวลดูแลแกด้วยนะครับ”
“ค่ะ” เนื้อนวลรับเด็กหญิงตัวกลมที่นอนหลับปุ๋ยใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตาด้วยสายตาฉงน เพราะตั้งแต่เข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านให้กับน่านฟ้าได้ปีกว่าๆ เธอก็ไม่เห็นว่าเขาจะคบกับผู้หญิงคนไหน แต่ตอนนี้ดันอุ้มเด็กผู้หญิงวัยใกล้ขวบกลับบ้านมาได้
“ยัยหนู”
“มานี่” น่านฟ้ารีบคว้าตัวเพลินฝันออกห่างจากเนื้อนวลเมื่อเห็นเธอกำลังจะก้าวเข้าไปคว้าตัวลูกคืน เขาลากเธอเดินมาที่ลานจอดรถและจับเธอยัดเข้าไปในรถซุปเปอร์คาร์สีขาวก่อนจะรีบขับออกจากบ้านไปอีกครั้ง
“จะพาเพลินไปไหนคะ เพลินจะไปหาลูก” เธอหันมาถามคนที่กำลังเลี้ยวรถออกจากหน้าบ้านเสียงสั่น
“ถ้ายังไม่สงบปากผมจะไม่ให้คุณได้เจอลูกอีกเลย” น่านฟ้ายังไม่อยากคุยอะไรกับหญิงสาวตอนนี้เพราะเขากำลังควบคุมอารมณ์ไม่ให้บันดาลโทสะอะไรออกมาขณะขับรถ
คนที่ถูกกำชับให้สงบปากนั่งขบเม้าริมฝีปากแน่น มือเรียวกุมจิกกันจนแทบห้อเลือด ทั้งน้ำตาเจ้ากรรมก็ยังพรั่งพรูออกมาไม่หมดไม่สิ้น ไม่รู้เลยว่าต่อจากนี้ชีวิตของเธอจะเจอกับอะไรบ้าง คิดแล้วก็ตำหนิตัวเองที่ยอมรับข้อเสนอของน่านฟ้าง่ายๆ
